สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
MARVEL CINEMATIC UNIVERSE
แฟรนไชส์ทำเงินรวมทั่วโลก : 11,742 ล้านดอลล่าร์
จำนวนหนัง : 15 เรื่อง
ปฎิเสธไม่ได้จริงๆเลยว่าชั่วโมงนี้ มาร์เวลเป็นพ่อทุกสถาบันจริงๆ จากการเริ่มต้นแนวทางในการสร้างจักรวาลฮีโร่แบบค่อยเป็นค่อยไป จนแบรนด์แข็งแกร่ง โดยเริ่มต้นมาตั้งแต่สมัย Iron Man ยังอยู่พาราเมาต์ ตามมาด้วย The Incredible Hulk ค่ายยูนิเวอร์แซล ก่อนที่ Iron Man 2 - Thor - Captain America : The First Avenger จะตามมา ซึ่งก็ล้วนแล้วแต่อยู่ใต้หลังคาพาราเมาต์ทั้งสิ้น โดยหลังจากนั้นก็เป็นการมาถึงของ Avengers ภายใต้โลโก้ดิสนีย์เรื่องแรก ที่ซื้อสิทธิ์มาครอง และขยายจักรวาลออกได้อย่างดีเยี่ยมตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา กลายเป็นจักรวาลที่มีหนังทำเงินรวมกันมากที่สุดในโลก โดยผลงานที่ทำเงินให้สตูฯ ได้มากที่สุดคือ The Avengers ภาคแรก เก็บในบ้านไป 623 ล้านดอลล่าร์ ทั่วโลกอีก 1518 ล้านดอลล่าร์
และหลังจากผ่านพ้น Guardians of The Galaxy Vol. 2 ไป มาร์เวลและดิสนีย์ก็จะกลับมาพร้อมผลงานฮีโร่รอทำเงินอีกเพียบ (ไม่นับ Spider-Man : Homecoming ที่โซนี่จัดจำหน่าย) ไม่ว่าจะเป็น Thor : Ragnarok - Black Panther - Avengers : Infinity War - Ant Man And The Wasp - Captain Marvel - Avengers 4 และอีกมากมาย รับประกันว่าจะนั่งแท่นเป็นพ่อทุกสถาบันยาวต่อไปอีกนานแสนนาน
MARVEL CINEMATIC UNIVERSE
แฟรนไชส์ทำเงินรวมทั่วโลก : 11,742 ล้านดอลล่าร์
จำนวนหนัง : 15 เรื่อง
ปฎิเสธไม่ได้จริงๆเลยว่าชั่วโมงนี้ มาร์เวลเป็นพ่อทุกสถาบันจริงๆ จากการเริ่มต้นแนวทางในการสร้างจักรวาลฮีโร่แบบค่อยเป็นค่อยไป จนแบรนด์แข็งแกร่ง โดยเริ่มต้นมาตั้งแต่สมัย Iron Man ยังอยู่พาราเมาต์ ตามมาด้วย The Incredible Hulk ค่ายยูนิเวอร์แซล ก่อนที่ Iron Man 2 - Thor - Captain America : The First Avenger จะตามมา ซึ่งก็ล้วนแล้วแต่อยู่ใต้หลังคาพาราเมาต์ทั้งสิ้น โดยหลังจากนั้นก็เป็นการมาถึงของ Avengers ภายใต้โลโก้ดิสนีย์เรื่องแรก ที่ซื้อสิทธิ์มาครอง และขยายจักรวาลออกได้อย่างดีเยี่ยมตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา กลายเป็นจักรวาลที่มีหนังทำเงินรวมกันมากที่สุดในโลก โดยผลงานที่ทำเงินให้สตูฯ ได้มากที่สุดคือ The Avengers ภาคแรก เก็บในบ้านไป 623 ล้านดอลล่าร์ ทั่วโลกอีก 1518 ล้านดอลล่าร์
และหลังจากผ่านพ้น Guardians of The Galaxy Vol. 2 ไป มาร์เวลและดิสนีย์ก็จะกลับมาพร้อมผลงานฮีโร่รอทำเงินอีกเพียบ (ไม่นับ Spider-Man : Homecoming ที่โซนี่จัดจำหน่าย) ไม่ว่าจะเป็น Thor : Ragnarok - Black Panther - Avengers : Infinity War - Ant Man And The Wasp - Captain Marvel - Avengers 4 และอีกมากมาย รับประกันว่าจะนั่งแท่นเป็นพ่อทุกสถาบันยาวต่อไปอีกนานแสนนาน
ความคิดเห็นที่ 36
เฉลี่ยต่อเรื่อง หน่วยเป็นล้านดอลล่าร์สหรัฐ
1. MIDDLE EARTH 974.50
2. JURASSIC PARK 910.50
3. DESPICABLE ME 891.00
4. STAR WARS 862.78
5. J.K. ROWLING'S WIZARD WORLD 853.70
6. PIRATES OF THE CARIBBEAN 851.60
7. SPIDER-MAN 792.60
8. MARVEL CINEMATIC UNIVERSE 782.80
9. TRANSFORMERS 755.80
10. THE HUNGER GAMES 742.00
11. SHREK 702.00
12. DC EXTENDED UNIVERSE 693.00
13. TWILIGHT 668.60
14. TOY STORY 656.67
15. ICE AGE 643.20
16. THE FAST AND THE FURIOUS 640.88
17. KUNG FU PANDA 606.00
18. MADAGASCAR 564.00
19. MISSION IMPOSSIBLE 555.80
20. MEN IN BLACK 551.67
21. X-MEN 499.10
22. INDIANA JONES 486.75
23. BATMAN 445.55
24. TERMINATOR 368.60
25. BOURNE 327.40
26. SUPERMAN 318.86
27. JAMES BOND 200.76
28. STAR TREK 133.62
นี่ยังไม่ได้คิดอัตราเงินเฟ้อนะครับ
ปล. ผมว่างเกินไปใช่ไหม
1. MIDDLE EARTH 974.50
2. JURASSIC PARK 910.50
3. DESPICABLE ME 891.00
4. STAR WARS 862.78
5. J.K. ROWLING'S WIZARD WORLD 853.70
6. PIRATES OF THE CARIBBEAN 851.60
7. SPIDER-MAN 792.60
8. MARVEL CINEMATIC UNIVERSE 782.80
9. TRANSFORMERS 755.80
10. THE HUNGER GAMES 742.00
11. SHREK 702.00
12. DC EXTENDED UNIVERSE 693.00
13. TWILIGHT 668.60
14. TOY STORY 656.67
15. ICE AGE 643.20
16. THE FAST AND THE FURIOUS 640.88
17. KUNG FU PANDA 606.00
18. MADAGASCAR 564.00
19. MISSION IMPOSSIBLE 555.80
20. MEN IN BLACK 551.67
21. X-MEN 499.10
22. INDIANA JONES 486.75
23. BATMAN 445.55
24. TERMINATOR 368.60
25. BOURNE 327.40
26. SUPERMAN 318.86
27. JAMES BOND 200.76
28. STAR TREK 133.62
นี่ยังไม่ได้คิดอัตราเงินเฟ้อนะครับ
ปล. ผมว่างเกินไปใช่ไหม
ความคิดเห็นที่ 2
J.K. ROWLING'S WIZARD WORLD
แฟรนไชส์ทำเงินรวมทั่วโลก : 8,537 ล้านดอลล่าร์
จำนวนหนัง : 10 เรื่อง
เรียกว่าเป็นเจ้าแม่แห่งหนังพ่อมดคนเก่งของวงการ สำหรับเจเค โรว์ลิ่ง เจ้าของนิยายต้นฉบับในโลกของแฮร์รี่ พอตเตอร์ ที่ได้รับการสร้างเป็นหนังจอใหญ่และประสบความสำเร็จทุกภาค แบบที่หาเจ้าของนิยายชุดในสมัยนี้ทำได้เทียบเท่ายากมากๆทีเดียว (เอาแค่ภาคสองภาค หนังก็ไม่ได้ไปต่อแล้ว) โดยนอกเหนือจาก Harry Potter ทั้ง 7 ภาคแล้ว นางก็ยังมี Fantastic Beasts ตามออกมาอีกชุด ซึ่งก็เริ่มต้นภาคแรกไปได้สวยงามเมื่อปีก่อน และกำลังจะเปิดกล้องภาคสองในปีนี้ พร้อมกันนั้นก็ได้ประกาศว่า นางจะเขียนบทไปจนถึงภาค 5 ทำให้หลังจากนี้เราจะได้พบกับเรื่องราวในโลกก่อนหน้า แฮร์รี่ พอตเตอร์อีก 4 ภาค และน่าจะไดเข้าฉายปีเว้นปี จบสมบูรณ์ครบแฟรนไชส์ก็น่าจะนู่นเลยปี 2024 !!
สำหรับผลงานที่ทำเงินมากที่สุดในจักรวาลนี้ของเจเค โรว์ลิ่ง (และวอร์เนอร์ บราเธอร์ส) ก็คือ Harry Potter And The Deathly Hallows Part 2 ที่เก็บเงินในบ้านไป 381 ล้านดอลล่าร์ รวมทั่วโลก 1341 ล้านดอลล่าร์
J.K. ROWLING'S WIZARD WORLD
แฟรนไชส์ทำเงินรวมทั่วโลก : 8,537 ล้านดอลล่าร์
จำนวนหนัง : 10 เรื่อง
เรียกว่าเป็นเจ้าแม่แห่งหนังพ่อมดคนเก่งของวงการ สำหรับเจเค โรว์ลิ่ง เจ้าของนิยายต้นฉบับในโลกของแฮร์รี่ พอตเตอร์ ที่ได้รับการสร้างเป็นหนังจอใหญ่และประสบความสำเร็จทุกภาค แบบที่หาเจ้าของนิยายชุดในสมัยนี้ทำได้เทียบเท่ายากมากๆทีเดียว (เอาแค่ภาคสองภาค หนังก็ไม่ได้ไปต่อแล้ว) โดยนอกเหนือจาก Harry Potter ทั้ง 7 ภาคแล้ว นางก็ยังมี Fantastic Beasts ตามออกมาอีกชุด ซึ่งก็เริ่มต้นภาคแรกไปได้สวยงามเมื่อปีก่อน และกำลังจะเปิดกล้องภาคสองในปีนี้ พร้อมกันนั้นก็ได้ประกาศว่า นางจะเขียนบทไปจนถึงภาค 5 ทำให้หลังจากนี้เราจะได้พบกับเรื่องราวในโลกก่อนหน้า แฮร์รี่ พอตเตอร์อีก 4 ภาค และน่าจะไดเข้าฉายปีเว้นปี จบสมบูรณ์ครบแฟรนไชส์ก็น่าจะนู่นเลยปี 2024 !!
สำหรับผลงานที่ทำเงินมากที่สุดในจักรวาลนี้ของเจเค โรว์ลิ่ง (และวอร์เนอร์ บราเธอร์ส) ก็คือ Harry Potter And The Deathly Hallows Part 2 ที่เก็บเงินในบ้านไป 381 ล้านดอลล่าร์ รวมทั่วโลก 1341 ล้านดอลล่าร์
ความคิดเห็นที่ 19
DC EXTENDED UNIVERSE
แฟรนไชส์ทำเงินรวมทั่วโลก : 2,772 ล้านดอลล่าร์
จำนวนหนัง : 4 เรื่อง
จักรวาลขยายใต้หลังคาดีซี ที่เข้าสู่ยุคใหม่ของฮีโร่เจ้านี้ แม้จะเริ่มต้นไม่สวยงามด้วยผลงานอย่าง Man of Steel, Batman V Superman และ Suicide Squad ด้วยการเป็นเจ้าของเสียงวิจารณ์แง่ลบอย่างท่วมท้น แต่การมาถึงของ Wonder Woman ผลงานฮีโร่หญิงเดี่ยวเรื่องแรกที่เป็นภาคแยกของสาวมหัศจรรย์ ก็ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้แฟนหนังต้องย้อนกลับมามองแฟรนไชส์จากจักรวาลนี้กันใหม่ เพราะไม่แน่ว่า นี่อาจจะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่จะทำให้ดีซีไปสู่จุดที่ดีงามมากกว่าเดิม ซึ่งก็ต้องมาตามดูกันต่อไปว่า แม่นางแกล กาโดทและหนังเรื่องนี้จะสามารถโกยเงินต่อเนื่องไปได้น่าพอใจแค่ไหน (ในขณะที่แชมป์เก่าของจักรวาลนี้ที่ทำเงินได้สูงที่สุดก็คือ Batman V Superman กวาดในอเมริกาไป 330 ล้านดอลล่าร์ ทั่วโลกอีก 873 ล้านดอลล่าร์)
ผลงานในอนาคตอันใกล้ของดีซีที่กำลังจะตามมา และน่าจะมาเพิ่มรายรับให้จักรวาลนี้อัพเกรดขึ้นไปอีกหลายร้อยล้านก็มีทั้ง Justice League | Aquaman | Flash | Gotham City Sirens | Man of Steel 2 | Justice League Dark | Green Lantern Corps | Batgirl และอีกมากมาย รอติดตามกันยาวๆไป
DC EXTENDED UNIVERSE
แฟรนไชส์ทำเงินรวมทั่วโลก : 2,772 ล้านดอลล่าร์
จำนวนหนัง : 4 เรื่อง
จักรวาลขยายใต้หลังคาดีซี ที่เข้าสู่ยุคใหม่ของฮีโร่เจ้านี้ แม้จะเริ่มต้นไม่สวยงามด้วยผลงานอย่าง Man of Steel, Batman V Superman และ Suicide Squad ด้วยการเป็นเจ้าของเสียงวิจารณ์แง่ลบอย่างท่วมท้น แต่การมาถึงของ Wonder Woman ผลงานฮีโร่หญิงเดี่ยวเรื่องแรกที่เป็นภาคแยกของสาวมหัศจรรย์ ก็ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้แฟนหนังต้องย้อนกลับมามองแฟรนไชส์จากจักรวาลนี้กันใหม่ เพราะไม่แน่ว่า นี่อาจจะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่จะทำให้ดีซีไปสู่จุดที่ดีงามมากกว่าเดิม ซึ่งก็ต้องมาตามดูกันต่อไปว่า แม่นางแกล กาโดทและหนังเรื่องนี้จะสามารถโกยเงินต่อเนื่องไปได้น่าพอใจแค่ไหน (ในขณะที่แชมป์เก่าของจักรวาลนี้ที่ทำเงินได้สูงที่สุดก็คือ Batman V Superman กวาดในอเมริกาไป 330 ล้านดอลล่าร์ ทั่วโลกอีก 873 ล้านดอลล่าร์)
ผลงานในอนาคตอันใกล้ของดีซีที่กำลังจะตามมา และน่าจะมาเพิ่มรายรับให้จักรวาลนี้อัพเกรดขึ้นไปอีกหลายร้อยล้านก็มีทั้ง Justice League | Aquaman | Flash | Gotham City Sirens | Man of Steel 2 | Justice League Dark | Green Lantern Corps | Batgirl และอีกมากมาย รอติดตามกันยาวๆไป
ความคิดเห็นที่ 4
MIDDLE EARTH
แฟรนไชส์ทำเงินรวมทั่วโลก : 5,847 ล้านดอลล่าร์
จำนวนหนัง : 6 เรื่อง
มีแค่ 6 เรื่อง แต่ก็เปรี้ยงปร้างมายาวนานมากๆ สำหรับแฟรนไชส์ มิดเดิ้ลเอิร์ธ โดยผู้ปลุกปั้นอย่าง ปีเตอร์ แจ็คสัน ที่หยิบเอานิยายขึ้นหิ้งของ เจ อาร์ อาร์โทลคีนมาดัดแปลง พร้อมทำให้สามภาคแรกเริ่มอย่าง The Lord of The Rings กลายเป็นความสำเร็จในระดับทั้งเงินและทั้งกล่อง ก่อนที่จะดรอปนิดๆใน The Hobbit ที่ไม่สามารถทำเงินสู้ได้ แต่ดูรวมๆแล้ว ก็ออกมาเป็นแฟรนไชส์ที่ประสบความสำเร็จมากทีเดียว โดยหนังจากแฟรนไชส์ชุดนี้ที่ทำเงินได้มากที่สุดก็คือ The Lord of The Rings : The Return of The King ที่เก็บในบ้านไป 377 ล้านดอลล่าร์ รวมทั่วโลกอยู่ที่ 1119 ล้านดอลล่าร์ (นอกจากเรื่องนี้ก็ยังมี The Hobbit ภาคแรกที่ทำเงินได้เกินพันล้านฯ อีกเรื่อง โดยเก็บไป 1021 ล้านดอลล่าร์)
MIDDLE EARTH
แฟรนไชส์ทำเงินรวมทั่วโลก : 5,847 ล้านดอลล่าร์
จำนวนหนัง : 6 เรื่อง
มีแค่ 6 เรื่อง แต่ก็เปรี้ยงปร้างมายาวนานมากๆ สำหรับแฟรนไชส์ มิดเดิ้ลเอิร์ธ โดยผู้ปลุกปั้นอย่าง ปีเตอร์ แจ็คสัน ที่หยิบเอานิยายขึ้นหิ้งของ เจ อาร์ อาร์โทลคีนมาดัดแปลง พร้อมทำให้สามภาคแรกเริ่มอย่าง The Lord of The Rings กลายเป็นความสำเร็จในระดับทั้งเงินและทั้งกล่อง ก่อนที่จะดรอปนิดๆใน The Hobbit ที่ไม่สามารถทำเงินสู้ได้ แต่ดูรวมๆแล้ว ก็ออกมาเป็นแฟรนไชส์ที่ประสบความสำเร็จมากทีเดียว โดยหนังจากแฟรนไชส์ชุดนี้ที่ทำเงินได้มากที่สุดก็คือ The Lord of The Rings : The Return of The King ที่เก็บในบ้านไป 377 ล้านดอลล่าร์ รวมทั่วโลกอยู่ที่ 1119 ล้านดอลล่าร์ (นอกจากเรื่องนี้ก็ยังมี The Hobbit ภาคแรกที่ทำเงินได้เกินพันล้านฯ อีกเรื่อง โดยเก็บไป 1021 ล้านดอลล่าร์)
แสดงความคิดเห็น
### รวมมิตรหนังแฟรนไชส์ทำเงินสูงสุดตลอดกาลทั่วโลก | มาดูกันว่า หนังชุดไหน ทำเงินได้กระหึ่มทั่วโลกกันบ้าง !!!
ที่สามารถโกยรายรับทั่วโลกได้อย่างน่าประทับใจ
ซึ่งก็แน่นอนว่าไม่เกินคาดเดาสำหรับแฟนหนังทั้งหลาย
เพราะพ่อทุกสถาบันในยุคนี้นั้น
ต้องยกให้แฟรนไชส์มาร์เวลเค้าเลย
+ + + + + + + + + + + + +
ติดตามข่าวสารและพูดคุยกันได้ที่
http://facebook.com/filmzlapsocial