* * * เจอเรื่องเกี่ยวกับ การต่อเติมบ้าน หรือ ปรับปรุงบ้าน (รีโนเวท ) ที่มักเจอปัญหาระหว่าง ผรม.กับลูกค้า * * * เลยลองหาสาเหตุดู ก็พอมองปัญหาได้ดังนี้
.... มาที่ตัว ผรม. ( ผู้รับเหมาก่อน )....
...ประเภทที่ 1 ตั้งใจมาเพื่อโกง โดยเฉพาะ ผรม.ประภทนี้ จะตีราคาต่ำมากๆ เพื่อให้เหยื่อ ทำการว่าจ้าง พอเริ่มงานไม่เท่าไหร่ ก็ทิ้งงาน " พูดง่ายๆ เลว ตั้งแต่เริ่มต้น " สังเกตง่ายๆ จะงานกันเพียง 2-3 คน ขนาดรับงานใหญ่ๆ ก็ไม่เกิน 4 คน
... ประเภทที่ 2 ผรม.ช่วง ผู้รับเหมาประเภทนี้ จะรับงานต่อมาจาก บ.รับสร้างบ้านอีกที เพราะส่วนใหญ่ บ.รับสร้างบ้านจะไม่มีทีมรับเหมา เป็นของตัวเอง จะใช้วิธีจ้างอีกต่อนึง เพื่อลดต้นทุน
ที่นี้ก็ขึ้นอยู่กับ ลูกค้า หรือผู้ว่าจ้าง ว่าจะเจอ ผรม. ดีหรือไม่ดี ต้องวัดดวงเอา
... ประเภทที่ 3 ผรม. แบบรับงานซ้อนกันหลายงาน พองานนึง มีปัญหา ก็จะลากให้ งานอื่นเสียไปด้วย สุดท้ายต้องเลือกทิ้งงาน หรืออาจทิ้งทุกงาน ลูกค้าซวยไป
... ประเภท ที่ 4 ผรม. รับงานเอง ทำทีละงาน ไม่รับงานซ้อน เสร็จงานนี้ ค่อยไปรับงานใหม่
แต่ ผวจ.(ผู้ว่าจ้าง)ต้องใจเย็นนิดนึง รอคิวว่าง ถ้าอยากได้งานอีกระดับนึง
ผรม.ประเภทนี้ มักเป็นฝ่ายคัดเลือกลูกค้าเอง เพราะไม่อยากมานั่งปวดหัวมีปัญหาภายหลัง
**** ที่นี้ มาดูฝั่ง ลูกค้ามั่ง ****
ประเภทที่ 1 หลังจากเริ่มงาน เริ่มขอให้เพิ่มโน่นนี่ ฟรีๆนอกเหนือรายการ ถ้า ผรม. ไม่ยอมทำให้ ก็จะยึกยัก จ่ายค่างวดกะปริดกะปรอย
บางรายถึงกับไม่ยอมจ่ายค่างวด จนกว่าจะได้ของฟรี ตามที่ขอ สุดท้ายก็โดนทิ้งงาน ลูกค้าแบบนี้สมควรโดนทิ้งงานจริงๆ
... ประเภทที่ 2 เปลี่ยนแบบงาน นอกเหนือข้อตกลง บางรายมีสปิริต จ่ายส่วนต่าง หรือจ่ายค่าเสียเวลาให้ บางราย งอแง จะขอเปลี่ยนแบบงานฟรีๆ สุดท้าย ช่างอึดอัด หมดอารมณ์ทำ ก็ทิ้งงานไป (สำหรับที่ขอฟรีๆ นะ)
... ประเภทที่ 3 มายึกยักตอนงวดสุดท้าย ด้วยขออ้าง ติโน่นนี่ เพื่อหักค่างวดสุดท้าย ทั้งที่บางทีงานก็ออกมาปกติ แต่หาเรื่องติ ผรม.บางรายก็ตัดรำคาญ ลดราคางวดสุดท้ายให้ไป .... แต่อย่าคาดหวัง เรื่อง บริการหลังงานเสร็จ
จึงคิดว่า งานสร้างบ้าน ต่อเติมบ้าน รีโนเวทบ้าน มันอยู่ที่ความพอดี ของ ผรม.กะผวจ. งานจึงสำเร็จลุล่วงด้วยดี
* * * * ข้อคิด สำหรับคนที่จะต่อเติมบ้าน หรือปรับปรุงบ้าน ใหม่ * * *
.... มาที่ตัว ผรม. ( ผู้รับเหมาก่อน )....
...ประเภทที่ 1 ตั้งใจมาเพื่อโกง โดยเฉพาะ ผรม.ประภทนี้ จะตีราคาต่ำมากๆ เพื่อให้เหยื่อ ทำการว่าจ้าง พอเริ่มงานไม่เท่าไหร่ ก็ทิ้งงาน " พูดง่ายๆ เลว ตั้งแต่เริ่มต้น " สังเกตง่ายๆ จะงานกันเพียง 2-3 คน ขนาดรับงานใหญ่ๆ ก็ไม่เกิน 4 คน
... ประเภทที่ 2 ผรม.ช่วง ผู้รับเหมาประเภทนี้ จะรับงานต่อมาจาก บ.รับสร้างบ้านอีกที เพราะส่วนใหญ่ บ.รับสร้างบ้านจะไม่มีทีมรับเหมา เป็นของตัวเอง จะใช้วิธีจ้างอีกต่อนึง เพื่อลดต้นทุน
ที่นี้ก็ขึ้นอยู่กับ ลูกค้า หรือผู้ว่าจ้าง ว่าจะเจอ ผรม. ดีหรือไม่ดี ต้องวัดดวงเอา
... ประเภทที่ 3 ผรม. แบบรับงานซ้อนกันหลายงาน พองานนึง มีปัญหา ก็จะลากให้ งานอื่นเสียไปด้วย สุดท้ายต้องเลือกทิ้งงาน หรืออาจทิ้งทุกงาน ลูกค้าซวยไป
... ประเภท ที่ 4 ผรม. รับงานเอง ทำทีละงาน ไม่รับงานซ้อน เสร็จงานนี้ ค่อยไปรับงานใหม่
แต่ ผวจ.(ผู้ว่าจ้าง)ต้องใจเย็นนิดนึง รอคิวว่าง ถ้าอยากได้งานอีกระดับนึง
ผรม.ประเภทนี้ มักเป็นฝ่ายคัดเลือกลูกค้าเอง เพราะไม่อยากมานั่งปวดหัวมีปัญหาภายหลัง
**** ที่นี้ มาดูฝั่ง ลูกค้ามั่ง ****
ประเภทที่ 1 หลังจากเริ่มงาน เริ่มขอให้เพิ่มโน่นนี่ ฟรีๆนอกเหนือรายการ ถ้า ผรม. ไม่ยอมทำให้ ก็จะยึกยัก จ่ายค่างวดกะปริดกะปรอย
บางรายถึงกับไม่ยอมจ่ายค่างวด จนกว่าจะได้ของฟรี ตามที่ขอ สุดท้ายก็โดนทิ้งงาน ลูกค้าแบบนี้สมควรโดนทิ้งงานจริงๆ
... ประเภทที่ 2 เปลี่ยนแบบงาน นอกเหนือข้อตกลง บางรายมีสปิริต จ่ายส่วนต่าง หรือจ่ายค่าเสียเวลาให้ บางราย งอแง จะขอเปลี่ยนแบบงานฟรีๆ สุดท้าย ช่างอึดอัด หมดอารมณ์ทำ ก็ทิ้งงานไป (สำหรับที่ขอฟรีๆ นะ)
... ประเภทที่ 3 มายึกยักตอนงวดสุดท้าย ด้วยขออ้าง ติโน่นนี่ เพื่อหักค่างวดสุดท้าย ทั้งที่บางทีงานก็ออกมาปกติ แต่หาเรื่องติ ผรม.บางรายก็ตัดรำคาญ ลดราคางวดสุดท้ายให้ไป .... แต่อย่าคาดหวัง เรื่อง บริการหลังงานเสร็จ
จึงคิดว่า งานสร้างบ้าน ต่อเติมบ้าน รีโนเวทบ้าน มันอยู่ที่ความพอดี ของ ผรม.กะผวจ. งานจึงสำเร็จลุล่วงด้วยดี