.
ลิเวอร์พูลคือทีมเบอร์ต้นๆทีมหนึ่ง ที่สื่อพยายามจะลงข่าวสารความเคลื่อนไหวในการซื้อขายผู้เล่นในหน้าสื่อต่างๆอย่างมากมาย ทั้งข่าวจริง ข่าวลวง ข่าวปั่น ข่าวมโน เรียกร้องความสนใจให้กับแฟนทีมยักษ์ใหญ่ที่ เจอร์เก้น คล็อปพยายามจะปลุกให้ตื่น
ใครจะเข้ามาบ้าง..?
1.หากดูจากกระแสแล้วเบอร์หนึ่งเลย คงหนีไม่พ้น เวอร์จิล ฟาน ไดร์ กับราคามหาศาลและการก้าวขึ้นเป็นกองหลังที่แพงที่สุดในโลก 60-70 ลป.หากดีลนี้เกิดขึ้นจริง ในขณะที่ลิเวอร์พูลเองแสดงท่าทีชัดเจน ว่าพร้อมสู้ที่ราคา 50 ลป. และเมื่อเจอปั่นราคาจากทีมมหาเศรษฐีอย่างซิตี้ที่เกทับไปที่ 60 ลป.
ในกรณีที่ค่าตัวฟานไดร์อยู่ที่ 60 ลป. ลิเวอร์พูลก็คงงัดไม้เด็ด บวก มามาดู ซาโก้ เซ็นเตอร์ฝีเท้าดีแต่ไม่มีอนาคตกับคล้อป เข้าไปในสัญญาซื้อขายครั้งนี้ด้วย ซึ่งว่ากันตรงๆดูจะคุ้มสำหรับหงส์ ถ้าดีลนี้สำเร็จ 60 ลป.- ค่าตัวชาโก้ที่คงน่าจะไม่น้อยกว่า 20 ลป.(แต่คงไม่ถึง 35. ลป. อย่างที่หงส์ตั้งค่าหัวไว้) ก็ถือว่าพอได้ และได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย หงส์ได้ ฟาน ไดร์ ที่เป็นเป้าหมายหลัก ส่วนนักบุญก็ได้ตัวตายตัวแทนในตำแหน่งเซ็นเตอร์ ต่อให้เลวร้ายจริงๆ นักบุญต้องการเงินเพียวๆ 60 ลป. การจะเร่ขายซาโก้แบบราคาปกติไม่โอเวอร์เรทที่แถว 20-25ลป. ให้กับทีมในพรีเมียร์ก็ไม่ใช่เรื่องยาก
ดังนั้นฟันธงลงสกอร์ไปเลยว่า ถ้าฟานไดร์มีค่าหัว 60 ลป. หงส์แดงก็ไม่น่าจะพลาดที่จะได้ตัว
แต่ถ้ากรณีเซาท์ยืนกรานจะปล่อยให้ที่ 70 ลป. ตามที่ตั้งค่าหัวไว้ ก็ต้องวัดใจคล็อปและทีมงานเจรจาแล้ว ว่าอยากได้จริงๆและมีกึ๋นพอที่จะไม่ให้เคสนี้ มีผลกระทบกับเคสนักเตะรายอื่นที่อยู่ในลิสต์ที่ต้องการซื้อหรือเปล่า เพราะถ้ายอมให้เซาท์โขกไปถึง 70 ลป. ทีมอื่นๆก็ใช้จุดนี้มาขูดราคาค่าตัวนักเตะที่ตัวเองกำลังจะขายให้ลิเวอร์พูลแน่ๆ
โอกาสได้ตัวที่50 ลป. ได้ 100%
โอกาสได้ตัวที่60 ลป. ได้ 70 : 30 แห้ว
โอกาสได้ตัวที่70 ลป. ได้ 30 : 70 แห้ว
2.รายที่สอง ก็คงเป็นเจ้าของสมญา เมสซี่ อิยีปต์ อย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่โรม่าใจแข็งปัด 28 ลป. ในรอบแรกจนหงส์แดงต้องอัพราคาให้เป็น 35 ลป. พร้อมข่าวเจรจาเงื่อนไขค่าเหนื่อยกับนักเตะได้แล้ว แต่เหมือนโรม่าอยากจะได้มากกว่านี้ จึงออกท่าทีอิดออดไม่อยากขาย เพราะอยากจะอัพเกรดค่าตัวให้ได้ถึง 45 ลป. และตอนนี้หงส์แดงก็เหมือนรำคาญ หงายการ์ด
โลภมากนัก กรูไปเอาดักลาส คอสต้าจากบาร์เยิร์นก็ได้
ดังนั้นเมื่อมองจากกระแสข่าวและความน่าจะเป็นแล้ว งบกองหน้าหรือตัวริมเส้นกึ่งปีก งบหงส์แดงคงตั้งไว้ราวๆ 35 ลป.เท่านั้น ก็ขึ้นอยู่กับโรม่าที่จะรั้งซาลาห์ได้รึเปล่า เพราะค่าเหนื่อยที่หงส์เสนอให้ อัพขึ้นจากที่ได้อยู่เดิมถึง 2 เท่า
โอกาสที่จะได้ตัวที่ 35 ลป. 75%
หากให้ฟันธง ก็ต้องบอกว่าโรม่าไม่โลภมาก โอกาสได้ซาล่าห์มาลากเลื้อยก็มีสูง
3.รายที่สาม ที่สร้างกระแสฮือฮาได้พอสมควร กับ นาบี เกอิต้า มิล์ดฟิลตัวแกร่งจาก ไลป์ซิก ซึ่งมองในฐานะแฟนบอล ไอ้ตัวนี้แหละอยากได้มากที่สุด สนนราคาคงจะมีราคาเดียว ค่า 50 ลป. ตามค่าฉีกสัญญา เพียงแต่ว่าทางไลป์ซิกเองก็ประกาสแล้วว่าจะไม่ยอมปล่อยนักเตะตัวหลัก และทางลิเวอร์พูลเองก็ไม่ได้แสดงออกมากนัก เพราะอาจยังวุ่นวายกับการตามเรื่องเป้าหมายหลักอย่าง ฟาน ไดร์ อยู่ในตอนนี้ ซึ่งก็เท่ากับว่า การจะย้ายทีมจะเกิดขึ้นได้มาจากกรณีเดียว คือเจ้าตัวอยากย้ายมาใส่เสื้อ The Kop ซึ่งตามข่าวก็เหมือนจะไม่อยากย้ายเท่าไร ซึ่งอาจจะมีปัจจัยเรื่องค่าเหนื่อยที่อาจสร้างแรงจูงใจให้มากกว่าเดิมก็ได้
แต่ความชัดเจนของตัวนักเตะยังคลุมเคลือ ตัวนี้จึงให้แค่โอกาสที่จะได้ตัวค่อนข้างน้อย เพราะบวกลบ คูณหารแล้ว 150 ลป.ที่เจ้าของทีมพร้อมจะเปย์ให้ ถ้าเอาไปใช้กับ 3 ตัวที่ว่ามานี้ก็หมดพอดี
โอกาสที่จะได้ตัวที่ 50 ลป. 33%
เว้ากันซื่อๆ ตัวนี้โอกาสได้ตัว หริบหรี่เหลือเกิน
แล้วแบ๊คซ้าย ที่ใครๆทั้งโลกรู้ ว่าหงส์ต้องการนักเตะตำแหน่งนี้ล่ะ...?
ก็อาจเป็นได้ที่เคสของ เกอิต้า พลาดเพราะไลปซิกไม่ยอมขาย และหงส์แดงไม่ยอมจ่ายค่าฉีกสัญญา ก็อาจจะเหลือเงินมาช็อปปิ้งนักเตะตำแหน่งนี้
หรือผ่องถ่ายนักเตะที่ไม่อยู่ในแผนการทำทีมออกไป ซึ่งก็คงได้สนนราคาไม่เท่าไร กับค่าหัวของโมเรโน่ ที่อาจย้ายกลับลาลีก้าถิ่นเก่า เต็มที่ 10-15 ลป.
ซึ่งก็ยังไม่พอค่าตัวกับเป้าหมายที่ต้องการในตำแหน่งแบ๊คซ้าย ที้ง ไรอัน เชสเซยอง หรือ แอนดรู โรเบิร์ตสัน 15 ลป.ไม่พอแน่ๆ ไม่ต้องไปพูดถึง เบนจามิน เบนดี้ ที่ค่าตัวกู่ไม่กลับในระดับที่หงส์ไม่มีปัญญาจ่ายแน่ๆ
แต่หงส์แดงก็ยังเหลือทางเลือกที่จ่ายเพิ่มงบมากระชากแบ๊คซ้ายมีระดับ ด้วยการขาย นักเตะระดับโลกบนเตียงรักษาพยาบาลอย่าง ดาเนียล สเอตริจด์ ออกไปเพิ่มหางบเพิ่ม
แต่คำถามก็คือ..? ใครจะเอา
เพราะทีมเดียวที่กระสันต์ วอนทูบี มีอยู่แค่ เวส์แฮมทีมเดียว ซึ่งไม่มีปัญญาจ่ายค่าตัวระดับ35 ลป.อัพแน่ๆ และก็คงยากจะจ่ายค่าเหนื่อยในระดับแสนปอนด์ให้กับ ดาวเตะกระดูกยุง ส่วนทีมที่มีปัญญาจ่าย แต่ก็มีปัญหากับการจะยอมย้ายไปเล่นให้ของสเตอริจด์แน่ๆ คือทีมสโมสรแดนมังกร ที่มีกำลังเงินพอจ่ายแต่ไม่ใช่ไลฟ์สไตล์ที่นักเตะอยากไปอยู่
ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลแล้ว ก็วิเคราะห์และคาดการณ์ได้ว่า
ฤดูกาลหน้า ลิเวอร์พูล ก็ยังคงมีแบ๊คซ้ายที่ชื่อว่า เจมส์ มิลเนอร์ เหมือนเดิม
ส่วนรายชื่ออื่นๆที่มีข่าวเกี่ยวพันกับลิเวอร์พูลตอนนี้ ขอไม่หยิบมาวิเคราะห์แล้วกันนะครับ ขอเลือกเอาแต่ตัวเด็ดๆ ที่อาจจะเข้ายกระดับการเล่นของทีมได้แค่นี้นะครับ ว่ากันตามตรง ตัวที่อยากได้ที่สุดสำหรับผมเอง คือตัวที่มีโอกาสน้อยที่สุดตามความคิดของผมอย่าง นาบี เกอิต้า ส่วนตัวที่เฉยๆหรือไม่รู้สึกอะไรอย่าง ฟานไดร์ ก็ดูทีมจะกระตือรือล้นอยากจะได้ซะเหลือเกิน เฮ้อ...........
*แก้ไข คำว่าโอกาศ เป็น โอกาส
วิเคราะห์ความน่าจะเป็นในตลาดซื้อขาย ลิเวอร์พูล
ลิเวอร์พูลคือทีมเบอร์ต้นๆทีมหนึ่ง ที่สื่อพยายามจะลงข่าวสารความเคลื่อนไหวในการซื้อขายผู้เล่นในหน้าสื่อต่างๆอย่างมากมาย ทั้งข่าวจริง ข่าวลวง ข่าวปั่น ข่าวมโน เรียกร้องความสนใจให้กับแฟนทีมยักษ์ใหญ่ที่ เจอร์เก้น คล็อปพยายามจะปลุกให้ตื่น
ใครจะเข้ามาบ้าง..?
1.หากดูจากกระแสแล้วเบอร์หนึ่งเลย คงหนีไม่พ้น เวอร์จิล ฟาน ไดร์ กับราคามหาศาลและการก้าวขึ้นเป็นกองหลังที่แพงที่สุดในโลก 60-70 ลป.หากดีลนี้เกิดขึ้นจริง ในขณะที่ลิเวอร์พูลเองแสดงท่าทีชัดเจน ว่าพร้อมสู้ที่ราคา 50 ลป. และเมื่อเจอปั่นราคาจากทีมมหาเศรษฐีอย่างซิตี้ที่เกทับไปที่ 60 ลป.
ในกรณีที่ค่าตัวฟานไดร์อยู่ที่ 60 ลป. ลิเวอร์พูลก็คงงัดไม้เด็ด บวก มามาดู ซาโก้ เซ็นเตอร์ฝีเท้าดีแต่ไม่มีอนาคตกับคล้อป เข้าไปในสัญญาซื้อขายครั้งนี้ด้วย ซึ่งว่ากันตรงๆดูจะคุ้มสำหรับหงส์ ถ้าดีลนี้สำเร็จ 60 ลป.- ค่าตัวชาโก้ที่คงน่าจะไม่น้อยกว่า 20 ลป.(แต่คงไม่ถึง 35. ลป. อย่างที่หงส์ตั้งค่าหัวไว้) ก็ถือว่าพอได้ และได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย หงส์ได้ ฟาน ไดร์ ที่เป็นเป้าหมายหลัก ส่วนนักบุญก็ได้ตัวตายตัวแทนในตำแหน่งเซ็นเตอร์ ต่อให้เลวร้ายจริงๆ นักบุญต้องการเงินเพียวๆ 60 ลป. การจะเร่ขายซาโก้แบบราคาปกติไม่โอเวอร์เรทที่แถว 20-25ลป. ให้กับทีมในพรีเมียร์ก็ไม่ใช่เรื่องยาก
ดังนั้นฟันธงลงสกอร์ไปเลยว่า ถ้าฟานไดร์มีค่าหัว 60 ลป. หงส์แดงก็ไม่น่าจะพลาดที่จะได้ตัว
แต่ถ้ากรณีเซาท์ยืนกรานจะปล่อยให้ที่ 70 ลป. ตามที่ตั้งค่าหัวไว้ ก็ต้องวัดใจคล็อปและทีมงานเจรจาแล้ว ว่าอยากได้จริงๆและมีกึ๋นพอที่จะไม่ให้เคสนี้ มีผลกระทบกับเคสนักเตะรายอื่นที่อยู่ในลิสต์ที่ต้องการซื้อหรือเปล่า เพราะถ้ายอมให้เซาท์โขกไปถึง 70 ลป. ทีมอื่นๆก็ใช้จุดนี้มาขูดราคาค่าตัวนักเตะที่ตัวเองกำลังจะขายให้ลิเวอร์พูลแน่ๆ
โอกาสได้ตัวที่50 ลป. ได้ 100%
โอกาสได้ตัวที่60 ลป. ได้ 70 : 30 แห้ว
โอกาสได้ตัวที่70 ลป. ได้ 30 : 70 แห้ว
2.รายที่สอง ก็คงเป็นเจ้าของสมญา เมสซี่ อิยีปต์ อย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่โรม่าใจแข็งปัด 28 ลป. ในรอบแรกจนหงส์แดงต้องอัพราคาให้เป็น 35 ลป. พร้อมข่าวเจรจาเงื่อนไขค่าเหนื่อยกับนักเตะได้แล้ว แต่เหมือนโรม่าอยากจะได้มากกว่านี้ จึงออกท่าทีอิดออดไม่อยากขาย เพราะอยากจะอัพเกรดค่าตัวให้ได้ถึง 45 ลป. และตอนนี้หงส์แดงก็เหมือนรำคาญ หงายการ์ด โลภมากนัก กรูไปเอาดักลาส คอสต้าจากบาร์เยิร์นก็ได้
ดังนั้นเมื่อมองจากกระแสข่าวและความน่าจะเป็นแล้ว งบกองหน้าหรือตัวริมเส้นกึ่งปีก งบหงส์แดงคงตั้งไว้ราวๆ 35 ลป.เท่านั้น ก็ขึ้นอยู่กับโรม่าที่จะรั้งซาลาห์ได้รึเปล่า เพราะค่าเหนื่อยที่หงส์เสนอให้ อัพขึ้นจากที่ได้อยู่เดิมถึง 2 เท่า
โอกาสที่จะได้ตัวที่ 35 ลป. 75%
หากให้ฟันธง ก็ต้องบอกว่าโรม่าไม่โลภมาก โอกาสได้ซาล่าห์มาลากเลื้อยก็มีสูง
3.รายที่สาม ที่สร้างกระแสฮือฮาได้พอสมควร กับ นาบี เกอิต้า มิล์ดฟิลตัวแกร่งจาก ไลป์ซิก ซึ่งมองในฐานะแฟนบอล ไอ้ตัวนี้แหละอยากได้มากที่สุด สนนราคาคงจะมีราคาเดียว ค่า 50 ลป. ตามค่าฉีกสัญญา เพียงแต่ว่าทางไลป์ซิกเองก็ประกาสแล้วว่าจะไม่ยอมปล่อยนักเตะตัวหลัก และทางลิเวอร์พูลเองก็ไม่ได้แสดงออกมากนัก เพราะอาจยังวุ่นวายกับการตามเรื่องเป้าหมายหลักอย่าง ฟาน ไดร์ อยู่ในตอนนี้ ซึ่งก็เท่ากับว่า การจะย้ายทีมจะเกิดขึ้นได้มาจากกรณีเดียว คือเจ้าตัวอยากย้ายมาใส่เสื้อ The Kop ซึ่งตามข่าวก็เหมือนจะไม่อยากย้ายเท่าไร ซึ่งอาจจะมีปัจจัยเรื่องค่าเหนื่อยที่อาจสร้างแรงจูงใจให้มากกว่าเดิมก็ได้
แต่ความชัดเจนของตัวนักเตะยังคลุมเคลือ ตัวนี้จึงให้แค่โอกาสที่จะได้ตัวค่อนข้างน้อย เพราะบวกลบ คูณหารแล้ว 150 ลป.ที่เจ้าของทีมพร้อมจะเปย์ให้ ถ้าเอาไปใช้กับ 3 ตัวที่ว่ามานี้ก็หมดพอดี
โอกาสที่จะได้ตัวที่ 50 ลป. 33%
เว้ากันซื่อๆ ตัวนี้โอกาสได้ตัว หริบหรี่เหลือเกิน
แล้วแบ๊คซ้าย ที่ใครๆทั้งโลกรู้ ว่าหงส์ต้องการนักเตะตำแหน่งนี้ล่ะ...?
ก็อาจเป็นได้ที่เคสของ เกอิต้า พลาดเพราะไลปซิกไม่ยอมขาย และหงส์แดงไม่ยอมจ่ายค่าฉีกสัญญา ก็อาจจะเหลือเงินมาช็อปปิ้งนักเตะตำแหน่งนี้
หรือผ่องถ่ายนักเตะที่ไม่อยู่ในแผนการทำทีมออกไป ซึ่งก็คงได้สนนราคาไม่เท่าไร กับค่าหัวของโมเรโน่ ที่อาจย้ายกลับลาลีก้าถิ่นเก่า เต็มที่ 10-15 ลป.
ซึ่งก็ยังไม่พอค่าตัวกับเป้าหมายที่ต้องการในตำแหน่งแบ๊คซ้าย ที้ง ไรอัน เชสเซยอง หรือ แอนดรู โรเบิร์ตสัน 15 ลป.ไม่พอแน่ๆ ไม่ต้องไปพูดถึง เบนจามิน เบนดี้ ที่ค่าตัวกู่ไม่กลับในระดับที่หงส์ไม่มีปัญญาจ่ายแน่ๆ
แต่หงส์แดงก็ยังเหลือทางเลือกที่จ่ายเพิ่มงบมากระชากแบ๊คซ้ายมีระดับ ด้วยการขาย นักเตะระดับโลกบนเตียงรักษาพยาบาลอย่าง ดาเนียล สเอตริจด์ ออกไปเพิ่มหางบเพิ่ม
แต่คำถามก็คือ..? ใครจะเอา
เพราะทีมเดียวที่กระสันต์ วอนทูบี มีอยู่แค่ เวส์แฮมทีมเดียว ซึ่งไม่มีปัญญาจ่ายค่าตัวระดับ35 ลป.อัพแน่ๆ และก็คงยากจะจ่ายค่าเหนื่อยในระดับแสนปอนด์ให้กับ ดาวเตะกระดูกยุง ส่วนทีมที่มีปัญญาจ่าย แต่ก็มีปัญหากับการจะยอมย้ายไปเล่นให้ของสเตอริจด์แน่ๆ คือทีมสโมสรแดนมังกร ที่มีกำลังเงินพอจ่ายแต่ไม่ใช่ไลฟ์สไตล์ที่นักเตะอยากไปอยู่
ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลแล้ว ก็วิเคราะห์และคาดการณ์ได้ว่า ฤดูกาลหน้า ลิเวอร์พูล ก็ยังคงมีแบ๊คซ้ายที่ชื่อว่า เจมส์ มิลเนอร์ เหมือนเดิม
ส่วนรายชื่ออื่นๆที่มีข่าวเกี่ยวพันกับลิเวอร์พูลตอนนี้ ขอไม่หยิบมาวิเคราะห์แล้วกันนะครับ ขอเลือกเอาแต่ตัวเด็ดๆ ที่อาจจะเข้ายกระดับการเล่นของทีมได้แค่นี้นะครับ ว่ากันตามตรง ตัวที่อยากได้ที่สุดสำหรับผมเอง คือตัวที่มีโอกาสน้อยที่สุดตามความคิดของผมอย่าง นาบี เกอิต้า ส่วนตัวที่เฉยๆหรือไม่รู้สึกอะไรอย่าง ฟานไดร์ ก็ดูทีมจะกระตือรือล้นอยากจะได้ซะเหลือเกิน เฮ้อ...........
*แก้ไข คำว่าโอกาศ เป็น โอกาส