หลังจากไปเดินงานท่องเที่ยวครั้งล่าสุด กำลังตัดสินใจหา side trip จาก Osaka แบบ one day trip 1 วัน ก็ไปเจอกับแผ่นพับนี้
เราเคยดูการ์ตูนเรื่องนี้ค่ะ แถมเรื่องนี้ดังมากจนทำเป็นซีรี่ย์คนแสดงเลย ทั้งเพลงก็เพราะ ฉากก็สวย หลงรักเลยค่ะ
เจ้าหน้าที่ก็อธิบายดีมาก พอเห็นว่าเรารู้จักก็เชียร์ใหญ่เลยให้แผ่นพับมามากมาย เรายังไม่เคยไปด้วยก็เริ่มหาข้อมูลค่ะ
การเดินทางไป Otsu สามารถใช้ได้ทั้ง JR และรถไฟเอกชน แต่การเดินทางของเราครั้งนี้ใช้ Kansai thru pass อยู่แล้วเลยนั่งรถไฟเอกชนไปค่ะ นานหน่อยเพราะตอนเช้าเราแอบไปเที่ยวฮิเมจิมาก่อน (นั่งคุ้มกันไปเลยค่ะ) สำหรับเส้นทางการเดินทางขอไม่รีวิวละเอียด ถ้าอยากได้ลองมาแชร์กันใน comment นะคะ JR อาจจะเร็วกว่าและง่ายกว่าค่ะ โดยรวมคือ นั่ง Keihan Keishin line จาก Kyoto (Karasuma Oike station) ไปสุดที่ Hamaotsu station
พอใกล้ถึงรถไฟก็จะเปลี่ยนเป็นรถรางกลางเมืองน่ารักมากค่ะ
มาถึงแล้วสถานีของเรา Hamaotsu station พอเดินออกมาสามารถเดินตรงออกมาดูทะเลสาบบิวะ มุมสูงได้เลยค่ะ วันที่ไปอากาศดีมากเลยค่ะ
ออกไปถ่ายรูปเจอเป็นท่าเรือสำหรับล่องเรือชมทะเลสาบ เรือที่ดังที่สุดคือ MICHIGAN ค่ะ เป็น เพื่อนแอบกระซิบว่าแพงมากเลยไม่ได้แวะไปเยี่ยมชมค่ะ
เราเลยกลับไปที่สถานีเดิมแล้วนั่งรถไฟ Ishiyama-sakamoto line ไป Omijingu-mae ค่ะ เป็นสถานีเล็กๆที่น่ารัก หลังจากลงรถไฟ ก็เดินตาม Google map ประมาณ 10 นาทีก็เจอค่ะ Romon (ประตูหลัก) Omi jingu ของเรา แดงเป็นสง่ามากๆ ตอนที่ไปเป็นช่วงเย็นแล้ว ถ่ายย้อนแสงมุมนี้สวยบาดตาจริงๆ
เดินเข้าไปในศาลเจ้าก็พบกับความอลังการค่ะ เพื่อนเล่าและจากในแผ่นพับศาลเจ้าแห่งนี้เป็นสถานที่ที่สร้างขึ้นอุทิศแด่พระจักรพรรดิเทนจิค่ะ ด้านในเป็นอาคารไม้ที่ขรึมมากค่ะ เราไปเจองานเทศกาลพอดีแถมใกล้เวลาปิดแล้ว เลยไปแค่ทำบุญแล้วเดินดูรอบๆค่ะ
มุมจัดแสดงตัวอย่างไพ่คารุตะ
นอกจากนี้ที่นี่ยังมีพิพิธภัณฑ์นาฬิกาด้วยค่ะ แต่ไม่ได้เข้าไปชมอีกตามเคย ใครได้เข้าไปชมมาแบ่งปันกันบ้างนะคะ
ตัวอย่างนาฬิกาโบราณค่ะ นี่เป็นนาฬิกาไฟ สำหรับบอกเวลาตอนกลางคืน (ถ้าสังเกตจากภาพข้างบนมีจัดแสดงนาฬิกาแดดไว้ค่ะ)
ในความจริงแล้วเรายังอยากเดินไปทั่วๆไปดูสถานที่แข่งขันไพ่คารุตะจริงๆ (Omi Kangakukan) ที่แข่งชิงเมย์จิน (ตำแหน่งชนะเลิศ) แต่เวลาไม่อำนวยซะแล้วค่ะ ใครที่อยากแวะมาตามรอยจิฮายะ หรืออยากมาใส่ชุดฮากามะ (แค่ 500 เยนเท่านั้น) เดินเล่นถ่ายรูปที่นี่เชิญเลยค่ะ เดินทางง่ายมากๆ สวยประทับใจมากจริงๆ
ของแถมค่ะ ร้านราเมงที่อร่อยมาก แนะนำโดยเจ้าถิ่นค่ะ เปิดร้านตอน 18.00 น. ค่ะ ราคาเริ่มต้นที่ 700 เยนค่ะ เป็น Tonkotsu ramen ที่อร่อยมากค่ะ แม้จะไม่มีเมนูภาษาอังกฤษแต่เจ้าของร้านมี tablet มาให้เราดูภาพพร้อมสอนวิธีเลือกเมนูที่ตู้กดเลยค่ะ (ของหวานก็อร่อยมาก) ใครได้มาอย่าลืมมาลองนะคะ
หน้าตาราเมง 850 เยน ชาชูแผ่นใหญ่ที่ย่างหอมๆเลยค่ะ
ขอลากันไปด้วยภาพทะเลสาบบิวะ ที่จะมีน้ำพุแสดงช่วง 18.00 -20.00 น. นะคะ ขอให้สนุกกับการมาเที่ยว Otsu ค่ะ
ตามรอย Chihayafuru ไปที่ Otsu, Shiga
เราเคยดูการ์ตูนเรื่องนี้ค่ะ แถมเรื่องนี้ดังมากจนทำเป็นซีรี่ย์คนแสดงเลย ทั้งเพลงก็เพราะ ฉากก็สวย หลงรักเลยค่ะ
เจ้าหน้าที่ก็อธิบายดีมาก พอเห็นว่าเรารู้จักก็เชียร์ใหญ่เลยให้แผ่นพับมามากมาย เรายังไม่เคยไปด้วยก็เริ่มหาข้อมูลค่ะ
การเดินทางไป Otsu สามารถใช้ได้ทั้ง JR และรถไฟเอกชน แต่การเดินทางของเราครั้งนี้ใช้ Kansai thru pass อยู่แล้วเลยนั่งรถไฟเอกชนไปค่ะ นานหน่อยเพราะตอนเช้าเราแอบไปเที่ยวฮิเมจิมาก่อน (นั่งคุ้มกันไปเลยค่ะ) สำหรับเส้นทางการเดินทางขอไม่รีวิวละเอียด ถ้าอยากได้ลองมาแชร์กันใน comment นะคะ JR อาจจะเร็วกว่าและง่ายกว่าค่ะ โดยรวมคือ นั่ง Keihan Keishin line จาก Kyoto (Karasuma Oike station) ไปสุดที่ Hamaotsu station
พอใกล้ถึงรถไฟก็จะเปลี่ยนเป็นรถรางกลางเมืองน่ารักมากค่ะ
มาถึงแล้วสถานีของเรา Hamaotsu station พอเดินออกมาสามารถเดินตรงออกมาดูทะเลสาบบิวะ มุมสูงได้เลยค่ะ วันที่ไปอากาศดีมากเลยค่ะ
ออกไปถ่ายรูปเจอเป็นท่าเรือสำหรับล่องเรือชมทะเลสาบ เรือที่ดังที่สุดคือ MICHIGAN ค่ะ เป็น เพื่อนแอบกระซิบว่าแพงมากเลยไม่ได้แวะไปเยี่ยมชมค่ะ
เราเลยกลับไปที่สถานีเดิมแล้วนั่งรถไฟ Ishiyama-sakamoto line ไป Omijingu-mae ค่ะ เป็นสถานีเล็กๆที่น่ารัก หลังจากลงรถไฟ ก็เดินตาม Google map ประมาณ 10 นาทีก็เจอค่ะ Romon (ประตูหลัก) Omi jingu ของเรา แดงเป็นสง่ามากๆ ตอนที่ไปเป็นช่วงเย็นแล้ว ถ่ายย้อนแสงมุมนี้สวยบาดตาจริงๆ
เดินเข้าไปในศาลเจ้าก็พบกับความอลังการค่ะ เพื่อนเล่าและจากในแผ่นพับศาลเจ้าแห่งนี้เป็นสถานที่ที่สร้างขึ้นอุทิศแด่พระจักรพรรดิเทนจิค่ะ ด้านในเป็นอาคารไม้ที่ขรึมมากค่ะ เราไปเจองานเทศกาลพอดีแถมใกล้เวลาปิดแล้ว เลยไปแค่ทำบุญแล้วเดินดูรอบๆค่ะ
มุมจัดแสดงตัวอย่างไพ่คารุตะ
นอกจากนี้ที่นี่ยังมีพิพิธภัณฑ์นาฬิกาด้วยค่ะ แต่ไม่ได้เข้าไปชมอีกตามเคย ใครได้เข้าไปชมมาแบ่งปันกันบ้างนะคะ
ตัวอย่างนาฬิกาโบราณค่ะ นี่เป็นนาฬิกาไฟ สำหรับบอกเวลาตอนกลางคืน (ถ้าสังเกตจากภาพข้างบนมีจัดแสดงนาฬิกาแดดไว้ค่ะ)
ในความจริงแล้วเรายังอยากเดินไปทั่วๆไปดูสถานที่แข่งขันไพ่คารุตะจริงๆ (Omi Kangakukan) ที่แข่งชิงเมย์จิน (ตำแหน่งชนะเลิศ) แต่เวลาไม่อำนวยซะแล้วค่ะ ใครที่อยากแวะมาตามรอยจิฮายะ หรืออยากมาใส่ชุดฮากามะ (แค่ 500 เยนเท่านั้น) เดินเล่นถ่ายรูปที่นี่เชิญเลยค่ะ เดินทางง่ายมากๆ สวยประทับใจมากจริงๆ
ของแถมค่ะ ร้านราเมงที่อร่อยมาก แนะนำโดยเจ้าถิ่นค่ะ เปิดร้านตอน 18.00 น. ค่ะ ราคาเริ่มต้นที่ 700 เยนค่ะ เป็น Tonkotsu ramen ที่อร่อยมากค่ะ แม้จะไม่มีเมนูภาษาอังกฤษแต่เจ้าของร้านมี tablet มาให้เราดูภาพพร้อมสอนวิธีเลือกเมนูที่ตู้กดเลยค่ะ (ของหวานก็อร่อยมาก) ใครได้มาอย่าลืมมาลองนะคะ
หน้าตาราเมง 850 เยน ชาชูแผ่นใหญ่ที่ย่างหอมๆเลยค่ะ
ขอลากันไปด้วยภาพทะเลสาบบิวะ ที่จะมีน้ำพุแสดงช่วง 18.00 -20.00 น. นะคะ ขอให้สนุกกับการมาเที่ยว Otsu ค่ะ