สวัสดีค่ะ หลังจากดูดข้อมูลตอนไปเที่ยวจากห้องนี้มาเยอะแล้ว ถึงเวลาต้องทดแทนคุณกันบ้าง😝
ทริปนี้เราขอเล่าตั้งแต่แรกเลยแล้วกัน เพื่อเป็นบันทึกความทรงจำของเราเองและก็เป็นการแชร์ข้อมูลซึ่งอาจจะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังจะไปนะคะ
มันเริ่มจากพฤษภาคม 2559 อยู่ดีๆ ก็โดนกล่อมอย่างงงๆว่าให้ไปสวิตเซอร์แลนด์ ห๊ะ.. อะรัยนะ.. จะไปเอง คำถามที่เกิดขึ้นในหัว จะไปรอดมั้ยวะ มีแต่ผู้อาวุโส 50++ จะลากกระเป๋าขึ้นรถไฟกันไหวมั้ย จะเดินกันไหวรึเปล่า เพราะที่เที่ยวแต่ละที่ต้องเดินเยอะมาก แถมยังเป็นการเที่ยวเองครั้งแรกทีไกลที่สุด ขนาดไป กทม.ยังหลงเลย😭😭 แต่เมื่อเริ่มแล้วต้องไปให้สุดค่ะ ปฏิบัติการหาตั๋วจึงเริ่มขึ้น ลูกทัวร์ขอเป็นบินตรง น้าเขยเลยเลือกใช้บริการของเจ้าป้า ซื้อล่วงหน้า11เดือน จ้ะ ไม่ค่อยอยากไปเท่าไหร่เลย เมื่อเสียตังค์ค่าตั๋วแล้ว ขอเว้นวรรคทางการเงินสักหลายเดือนหน่อย ระหว่างนั้นก็หาข้อมูลที่เที่ยว ส่องเรทค่าเงิน ช่วงไหนถูก จะพุ่งตรงไปแลกทันที ค่อยๆแรกสะสมไปเรื่อยๆ จนถึงวันเดินทาง
การเตรียมตัวก่อนเดินทาง
1.หาที่พักค่ะ เราเลือกจองกับ booking.com เพราะสามารถยกเลิกได้ เวลาปริ้นให้เลือกพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษนะคะ และที่สำคัญต้องมีชื่อของคนที่จะไปทุกคนในใบจองนะคะ เพื่อจะได้เอาไปใช้ในการยื่นวีซ่า
2.การทำวีซ่าของสวิตเซอร์แลนด์ ก่อนอื่นต้องไปลงทะเบียนที่
https://ch.tlscontact.com/th/bkk/index.php เพื่อจองคิววันนัดทำวีซ่า เราต้องกรอกข้อมูลในแบบฟอร์มแล้วปริ้นออกไปยื่น ตอนกรอกข้อมูล ห้ามมีเครื่องหมายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น / - . โดนมาแล้ว กรอกอยู่นาน ไม่ผ่านสักที😭 ถ้ามีคำถามสามารถโทรไปถามได้นะคะ เค้าจะเป็นระบบฝากเบอร์โทรแล้วจะโทรกลับมาเองค่ะ หลังจากจองเรียบร้อยก็เตรียมเอกสารตามที่เค้าบอกเลยจ้า ธนาคารไทยพาณิชย์อยู่ไกลมากเดินไป มีหอบเหมือนกันเพราะฉะนั้นขอ bank statement ดีๆนะคะ อย่าพลาดแบบเรา ร้านถ่ายเอกสารมีอยู่ที่ชั้นล่าง สอบถามตรงจุดที่แลกบัตรก็ได้นะคะ TLS เค้าไม่ให้เอาเครื่องมือสื่อสารเข้าไปนะคะ เค้าจะมีที่รับฝาก และที่สำคัญควรจองคิวรอบเช้าๆนะคะ เพราะช่วงสายกรุ๊ปทัวร์จะมา อาจทำให้ต้องรอนาน
ของเรายื่นวีซ่าวันพฤหัส วันจันทร์ก็ส่งข้อความให้ไปรับเล่มพาสปอร์ตได้แล้ว ค่าวีซ่าโดนไป 3,163 บาท อันนี้รวมค่าธรรมเนียมของTLSแล้วค่ะ
3.Swiss pass เราซื้อสำหรับ 8วัน ใช้บริการของTV air bookings คิดตามเรทค่าเงิน ช่วงนั้นค่าเงินไม่ถึง 35บาท เราก็เลยได้มาในราคา 11,600บาท ส่วนตั๋วขึ้นเขาต่างๆ เราไปซื้อที่โน่นแทน เพราะสภาพอากาศแปรปรวน กลัวจะซื้อแล้วฟรี
4. Internet sim สำคัญกับเรามากค่ะ เอาไว้ดูตารางรถไฟ ดูแผนที่ ดูสภาพอากาศ ตอนแรกว่าจะเช่า pocket wifi แต่คำนวณแล้วอันนี้น่าจะคุ้มกว่า เราเลือก sim2fly สัญญาณถือว่าใช้ได้ทีเดียว ขาดหายช่วงลอดอุโมงค์บางที่ แถมบางครั้งยังแรงกว่า wifiโรงแรมที่เราไปพักอีก😓 อันนี้เราซื้อที่สุวรรณภูมิ แต่อาจรอคิวนานหน่อย
5.ปลั๊กไฟ ที่สวิสใช้ 2 ขากลมนะคะ
6.รองเท้าควรหาคู่ที่ใส่สบาย เพราะมันเดินมากจริงๆ
7.ของกิน พกไปเถอะค่ะ ราคาอาหารแพง ไม่อยากจะคิดเป็นเงินไทยเลยทีเดียว สะเทือนใจ😭😭
8.ยาสามัญประจำบ้าน ยาดม ยาหม่อง ติดไว้เพื่อความอุ่นใจ
วันนี้เอาแค่นี้ก่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้จะมาต่อเรื่องโปรแกรมเที่ยวของเราซึ่งมันจะตื่นเต้นนิดๆ ระทึกหน่อยๆ อุบัติเหตุที่ทำให้ชาวคณะเสียขวัญตั้งแต่วันแรก😭😭😭
[CR] Dream Trip Switzerland
สวัสดีค่ะ หลังจากดูดข้อมูลตอนไปเที่ยวจากห้องนี้มาเยอะแล้ว ถึงเวลาต้องทดแทนคุณกันบ้าง😝
ทริปนี้เราขอเล่าตั้งแต่แรกเลยแล้วกัน เพื่อเป็นบันทึกความทรงจำของเราเองและก็เป็นการแชร์ข้อมูลซึ่งอาจจะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังจะไปนะคะ
มันเริ่มจากพฤษภาคม 2559 อยู่ดีๆ ก็โดนกล่อมอย่างงงๆว่าให้ไปสวิตเซอร์แลนด์ ห๊ะ.. อะรัยนะ.. จะไปเอง คำถามที่เกิดขึ้นในหัว จะไปรอดมั้ยวะ มีแต่ผู้อาวุโส 50++ จะลากกระเป๋าขึ้นรถไฟกันไหวมั้ย จะเดินกันไหวรึเปล่า เพราะที่เที่ยวแต่ละที่ต้องเดินเยอะมาก แถมยังเป็นการเที่ยวเองครั้งแรกทีไกลที่สุด ขนาดไป กทม.ยังหลงเลย😭😭 แต่เมื่อเริ่มแล้วต้องไปให้สุดค่ะ ปฏิบัติการหาตั๋วจึงเริ่มขึ้น ลูกทัวร์ขอเป็นบินตรง น้าเขยเลยเลือกใช้บริการของเจ้าป้า ซื้อล่วงหน้า11เดือน จ้ะ ไม่ค่อยอยากไปเท่าไหร่เลย เมื่อเสียตังค์ค่าตั๋วแล้ว ขอเว้นวรรคทางการเงินสักหลายเดือนหน่อย ระหว่างนั้นก็หาข้อมูลที่เที่ยว ส่องเรทค่าเงิน ช่วงไหนถูก จะพุ่งตรงไปแลกทันที ค่อยๆแรกสะสมไปเรื่อยๆ จนถึงวันเดินทาง
การเตรียมตัวก่อนเดินทาง
1.หาที่พักค่ะ เราเลือกจองกับ booking.com เพราะสามารถยกเลิกได้ เวลาปริ้นให้เลือกพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษนะคะ และที่สำคัญต้องมีชื่อของคนที่จะไปทุกคนในใบจองนะคะ เพื่อจะได้เอาไปใช้ในการยื่นวีซ่า
2.การทำวีซ่าของสวิตเซอร์แลนด์ ก่อนอื่นต้องไปลงทะเบียนที่ https://ch.tlscontact.com/th/bkk/index.php เพื่อจองคิววันนัดทำวีซ่า เราต้องกรอกข้อมูลในแบบฟอร์มแล้วปริ้นออกไปยื่น ตอนกรอกข้อมูล ห้ามมีเครื่องหมายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น / - . โดนมาแล้ว กรอกอยู่นาน ไม่ผ่านสักที😭 ถ้ามีคำถามสามารถโทรไปถามได้นะคะ เค้าจะเป็นระบบฝากเบอร์โทรแล้วจะโทรกลับมาเองค่ะ หลังจากจองเรียบร้อยก็เตรียมเอกสารตามที่เค้าบอกเลยจ้า ธนาคารไทยพาณิชย์อยู่ไกลมากเดินไป มีหอบเหมือนกันเพราะฉะนั้นขอ bank statement ดีๆนะคะ อย่าพลาดแบบเรา ร้านถ่ายเอกสารมีอยู่ที่ชั้นล่าง สอบถามตรงจุดที่แลกบัตรก็ได้นะคะ TLS เค้าไม่ให้เอาเครื่องมือสื่อสารเข้าไปนะคะ เค้าจะมีที่รับฝาก และที่สำคัญควรจองคิวรอบเช้าๆนะคะ เพราะช่วงสายกรุ๊ปทัวร์จะมา อาจทำให้ต้องรอนาน
ของเรายื่นวีซ่าวันพฤหัส วันจันทร์ก็ส่งข้อความให้ไปรับเล่มพาสปอร์ตได้แล้ว ค่าวีซ่าโดนไป 3,163 บาท อันนี้รวมค่าธรรมเนียมของTLSแล้วค่ะ
3.Swiss pass เราซื้อสำหรับ 8วัน ใช้บริการของTV air bookings คิดตามเรทค่าเงิน ช่วงนั้นค่าเงินไม่ถึง 35บาท เราก็เลยได้มาในราคา 11,600บาท ส่วนตั๋วขึ้นเขาต่างๆ เราไปซื้อที่โน่นแทน เพราะสภาพอากาศแปรปรวน กลัวจะซื้อแล้วฟรี
4. Internet sim สำคัญกับเรามากค่ะ เอาไว้ดูตารางรถไฟ ดูแผนที่ ดูสภาพอากาศ ตอนแรกว่าจะเช่า pocket wifi แต่คำนวณแล้วอันนี้น่าจะคุ้มกว่า เราเลือก sim2fly สัญญาณถือว่าใช้ได้ทีเดียว ขาดหายช่วงลอดอุโมงค์บางที่ แถมบางครั้งยังแรงกว่า wifiโรงแรมที่เราไปพักอีก😓 อันนี้เราซื้อที่สุวรรณภูมิ แต่อาจรอคิวนานหน่อย
5.ปลั๊กไฟ ที่สวิสใช้ 2 ขากลมนะคะ
6.รองเท้าควรหาคู่ที่ใส่สบาย เพราะมันเดินมากจริงๆ
7.ของกิน พกไปเถอะค่ะ ราคาอาหารแพง ไม่อยากจะคิดเป็นเงินไทยเลยทีเดียว สะเทือนใจ😭😭
8.ยาสามัญประจำบ้าน ยาดม ยาหม่อง ติดไว้เพื่อความอุ่นใจ
วันนี้เอาแค่นี้ก่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้จะมาต่อเรื่องโปรแกรมเที่ยวของเราซึ่งมันจะตื่นเต้นนิดๆ ระทึกหน่อยๆ อุบัติเหตุที่ทำให้ชาวคณะเสียขวัญตั้งแต่วันแรก😭😭😭