Gladiator II: นักรบผู้กล้า ผ่าแผ่นดินทรราช 2
กำกับโดย Ridley Scott
จำได้ว่าตั้งแต่ที่เห็นข่าว
Ridley Scott ประกาศทำ
Gladiator II รู้สึกตื่นเต้นกับข่าวนี้มากและคิดว่า ยังไงต้องไปดูเรื่องนี้ในโรงภาพยนตร์
ในฐานะคนชอบดูหนัง
Gladiator (2000) คือ หนึ่งในหนังตำนานของ
Ridley Scott ที่เยี่ยมขึ้นหิ้ง สร้างความประทับใจกับแฟนหนังมากมาย
ดังนั้นไหน ๆ ภาค 2 มาแล้ว เราย่อมพลาดไม่ได้
เรื่องย่อ
GLADIATOR II | Official Trailer
หลังการตายของแม็กซิมัส 20 ปี จักรวรรดิโรมันถูกปกครองโดย 2 จักรพรรดิผู้กระหายสงคราม
ภายใต้การนำทัพของแม่ทัพ
"อเคเซียส" (Pedro Pascal) อเคเซียสนำทัพเข้ายึดและผนวก
"นูมิเดีย" เมืองชายฝั่งแอฟริกาเหนือเข้ากับจักรวรรดิโรมันได้สำเร็จ
ในสงครามครั้งนี้
"ฮานโน" (Paul Mescal) หนึ่งในผู้นำทัพของนูมิเดียถูกจับเป็นเชลยและถูกนำพาเข้าสู่กรุงโรม เพื่อเป็นแกลดิเอเตอร์
ความรู้สึกหลังชม
- ความรู้สึกหลังดูจบ ถ้าสรุปแบบสั้น ๆ
Gladiator II เปรียบเสมือน
"หนังรีบูท" ของ
Gladiator I ที่โครงเรื่องหลักใกล้เคียงกัน
นั่นคือ ชีวิตของ
"นักรบ" ที่พบเจอกับความพลิกผันในชีวิต ตั้งแต่เป็นแม่ทัพ สูญเสียคนรักจากภัยสงคราม พ่ายแพ้จนถูกจับเป็นทาส และต้องปลดแอกตัวเองด้วยการเป็น
"แกลดิเอเตอร์" เพื่อทวงคืนเกียรติภูมิและกอบกู้กรุงโรม
- Gladiator II มีส่วนที่แตกต่างกับภาคแรกอยู่บ้าง โดยเฉพาะเส้นเรื่องที่กระจายไปในหลายตัวละครมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม โดยรวมแล้ว รู้สึกว่า
"บทหนัง" ยังไม่คมเท่าไรเมื่อเทียบกับภาคแรก หลาย ๆ ส่วนคาดเดาได้ตั้งแต่ต้น ส่งผลให้ความตื่นเต้นหายไปและอาจดูยืดเมื่อเทียบกับระยะเวลาหนัง 2 ชั่วโมงครึ่ง
นอกจากนี้มีเส้นเรื่องที่กระจายไปในหลายส่วน ทำให้หนังต้องรวบรัดตัดตอน ระหว่างดูจึงสัมผัสได้ถึงความห้วน ความไม่สมเหตุสมผลในเรื่อง
เรียกได้ว่า
"พลังของบท" ในภาคนี้ถอยต่ำจากภาคแรกพอสมควร
- จากที่ติไปแล้ว มาดูส่วนที่น่าประทับใจกันบ้าง
สิ่งที่ชอบในหนังเรื่องนี้ ขอยกให้กับเรื่อง
"ความบันเทิง ความยิ่งใหญ่ และพลังแห่งภาพยนตร์"
Ridley Scott ในวัย 86 ปี ยังคงเป็นนักทำหนังที่เก่งในการเอนเตอร์เทนผู้ชมได้ดี ความยิ่งใหญ่ของโปรดักชันในหนังเรียกได้ว่า
"อลังการ" ซึ่งถือเป็นความสามารถพิเศษของ
Ridley Scott เพราะงานแต่ละชิ้นของแกโปรดักชันเยี่ยมทุกเรื่อง
ความยิ่งใหญ่ของมหากาพย์การต่อสู้ การพรรณนาผ่านงานภาพที่สวยงาม และฉากกรุงโรมสุดอลังการ จึงเป็นสิ่งที่ Ridley Scott แสดงให้ผู้ชมได้เห็นว่า
"ภาพยนตร์" (Cinema) หรือ
"ประสบการณ์ทางภาพยนตร์" (Cinematic Experience) คืออะไร
และทำไมเราถึงควรดูภาพยนตร์ใน
"โรงภาพยนตร์" (Movie Theatre)
- ค่อนข้างชอบงานภาพที่ถ่ายซีนต่าง ๆ รวมถึงซีนพรรณนาได้สวยงาม ขณะที่ดนตรีประกอบอาจไม่ได้น่าจดจำเท่ากับดนตรีของ
Hans Zimmer ในภาคแรก
- พาร์ทนักแสดง ชอบที่สุด 3 คน ได้แก่
Denzel Washington (แม็กควินัส), Pedro Pascal (อเคเซียส) และ Paul Mescal (ฮานโน)
- ในหนังมีการกล่าวถึงตัวละครเก่าหลายตัวให้หายคิดถึง และจะอินขึ้นถ้าเคยรู้เนื้อเรื่องภาคแรกมาก่อน
สรุป
จัดเป็นหนังสงครามพีเรียดที่สนุก เอนเตอร์เทน และมีบทที่แกร่งกว่าเรื่องอื่น ๆ (แต่ยังคงไม่เท่าภาคแรกที่ขึ้นหิ้ง)
ตัวหนังเล่นใหญ่มากขึ้น (สนองความต้องการผู้กำกับ 😂) ในแง่ความอลังการ ฉากสงคราม และโปรดักชันของ Ridley Scott ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน
ยิ่งถ้าดูผ่าน IMAX ทั้งภาพและเสียงกระหึ่มสุดยอด ใครสนใจแนะนำเลย !
____________________________________
ป.ล. อีกหนึ่งช่องทางการติดต่อทาง Facebook เผื่อสนใจอยากพูดคุยติดต่อ
Lemon8: BENJI Review
IG: benjireview
Gladiator II (2024) - กลับมาอีกครั้งกับวีรบุรุษแห่งกรุงโรม
ในฐานะคนชอบดูหนัง Gladiator (2000) คือ หนึ่งในหนังตำนานของ Ridley Scott ที่เยี่ยมขึ้นหิ้ง สร้างความประทับใจกับแฟนหนังมากมาย
ดังนั้นไหน ๆ ภาค 2 มาแล้ว เราย่อมพลาดไม่ได้
เรื่องย่อ
ภายใต้การนำทัพของแม่ทัพ "อเคเซียส" (Pedro Pascal) อเคเซียสนำทัพเข้ายึดและผนวก "นูมิเดีย" เมืองชายฝั่งแอฟริกาเหนือเข้ากับจักรวรรดิโรมันได้สำเร็จ
ในสงครามครั้งนี้ "ฮานโน" (Paul Mescal) หนึ่งในผู้นำทัพของนูมิเดียถูกจับเป็นเชลยและถูกนำพาเข้าสู่กรุงโรม เพื่อเป็นแกลดิเอเตอร์
ความรู้สึกหลังชม
- ความรู้สึกหลังดูจบ ถ้าสรุปแบบสั้น ๆ Gladiator II เปรียบเสมือน "หนังรีบูท" ของ Gladiator I ที่โครงเรื่องหลักใกล้เคียงกัน
นั่นคือ ชีวิตของ "นักรบ" ที่พบเจอกับความพลิกผันในชีวิต ตั้งแต่เป็นแม่ทัพ สูญเสียคนรักจากภัยสงคราม พ่ายแพ้จนถูกจับเป็นทาส และต้องปลดแอกตัวเองด้วยการเป็น "แกลดิเอเตอร์" เพื่อทวงคืนเกียรติภูมิและกอบกู้กรุงโรม
อย่างไรก็ตาม โดยรวมแล้ว รู้สึกว่า "บทหนัง" ยังไม่คมเท่าไรเมื่อเทียบกับภาคแรก หลาย ๆ ส่วนคาดเดาได้ตั้งแต่ต้น ส่งผลให้ความตื่นเต้นหายไปและอาจดูยืดเมื่อเทียบกับระยะเวลาหนัง 2 ชั่วโมงครึ่ง
นอกจากนี้มีเส้นเรื่องที่กระจายไปในหลายส่วน ทำให้หนังต้องรวบรัดตัดตอน ระหว่างดูจึงสัมผัสได้ถึงความห้วน ความไม่สมเหตุสมผลในเรื่อง
เรียกได้ว่า "พลังของบท" ในภาคนี้ถอยต่ำจากภาคแรกพอสมควร
สิ่งที่ชอบในหนังเรื่องนี้ ขอยกให้กับเรื่อง "ความบันเทิง ความยิ่งใหญ่ และพลังแห่งภาพยนตร์"
Ridley Scott ในวัย 86 ปี ยังคงเป็นนักทำหนังที่เก่งในการเอนเตอร์เทนผู้ชมได้ดี ความยิ่งใหญ่ของโปรดักชันในหนังเรียกได้ว่า "อลังการ" ซึ่งถือเป็นความสามารถพิเศษของ Ridley Scott เพราะงานแต่ละชิ้นของแกโปรดักชันเยี่ยมทุกเรื่อง
ความยิ่งใหญ่ของมหากาพย์การต่อสู้ การพรรณนาผ่านงานภาพที่สวยงาม และฉากกรุงโรมสุดอลังการ จึงเป็นสิ่งที่ Ridley Scott แสดงให้ผู้ชมได้เห็นว่า "ภาพยนตร์" (Cinema) หรือ "ประสบการณ์ทางภาพยนตร์" (Cinematic Experience) คืออะไร
และทำไมเราถึงควรดูภาพยนตร์ใน "โรงภาพยนตร์" (Movie Theatre)
- พาร์ทนักแสดง ชอบที่สุด 3 คน ได้แก่ Denzel Washington (แม็กควินัส), Pedro Pascal (อเคเซียส) และ Paul Mescal (ฮานโน)
- ในหนังมีการกล่าวถึงตัวละครเก่าหลายตัวให้หายคิดถึง และจะอินขึ้นถ้าเคยรู้เนื้อเรื่องภาคแรกมาก่อน
สรุป
ตัวหนังเล่นใหญ่มากขึ้น (สนองความต้องการผู้กำกับ 😂) ในแง่ความอลังการ ฉากสงคราม และโปรดักชันของ Ridley Scott ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน
ยิ่งถ้าดูผ่าน IMAX ทั้งภาพและเสียงกระหึ่มสุดยอด ใครสนใจแนะนำเลย !