แชร์ประสบการณ์ เจอคนมึน อึนแห่งปี รถแฟนถูกชนท้าย คู่กรณีไม่รับผิดชอบ
30/พ.ค./60
เวลาประมาณ 16.00 น. เหตุเกิดที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดังในอำเภอแกลง จ.ระยอง รถยนต์ป้ายทะเบียน ขอนแก่น
ยี่ห้อ Honda City น่าจะปี 2008 สีดำ ชนท้ายรถแฟน จขกท. Mitsubishi Attrage 2015 สีขาว ทะเบียน กทม.
ฝ่ายชนเป็นผู้หญิง อายุประมาณ 27 ปี มากับแม่ อายุ 60 กว่าๆ ส่วนแฟนจขกท. อายุ 26
โดยรถทั้ง 2 คัน ไม่มีประกันแต่มี พรบ.ทั้งคู่ พอ จขกท.ไปถึงที่เกิดเหตุก็ไปเจรจากันด้วยดี แลกไลน์และเบอร์โทรศัพท์
เพื่อจะไว้ติดต่อกันทาง จขกท. ก็เลยเสนอว่า ก็ให้รับผิดชอบค่าเสียหายซ่อมรถให้กลับสู่สภาพเดิม และขอค่าทำขวัญ
เพื่อเป็นค่าเสียเวลา ค่าน้ำมันเพื่อเอารถไปเข้าศูนย์ โดยเรียกเงินค่าทำขวัญ 4 - 5 พันบาท (จขกท.ก็บอกเผื่อให้ต่อราคา)
แต่ปรากฏว่าทางฝ่ายชนขอไปคุยโทรศัพท์สักครู่ ทางจขกท.กับแฟนก็คุยกันกับแม่ของคนชน
ได้ความว่าคุณแม่นั้นเป็น ครูเกษียณ มาจากจ.ขอนแก่นมาเที่ยวบ้านลูกสาว เนื่องจากลูกสาวซึ่งจบวิศวกร แต่ไม่ได้ทำงาน
มาได้แฟนที่ จ.ระยอง ซึ่งแฟนเป็นวิศวกรชาวไอซ์แลน ทำงานอยู่บริษัทผลิตรถยนต์ชื่อดัง ในนิคมอุตสาหกรรมอีสเทอร์น-
ซีอบร์อดสัญลักษณ์คล้ายๆ โรงพยาบาล ทาง จขกท. เองก็บอกกับแม่ว่า จขกท. กับแฟนก็เป็นครูเหมือนกัน ฉะนั้นเราคุยกันได้
ทางแม่ เองก็ต่อราคากับเรา ตามที่จขกท.คาดไว้ ก็ยังตกลงไม่เสร็จ ทางแม่บอกสัก 2 พันได้ไหมทางเราเลยบอกว่าขอ 3 พัน
แล้วกันนะแม่ แต่ปรากฎว่าทางลูกสาวเดินมาและให้ทาง จขกท. คุยโทรศัพท์กับพี่ชาย ในสายพูดว่า พอดีจบกฎหมายมา
ในส่วนของการชนวันนี้นั้นเป็นประมาทร่วม ผิดทั้งคู่ ในทางกฏหมายไม่มีในเรื่องของค่าทำขวัญจึงไม่ยินดีที่จะจ่าย
และบอกอีกว่าให้ไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.แกลง เลย .... ทางจขกท.ก็พูดกลับไปว่า แบบนี้จะประมาทร่วมได้อย่างไร
เนื่องจากรถของแฟนจขกท. กำลังจะออกจากห้างเข้าสู่ถนนหลัก ในทางตรงมีรถมาทางเราก็ต้องเบรก ส่วนรถน้องสาวคุณตามมา
ไม่ระวัง และขับใกล้แบบจี้ท้าย จึงทำให้เบรกไม่ทัน ดังนั้นนี่ไม่ใช่ประมาทร่วม และ จขกท.ก็บอกไปว่าจะไปโรงพักก็ได้เรายินดี
แต่ถ้าหากเราคุยกันรู้เรื่องก็ให้มันจบตรงนี้ไหมจะได้ไม่ยุ่งยาก ทางปลายสายก็ไม่ยอมยืนยันว่าเขาไม่ผิด และจะให้ไปโรงพักอย่างเดียว
ทางจขกท.ก็บอกงั้นก็โอเค งั้นโทรเรียกตำรวจมาที่เกิดเหตุเลยดีไหม ทางนั้นก็บอกว่าไม่ได้ เพราะไม่ไว้ใจตำรวจที่เราจะเรียกมา
จขกท. ก็เลยบอกไปว่า โอ้ยคุณ...ให้น้องคุณโทร 191 เรียกมาเองเลยก็ได้ แล้วจขกท.ก็เลยส่งโทรศัพท์คืนให้ฝ่ายชนเขาก็ไปคุยกันต่อ
ทาง จขกท.กับแฟนก็กลับมาคุยกับแม่ต่อ เพื่อเจรจา สักพักคุณวิศกรหญิง ก็วิ่งเข้ามาในวงที่เรากำลังคุยกันและตะคอกใส่แม่ว่า
แม่ไม่ต้องจ่าย!!! ไปโรงพัก พร้อมกับหันมาบอก จขกท.กับแฟนว่า ไปเจอกันโรงพัก และขึ้นรถขับออกไปเลย
รูปเหตุการณ์
-------------------------------------------------------------------------------
เหตุการณ์ ณ โรงพัก สภ.แกลง จ.ระยอง
จขกท.มาถึง วิศกรหญิง และแม่ยืนคุยกับตำรวจ พอเราลงไป ทางตำรวจเลยเชิญตัว วิศกรหญิงและแฟนของ จขกท.เข้าไปคุยในห้อง
ห้าม จขกท. และแม่ เข้าไป ทางจขกท. จึงได้นั่งคุยกับแม่อยู่ที่หน้าโรงพัก ก็คุยกันแบบกัลยาณมิตร เนื่องจากเป็นเพื่อนร่วมวิชาชีพ
ก็คุยกันดีๆ สักครึ่งชั่วโมง ร้อยเวรก็ออกมาจะมาดูรถ โดยให้วิศวกรหญิงและแฟน จขกท.เจรจากันต่อในห้อง จขกท.และแม่ก็พาตำรวจไปดูรถ
ทางตำรวจก็พูดว่า โอ้ยแค่นี้เองไม่เป็นอะไรมากไม่ต้องถึงตำรวจก็น่าจะจบได้ ทางจขกท. ก็บอกตำรวจว่าใช่ครับ ชนนิดเดียว
ทางเราไม่ได้ติดใจอะไรเลยขอแค่ซ่อมกับค่าน้ำมันเอารถไปศูนย์บวกค่าเสียเวลานิดหน่อยก็พอแล้ว แต่ทางคุณแม่วิศกรหญิงก็บอกกับ
ตำรวจว่าเห็นลูกสาวบอกว่า แบบนี้ประมาทร่วมใช่ไหม ตำรวจเลยตอบโดนทันทีว่า ประมาทร่วมอะไรป้า ชนท้ายเขาเต็มๆ
ลูกป้าผิดเต็มประตู จะมาร่วมได้ไง รถหลังต้องเป็นฝ่ายดูรถข้างหน้า และกฏหมายเขากำหนดชัดเจน ระยะห่าง ระยะเบรก
จะมาร่วมได้ไง ลูกป้าแหละผิด ฝ่ายนั้น (หมายถึงฝ่ายจขกท.) เขาผิดคือไม่มีใบอนุญาตขับขี่แค่นั้น คุณป้าก็เงิบเลยจ่ะ ทางตำรวจ
ก็บอกว่าป้าก็บอกลูกสาว ซ่อมรถให้เค้าและให้ค่าน้ำมันเขาก็จบแล้ว ไม่ต้องคิดไรให้มากมาย และร้อยเวรก็บอกว่าข้างในยังตกลงกันไม่ได้
ให้ป้าเข้าไปช่วยบอกลูกสาวหน่อย จขกท.กับป้าและร้อยเวรจึงเข้าไปในห้อง ก็ยังคุยกันไม่รู้เรื่องจริงๆ คือฝ่ายวิศกรหญิง
บอกเพียงอย่างเดียวว่ามีแค่ค่าซ่อม ค่าทำขวัญไม่ให้ เพราะยังไม่ได้ทำงาน ไม่มีเงิน และสามีชาวต่างชาติก็ไม่ให้ด้วย
ทางตำรวจก็ช่วยไกล่เกลี่ยเจรจา ว่าเขาขอแค่ค่าน้ำมันก็ให้เขาไปจะได้จบ มีเท่าไหร่ก็ลองเสนอไป วันนี้ไม่มีก็ผ่อนชำระได้
ทาง จขกท.กับแฟนก็โอเคว่าผ่อนได้ วันนี้เอามาสัก 1พันก่อน แล้วที่เหลือค่อยว่ากัน แต่ปรากฏว่าเธอไม่ยอม หัวเด็ดตีนขาด
ก็ไม่ให้ค่าทำขวัญ รับซ่อมรถอย่างเดียวเท่านั้น ทางตำรวจบอกมันก็เป็นน้ำใจนะคุณ ชนรถเขาเราต้องรับผิดชอบ เขาเสียเวลา
เสียโอกาส รถเขายังใหม่ ก็เห็นใจกันเถอะ แม่กระทั่งแม่ของวิศกรหญิงเอง ก็มาช่วยทาง จขกท.พูดกับลูกสาวว่า
ให้ให้เขาไปเถอะลูกเท่าไหร่ก็ว่ากัน เดี๋ยวแม่ช่วย แต่เธอก็ยังยืนยันว่า ไม่ให้ ไม่มีแบบหน้ามึนๆ ไม่อยากเอาเงินของแม่ ทุกคนต่างอึ้ง
ทางตำรวจบอกแฟนเป็นฝรั่งไม่มีเงินเลยหรอ ขอเขาสิ เธอตอบ ไม่มี เขาไม่ให้ ตำรวจเลยตัดบท เนื่องจากคุยกันมานานมากแล้ว
จึงบอกว่างั้นก็ลงบันทึกประจำวันเลยแล้วกันในเมื่อคุยไม่รู้เรื่อง ปรับวิศกรหญิงอัตราสูง 1000 บาทข้อหาขับรถประมาท
และปรับแฟนจขกท. 200 บาท ข้อหาไม่มีใบอนุญาตขับขี่ เธอตอบตกลงยอมจ่ายค่าปรับ ทุกคนก็อึ้งอีก ทางตำรวจบอก
อ่าว 1 พันยังมีทำไมไม่เอา 1 พันที่จะปรับให้เขาไป แล้วก็หามาเติมให้เขาอีก จะเอาเงินมาให้ตำรวจทำไม
เธอตอบว่า...ปรับเลยค่ะ ไม่ให้ ไม่มี แบบมึนๆ เช่นเคย แม่เธอจึงบอกให้เขาไปลูกพันนึง เดี๋ยวที่เหลือแม่ช่วยจ่ายให้ เธอก็ตอบเช่นเดิม
ไม่ ไม่ให้ แบบมึนๆ เหมือนเดิม และบอกตำรวจว่า ปรับเลยค่ะ ลงบันทึกประจำวันเลย ทุกคนก็อึ้ง ตำรวจบอกลงก็ลง และแจ้งวิศวกรหญิงว่า
คุณยอมรับว่าเป็นฝ่ายผิดชนท้าย ปรับ 1 พัน และปรับฝ่าย จขกท. 2 ร้อย และตำรวจก็ย้ำอีกรอบว่าทำไมไม่เอาเงินค่าปรับให้เขาไป
มีน้ำใจกันสิ คุณชนเขา คุณฝ่ายผิด เธอก็ตอบเหมือนเดิม สุดท้าย ตำรวจเลยลงบันทึกประจำวันและพาไปปรับอีกห้องนึง
สุดท้ายก็แยกย้าย เวลาประมาณ ทุ่มกว่าๆ จขกท.และแฟน ไหว้ลาแม่ของวิศกรหญิง ส่วนวิศกรหญิงสบัดตูดไปอย่างไมใยดี
ทางแม่หันกลับมาหาเราและจับแขน จขกท.และแฟนพร้อมพูดว่า แม่ขอโทษนะ แม่พูดไม่ได้จริงๆ
---------------------------------------------------------------------------------------------------
31/พค./2560
จขกท. ให้แฟนโทรไปหาวิศกรหญิง เพื่อนัดมาที่อู่เพื่อให้อู่ตีราคาด้วยกัน ให้มาด้วยกันพร้อมกันเพื่อความสบายใจ
เธอไม่รับโทรศัพท์ โทรเท่าไหร่ก็ไม่รับ เราเลยส่งไลน์ไปแทน เธออ่านและตอบพร้อมบอกว่าอาบน้ำเลยไม่ได้รับโทรศัพท์
และให้บอกสถานที่และเวลามา แฟนจขกท.ก็บอกไปและให้มาเจอกัน 16.00 น.ที่อู่.... วันนี้
พอถึงเวลานัดเธอก็มาและมาพร้อมกับแฟนชาวต่างชาติ และได้มาดูรถด้วยกันทางอู่ก็ตีราคาว่า 8,500 บาท คือค่าเคาะและทำสี
รวมทั้งเคาะท้ายรถที่ยุบเข้าไปเล็กน้อยส่งผลให้ปิดฝากระโปรงท้ายได้ยากขึ้น รวมทั้งค่ากันชนอันใหม่ด้วย ทางเธอได้อธิบายให้
แฟนชาวต่างชาติฟังและบอกกลับมาว่า ไม่โอเค และยินดีจะจ่ายแค่ 4500 ซึ่งเป็นการซ่อมแบบกันชนอันเก่า เธอบอกว่าด้านในกันชน
ส่วนที่แตกไม่เกี่ยวกับโครงสร้างดังนี้ไม่มีความจำเป็นต้องเปลี่ยน ทางอู่ก็พูดว่า หนูจะพูดแบบนี้ไม่ได้ หนูชนเขาหนูผิด รถเขายังใหม่ๆ
อยู่ เขาก็ต้องอยากเปลี่ยนอันใหม่ หนูจะบอกว่าไม่มีเงินไม่ได้ ผิดก็ต้องรับผิดชอบ ทางจขกท.ก็พูดต่อว่า เราไม่ได้อยากได้เงิน
ของคุณเลย เราสองคนทำงานมีเงินเดือนพอใช้ เงินแค่ไม่กี่พันเราไม่ต้องการอยู่แล้ว แต่ในเมื่อคุณมาชนรถเรา คุณต้องรับผิดชอบ
แต่เธอก็ตอบเหมือนเดิมว่าไม่มี ไม่จ่าย
รูปกันชนข้างในที่แตก และรอยชน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รูปเหตุการณ์
ทางจขกท. และแฟนที่มากับเพื่อนๆ ที่มีประสบการณ์ 3 คน ไม่ยอมและบอกว่าต้องการเปลี่ยนอันใหม่ และพยายามช่วยกัน
อธิบายให้เธอเข้าใจและให้เธออธิบายให้แฟนชาวต่างชาติฟัง แต่เธอก็ไม่ทำ และบอกว่าไม่มีเงิน มีแค่ 4500 จ่ายได้แค่นี้
จากนั้นแฟนฝรั่งก็หยิบใบขับขี่ของวิศวกรหญิงยื่นมาให้เราดูและพูดประมาณว่า เขาไม่ผิดและแฟนจขกท. ไม่มีใบขับขี่ ไม่มีสิทธิ์
เรียกร้องใดๆ ทั้งสิ้น วิศกรหญิงบอกว่าถ้าอย่างนั้นก็ไปฟ้องเอาเลยค่ะ พร้อมทั้งพากันขึ้นรถและขับหนีไปเลยดื้อๆ ทุกคนต่างอึ้ง
และทำอะไรไม่ถูกเลยทางจขกท. จึงได้โทรแจ้ง 191 เพื่อขอความช่วยเหลือ ทาง 191 บอกให้ปล่อยเขาไปและไปแจ้งความ
ที่ สภ.แกลงอีกครั้ง เพื่อให้ ตำรวจเรียกมาเจรจาอีกรอบ เราจึงไป สภ.แกลง เพื่อให้ตำรวจช่วย แต่ทางตำรวจแนะนำว่าให้ฟ้องเลย
เพราะเรียกมาก็เหมือนเดิมคุยไม่รู้เรื่อง และแนะนำทนายให้กับ จขกท. และเราก็ได้ไปติดต่อทนายและทางทนายก็จะดำเนินการ
ส่งจดหมายเชิญให้มาไกล่เกลี่ยกับเรา และเมื่อเรากลับจากทนาย จขกท. จึงได้ให้แฟนส่งไลน์ไปถามว่าสรุปว่าจะยังไงต่อ
***ข้อความอ่านในไลน์ขอใส่ไว้ในคอมเมนท์นะครับ อาจยาวนิดนึง***
แต่สรุปๆ ก็คืออธิบายยังไงเธอก็ไม่ยอม ไม่จ่าย จะจ่ายแค่ค่าซ่อมเท่านั้น 4500 และสุดท้ายเธอก็เงียบและไม่อ่านไม่ตอบ
อะไรอีกเลย จขกท.และแฟน ไม่ได้ติดใจเลยนะเกี่ยวกับเรื่องการชนเพราะชนแล้วก็ซ่อมก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร และไม่ได้ต้องการ
จะมาหาผลประโยชน์มาเรียกร้องเงินอะไร แต่ที่เรียกก็คือค่าเสียเวลาในการเอารถไปซ่อมไหนจะวันที่ไม่มีรถใช้ที่ต้องจอดรถที่อู่
เพื่อให้อู่ทำ และต้องเสียเวลาในการทำงานอีก เนื่องจากช่วงเย็นแฟน จขกท. ต้องไปสอนพิเศษ แต่ต้องมาตามแต่เรื่องนี้
เสียเวลามาก ตัวจขกท.เองก็ขายของหลังเลิกงาน ก็ต้องหยุดไปด้วย ถ้าเธอคุยกับเราดีๆ ตั้งแต่แรก ต่อราคา หรือยื่นข้อเสนอมา
เอาแค่ 2 – 3 พันบาทพร้อมค่าซ่อม จขกท. ก็พอใจแล้วและก็จบเรื่องไปเลย แต่มาถึงขั้นนี้ ซึ่งเธอมีพฤติกรรมที่มึน อึน
ไม่อะไรทั้งสิ้น จขกท. ก็ไม่อาจจะยอมได้อีกแล้วจึงตัดสินใจที่จะฟ้องและดำเนินการให้ถึงที่สุด จขกท.มาคุยกับแฟนและรู้สึก
ขอบคุณวิศวกรหญิงคนนั้นมากที่ให้บทเรียนที่ดีในการที่จะไปสอนนักเรียนให้มีจิตสำนึก มีมนุษธรรม และเห็นใจผู้อื่น
รวมทั้งยังต้องขอบคุณที่เธอยืนกรานตั้งแต่วันเกิดเหตุว่าจะไปลงบันทึกประจำวัน เพราะหากวันนั้นไม่ได้ไปลง เรื่องคงยาวกว่านี้แน่
ถ้าใครมีข้อเสนอแนะอะไร หรือมีวิธีการยังไงที่จะได้เรียกร้องความยุติธรรมมา ก็รบกวนช่วยชี้แนะด้วยนะครับ
*** เขียนผิด หรือยาวไปขออภัยด้วยนะครับ พึ่งเคยโพสต์ครั้งแรก
รบกวนช่วยดันให้ด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ
ปล. แท็ก ม.เทคโนโลยีสุรนารี เพราะวิศวกรหญิงเรียนที่นั่นเผื่อเพื่อมาเจอจะช่วยติดต่อให้
:::: [แชร์ประสบการณ์] เจอคนอึน มึนแห่งปี ชนท้ายแล้วชิ่ง ::::
30/พ.ค./60
เวลาประมาณ 16.00 น. เหตุเกิดที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดังในอำเภอแกลง จ.ระยอง รถยนต์ป้ายทะเบียน ขอนแก่น
ยี่ห้อ Honda City น่าจะปี 2008 สีดำ ชนท้ายรถแฟน จขกท. Mitsubishi Attrage 2015 สีขาว ทะเบียน กทม.
ฝ่ายชนเป็นผู้หญิง อายุประมาณ 27 ปี มากับแม่ อายุ 60 กว่าๆ ส่วนแฟนจขกท. อายุ 26
โดยรถทั้ง 2 คัน ไม่มีประกันแต่มี พรบ.ทั้งคู่ พอ จขกท.ไปถึงที่เกิดเหตุก็ไปเจรจากันด้วยดี แลกไลน์และเบอร์โทรศัพท์
เพื่อจะไว้ติดต่อกันทาง จขกท. ก็เลยเสนอว่า ก็ให้รับผิดชอบค่าเสียหายซ่อมรถให้กลับสู่สภาพเดิม และขอค่าทำขวัญ
เพื่อเป็นค่าเสียเวลา ค่าน้ำมันเพื่อเอารถไปเข้าศูนย์ โดยเรียกเงินค่าทำขวัญ 4 - 5 พันบาท (จขกท.ก็บอกเผื่อให้ต่อราคา)
แต่ปรากฏว่าทางฝ่ายชนขอไปคุยโทรศัพท์สักครู่ ทางจขกท.กับแฟนก็คุยกันกับแม่ของคนชน
ได้ความว่าคุณแม่นั้นเป็น ครูเกษียณ มาจากจ.ขอนแก่นมาเที่ยวบ้านลูกสาว เนื่องจากลูกสาวซึ่งจบวิศวกร แต่ไม่ได้ทำงาน
มาได้แฟนที่ จ.ระยอง ซึ่งแฟนเป็นวิศวกรชาวไอซ์แลน ทำงานอยู่บริษัทผลิตรถยนต์ชื่อดัง ในนิคมอุตสาหกรรมอีสเทอร์น-
ซีอบร์อดสัญลักษณ์คล้ายๆ โรงพยาบาล ทาง จขกท. เองก็บอกกับแม่ว่า จขกท. กับแฟนก็เป็นครูเหมือนกัน ฉะนั้นเราคุยกันได้
ทางแม่ เองก็ต่อราคากับเรา ตามที่จขกท.คาดไว้ ก็ยังตกลงไม่เสร็จ ทางแม่บอกสัก 2 พันได้ไหมทางเราเลยบอกว่าขอ 3 พัน
แล้วกันนะแม่ แต่ปรากฎว่าทางลูกสาวเดินมาและให้ทาง จขกท. คุยโทรศัพท์กับพี่ชาย ในสายพูดว่า พอดีจบกฎหมายมา
ในส่วนของการชนวันนี้นั้นเป็นประมาทร่วม ผิดทั้งคู่ ในทางกฏหมายไม่มีในเรื่องของค่าทำขวัญจึงไม่ยินดีที่จะจ่าย
และบอกอีกว่าให้ไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.แกลง เลย .... ทางจขกท.ก็พูดกลับไปว่า แบบนี้จะประมาทร่วมได้อย่างไร
เนื่องจากรถของแฟนจขกท. กำลังจะออกจากห้างเข้าสู่ถนนหลัก ในทางตรงมีรถมาทางเราก็ต้องเบรก ส่วนรถน้องสาวคุณตามมา
ไม่ระวัง และขับใกล้แบบจี้ท้าย จึงทำให้เบรกไม่ทัน ดังนั้นนี่ไม่ใช่ประมาทร่วม และ จขกท.ก็บอกไปว่าจะไปโรงพักก็ได้เรายินดี
แต่ถ้าหากเราคุยกันรู้เรื่องก็ให้มันจบตรงนี้ไหมจะได้ไม่ยุ่งยาก ทางปลายสายก็ไม่ยอมยืนยันว่าเขาไม่ผิด และจะให้ไปโรงพักอย่างเดียว
ทางจขกท.ก็บอกงั้นก็โอเค งั้นโทรเรียกตำรวจมาที่เกิดเหตุเลยดีไหม ทางนั้นก็บอกว่าไม่ได้ เพราะไม่ไว้ใจตำรวจที่เราจะเรียกมา
จขกท. ก็เลยบอกไปว่า โอ้ยคุณ...ให้น้องคุณโทร 191 เรียกมาเองเลยก็ได้ แล้วจขกท.ก็เลยส่งโทรศัพท์คืนให้ฝ่ายชนเขาก็ไปคุยกันต่อ
ทาง จขกท.กับแฟนก็กลับมาคุยกับแม่ต่อ เพื่อเจรจา สักพักคุณวิศกรหญิง ก็วิ่งเข้ามาในวงที่เรากำลังคุยกันและตะคอกใส่แม่ว่า
แม่ไม่ต้องจ่าย!!! ไปโรงพัก พร้อมกับหันมาบอก จขกท.กับแฟนว่า ไปเจอกันโรงพัก และขึ้นรถขับออกไปเลย
รูปเหตุการณ์
-------------------------------------------------------------------------------
เหตุการณ์ ณ โรงพัก สภ.แกลง จ.ระยอง
จขกท.มาถึง วิศกรหญิง และแม่ยืนคุยกับตำรวจ พอเราลงไป ทางตำรวจเลยเชิญตัว วิศกรหญิงและแฟนของ จขกท.เข้าไปคุยในห้อง
ห้าม จขกท. และแม่ เข้าไป ทางจขกท. จึงได้นั่งคุยกับแม่อยู่ที่หน้าโรงพัก ก็คุยกันแบบกัลยาณมิตร เนื่องจากเป็นเพื่อนร่วมวิชาชีพ
ก็คุยกันดีๆ สักครึ่งชั่วโมง ร้อยเวรก็ออกมาจะมาดูรถ โดยให้วิศวกรหญิงและแฟน จขกท.เจรจากันต่อในห้อง จขกท.และแม่ก็พาตำรวจไปดูรถ
ทางตำรวจก็พูดว่า โอ้ยแค่นี้เองไม่เป็นอะไรมากไม่ต้องถึงตำรวจก็น่าจะจบได้ ทางจขกท. ก็บอกตำรวจว่าใช่ครับ ชนนิดเดียว
ทางเราไม่ได้ติดใจอะไรเลยขอแค่ซ่อมกับค่าน้ำมันเอารถไปศูนย์บวกค่าเสียเวลานิดหน่อยก็พอแล้ว แต่ทางคุณแม่วิศกรหญิงก็บอกกับ
ตำรวจว่าเห็นลูกสาวบอกว่า แบบนี้ประมาทร่วมใช่ไหม ตำรวจเลยตอบโดนทันทีว่า ประมาทร่วมอะไรป้า ชนท้ายเขาเต็มๆ
ลูกป้าผิดเต็มประตู จะมาร่วมได้ไง รถหลังต้องเป็นฝ่ายดูรถข้างหน้า และกฏหมายเขากำหนดชัดเจน ระยะห่าง ระยะเบรก
จะมาร่วมได้ไง ลูกป้าแหละผิด ฝ่ายนั้น (หมายถึงฝ่ายจขกท.) เขาผิดคือไม่มีใบอนุญาตขับขี่แค่นั้น คุณป้าก็เงิบเลยจ่ะ ทางตำรวจ
ก็บอกว่าป้าก็บอกลูกสาว ซ่อมรถให้เค้าและให้ค่าน้ำมันเขาก็จบแล้ว ไม่ต้องคิดไรให้มากมาย และร้อยเวรก็บอกว่าข้างในยังตกลงกันไม่ได้
ให้ป้าเข้าไปช่วยบอกลูกสาวหน่อย จขกท.กับป้าและร้อยเวรจึงเข้าไปในห้อง ก็ยังคุยกันไม่รู้เรื่องจริงๆ คือฝ่ายวิศกรหญิง
บอกเพียงอย่างเดียวว่ามีแค่ค่าซ่อม ค่าทำขวัญไม่ให้ เพราะยังไม่ได้ทำงาน ไม่มีเงิน และสามีชาวต่างชาติก็ไม่ให้ด้วย
ทางตำรวจก็ช่วยไกล่เกลี่ยเจรจา ว่าเขาขอแค่ค่าน้ำมันก็ให้เขาไปจะได้จบ มีเท่าไหร่ก็ลองเสนอไป วันนี้ไม่มีก็ผ่อนชำระได้
ทาง จขกท.กับแฟนก็โอเคว่าผ่อนได้ วันนี้เอามาสัก 1พันก่อน แล้วที่เหลือค่อยว่ากัน แต่ปรากฏว่าเธอไม่ยอม หัวเด็ดตีนขาด
ก็ไม่ให้ค่าทำขวัญ รับซ่อมรถอย่างเดียวเท่านั้น ทางตำรวจบอกมันก็เป็นน้ำใจนะคุณ ชนรถเขาเราต้องรับผิดชอบ เขาเสียเวลา
เสียโอกาส รถเขายังใหม่ ก็เห็นใจกันเถอะ แม่กระทั่งแม่ของวิศกรหญิงเอง ก็มาช่วยทาง จขกท.พูดกับลูกสาวว่า
ให้ให้เขาไปเถอะลูกเท่าไหร่ก็ว่ากัน เดี๋ยวแม่ช่วย แต่เธอก็ยังยืนยันว่า ไม่ให้ ไม่มีแบบหน้ามึนๆ ไม่อยากเอาเงินของแม่ ทุกคนต่างอึ้ง
ทางตำรวจบอกแฟนเป็นฝรั่งไม่มีเงินเลยหรอ ขอเขาสิ เธอตอบ ไม่มี เขาไม่ให้ ตำรวจเลยตัดบท เนื่องจากคุยกันมานานมากแล้ว
จึงบอกว่างั้นก็ลงบันทึกประจำวันเลยแล้วกันในเมื่อคุยไม่รู้เรื่อง ปรับวิศกรหญิงอัตราสูง 1000 บาทข้อหาขับรถประมาท
และปรับแฟนจขกท. 200 บาท ข้อหาไม่มีใบอนุญาตขับขี่ เธอตอบตกลงยอมจ่ายค่าปรับ ทุกคนก็อึ้งอีก ทางตำรวจบอก
อ่าว 1 พันยังมีทำไมไม่เอา 1 พันที่จะปรับให้เขาไป แล้วก็หามาเติมให้เขาอีก จะเอาเงินมาให้ตำรวจทำไม
เธอตอบว่า...ปรับเลยค่ะ ไม่ให้ ไม่มี แบบมึนๆ เช่นเคย แม่เธอจึงบอกให้เขาไปลูกพันนึง เดี๋ยวที่เหลือแม่ช่วยจ่ายให้ เธอก็ตอบเช่นเดิม
ไม่ ไม่ให้ แบบมึนๆ เหมือนเดิม และบอกตำรวจว่า ปรับเลยค่ะ ลงบันทึกประจำวันเลย ทุกคนก็อึ้ง ตำรวจบอกลงก็ลง และแจ้งวิศวกรหญิงว่า
คุณยอมรับว่าเป็นฝ่ายผิดชนท้าย ปรับ 1 พัน และปรับฝ่าย จขกท. 2 ร้อย และตำรวจก็ย้ำอีกรอบว่าทำไมไม่เอาเงินค่าปรับให้เขาไป
มีน้ำใจกันสิ คุณชนเขา คุณฝ่ายผิด เธอก็ตอบเหมือนเดิม สุดท้าย ตำรวจเลยลงบันทึกประจำวันและพาไปปรับอีกห้องนึง
สุดท้ายก็แยกย้าย เวลาประมาณ ทุ่มกว่าๆ จขกท.และแฟน ไหว้ลาแม่ของวิศกรหญิง ส่วนวิศกรหญิงสบัดตูดไปอย่างไมใยดี
ทางแม่หันกลับมาหาเราและจับแขน จขกท.และแฟนพร้อมพูดว่า แม่ขอโทษนะ แม่พูดไม่ได้จริงๆ
---------------------------------------------------------------------------------------------------
31/พค./2560
จขกท. ให้แฟนโทรไปหาวิศกรหญิง เพื่อนัดมาที่อู่เพื่อให้อู่ตีราคาด้วยกัน ให้มาด้วยกันพร้อมกันเพื่อความสบายใจ
เธอไม่รับโทรศัพท์ โทรเท่าไหร่ก็ไม่รับ เราเลยส่งไลน์ไปแทน เธออ่านและตอบพร้อมบอกว่าอาบน้ำเลยไม่ได้รับโทรศัพท์
และให้บอกสถานที่และเวลามา แฟนจขกท.ก็บอกไปและให้มาเจอกัน 16.00 น.ที่อู่.... วันนี้
พอถึงเวลานัดเธอก็มาและมาพร้อมกับแฟนชาวต่างชาติ และได้มาดูรถด้วยกันทางอู่ก็ตีราคาว่า 8,500 บาท คือค่าเคาะและทำสี
รวมทั้งเคาะท้ายรถที่ยุบเข้าไปเล็กน้อยส่งผลให้ปิดฝากระโปรงท้ายได้ยากขึ้น รวมทั้งค่ากันชนอันใหม่ด้วย ทางเธอได้อธิบายให้
แฟนชาวต่างชาติฟังและบอกกลับมาว่า ไม่โอเค และยินดีจะจ่ายแค่ 4500 ซึ่งเป็นการซ่อมแบบกันชนอันเก่า เธอบอกว่าด้านในกันชน
ส่วนที่แตกไม่เกี่ยวกับโครงสร้างดังนี้ไม่มีความจำเป็นต้องเปลี่ยน ทางอู่ก็พูดว่า หนูจะพูดแบบนี้ไม่ได้ หนูชนเขาหนูผิด รถเขายังใหม่ๆ
อยู่ เขาก็ต้องอยากเปลี่ยนอันใหม่ หนูจะบอกว่าไม่มีเงินไม่ได้ ผิดก็ต้องรับผิดชอบ ทางจขกท.ก็พูดต่อว่า เราไม่ได้อยากได้เงิน
ของคุณเลย เราสองคนทำงานมีเงินเดือนพอใช้ เงินแค่ไม่กี่พันเราไม่ต้องการอยู่แล้ว แต่ในเมื่อคุณมาชนรถเรา คุณต้องรับผิดชอบ
แต่เธอก็ตอบเหมือนเดิมว่าไม่มี ไม่จ่าย
รูปกันชนข้างในที่แตก และรอยชน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รูปเหตุการณ์
ทางจขกท. และแฟนที่มากับเพื่อนๆ ที่มีประสบการณ์ 3 คน ไม่ยอมและบอกว่าต้องการเปลี่ยนอันใหม่ และพยายามช่วยกัน
อธิบายให้เธอเข้าใจและให้เธออธิบายให้แฟนชาวต่างชาติฟัง แต่เธอก็ไม่ทำ และบอกว่าไม่มีเงิน มีแค่ 4500 จ่ายได้แค่นี้
จากนั้นแฟนฝรั่งก็หยิบใบขับขี่ของวิศวกรหญิงยื่นมาให้เราดูและพูดประมาณว่า เขาไม่ผิดและแฟนจขกท. ไม่มีใบขับขี่ ไม่มีสิทธิ์
เรียกร้องใดๆ ทั้งสิ้น วิศกรหญิงบอกว่าถ้าอย่างนั้นก็ไปฟ้องเอาเลยค่ะ พร้อมทั้งพากันขึ้นรถและขับหนีไปเลยดื้อๆ ทุกคนต่างอึ้ง
และทำอะไรไม่ถูกเลยทางจขกท. จึงได้โทรแจ้ง 191 เพื่อขอความช่วยเหลือ ทาง 191 บอกให้ปล่อยเขาไปและไปแจ้งความ
ที่ สภ.แกลงอีกครั้ง เพื่อให้ ตำรวจเรียกมาเจรจาอีกรอบ เราจึงไป สภ.แกลง เพื่อให้ตำรวจช่วย แต่ทางตำรวจแนะนำว่าให้ฟ้องเลย
เพราะเรียกมาก็เหมือนเดิมคุยไม่รู้เรื่อง และแนะนำทนายให้กับ จขกท. และเราก็ได้ไปติดต่อทนายและทางทนายก็จะดำเนินการ
ส่งจดหมายเชิญให้มาไกล่เกลี่ยกับเรา และเมื่อเรากลับจากทนาย จขกท. จึงได้ให้แฟนส่งไลน์ไปถามว่าสรุปว่าจะยังไงต่อ
***ข้อความอ่านในไลน์ขอใส่ไว้ในคอมเมนท์นะครับ อาจยาวนิดนึง***
แต่สรุปๆ ก็คืออธิบายยังไงเธอก็ไม่ยอม ไม่จ่าย จะจ่ายแค่ค่าซ่อมเท่านั้น 4500 และสุดท้ายเธอก็เงียบและไม่อ่านไม่ตอบ
อะไรอีกเลย จขกท.และแฟน ไม่ได้ติดใจเลยนะเกี่ยวกับเรื่องการชนเพราะชนแล้วก็ซ่อมก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร และไม่ได้ต้องการ
จะมาหาผลประโยชน์มาเรียกร้องเงินอะไร แต่ที่เรียกก็คือค่าเสียเวลาในการเอารถไปซ่อมไหนจะวันที่ไม่มีรถใช้ที่ต้องจอดรถที่อู่
เพื่อให้อู่ทำ และต้องเสียเวลาในการทำงานอีก เนื่องจากช่วงเย็นแฟน จขกท. ต้องไปสอนพิเศษ แต่ต้องมาตามแต่เรื่องนี้
เสียเวลามาก ตัวจขกท.เองก็ขายของหลังเลิกงาน ก็ต้องหยุดไปด้วย ถ้าเธอคุยกับเราดีๆ ตั้งแต่แรก ต่อราคา หรือยื่นข้อเสนอมา
เอาแค่ 2 – 3 พันบาทพร้อมค่าซ่อม จขกท. ก็พอใจแล้วและก็จบเรื่องไปเลย แต่มาถึงขั้นนี้ ซึ่งเธอมีพฤติกรรมที่มึน อึน
ไม่อะไรทั้งสิ้น จขกท. ก็ไม่อาจจะยอมได้อีกแล้วจึงตัดสินใจที่จะฟ้องและดำเนินการให้ถึงที่สุด จขกท.มาคุยกับแฟนและรู้สึก
ขอบคุณวิศวกรหญิงคนนั้นมากที่ให้บทเรียนที่ดีในการที่จะไปสอนนักเรียนให้มีจิตสำนึก มีมนุษธรรม และเห็นใจผู้อื่น
รวมทั้งยังต้องขอบคุณที่เธอยืนกรานตั้งแต่วันเกิดเหตุว่าจะไปลงบันทึกประจำวัน เพราะหากวันนั้นไม่ได้ไปลง เรื่องคงยาวกว่านี้แน่
ถ้าใครมีข้อเสนอแนะอะไร หรือมีวิธีการยังไงที่จะได้เรียกร้องความยุติธรรมมา ก็รบกวนช่วยชี้แนะด้วยนะครับ
*** เขียนผิด หรือยาวไปขออภัยด้วยนะครับ พึ่งเคยโพสต์ครั้งแรก
รบกวนช่วยดันให้ด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ
ปล. แท็ก ม.เทคโนโลยีสุรนารี เพราะวิศวกรหญิงเรียนที่นั่นเผื่อเพื่อมาเจอจะช่วยติดต่อให้