หลังจากประทับใจในความดีของเป๊กผลิตโชค ในหลายๆเรื่อง ผมกล้าเรียกตัวเองว่าเป็น “แฟนบวย” ของคุณหลวงอย่างเต็มภาคภูมิ
โชคดีที่แฟนตัวจริงก็เป็นเมียในเรือนคุณหลวงด้วยเลยทำให้ได้เป็นติ่งครั้งแรกในชีวิตตอนวัยเข้าเลข 3 อย่างมีความสุขแม้หน้าที่การงานจะไม่เอื้อก็ตาม
ก่อนอื่นขอแสดงความยินดีกับรางวัล ขวัญใจมหาชน ที่เป๊กเพิ่งได้รับมา ถือเป็นรางวัลที่เป๊ก รวมทั้ง PFC ทุกคนคงภาคภูมิใจ เพราะรางวัลนี้เป็นเหมือนหนึ่งในเครื่องแสดงว่า “เรา” รักกันมากแค่ไหน
ผมอยากมาตั้งกระทู้ในวันนี้เพื่อเอาไว้ให้คนที่ไม่ได้เป็น PFC ไว้ reference (อ้างอิง) ก็แล้วกันนะครับว่า “ทำไมเป๊กผลิตโชค ถึงได้รางวัลขวัญใจมหาชน ?” โดยไล่ไปตามเนื้อเพลง “ด้วยหัวใจ” เพลง Theme ประจำงาน Nine Entertain Award กันนะครับ
เพลง ด้วยหัวใจ
ด้วยหัวใจที่เปี่ยมด้วยรักของทุกผู้คน
ด้วยหัวใจที่ก่อเป็นกายให้พร้อมสู้ทน
ขอแค่เพียงได้คลายความทุกข์ในใจให้ใครสักคน
คอยเป็นดังธารน้ำชโลมให้ชื้นใจ
ด้วยหัวใจที่ปรารถนาเซาะหาเรื่องราว
ด้วยหัวใจที่อยากสะท้อนให้เห็นภาพเงา
เพื่อทุกคนได้มีความฝันในวันที่เจอความเหงา
เติมพลังชีวิตให้เป็นแรงใจ
* ล้านถ้อยคำยังน้อยไป หากจะใช้แทนคุณความดี จากในทุกนาทีที่เธอได้สร้างเอาไว้
เหมือนดวงดาวคอยเฝ้ารอ ไม่เคยท้อจะทอประกาย ส่งให้ฟ้าเรื่องรองแพรวพรายในคืนไร้จันทร์
ด้วยหัวใจที่ถูกตรึงไว้ในฝันที่มี
ด้วยหัวใจที่ถูกให้รักสู้สร้างความดี
หวังแค่เพียงได้มีความหมายพอทำให้ใจดวงนี้ เป็นเพียงเทียนดวงน้อยก็ยังภูมิใจ
ซ้ำ(*/*) ส่งให้ฟ้าเรื่องรองแพรวพรายในคืนไร้จันทร์ ส่งให้ฟ้าดูงาม.......ด้วยแสงในใจ..ของเธอ.............
Read more at:
http://lyrics.jetmute.com/viewlyrics.php?id=659476
>> “ด้วยหัวใจที่เปี่ยมด้วยรักของทุกผู้คน”
ด้วยการสนับสนุน “ด้วยรัก” ของครอบครัว “อายนบุตร” ที่ผลักดันให้เป๊กได้ทำตามที่ฝัน นั้นคือการร้องเพลง
>> “ด้วยหัวใจที่ก่อเป็นกายให้พร้อมสู้ทน”
ด้วยหัวใจที่มุ่งมั่นทำให้เป๊กยอมห่างจากแม่ที่ไปอยู่ต่างประเทศตั้งแต่อายุ 15
เพื่อความฝันที่จะได้เป็นนักร้อง ทุ่มเทแรงกายแรงใจฝึกฝน เลือกเรียนมหาวิทยาลัยในสาขาการร้องเพลงโดยเฉพาะ
เข้าออกแกรมมีเป็นเวลาหลายปีในฐานะศิลปินฝึกหัด คัดเลือกตัวหลายรอบโดยไม่ย่อท้อ
>> “ขอแค่เพียงได้คลายความทุกข์ในใจให้ใครสักคน”
และแล้วเพลงแรกในชีวิตก็ออกมาให้แฟนๆได้ฟัง “ไม่มีใครรู้” เป็นเพลงที่คนในวัยผมคงคุ้นเคยดี
เพลงนี้เป็นเพลงที่มหัศจรรย์ คืออารมณ์ของเพลงขึ้นกับอารมณ์ของคนฟังขณะนั้น แต่หลายคนน่าจะได้มีโอกาสฟังเพลงนี้เพื่อ “คลายความทุกข์ในใจ” อย่างน้อยก็ผมคนนึง เพลงแรกของเป๊กประสบความสำเร็จอย่างมาก แต่คำถามที่ได้ยินบ่อยๆจากรายการทอร์คโชว์สมัยนั้นเวลาเชิญเป๊กไปในรายการคือ รู้สึกอย่างไรที่ “เพลงดังกว่าคน” แต่เป๊กจะตอบเหมือนๆกันทุกครั้งว่า “ดีใจครับเพราะเป็นนักร้อง เพลงดังก็ถือว่าดีอยู่แล้ว 555” (ใต้เลข 5 มีแววตาที่ซ้อนอยู่)
>> “คอยเป็นดังธารน้ำชโลมให้ชื้นใจ”
เป๊ก ทำผลงานเพลงออกมาหลังจากไม่มีใครรู้ เป็นอัลบั้มเต็มของตัวเอง 3 อัลบั้มซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับระยะเวลากว่า 10 ปีในฐานะนักร้อง
แต่เขาก็ไม่ได้ย่อท้อ คลิปทุกคลิปใน Youtube ตอนโปรโมทเพลงใหม่หรืออัลบั้มใหม่ของเป๊กแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจในการทำเพลงอย่างมากของเป๊ก ทั้งหาคนแต่งให้ แต่งเอง บางครั้งมีการเปลี่ยนค่ายย่อยในแกรมมี เพื่อให้ได้ทำเพลง เป๊กชอบพูดว่าเพลงที่ออกมาอาจเป็นที่นิยมบ้างไม่เป็นที่นิยมบ้างแต่ดีใจที่ได้ทำเพลงออกมา ช่วงชีวิตสองปีหลัง “ไม่มีใครรู้” เพลงเหล่านั้นแม้ไม่ได้รับความนิยมเท่าไรนักแต่เปรียบเหมือนเป็นน้ำหล่อเลี้ยงให้เป๊กได้อยู่ในวงการต่อไป
>> “ด้วยหัวใจที่ปรารถนาเสาะหาเรื่องราว”
เคยมีคนตั้งกระทู้ว่าทำไมเป๊กติดดินจัง ในช่วงที่ความนิยมเริ่มเหือดหาย เป๊กได้ใช้เวลาเหล่านั้นหาประสบการณ์ในชีวิตมากมาย ทั้งไปใช้ชีวิตกับชาวบ้าน homestay backpack สิ่งที่เราทุกคนได้เห็นจากการเข้าไป “เสาะหาเรื่องราว” ของเป๊กคือการได้เข้าไปคลุกคลีกับชาวบ้านอย่างแท้จริง และยังให้เกียรติทุกคนอย่างสุดๆ ซึ่งเป็นเนื้อแท้ของเป๊กจริงๆ เรามักจะได้มีโอกาสเห็นเหตุการณ์แบบนี้อยู่บ่อยๆ จากทั้งบนเวที และในชีวิตประจำวันของเป๊ก ผมคิดว่าการที่เป๊กได้มีโอกาสสัมผัสชีวิตคนที่หลากหลายนี้เองเป็นสิ่งที่ทำให้เขาเข้าใจคนอื่นๆรอบตัวมากขึ้นไปอีกบวกกับนิสัยแคร์ความรู้สึกทุกคน เลยทำให้เป๊กเป็นคนที่เอาไปตั้งไว้ใกล้ๆใครในเวลาไม่นาน คนนั้นก็จะรัก อย่างที่หลายคนบอก
>> “ด้วยหัวใจที่อยากสะท้อนให้เห็นภาพเงา”
เพลงที่เกือบเป็นเพลงสุดท้ายในชีวิตนักร้องของเป๊กคือ “อยากให้แววตาฉันเป็นคนอื่น” ซึ่งเป๊กบอกว่าเป็นเพลงที่สื่อถึง “ภาพเงา” ในช่วงนั้นของเป๊กจริงๆ แม้ว่าแววตาที่อยากซ้อนไว้ในเพลงอาจเป็นแววตาในเรื่องความรัก แต่อีกแววตาหนึ่งที่เราสังเกตได้คือแววตาเศร้า ท้อแท้ และเริ่มหมดหวังในหนทางการเป็นนักร้องของเป๊ก โดยเฉพาะช่วงที่ปล่อยเพลงมา 4-5 เดือนแล้วก็ไม่มีกระแสเท่าที่ควร
>> “เพื่อทุกคนได้มีความฝันในวันที่เจอความเหงา”
แม้จะอยู่ในช่วง “เหงา” มากที่สุดในชีวิต แต่ เป๊กยังไม่เคยละทิ้งความฝัน เขายังเดินหน้าโปรโมตเพลงต่อไปเรื่อยๆ แม้ไปในบางรายการ จะเหมือนเป็นการมาให้พิธีกรจิกกัดมากกว่าโปรโมต แต่เขาก็ยังเดินหน้าทำมันต่อไป อย่างนึงที่เห็นเป๊กในช่วงหนึ่งปีก่อนหน้านี้คือการออกรายการในช่อง workpoint บ่อยๆ ซึ่งเป็นที่มาของ “หน้ากากจิงโจ้”
>> “เติมพลังชีวิตให้เป็นแรงใจ”
หน้ากากจิงโจ้ ทำให้คนเริ่มมาสนใจเป๊กมากขึ้นตั้งแต่ก่อนถอดหน้ากาก เราเริ่มเห็นเขามี “แรงใจ” ในชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน เขาดีใจอย่างมากที่เริ่มมีเพลงขึ้นชาร์ต ทั้งๆที่ไม่เคยมีมาก่อน และแววตาเขาก็เริ่มเปลี่ยนไปกลายเป็นแววตาที่เริ่มมีความหวังมากขึ้น ความหวังที่ก่อตัวจากคนที่เริ่มเห็นตัวตนที่แท้จริงของเขา
>> “ด้วยหัวใจที่ถูกตรึงไว้ในฝันที่มี”
ตัวตนที่หน้ากากจิงโจ้นำคนเข้าไปรู้จักเป๊ก คือ ตัวตนที่ “ถูกตรึงไว้ในฝันที่มี” นั้นคือหัวใจที่รักในการร้องเพลงอย่างเต็มเปี่ยม ไม่ว่าจะมีคนฟังกี่คนก็ตามเขาจะร้องจะเต้นอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะมีคนเดินหนีเขาแต่เขาก็ยังร้องเพราะอีกฝั่งหนึ่งก็ยังมีคนยืนฟัง เขายอมแม้กระทั่งแจกรูปพร้อมกับแนะนำตัวให้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาในงาน Event เพื่อ “ฝันที่ยังพอมี”
>> “ด้วยหัวใจที่ถูกให้รักสู้สร้างความดี”
นอกจากฝันของตัวเองแล้วสิ่งที่ PFC ทุกคนค้นพบคือตลอดเวลาทั้งช่วงมีชื่อเสียงและช่วงที่ไม่เป็นที่นิยมเป๊กไม่เคยละทิ้งการ “สร้างความดี” ทั้งบริจาคเลือด ร้องเพลงหาเงินช่วยองค์กรต่างๆ เป็นอาสาช่วยน้ำท่วมหรือเหตุการณ์วิกฤตต่างๆ รวมทั้งเหตุการณ์ที่สำคัญนั้นคือการอุปสมบทถวายในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งหลายคนคิดว่าเป็นเหมือนผลบุญเปลี่ยนชีวิตเป๊ก แต่แน่นอนเป๊กไม่เคยป่าวประกาศเรื่องที่ทำเลย เมื่อเราเข้าไปรับรู้ด้วยตัวเราเองความดีเหล่านี้มันเลยมีผลกระทบต่อจิตใจเรามากมายนัก
>> “หวังแค่เพียงได้มีความหมายพอทำให้ใจดวงนี้ เป็นเพียงเทียนดวงน้อยก็ยังภูมิใจ”
สิ่งที่ PFC ทุกคนรักในเป๊กผลิตโชคเหมือนกันคือ เรามีความรู้สึกว่าเราไม่ได้รักในตัวศิลปินฝ่ายเดียว เป๊กมักแสดงในทุกโอกาสที่ทำได้ว่าเขารักในตัวแฟนคลับของเขามากขนาดไหนอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็น การพยายามใส่ของทุกชิ้นที่แฟนคลับให้ มีโปรเจค ตอบแทนแฟนคลับเสมอๆ ติดตามความเคลื่อนไหวของแฟนคลับผ่านทาง 3 แอปและตอบสนองมันอย่างเหมาะสมในหลายโอกาส ทั้งการคว่ำมาม่า และการทำตามที่แฟนคลับเรียกร้องในโชว์แต่ละวัน เรียกว่าเขาพยายามที่จะตอบแทนความรักที่แฟนคลับให้เขาตลอดเวลา แม้เป็นเรื่องเล็กๆเหมือน “เป็นเพียงเทียนดวงน้อยก็ยังภูมิใจ”เพราะเทียนดวงนี้อยู่ในสายตาและดวงใจของ PFC ทุกคนตลอดเวลา
>> "ล้านถ้อยคำยังน้อยไป หากจะใช้แทนคุณความดี จากในทุกนาทีที่เธอได้สร้างเอาไว้
เหมือนดวงดาวคอยเฝ้ารอ ไม่เคยท้อจะทอประกาย ส่งให้ฟ้าเรื่องรองแพรวพรายในคืนไร้จันทร์"
>> ท่อนฮุคของเพลง “ด้วยหัวใจ” คงแทนได้ด้วยเรื่องราวทั้งหมดที่ผมได้เขียนมา
แต่จริงๆแล้วเรื่องราวของ "เป๊กผลิตโชค" ยังมีอีกมากมาย หลายเรื่องราวพร้อมจะเป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายๆคน ได้รียนรู้
>> เพื่อสู้ในวันที่ท้อ
>> เพื่อกล้าที่จะเดินตามความฝันของตัวเองแม้จะมีอุปสรรคมากมาย
>> เพื่อพยายามทำในสิ่งที่ตนเองรักต่อไปแม้จะถูกเบี่ยงเบนจากเรื่องอื่นๆที่จริงบ้างไม่จริงบ้าง
>> เพื่อตั้งมั่นที่จะทำความดีทั้งทั้งที่ไม่มีใครเห็น
และ
>> เพื่อตอบแทนความรักของคนที่รักเรา แม้ว่ามันจะถูกมองว่าเป็นเรื่องเล็กๆ
“ด้วยหัวใจ”
ทำไมเป๊กผลิตโชค ถึงได้รางวัลขวัญใจมหาชน ?
โชคดีที่แฟนตัวจริงก็เป็นเมียในเรือนคุณหลวงด้วยเลยทำให้ได้เป็นติ่งครั้งแรกในชีวิตตอนวัยเข้าเลข 3 อย่างมีความสุขแม้หน้าที่การงานจะไม่เอื้อก็ตาม
ก่อนอื่นขอแสดงความยินดีกับรางวัล ขวัญใจมหาชน ที่เป๊กเพิ่งได้รับมา ถือเป็นรางวัลที่เป๊ก รวมทั้ง PFC ทุกคนคงภาคภูมิใจ เพราะรางวัลนี้เป็นเหมือนหนึ่งในเครื่องแสดงว่า “เรา” รักกันมากแค่ไหน
ผมอยากมาตั้งกระทู้ในวันนี้เพื่อเอาไว้ให้คนที่ไม่ได้เป็น PFC ไว้ reference (อ้างอิง) ก็แล้วกันนะครับว่า “ทำไมเป๊กผลิตโชค ถึงได้รางวัลขวัญใจมหาชน ?” โดยไล่ไปตามเนื้อเพลง “ด้วยหัวใจ” เพลง Theme ประจำงาน Nine Entertain Award กันนะครับ
เพลง ด้วยหัวใจ
ด้วยหัวใจที่เปี่ยมด้วยรักของทุกผู้คน
ด้วยหัวใจที่ก่อเป็นกายให้พร้อมสู้ทน
ขอแค่เพียงได้คลายความทุกข์ในใจให้ใครสักคน
คอยเป็นดังธารน้ำชโลมให้ชื้นใจ
ด้วยหัวใจที่ปรารถนาเซาะหาเรื่องราว
ด้วยหัวใจที่อยากสะท้อนให้เห็นภาพเงา
เพื่อทุกคนได้มีความฝันในวันที่เจอความเหงา
เติมพลังชีวิตให้เป็นแรงใจ
* ล้านถ้อยคำยังน้อยไป หากจะใช้แทนคุณความดี จากในทุกนาทีที่เธอได้สร้างเอาไว้
เหมือนดวงดาวคอยเฝ้ารอ ไม่เคยท้อจะทอประกาย ส่งให้ฟ้าเรื่องรองแพรวพรายในคืนไร้จันทร์
ด้วยหัวใจที่ถูกตรึงไว้ในฝันที่มี
ด้วยหัวใจที่ถูกให้รักสู้สร้างความดี
หวังแค่เพียงได้มีความหมายพอทำให้ใจดวงนี้ เป็นเพียงเทียนดวงน้อยก็ยังภูมิใจ
ซ้ำ(*/*) ส่งให้ฟ้าเรื่องรองแพรวพรายในคืนไร้จันทร์ ส่งให้ฟ้าดูงาม.......ด้วยแสงในใจ..ของเธอ.............
Read more at: http://lyrics.jetmute.com/viewlyrics.php?id=659476
>> “ด้วยหัวใจที่เปี่ยมด้วยรักของทุกผู้คน”
ด้วยการสนับสนุน “ด้วยรัก” ของครอบครัว “อายนบุตร” ที่ผลักดันให้เป๊กได้ทำตามที่ฝัน นั้นคือการร้องเพลง
>> “ด้วยหัวใจที่ก่อเป็นกายให้พร้อมสู้ทน”
ด้วยหัวใจที่มุ่งมั่นทำให้เป๊กยอมห่างจากแม่ที่ไปอยู่ต่างประเทศตั้งแต่อายุ 15
เพื่อความฝันที่จะได้เป็นนักร้อง ทุ่มเทแรงกายแรงใจฝึกฝน เลือกเรียนมหาวิทยาลัยในสาขาการร้องเพลงโดยเฉพาะ
เข้าออกแกรมมีเป็นเวลาหลายปีในฐานะศิลปินฝึกหัด คัดเลือกตัวหลายรอบโดยไม่ย่อท้อ
>> “ขอแค่เพียงได้คลายความทุกข์ในใจให้ใครสักคน”
และแล้วเพลงแรกในชีวิตก็ออกมาให้แฟนๆได้ฟัง “ไม่มีใครรู้” เป็นเพลงที่คนในวัยผมคงคุ้นเคยดี
เพลงนี้เป็นเพลงที่มหัศจรรย์ คืออารมณ์ของเพลงขึ้นกับอารมณ์ของคนฟังขณะนั้น แต่หลายคนน่าจะได้มีโอกาสฟังเพลงนี้เพื่อ “คลายความทุกข์ในใจ” อย่างน้อยก็ผมคนนึง เพลงแรกของเป๊กประสบความสำเร็จอย่างมาก แต่คำถามที่ได้ยินบ่อยๆจากรายการทอร์คโชว์สมัยนั้นเวลาเชิญเป๊กไปในรายการคือ รู้สึกอย่างไรที่ “เพลงดังกว่าคน” แต่เป๊กจะตอบเหมือนๆกันทุกครั้งว่า “ดีใจครับเพราะเป็นนักร้อง เพลงดังก็ถือว่าดีอยู่แล้ว 555” (ใต้เลข 5 มีแววตาที่ซ้อนอยู่)
>> “คอยเป็นดังธารน้ำชโลมให้ชื้นใจ”
เป๊ก ทำผลงานเพลงออกมาหลังจากไม่มีใครรู้ เป็นอัลบั้มเต็มของตัวเอง 3 อัลบั้มซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับระยะเวลากว่า 10 ปีในฐานะนักร้อง
แต่เขาก็ไม่ได้ย่อท้อ คลิปทุกคลิปใน Youtube ตอนโปรโมทเพลงใหม่หรืออัลบั้มใหม่ของเป๊กแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจในการทำเพลงอย่างมากของเป๊ก ทั้งหาคนแต่งให้ แต่งเอง บางครั้งมีการเปลี่ยนค่ายย่อยในแกรมมี เพื่อให้ได้ทำเพลง เป๊กชอบพูดว่าเพลงที่ออกมาอาจเป็นที่นิยมบ้างไม่เป็นที่นิยมบ้างแต่ดีใจที่ได้ทำเพลงออกมา ช่วงชีวิตสองปีหลัง “ไม่มีใครรู้” เพลงเหล่านั้นแม้ไม่ได้รับความนิยมเท่าไรนักแต่เปรียบเหมือนเป็นน้ำหล่อเลี้ยงให้เป๊กได้อยู่ในวงการต่อไป
>> “ด้วยหัวใจที่ปรารถนาเสาะหาเรื่องราว”
เคยมีคนตั้งกระทู้ว่าทำไมเป๊กติดดินจัง ในช่วงที่ความนิยมเริ่มเหือดหาย เป๊กได้ใช้เวลาเหล่านั้นหาประสบการณ์ในชีวิตมากมาย ทั้งไปใช้ชีวิตกับชาวบ้าน homestay backpack สิ่งที่เราทุกคนได้เห็นจากการเข้าไป “เสาะหาเรื่องราว” ของเป๊กคือการได้เข้าไปคลุกคลีกับชาวบ้านอย่างแท้จริง และยังให้เกียรติทุกคนอย่างสุดๆ ซึ่งเป็นเนื้อแท้ของเป๊กจริงๆ เรามักจะได้มีโอกาสเห็นเหตุการณ์แบบนี้อยู่บ่อยๆ จากทั้งบนเวที และในชีวิตประจำวันของเป๊ก ผมคิดว่าการที่เป๊กได้มีโอกาสสัมผัสชีวิตคนที่หลากหลายนี้เองเป็นสิ่งที่ทำให้เขาเข้าใจคนอื่นๆรอบตัวมากขึ้นไปอีกบวกกับนิสัยแคร์ความรู้สึกทุกคน เลยทำให้เป๊กเป็นคนที่เอาไปตั้งไว้ใกล้ๆใครในเวลาไม่นาน คนนั้นก็จะรัก อย่างที่หลายคนบอก
>> “ด้วยหัวใจที่อยากสะท้อนให้เห็นภาพเงา”
เพลงที่เกือบเป็นเพลงสุดท้ายในชีวิตนักร้องของเป๊กคือ “อยากให้แววตาฉันเป็นคนอื่น” ซึ่งเป๊กบอกว่าเป็นเพลงที่สื่อถึง “ภาพเงา” ในช่วงนั้นของเป๊กจริงๆ แม้ว่าแววตาที่อยากซ้อนไว้ในเพลงอาจเป็นแววตาในเรื่องความรัก แต่อีกแววตาหนึ่งที่เราสังเกตได้คือแววตาเศร้า ท้อแท้ และเริ่มหมดหวังในหนทางการเป็นนักร้องของเป๊ก โดยเฉพาะช่วงที่ปล่อยเพลงมา 4-5 เดือนแล้วก็ไม่มีกระแสเท่าที่ควร
>> “เพื่อทุกคนได้มีความฝันในวันที่เจอความเหงา”
แม้จะอยู่ในช่วง “เหงา” มากที่สุดในชีวิต แต่ เป๊กยังไม่เคยละทิ้งความฝัน เขายังเดินหน้าโปรโมตเพลงต่อไปเรื่อยๆ แม้ไปในบางรายการ จะเหมือนเป็นการมาให้พิธีกรจิกกัดมากกว่าโปรโมต แต่เขาก็ยังเดินหน้าทำมันต่อไป อย่างนึงที่เห็นเป๊กในช่วงหนึ่งปีก่อนหน้านี้คือการออกรายการในช่อง workpoint บ่อยๆ ซึ่งเป็นที่มาของ “หน้ากากจิงโจ้”
>> “เติมพลังชีวิตให้เป็นแรงใจ”
หน้ากากจิงโจ้ ทำให้คนเริ่มมาสนใจเป๊กมากขึ้นตั้งแต่ก่อนถอดหน้ากาก เราเริ่มเห็นเขามี “แรงใจ” ในชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน เขาดีใจอย่างมากที่เริ่มมีเพลงขึ้นชาร์ต ทั้งๆที่ไม่เคยมีมาก่อน และแววตาเขาก็เริ่มเปลี่ยนไปกลายเป็นแววตาที่เริ่มมีความหวังมากขึ้น ความหวังที่ก่อตัวจากคนที่เริ่มเห็นตัวตนที่แท้จริงของเขา
>> “ด้วยหัวใจที่ถูกตรึงไว้ในฝันที่มี”
ตัวตนที่หน้ากากจิงโจ้นำคนเข้าไปรู้จักเป๊ก คือ ตัวตนที่ “ถูกตรึงไว้ในฝันที่มี” นั้นคือหัวใจที่รักในการร้องเพลงอย่างเต็มเปี่ยม ไม่ว่าจะมีคนฟังกี่คนก็ตามเขาจะร้องจะเต้นอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะมีคนเดินหนีเขาแต่เขาก็ยังร้องเพราะอีกฝั่งหนึ่งก็ยังมีคนยืนฟัง เขายอมแม้กระทั่งแจกรูปพร้อมกับแนะนำตัวให้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาในงาน Event เพื่อ “ฝันที่ยังพอมี”
>> “ด้วยหัวใจที่ถูกให้รักสู้สร้างความดี”
นอกจากฝันของตัวเองแล้วสิ่งที่ PFC ทุกคนค้นพบคือตลอดเวลาทั้งช่วงมีชื่อเสียงและช่วงที่ไม่เป็นที่นิยมเป๊กไม่เคยละทิ้งการ “สร้างความดี” ทั้งบริจาคเลือด ร้องเพลงหาเงินช่วยองค์กรต่างๆ เป็นอาสาช่วยน้ำท่วมหรือเหตุการณ์วิกฤตต่างๆ รวมทั้งเหตุการณ์ที่สำคัญนั้นคือการอุปสมบทถวายในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งหลายคนคิดว่าเป็นเหมือนผลบุญเปลี่ยนชีวิตเป๊ก แต่แน่นอนเป๊กไม่เคยป่าวประกาศเรื่องที่ทำเลย เมื่อเราเข้าไปรับรู้ด้วยตัวเราเองความดีเหล่านี้มันเลยมีผลกระทบต่อจิตใจเรามากมายนัก
>> “หวังแค่เพียงได้มีความหมายพอทำให้ใจดวงนี้ เป็นเพียงเทียนดวงน้อยก็ยังภูมิใจ”
สิ่งที่ PFC ทุกคนรักในเป๊กผลิตโชคเหมือนกันคือ เรามีความรู้สึกว่าเราไม่ได้รักในตัวศิลปินฝ่ายเดียว เป๊กมักแสดงในทุกโอกาสที่ทำได้ว่าเขารักในตัวแฟนคลับของเขามากขนาดไหนอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็น การพยายามใส่ของทุกชิ้นที่แฟนคลับให้ มีโปรเจค ตอบแทนแฟนคลับเสมอๆ ติดตามความเคลื่อนไหวของแฟนคลับผ่านทาง 3 แอปและตอบสนองมันอย่างเหมาะสมในหลายโอกาส ทั้งการคว่ำมาม่า และการทำตามที่แฟนคลับเรียกร้องในโชว์แต่ละวัน เรียกว่าเขาพยายามที่จะตอบแทนความรักที่แฟนคลับให้เขาตลอดเวลา แม้เป็นเรื่องเล็กๆเหมือน “เป็นเพียงเทียนดวงน้อยก็ยังภูมิใจ”เพราะเทียนดวงนี้อยู่ในสายตาและดวงใจของ PFC ทุกคนตลอดเวลา
>> "ล้านถ้อยคำยังน้อยไป หากจะใช้แทนคุณความดี จากในทุกนาทีที่เธอได้สร้างเอาไว้
เหมือนดวงดาวคอยเฝ้ารอ ไม่เคยท้อจะทอประกาย ส่งให้ฟ้าเรื่องรองแพรวพรายในคืนไร้จันทร์"
>> ท่อนฮุคของเพลง “ด้วยหัวใจ” คงแทนได้ด้วยเรื่องราวทั้งหมดที่ผมได้เขียนมา
แต่จริงๆแล้วเรื่องราวของ "เป๊กผลิตโชค" ยังมีอีกมากมาย หลายเรื่องราวพร้อมจะเป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายๆคน ได้รียนรู้
>> เพื่อสู้ในวันที่ท้อ
>> เพื่อกล้าที่จะเดินตามความฝันของตัวเองแม้จะมีอุปสรรคมากมาย
>> เพื่อพยายามทำในสิ่งที่ตนเองรักต่อไปแม้จะถูกเบี่ยงเบนจากเรื่องอื่นๆที่จริงบ้างไม่จริงบ้าง
>> เพื่อตั้งมั่นที่จะทำความดีทั้งทั้งที่ไม่มีใครเห็น
และ
>> เพื่อตอบแทนความรักของคนที่รักเรา แม้ว่ามันจะถูกมองว่าเป็นเรื่องเล็กๆ
“ด้วยหัวใจ”