สวัสดีเพื่อนชาวพันทิปทุกท่านค่าาาาาา
วันนี้เราจะมารีวิว “ทริปกลางปี ที่ปีนัง”
ปีนังเป็นเมืองเล็กๆค่ะ เดินทางง่ายสะดวกด้วยรถโดยสารประจำทาง คนเดียวก็เที่ยวได้ #สะดวกแบบนี้ค่ะ
เริ่มต้นจากการจองตั๋ว เราบินตรงไปปีนังเลย ด้วยสายการบิน Air Asia ค่าตั๋ว 3,800 บาทค่ะ (เราโหลดกระเป๋าขากลับด้วยค่ะ) เราไป 2คืน 3วัน ตั้งแต่วันที่ 2มิ.ย.ถึง 4 มิ.ย. 2017
)
แล้วเราก็มาถึงสนามบินปีนังประมาณ 13.30น. เวลาที่ปีนังจะเร็วกว่าที่ไทย 1 ชั่วโมงค่ะ ลงเครื่องบินมาก็เดินไปตามทางเรื่อยๆเลยค่ะประเทศมาเลเซียไม่ต้องเขียนใบขาเข้าประเทศ เพราะเค้าใช้สแกนนิ้วมือค่ะ หลังจากที่ผ่าน ตม. มาแล้ว พอเดินออกมาเราก็มาซื้อซิมเปลี่ยนที่นี่ค่ะ เค้าจะถามเราว่าอยู่กี่วัน มีแพ็คเกจให้เราเลือก เราเลือกแบบรายสัปดาห์ค่ะ ราคา 30 RM (1 RMประมาณ10บาทค่ะ) ซึ่งถูกกว่าเปิดโรมมิ่งมาก เปิดโรมมิ่งรวม VAT แล้ว ประมาณ 1016 บาท แนะนำซื้อซิมถูกกว่าเล่นเน็ตได้ 1.5GB ซิม Digi
เปลี่ยนซิมเรียบร้อย เดินออกจากสนามบินมาก็จะเจอลาน Taxi และ ป้ายรถระจำทาง สายที่จะผ่านสนามบินไปตึกกอมต้า คือ 401 และ 401E (401จะเร็วกว่าเพราะเลี่ยงเมืองค่ะ) ค่ารถเมล์จากสนามบินมายังตึก Komtar เป็นจุดศูนย์กลางของรถประจำทางสายต่างๆ ราคาจากสนามบินมาตึก Komtar 2.70 RM เตรียมเงินให้พอดีนะคะ ที่นี่เค้าไม่มีทอน ไม่มีกระเป๋ารถเมล์เหมือนบ้านเรา เค้าให้หยอดตู้ แล้วบอกคนขับว่าจะลงที่ไหน คนขับจะบอกราคาค่าโดยสารเราค่ะ หยอดเกินได้ แต่ขาดไม่ได้นะคะ ปล.แต่วันนั้นตอนขึ้นมาเราหยดไปแค่ 2RM เราลืม เราคิดว่ามัน 1.70RM แล้วคนขับเค้าน่าจะไม่ได้ดูตอนเราหยอด เราไม่ได้ตั้งใจจริงๆนะ~_~ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1ชั่วโมงค่ะ และที่สำคัญขึ้นรถเมล์ที่นี่ไม่ต้องกลัวขึ้นผิด เพราะว่าถ้าผิด คนขับจะบอกเลยว่าไม่ใช่
เมืองจอร์จทาวน์ ที่พักเราอยู่ห่างจากตึก Komtar ไม่ไกลมากค่ะ เดินไปประมาณ10นาทีก็ถึงแล้ววววว
เราพักที่ Armenian Street Heritage Hotel จองผ่านเว็บ Agoda ห้องพักดี ทำเลดี ราคาน่าคบ เราพัก2คืน จองได้ราคาโปรโมชั่นพอดี 1,500 บาท มีคนมาทำความสะอาดห้องให้ทุกวันค่ะ อุปกรณ์มีครบทั้งในห้องนอน ห้องน้ำ อย่าลืมพกอะแดปเตอร์
ไปด้วยนะจ๊ะ เดี๋ยวจะไม่มีที่ชาร์ตแบตมือถือ เค้าไม่ได้ใช้ปลั๊กแบบบ้านเราค่าาาา
เราถึงที่พักประมาณ 15.00น. ก็เก็บของ นั่งพักสักพัก แล้วเดินออกมาทานข้าวที่ Prangin mall ติดกับตึก Komtar เลยค่าาา มื้อนี้ขอฝากท้องไว้ที่แมคโดนัลด์ เพราะเราอยากได้ตุ๊กตามินเนี่ยน ซึ่งเปิดตัวขายวันแรก อิอิ หลังจากนั้นก็เดินเล่นในห้างสักพัก ดูเวลาอีกทีก็ 17.30 น. แล้วววววววววจ้าาาา เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เราเลยไปวัดตามที่รีวิวก่อนหน้านี้เค้าแนะนำคือ วัด Kek lok si เรานั่ง Uberไปค่ะ แอบบอกว่า Uber ที่นี่ราคาถูกมากค่ะ ไม่มีขั้นต่ำเหมือนบ้านเรา แต่Taxiราคาแพงค่ะ Uberที่นี่หลังจากที่เราเรียกแล้ว เราต้องโทรไปคอนเฟิร์มเค้าว่าเราอยู่ตรงไหน ซึ่งต่างจากไทย เพราะถ้าเป็นในเมืองไทย Uberจะโทรหาผู้โดยสาร แต่ที่นี่ผู้โดยสารต้องโทรนาจาาาาาา แล้วเราก็ไปถึงวัดประมาณ 18.25 น. ปรากฎว่าเซอร์ไพรส์ค่าาาาา วัดนี้ปิดเวลา 18.30น. เลยไม่ได้เข้าไปข้างใน แต่ก็มีต่างชาติหลายคนมาตามหลังเราอยู่นะ ไม่ได้เข้าเหมือนกันค่ะ ถ่ายรูปกันด้านนอกก็ได้เนอะ
หลังจากนั้นก็เรียก Uber กลับเหมือนเดิมค่ะ ค่า Uber 9.98 RM จริงๆวัดนี้มีรถเมล์สาย 203 กับ 204 ผ่านนะคะ อาจมีเยอะกว่านั้น แต่เรารู้แค่นี้ค่าาาาาา
เรานั่งUberมาที่แถวโรงแรม Sentral (ไม่ไกลจาก Komtar) เพราะแถวๆนั้นจะมี Night Market ค่ะ เลยโรงแรมมานิดเดียวแล้วเดินข้ามถนนมาค่า
ค่าาาาาา คร่าวนี้มาลองท้องถิ่นทานบ้าง เค้าเรียกว่าอะไรไม่รู้แต่มันคือเส้นใหญ่บ้านเราหั่นโรยงาแล้วมีซอส3แบบราด (สำหรับเรากินไม่ได้เลยจ้าาาาาา) 2.20RM
เลยต้องซื้อไก่ย่างกิน 4.40RM
เค้าจะมีโต๊ะเก้าอี้อยู่ทางข้างนั่งตรงไหนก็ได้ แต่ว่าต้องสั่งของหวานร้านลุงเค้ากิน มันคือเต้าทึง ถ้าไม่สั่งลุงจะไล่ให้ออกไป น่ากลัวจริมๆ ทุกโต๊ะต้องมีขนมหวานร้านลุงนาจาาาาาาาา หลังจากกินอาหารอะไรเรียบร้อยแล้ว ก็ลองเดินไปเซเว่นแถวๆนั้นดูว่าของเหมือนเมืองไทยมั้ย ส่วนใหญ่ก็คล้ายๆที่ไทย มีเครื่องดื่มบางอย่างที่แตกต่าง เช่น น้ำผลไม้กระป๋องอะไรแบบนี้ น่าจะขายนักท่องเที่ยวจีนไปหลัก ที่นี่คนจีนมาเที่ยวเยอะมากค่ะ ส่วนเครื่องดื่มที่เราลอง คือ Kickapoo รสชาติเหมือนเซเว่นอัพหรือสไปรท์บ้านเราค่ะ ราคา 2.50 RM
แอบบอกว่าร้านเซเว่นหรือมินิมาร์ทที่นี่ราคาแพงกว่าร้านขายของชำทั่วไปนะคะ หลังจากนั้นเราก็เดินกลับโรงแรมค่ะ เพราะอยู่ไม่ไกลกันมาก 15-20นาทีก็ถึง ระหว่างทาง
ถึงโรงแรมที่เราพัก มันก็จะมีตลาดกลางคืนอีกเช่นกันค่ะ เราก็ลองไปเดินดูค่ะ ไปหาขนมหวานเย็นๆ เพราะตอนนั้นเดินมาแล้วร้อนมาก มันคือขนมหวานนมสด ราคา 4 RM
หลังจากทานเสร็จเราก็กลับห้องนอนค่ะ ถึงโรงแรมปุ๊บ ฝนตกเลยจ้าาาาาา นอนหลับสบาย
เดี๋ยวมาต่อวันที่ 2 ของทริปค่ะ
[CR] ตะลุยเดี่ยว เที่ยวปีนัง2017
สวัสดีเพื่อนชาวพันทิปทุกท่านค่าาาาาา
วันนี้เราจะมารีวิว “ทริปกลางปี ที่ปีนัง”
ปีนังเป็นเมืองเล็กๆค่ะ เดินทางง่ายสะดวกด้วยรถโดยสารประจำทาง คนเดียวก็เที่ยวได้ #สะดวกแบบนี้ค่ะ
เริ่มต้นจากการจองตั๋ว เราบินตรงไปปีนังเลย ด้วยสายการบิน Air Asia ค่าตั๋ว 3,800 บาทค่ะ (เราโหลดกระเป๋าขากลับด้วยค่ะ) เราไป 2คืน 3วัน ตั้งแต่วันที่ 2มิ.ย.ถึง 4 มิ.ย. 2017
)
แล้วเราก็มาถึงสนามบินปีนังประมาณ 13.30น. เวลาที่ปีนังจะเร็วกว่าที่ไทย 1 ชั่วโมงค่ะ ลงเครื่องบินมาก็เดินไปตามทางเรื่อยๆเลยค่ะประเทศมาเลเซียไม่ต้องเขียนใบขาเข้าประเทศ เพราะเค้าใช้สแกนนิ้วมือค่ะ หลังจากที่ผ่าน ตม. มาแล้ว พอเดินออกมาเราก็มาซื้อซิมเปลี่ยนที่นี่ค่ะ เค้าจะถามเราว่าอยู่กี่วัน มีแพ็คเกจให้เราเลือก เราเลือกแบบรายสัปดาห์ค่ะ ราคา 30 RM (1 RMประมาณ10บาทค่ะ) ซึ่งถูกกว่าเปิดโรมมิ่งมาก เปิดโรมมิ่งรวม VAT แล้ว ประมาณ 1016 บาท แนะนำซื้อซิมถูกกว่าเล่นเน็ตได้ 1.5GB ซิม Digi
เปลี่ยนซิมเรียบร้อย เดินออกจากสนามบินมาก็จะเจอลาน Taxi และ ป้ายรถระจำทาง สายที่จะผ่านสนามบินไปตึกกอมต้า คือ 401 และ 401E (401จะเร็วกว่าเพราะเลี่ยงเมืองค่ะ) ค่ารถเมล์จากสนามบินมายังตึก Komtar เป็นจุดศูนย์กลางของรถประจำทางสายต่างๆ ราคาจากสนามบินมาตึก Komtar 2.70 RM เตรียมเงินให้พอดีนะคะ ที่นี่เค้าไม่มีทอน ไม่มีกระเป๋ารถเมล์เหมือนบ้านเรา เค้าให้หยอดตู้ แล้วบอกคนขับว่าจะลงที่ไหน คนขับจะบอกราคาค่าโดยสารเราค่ะ หยอดเกินได้ แต่ขาดไม่ได้นะคะ ปล.แต่วันนั้นตอนขึ้นมาเราหยดไปแค่ 2RM เราลืม เราคิดว่ามัน 1.70RM แล้วคนขับเค้าน่าจะไม่ได้ดูตอนเราหยอด เราไม่ได้ตั้งใจจริงๆนะ~_~ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1ชั่วโมงค่ะ และที่สำคัญขึ้นรถเมล์ที่นี่ไม่ต้องกลัวขึ้นผิด เพราะว่าถ้าผิด คนขับจะบอกเลยว่าไม่ใช่
เมืองจอร์จทาวน์ ที่พักเราอยู่ห่างจากตึก Komtar ไม่ไกลมากค่ะ เดินไปประมาณ10นาทีก็ถึงแล้ววววว
เราพักที่ Armenian Street Heritage Hotel จองผ่านเว็บ Agoda ห้องพักดี ทำเลดี ราคาน่าคบ เราพัก2คืน จองได้ราคาโปรโมชั่นพอดี 1,500 บาท มีคนมาทำความสะอาดห้องให้ทุกวันค่ะ อุปกรณ์มีครบทั้งในห้องนอน ห้องน้ำ อย่าลืมพกอะแดปเตอร์
ไปด้วยนะจ๊ะ เดี๋ยวจะไม่มีที่ชาร์ตแบตมือถือ เค้าไม่ได้ใช้ปลั๊กแบบบ้านเราค่าาาา
เราถึงที่พักประมาณ 15.00น. ก็เก็บของ นั่งพักสักพัก แล้วเดินออกมาทานข้าวที่ Prangin mall ติดกับตึก Komtar เลยค่าาา มื้อนี้ขอฝากท้องไว้ที่แมคโดนัลด์ เพราะเราอยากได้ตุ๊กตามินเนี่ยน ซึ่งเปิดตัวขายวันแรก อิอิ หลังจากนั้นก็เดินเล่นในห้างสักพัก ดูเวลาอีกทีก็ 17.30 น. แล้วววววววววจ้าาาา เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เราเลยไปวัดตามที่รีวิวก่อนหน้านี้เค้าแนะนำคือ วัด Kek lok si เรานั่ง Uberไปค่ะ แอบบอกว่า Uber ที่นี่ราคาถูกมากค่ะ ไม่มีขั้นต่ำเหมือนบ้านเรา แต่Taxiราคาแพงค่ะ Uberที่นี่หลังจากที่เราเรียกแล้ว เราต้องโทรไปคอนเฟิร์มเค้าว่าเราอยู่ตรงไหน ซึ่งต่างจากไทย เพราะถ้าเป็นในเมืองไทย Uberจะโทรหาผู้โดยสาร แต่ที่นี่ผู้โดยสารต้องโทรนาจาาาาาา แล้วเราก็ไปถึงวัดประมาณ 18.25 น. ปรากฎว่าเซอร์ไพรส์ค่าาาาา วัดนี้ปิดเวลา 18.30น. เลยไม่ได้เข้าไปข้างใน แต่ก็มีต่างชาติหลายคนมาตามหลังเราอยู่นะ ไม่ได้เข้าเหมือนกันค่ะ ถ่ายรูปกันด้านนอกก็ได้เนอะ
หลังจากนั้นก็เรียก Uber กลับเหมือนเดิมค่ะ ค่า Uber 9.98 RM จริงๆวัดนี้มีรถเมล์สาย 203 กับ 204 ผ่านนะคะ อาจมีเยอะกว่านั้น แต่เรารู้แค่นี้ค่าาาาาา
เรานั่งUberมาที่แถวโรงแรม Sentral (ไม่ไกลจาก Komtar) เพราะแถวๆนั้นจะมี Night Market ค่ะ เลยโรงแรมมานิดเดียวแล้วเดินข้ามถนนมาค่า
ค่าาาาาา คร่าวนี้มาลองท้องถิ่นทานบ้าง เค้าเรียกว่าอะไรไม่รู้แต่มันคือเส้นใหญ่บ้านเราหั่นโรยงาแล้วมีซอส3แบบราด (สำหรับเรากินไม่ได้เลยจ้าาาาาา) 2.20RM
เลยต้องซื้อไก่ย่างกิน 4.40RM
เค้าจะมีโต๊ะเก้าอี้อยู่ทางข้างนั่งตรงไหนก็ได้ แต่ว่าต้องสั่งของหวานร้านลุงเค้ากิน มันคือเต้าทึง ถ้าไม่สั่งลุงจะไล่ให้ออกไป น่ากลัวจริมๆ ทุกโต๊ะต้องมีขนมหวานร้านลุงนาจาาาาาาาา หลังจากกินอาหารอะไรเรียบร้อยแล้ว ก็ลองเดินไปเซเว่นแถวๆนั้นดูว่าของเหมือนเมืองไทยมั้ย ส่วนใหญ่ก็คล้ายๆที่ไทย มีเครื่องดื่มบางอย่างที่แตกต่าง เช่น น้ำผลไม้กระป๋องอะไรแบบนี้ น่าจะขายนักท่องเที่ยวจีนไปหลัก ที่นี่คนจีนมาเที่ยวเยอะมากค่ะ ส่วนเครื่องดื่มที่เราลอง คือ Kickapoo รสชาติเหมือนเซเว่นอัพหรือสไปรท์บ้านเราค่ะ ราคา 2.50 RM
แอบบอกว่าร้านเซเว่นหรือมินิมาร์ทที่นี่ราคาแพงกว่าร้านขายของชำทั่วไปนะคะ หลังจากนั้นเราก็เดินกลับโรงแรมค่ะ เพราะอยู่ไม่ไกลกันมาก 15-20นาทีก็ถึง ระหว่างทาง
ถึงโรงแรมที่เราพัก มันก็จะมีตลาดกลางคืนอีกเช่นกันค่ะ เราก็ลองไปเดินดูค่ะ ไปหาขนมหวานเย็นๆ เพราะตอนนั้นเดินมาแล้วร้อนมาก มันคือขนมหวานนมสด ราคา 4 RM
หลังจากทานเสร็จเราก็กลับห้องนอนค่ะ ถึงโรงแรมปุ๊บ ฝนตกเลยจ้าาาาาา นอนหลับสบาย
เดี๋ยวมาต่อวันที่ 2 ของทริปค่ะ