อยากหัดถ่ายภาพมานาน มีเวลาเก็บเงินเพื่อซื้อกล้อง DSLR ตัวแรก สุดท้ายก็อดใจไปซื้อระดับ Semi-Pro ไม่ไหวเลยได้ Entry Level มาแทน (หัดใช้ไปแล้วค่อยต่อยอดทีหลังแล้วกัน) ซื้อกล้องมาวันที่ 5 มิถุนายนที่ผ่านมา ออกทริปวันที่ 6 มิถุนายน ไปพร้อมกับเพื่อนอีก 5 คน เที่ยวแบบ 3 วัน 2 คืน กับ 5 สถานที่คือ ถ้ำกระแซ, สะพานข้ามแม่น้ำแคว, อุทยานแห่งชาติเอราวัณ, วัดถ้ำเสือ, วัดบ้านถ้ำ แต่ในกระทู้นี้ขอลงภาพสถานที่เดียวคืออุทยานแห่งชาติเอราวัณนะครับ
กล้องที่ใช้: Nikon D5600
เลนส์: 18 - 55 VR (อยากได้ 18 - 140 แต่งบไม่พอ แห่ะๆ)
โหมดกล้อง: M (ไม่ชอบ Auto เพราะอยากปรับเองล้วนๆ ก่อนหน้าได้ฝึกทฤษฎีกับ YouTube และอีกหลายๆเว็บมาบ้างแล้ว แต่ไม่เคยปฏิบัติจริง)
Notice: เพื่อสัมผัสกับบรรยยากาศให้เหมือนกับสถานที่จริงมากที่สุด ผมจะไม่ใช้ความเร็วชัตเตอร์ต่ำๆเหมือนกับหลายๆเว็บนะครับ เพราะมันทำให้น้ำตกดูสวยก็จริง (มีความฟุ้งของไอน้ำที่ตกและความเรียบเนียนของสายน้ำ) และจะไม่ตกแต่งสีเพิ่มเติมจากต้นฉบับ แต่อาจมีการปรับความมืด/สว่างในบางภาพนะครับ (ใช้โหมด M แบบมือใหม่แล้วประมาณความสว่างในสถานที่จริงไม่ค่อยถูกครับ ภาพเลยออกมามืดบ้างสว่างบ้าง แห่ะๆ)
เริ่มจากการเดินทางโดยรถประจำทางจากสถานี บขส. กาญจนบุรี มาถึงปลายทางคืออุทยานแห่งชาติเอราวัณโดยคิดค่าเข้าอุทยานดังนี้
ชาวไทย
- เด็ก: 50 บาท
- ผู้ใหญ่: 100 บาท
- นักศึกษาแสดงบัติประจำตัวนักศึกษาให้กับเจ้าหน้าที่: 50 บาท
ชาวต่างชาติ
- เด็ก: 200 บาท
- ผู้ใหญ่: 300 บาท
ในที่นี้ผมแสดงบัติประจำตัวนักศึกษาจึงเข้าชมอุทยานได้ในราคา 50 บาทครับ
(ทุกภาพไม่มี จขกท. มีแต่เพื่อนๆ เด้อ แห่ะๆ)
เมื่อลงจากรถประจำทางก็เจอป้ายเวลารถประจำทาง
เดินทางตรงดิ่งไปกันเลยเพื่อนๆ
แวะถ่ายรูปกับป้ายทางเข้า
เจอกันหน่อยเจ้าน้ำตก!
เดินเข้าไปก่อนถึงชั้น 1 ก็เจอน้ำตกแล้ว
ต้นไม้ที่ล้มพายาวกับหินน้ำตกเป็นสะพานให้เดินไปชมน้ำตกใกล้ๆได้พอดี
ถึงแล้วป้ายบอกจุดเริ่มต้นน้ำตกเอราวัณ
ฝูง
ปลาพลวง ในน้ำที่ใสเอามากๆ
เดินถัดมาอีกหน่อยก็เจอน้ำตกเล็กๆอีกขั้น
(แต่ละชั้นจะมีจุดน้ำตกย่อยและจุดน้ำตกหลัก)
ถึงแล้วชั้นที่ 1 ชื่อว่า "ไหลคืนรัง"
เดินทางกันต่อ เริ่มจะต้องมีบันไดแล้ว
เจอน้ำตกอีกจุดแล้ว
ถึงแล้วชั้นที่ 2 ชื่อว่า "วังมัจฉา"
โดยความคิดส่วนตัวแล้ว ชั้นนี้น่าลงเล่นน้ำมากที่สุด (เพราะมันกว้างและดูสวยงามมากๆ)
ก่อนจะไปชั้นต่อๆไปได้จะต้องเจอจุดฝากอาหารและเครื่องดื่ม (เพราะทางเจ้าหน้าที่ไม่ให้นำเข้าไปด้วย) จึงต้องฝากอาหารที่พกติดตัวมาไว้กับเจ้าหน้าที่และมารับคืนขากลับ (ไม่ได้ถ่ายภาพไว้)
ป้ายบอกชื่อน้ำตกชั้นที่เหลือและระยะทางจากจุดที่คุณอ่านป้ายนี้ไปถึงน้ำตก และป้ายบอกเวลาผ่านทาง ใครมาถึง 16.00 น. ก็เสียใจด้วย คุณไม่ได้ไปต่อ
บันไดอีกแล้ว...
น้ำตกระหว่างทางก็สวยไม่แพ้จุดหลักเลย
เจอป้ายแล้ว ว่าแต่ไปทางไหนดีล่ะ? เลี้ยวขวาแล้วกัน
แยกแล้วก็แยกอีก ต้องไปชั้น 3 อยู่แล้ว จะหลงทางไหมเนี่ย
ถึงแล้วชั้นที่ 3 ชื่อว่า "ผาน้ำตก"
เดินไปหาชั้น 4 กันต่อ (เริ่มหอบแล้ว) เจอป้ายแยกเลี้ยวซ้ายแล้วก็น่าสนใจ แต่เห็นตัวเลขระยะทางเมื่อเลี้ยงซ้ายแล้ว... ผมตรงไปดีกว่า
ถึงตรงนี้ก็จะพบกับบันไดและเสียงหอบ (แฮ่กๆ)
ว้าว... มีจุดพักระหว่างทางเพื่อชมวิวด้วย พักสิครับ รออะไร
หายเหนื่อยก็ไปกันต่อ แล้วก็จะพบกันป้ายคำเตือน
มุมน้ำตกเล็กๆระหว่างทาง
ถึงแล้วชั้นที่ 4 ชื่อว่า "อกผีเสื้อ" (เป็นชื่อที่เทียบได้เจ๋งมากๆ)
เดินต่อไปอีกก็เจอมุมน้ำตกเล็กๆ
เจอป้ายแล้ว บ่งบอกว่าเรามาเกินครึ่งทางแล้วนะ (แต่เสียงหอบนี่เหมือนคนจะตายแล้ว)
โอ้ว... มีบันไดทางลงด้วยหรอนี่ บรรเทาอาการขาล้าชั่วคราว (แต่ยังไงก็ต้องเดินขึ้นอยู่ดีแหละ)
เจอน้ำตกเล็กๆข้างทางอีกจุด สวยไหมล่ะ?
"ห้ะ! ยังไม่ถึงชั้น 5 อีกหรอ!" เดินต่อไป
ว้าว... ได้บรรยากาศเดินป่ามากขึ้นเรื่อยๆแล้ว
อ้ะๆ! เจอที่พักอีกแล้ว แต่เราไม่พักเพราะใจอยากถึงชั้น 7 ไวๆ
มุมน้ำตกระหว่างทางสวยๆ
มีท่อนไม้ที่มีเห็ดขึ้นอยู่ท่อนหนึ่งสวยดี แต่แปลกตรงที่ทำไมเห็ดขึ้นอยู่ท่อนเดียว
น้ำตกตรงนี้ก็กว้างดีนะ (จากจุดนี้ ฝนเริ่มปรอยแล้วด้วย)
เชอะ! ไม่อิจฉาหรอก ชิ!
ไม่ไหวแล้ว... (หอบหนักมาก) ยังไม่ถึงอีกเหรอนี่ ฮือๆๆๆๆ
น้ำตกระหว่างข้ามสะพานไม้
ทางเดินเริ่มไม่เป็นทางแล้ว ต้องปีนซอกหินและผาเล็กๆกันเลยทีเดียว
ถึงแล้วชั้นที่ 5 ชื่อว่า "เบื่อไม่ลง"
ถัดมาก็เจอน้ำตกอีก
ป้ายบอกทางไปชั้นที่ 6
เจออีกแล้ว
ป้ายบอกทาง แยกทางอีกแล้วเหรอนี่
เพื่อนที่ล่วงหน้าไปก่อนบอกว่า ชั้น 6 น้ำแห้ง (ในตอนนั้น) ไม่ค่อยมีอะไรเลย จึงไม่ได้แวะไปดูด้วยตาตัวเอง แต่ก็ได้มุมน้ำตกสวยๆข้างๆบันไดทางขวาของภาพก่อนหน้า ขออภัยกับความผิดพลาดที่ไม่ได้ไปถ่ายชั้น 6 ที่มีชื่อว่า "ดงพฤกษา" มา ณ ที่นี้ด้วยครับ
ผมเริ่มเดินทางไปชั้น 7 ต่อเลยซึ่งก็เจอน้ำตกเล็กๆอีกจุด
ถึงตรงนี้ต้องระวังครับ มองในภาพอาจจะดูทางสั้นๆ แต่ถ้าไม่ระวังก็ลื่นล้มบาดเจ็บได้ง่ายๆเลย
มองแล้วจินตนาการไปถึงเมื่อตอนมันยังมีน้ำไหลผ่าน
นึกถึงเกมบางเกมที่เราฆ่าปีศาจงูยักได้สำเร็จแล้วมันล้มลงฟาดพื้นตาย ฮ่าๆๆๆๆๆๆ (บ้าไปแล้ว)
ถึงตรงนี้บอกเลยว่าตัวผมไอร้อนขึ้นหนักมากๆ ขนาดว่าฝนปรอยๆให้อากาศเย็น หอบเหนื่อยแบบหนักสุดๆ แถมยังต้องแบกกระเป๋าสัมภาระทั้งหมดที่เอามาด้วยกับกล้องที่ต้องสะพายและป้องกันมันยิ่งชีวิตตลอดเวลา อารมณ์ตอนนี้โคตรอยากกระโดดลงไปนอนในน้ำเลยทีเดียว ไม่ต้องรอถึงชั้น 7
บันไดสุดท้ายสู่ปลายทาง
(มีต่อ)
พาชมภาพอุทยานแห่งชาติเอราวัณ น้ำตก 7 ชั้น กาญจนบุรี
กล้องที่ใช้: Nikon D5600
เลนส์: 18 - 55 VR (อยากได้ 18 - 140 แต่งบไม่พอ แห่ะๆ)
โหมดกล้อง: M (ไม่ชอบ Auto เพราะอยากปรับเองล้วนๆ ก่อนหน้าได้ฝึกทฤษฎีกับ YouTube และอีกหลายๆเว็บมาบ้างแล้ว แต่ไม่เคยปฏิบัติจริง)
Notice: เพื่อสัมผัสกับบรรยยากาศให้เหมือนกับสถานที่จริงมากที่สุด ผมจะไม่ใช้ความเร็วชัตเตอร์ต่ำๆเหมือนกับหลายๆเว็บนะครับ เพราะมันทำให้น้ำตกดูสวยก็จริง (มีความฟุ้งของไอน้ำที่ตกและความเรียบเนียนของสายน้ำ) และจะไม่ตกแต่งสีเพิ่มเติมจากต้นฉบับ แต่อาจมีการปรับความมืด/สว่างในบางภาพนะครับ (ใช้โหมด M แบบมือใหม่แล้วประมาณความสว่างในสถานที่จริงไม่ค่อยถูกครับ ภาพเลยออกมามืดบ้างสว่างบ้าง แห่ะๆ)
เริ่มจากการเดินทางโดยรถประจำทางจากสถานี บขส. กาญจนบุรี มาถึงปลายทางคืออุทยานแห่งชาติเอราวัณโดยคิดค่าเข้าอุทยานดังนี้
ชาวไทย
- เด็ก: 50 บาท
- ผู้ใหญ่: 100 บาท
- นักศึกษาแสดงบัติประจำตัวนักศึกษาให้กับเจ้าหน้าที่: 50 บาท
ชาวต่างชาติ
- เด็ก: 200 บาท
- ผู้ใหญ่: 300 บาท
ในที่นี้ผมแสดงบัติประจำตัวนักศึกษาจึงเข้าชมอุทยานได้ในราคา 50 บาทครับ
(ทุกภาพไม่มี จขกท. มีแต่เพื่อนๆ เด้อ แห่ะๆ)
เมื่อลงจากรถประจำทางก็เจอป้ายเวลารถประจำทาง
เดินทางตรงดิ่งไปกันเลยเพื่อนๆ
แวะถ่ายรูปกับป้ายทางเข้า
เจอกันหน่อยเจ้าน้ำตก!
เดินเข้าไปก่อนถึงชั้น 1 ก็เจอน้ำตกแล้ว
ต้นไม้ที่ล้มพายาวกับหินน้ำตกเป็นสะพานให้เดินไปชมน้ำตกใกล้ๆได้พอดี
ถึงแล้วป้ายบอกจุดเริ่มต้นน้ำตกเอราวัณ
ฝูง ปลาพลวง ในน้ำที่ใสเอามากๆ
เดินถัดมาอีกหน่อยก็เจอน้ำตกเล็กๆอีกขั้น
(แต่ละชั้นจะมีจุดน้ำตกย่อยและจุดน้ำตกหลัก)
ถึงแล้วชั้นที่ 1 ชื่อว่า "ไหลคืนรัง"
เดินทางกันต่อ เริ่มจะต้องมีบันไดแล้ว
เจอน้ำตกอีกจุดแล้ว
ถึงแล้วชั้นที่ 2 ชื่อว่า "วังมัจฉา"
โดยความคิดส่วนตัวแล้ว ชั้นนี้น่าลงเล่นน้ำมากที่สุด (เพราะมันกว้างและดูสวยงามมากๆ)
ก่อนจะไปชั้นต่อๆไปได้จะต้องเจอจุดฝากอาหารและเครื่องดื่ม (เพราะทางเจ้าหน้าที่ไม่ให้นำเข้าไปด้วย) จึงต้องฝากอาหารที่พกติดตัวมาไว้กับเจ้าหน้าที่และมารับคืนขากลับ (ไม่ได้ถ่ายภาพไว้)
ป้ายบอกชื่อน้ำตกชั้นที่เหลือและระยะทางจากจุดที่คุณอ่านป้ายนี้ไปถึงน้ำตก และป้ายบอกเวลาผ่านทาง ใครมาถึง 16.00 น. ก็เสียใจด้วย คุณไม่ได้ไปต่อ
บันไดอีกแล้ว...
น้ำตกระหว่างทางก็สวยไม่แพ้จุดหลักเลย
เจอป้ายแล้ว ว่าแต่ไปทางไหนดีล่ะ? เลี้ยวขวาแล้วกัน
แยกแล้วก็แยกอีก ต้องไปชั้น 3 อยู่แล้ว จะหลงทางไหมเนี่ย
ถึงแล้วชั้นที่ 3 ชื่อว่า "ผาน้ำตก"
เดินไปหาชั้น 4 กันต่อ (เริ่มหอบแล้ว) เจอป้ายแยกเลี้ยวซ้ายแล้วก็น่าสนใจ แต่เห็นตัวเลขระยะทางเมื่อเลี้ยงซ้ายแล้ว... ผมตรงไปดีกว่า
ถึงตรงนี้ก็จะพบกับบันไดและเสียงหอบ (แฮ่กๆ)
ว้าว... มีจุดพักระหว่างทางเพื่อชมวิวด้วย พักสิครับ รออะไร
หายเหนื่อยก็ไปกันต่อ แล้วก็จะพบกันป้ายคำเตือน
มุมน้ำตกเล็กๆระหว่างทาง
ถึงแล้วชั้นที่ 4 ชื่อว่า "อกผีเสื้อ" (เป็นชื่อที่เทียบได้เจ๋งมากๆ)
เดินต่อไปอีกก็เจอมุมน้ำตกเล็กๆ
เจอป้ายแล้ว บ่งบอกว่าเรามาเกินครึ่งทางแล้วนะ (แต่เสียงหอบนี่เหมือนคนจะตายแล้ว)
โอ้ว... มีบันไดทางลงด้วยหรอนี่ บรรเทาอาการขาล้าชั่วคราว (แต่ยังไงก็ต้องเดินขึ้นอยู่ดีแหละ)
เจอน้ำตกเล็กๆข้างทางอีกจุด สวยไหมล่ะ?
"ห้ะ! ยังไม่ถึงชั้น 5 อีกหรอ!" เดินต่อไป
ว้าว... ได้บรรยากาศเดินป่ามากขึ้นเรื่อยๆแล้ว
อ้ะๆ! เจอที่พักอีกแล้ว แต่เราไม่พักเพราะใจอยากถึงชั้น 7 ไวๆ
มุมน้ำตกระหว่างทางสวยๆ
มีท่อนไม้ที่มีเห็ดขึ้นอยู่ท่อนหนึ่งสวยดี แต่แปลกตรงที่ทำไมเห็ดขึ้นอยู่ท่อนเดียว
น้ำตกตรงนี้ก็กว้างดีนะ (จากจุดนี้ ฝนเริ่มปรอยแล้วด้วย)
เชอะ! ไม่อิจฉาหรอก ชิ!
ไม่ไหวแล้ว... (หอบหนักมาก) ยังไม่ถึงอีกเหรอนี่ ฮือๆๆๆๆ
น้ำตกระหว่างข้ามสะพานไม้
ทางเดินเริ่มไม่เป็นทางแล้ว ต้องปีนซอกหินและผาเล็กๆกันเลยทีเดียว
ถึงแล้วชั้นที่ 5 ชื่อว่า "เบื่อไม่ลง"
ถัดมาก็เจอน้ำตกอีก
ป้ายบอกทางไปชั้นที่ 6
เจออีกแล้ว
ป้ายบอกทาง แยกทางอีกแล้วเหรอนี่
เพื่อนที่ล่วงหน้าไปก่อนบอกว่า ชั้น 6 น้ำแห้ง (ในตอนนั้น) ไม่ค่อยมีอะไรเลย จึงไม่ได้แวะไปดูด้วยตาตัวเอง แต่ก็ได้มุมน้ำตกสวยๆข้างๆบันไดทางขวาของภาพก่อนหน้า ขออภัยกับความผิดพลาดที่ไม่ได้ไปถ่ายชั้น 6 ที่มีชื่อว่า "ดงพฤกษา" มา ณ ที่นี้ด้วยครับ
ผมเริ่มเดินทางไปชั้น 7 ต่อเลยซึ่งก็เจอน้ำตกเล็กๆอีกจุด
ถึงตรงนี้ต้องระวังครับ มองในภาพอาจจะดูทางสั้นๆ แต่ถ้าไม่ระวังก็ลื่นล้มบาดเจ็บได้ง่ายๆเลย
มองแล้วจินตนาการไปถึงเมื่อตอนมันยังมีน้ำไหลผ่าน
นึกถึงเกมบางเกมที่เราฆ่าปีศาจงูยักได้สำเร็จแล้วมันล้มลงฟาดพื้นตาย ฮ่าๆๆๆๆๆๆ (บ้าไปแล้ว)
ถึงตรงนี้บอกเลยว่าตัวผมไอร้อนขึ้นหนักมากๆ ขนาดว่าฝนปรอยๆให้อากาศเย็น หอบเหนื่อยแบบหนักสุดๆ แถมยังต้องแบกกระเป๋าสัมภาระทั้งหมดที่เอามาด้วยกับกล้องที่ต้องสะพายและป้องกันมันยิ่งชีวิตตลอดเวลา อารมณ์ตอนนี้โคตรอยากกระโดดลงไปนอนในน้ำเลยทีเดียว ไม่ต้องรอถึงชั้น 7
บันไดสุดท้ายสู่ปลายทาง
(มีต่อ)