วีรกรรมตอนป.3

วันนี้มีเรื่องที่อยากจะมาระบายออกซักหน่อยเพราะพุดกับใครไม่ได้เลย
         เริ่มเรื่องตั้งแต่เด็กๆเลยนะคะสมัยอนุบาลเลยค่ะ ช่วงนั้นพูดง่ายๆว่าพ่อกับแม่จะต้องทำงานเพื่อหาเงินมาเลี้ยงเรา เราเลยไม่มีใครดูแล แม่จะฝากเราให้ลุงเลี้ยงที่โรงพัก แต่ลุงก็งานหนักมากเหมือนกันช่วงนั้นแต่ลุงก็แนะนำให้เอาเราไปฝากเลี้ยงกับเมียเพื่อนแกคนนึง น้าดูแลเราเปนอย่างดีหาข้าวหาน้ำให้ พาไปเที่ยวนู่นนี้นั่น ป้อนข้าวป้อนน้ำเราเป็นเหมือนแม่คนที่สอง เรียกได้ว่าผูกพันธ์มากๆ ตอนนั้นนะอยากจะให้แกมาเป็นน้าแท้ๆเลยด้วยซ้ำ แต่หลังๆเราไม่ค่อยได้อยุ่กับน้าแล้วค่ะ จะไปอยุ่กับป้ามากกว่า ป้าก็เปนพี้สาวของแม่ค่ะเป็นญาติกัน เขาก็ดูแลเราอย่างดีเช่นกัน แต่พอมีวันหยุดเราก็ขอแม่ไปหาน้าประจำ คือเอาเป็นว่าไม่ว่าจะมีใครดีกับเราแค่ไหนเราก็ไม่เคยลืมน้าเลยทั้งที่เขาเป็นแค่พี่เลี้ยงไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเราเลยด้วยซ้ำ แต่เรากลับอยากอยุ่กับน้ามากกว่า ทั้งๆที่อยุ่กับป้าก็สบายกว่าได้กินแต่ของดีๆ แต่อยุ่กับน้าไม่ค่อยได้กินอะไรดีๆหรอกค่ะได้เล่นแค่ของเล่นที่น้าทำขึ้นมาเอง แต่เรากลับคิดถึงน้ามากกว่าเวลาที่มีวันหยุดก็อยากไปอยุ่กับเขามากกว่า เป็นไปได้ไหมคะที่เด็กคนนึงจะรักและผูกพันธ์กับพี่เลี้ยงได้ขนาดนี้
                     หลังจากนั้นไม่นาน ....ประมานป.2 อยุๆน้าก็หายไปไหนไม่รู้ ถามแม่ว่า"แม่ น้าไปไหนจะกลับมาวันไหนลูกอยากเล่นของเล่นของน้า" แม่บอกว่า "น้าไม่กลับมาแล้ว" แค่คำนี้ค่ะ  คำเดียว เหมือนตายทั้งเป็น วินาทีนั้นรุ้สึกแย่มากจริงๆ น้าไปไหนหายไปทั้งบ้าน ถามป้าลุงก็อ้ำๆอึ้งๆ ไม่มีใครตอบได้ซักคน แม่กับป้าและพี่สาวที่เป็นลูกของป้าพูดแค่ว่า"อย่าพุดถึงน้าให้ลุงได้ยินอิกนะ" แต่ก็มีหลายครั้งนะคะ คือเราแบบ...ยังทำใจไม่ได้จริง ก็พูดออกมาตอนอยู่กับป้าลุงว่า "คิดถึงน้าจัง ไม่รุ้ตอนนี้น้าทำอะไรอยุ่" ก็จะโดนด่าบ้างล่ะว่าจะพุดถึงอิกทำไมประมานนั้น
                บ้านที่น้าอยุ่ก็ไม่มีใครอยุ่มาเกือบปีจนเราขึ้นป.3 ช่วงนั้นลุงก็ยังเป็นตำรวจอยุ่โรงพักค่ะ  ตอนแม่ไปหาลุง เราก็เดินไปที่บ้านพักตำรวจที่น้าเคยอยุ่ทุกครั้ง... และมีครั้งนั้น  ที่เราเห็นประตูบ้านน้าเปิดอยุ่ค่ะ  จากที่ในบ้านไม่มีของอะไรเลย  ตอนนั้นทีวีตุ้เย็นพัดลมมีครบหมด เรานี่ก็ดีใจ  ด้วยความเป็นเด็กคิดว่าน้ากลับมาแล้ว เลยเดินเข้าไป แต่ยังไม่ทันได้เข้าไปในบ้านค่ะ ก็เห็นผญ.คนนึงกำลังทำความสะอาดบ้านอยุ่ ไม่ใช่น้า เราก็รีบวิ่งไปบอกแม่นะ ว่ามีใครอยุ่ในบ้านน้าก็ไม่รู้ แม่บอกว่า "เขาคนนั้นมาอยุ่แทนน้า" ด้วยความเปนเด็กขี้สงสัยเลยถามอีกว่า"ทำไมเขาต้องมาอยุ่แทนน้าด้วยอ่ะ  ถ้าน้ากลับมาแล้วน้าจะไปอยุ่ที่ไหน" เราเริ่มขึ้นเสียง ส่วนแม่ก็เริ่มหงุดหงิด ตอบว่า "น้ากลับมาไม่ได้แล้ว !!! มีคนมาอยุ่แทนแล้วไม่เห็นรึไง!!" ตอนนั้นไม่มีใครบอกเหตุผลอะไรเลยว่าทำไมน้าถึงกลับมาไม่ได้ บอกแค่ว่าทีคนมาอยุ่แทนแล้ว แค่นั้น..... เราด้วยความเป็นเด็กที่ยังเอาแต่ใจอยู่ เลยคิดว่าเป็นเพราะผญ.คนนั้นมาอยุบ้านนั้นน้าเลยกลับมาไม่ได้ ทำให้เราไม่ชอบเขามากๆ
              พอเปิดเทอมป.3เราเจอผญ.คนนั้นคนที่ไปอยุ่บ้านน้าเราน่ะค่ะ เจอในฐานะครูประจำชั้นและครูภาษาไืทย  บังเอิญมากเลยใช่มั้ยล่ะ  ตอนนั้นเราก็คิดว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญมากจริงๆ เราอคติกับครูคนนั้นตั้งแต่ที่เห็นเค้าอยุ่ในบ้านน้าแล้วว แล้วนี้ยังมาเจอในรร.อีก เป็นอะไีรที่อึดอัดและเก็บกดมาก เรียกได้ว่าเกลียดเลยแหละ เวลาเขาสั่งงานหรือการบ้านเราเป็นคนเดียวในห้องที่ไม่เคยทำตามเลย แต่ครูตีเราเบามากๆถ้าเทียบกับเด็กคนอื่นๆ มีบางทีนะ ครูใช้เราไปซื้อขนมหรือมาม่า เขาบอกว่าอย่าใส่พริกเยอะนะครูกินเผ็ดไม่ได้ เรานี่ก็ใส่ซะหมดเลยค่ะ  เผ็ดแทบตาย แต่เขาก็กินจนหมดและไม่ว่าอะไรซักคำเลย
                 ตอนนั้นเหมือนเขาจะรุ้นะคะว่าเราอคติกับเขาเหมือนจะพยายามพูดดีด้วย ให้ตังค์ซื้อขนมด้วย  เราไม่เคยรับค่ะ และเวลาเจอไม่เคยสวัสดีครูเขาเลย
                    จนวันนึงค่ะกำลังจะสอบปลายภาคป.3 เราอึดอัดจริงๆ คือแบบ... มันรู้สึกแย่นะที่คนที่ตัวเองเกลียดพยายามมาทำดีด้วย เลยเขียนจดหมายไปค่ะฉบับนึง เราก็จำได้ไม่หมดละ จำได้คร่าวๆว่า หนูเกลียดครูภาษาไทยที่ชื่อนี้.....นามสกุลนี้.... ใส่ชื่อนามสกุลเขาไปเลยค่ะ และบอกอีกว่า สอนก็แย่ไม่อยากเรียนกับครู บอกประมานว่าไม่อยากให้ครูอยุ่ทั่นี้ไม่อยากเห็นหน้า ย้ายออกไปซะ จำได้ประมานนี้ค่ะ
                   พอครูได้อ่าน เขาก็เรียกเราไปคุย เขาถึงขั้นร้องไห้เลยและบอกเราว่า "ครูทำอะไรผิด? ทำไมถึงเกลียดครู ทั้งที่ครูตีหนูเบาที่สุด ไม่เคยด่าไม่เคยว่าเวลาหนูทำผิด ครูไม่คิดเลยว่าคนที่ครูเห็นมาตั้งแต่เล็กๆจะทำกับครูแบบนี้" ตอนนั้นเราไม่ออกเลยค่ะ ใบ้- คือตกใจที่เขาร้องไห้หนักมากๆแบบผิดหวังเรามากๆ ตอนนั้นเราก็ขอโทษเขานะคะ  แต่เป็นคำขอโทษที่ไม่จริงใจเท่าไหร่ แบบขอโทษให้จบๆไปอ่ะ
                หลังจากวันนั้นเราก็ใช้ชีวิตปกติค่ะ จนขึ้นป.4เราก็ได้เรียนกับครูภาษาไทยคนใหม่ ไม่ค่อยได้เจอเขาแล้ว แต่ก็มีเจอบ้าง  ก็เดินกันเหมือนคนที้ไม่เคยรุ้จักกันอ่ะ ทั้งที่ก่อนที่เราจะเขียนจดหมายไปด่า เขาดีกับเรามากๆๆๆ แต่ตอนนั้น เราก็คิดว่า ดีแล้วล่ะ ที่ทำเป็นไม่รู้จักกัน ก่อนที่จะเกลียดไปมากกว่านี้
               เราเรียนใช้ชีวิตไปเรื่อยๆในรร.จนถึงป6ค่ะ   ช่วงวันหยุดก็หรือปิดเทอมก็ไปอยู่กับป้าลุงมากขึ้น แต่ก็ยังคิดถึงน้าอยุ่ตลอดเลย แต่ไม่กล้าพูดถึงเพราะรุ้สึกได้เลยว่าป้าลุงไม่ชอบน้าเอามากๆ แต่ตอนนั้นมันก็ผ่านมาหลายปีแล้วล่ะ เราเลยลองถามป้าค่ะถามตรงๆเลยว่า ตอนนั้นทำไมน้าถึงย้ายไป ป้าไม่โมโหเหมือนเมื่อก่อนแล้ว แต่ก็เปลี่ยนเรื่องไม่ตอบเหมือนเดิม จนวันนึงเราได้ยินลุงคุยกับป้าค่ะเรื่องน้า ได้ยินประมานว่า แฟนของน้าติดยา ลุงเลยต้องบังคับให้ต้องลาออกจากตำรวจก่อนที่เรื่องจะถึงเบื้องบน และน้าก็โกรธลุงมากๆ ไม่รับฟังอะไรเลย และย้ายออกจากบ้านพักโดยไม่บอกใครล่วงหน้าเลย
             ตอนนั้นเราก็ได้รู้แล้วค่ะ ว่าที่น้าต้องย้ายไปไม่ใช่เพราะครูคนนั้น แต่สาเหตุมาจากสามีของน้าค่ะ
ตอนนั้นก็รู้สึกผิดนะคะ แต่ก็คิดว่าเรื่องมันนานละช่างมันเถอะ
             หลังจากนั้นตอนเจอครูเขาที่รร.เราก็มีสวัสดีบ้างยิ้มให้บ้างเจอเฟสบุ้คเขาก็แอดไปค่ะ ตอนนั้นสร้างเฟสบุ้คตอนป.6พอดี ตอนนั้นเราก็ลดอคติลงได้บ้างแล้วค่ะ เจอก็ทักทายปกติ
        จนขึ้นม.3เริ่มโตขึ้น วันนึงค่ะมีงานวัดที่วัดๆหนึ่ง เราก็ไปกับแม่  ปกติค่ะ และบังเอิญเจอน้ามนรอบ7ปีได้มั้ง น้าดูเปลี่ยนไปมากค่ะเราจำไม่ได้เลย แต่น้าจำเราได้ เดินเข้ามาทักค่ะ เราก็งงนะว่าใคร แม่บอกว่า จำไม่ได้หรอน้าไง ตอนนั้นเราทำไรไม่ถุกเลยดีใจมากๆไม่ได้ถามพุดอะไรเลย ถามแค่สบายดีมั้ย ตอนนี้อยุ่ไหนน้องๆเป็นยังไงบ้าง และก็ได้รุ้ว่าน้าเลิกกับสามีแล้วเพราะสามีติดยา คุยได้ไม่นานค่ะน้าก็ต้องรีบกลับบ้านอีก ตอนนั้นแม่กับน้าเหมือนจะพูดถึงคุณครูคนนั้น เราขอเรียกแทนว่าครูน.ละกันค่ะ น้าถามแม่ว่า "น้องน.เป็นยังไงบ้าง ได้ข่าวว่าไปสอนรร.ที่ลูกอยู่" แม่ตอบว่า"สบายดี ประจำชั้นลูกตอนป.3" ตอนนั้นเราก็รู้เลยว่าแม่กับน้ากำลังพูดถึงครูคนนั้น แต่คุยไม่ทันจบ ลูกของน้าก็โทตาม ตอนนั้นค้างคามากก อยากรู้มากว่าครูน.มีอะไรเกี่ยวข้องกับน้า ในขณะนั้น คำพุดที่ครูน.เคยบอกว่า เขาเห็นเรามาตั้งแต่เด็กๆก็ผุดขึ้นมา เราสงสัยมากๆว่าเขาเป็นใครกันแน่เกี่ยวข้องอะไรกับน้า ทำไมน้าต้องถามถึง ทำไมต้องดูเป็นห่วงขนาดนั้น แต่ก็ไม่กล้าถามใครเลยค่ะ ตอนนั้นที่ไม่กล้าถามเหมือนกลัวความจริงมากกว่า เราก็ปล่อนให้เรื่องนี้คาใจมาจนถึงม.6ค่ะ กำลังจะไปเรียนต่อกทม.บังเอิญเจอน้าอีกครั้งที่ปั๊มน้ำมัน ดีใจมากๆๆๆๆ ตอนนั้นได้รู้ว่าน้ามีแฟนใหม่และย้ายที่อยู่อีกแล้ว คุยไม่เท่าไหร่ก็ต้องแยกกัน ตอนนั้นเอง  เรื่องครูน.ก็ผุดขึ้นมาอีก เราบอกแม่ว่าช่วงปิดเทอมก่อนจะไปเรียนกทม.ไปส่งบ้านป้าหน่อยนะ คิดถึงป้ากับลุง....
              พอเจอป้ากับลุงค่ะ เราไม่ได้ถามถึงน้าแล้วล่ะ แต่ถามพวกเขาว่า"ป้ากับลุงรู้จักกครูน.ไหม เขาเคยบอกลูกนานแล้วว่าเคยเห็นลูกตั้งแต่ยังเล็กๆ เขาเป็นใครคะ??" ลุงตอบว่า "อ่อ ครูน.ก็น้องสาวน้าไง จำได้มั้ย เขาเคยมาเล่นกับลูกอยู่บ่อยๆ ตอนน้าไปรับเด็กๆที่รร.เขามาเล่นเปนเพื่อนบ่อย เป็นน้องสาวแท้ของน้าเลย"
          พอได้ยินแบบนี้ ให้ทายค่ะว่าเรารู้สึกยังไง รู้สึกแย่ยิ่งกว่าตอนที่รู้ว่าน้าจะไม่กลับมาแล้วอีกนะคะ ก็กลับไปหวนคิดว่า แล้วสิ่งที่เราเคยทำกับเขาล่ะ ที่เขาร้องไห้ ที่เขาเสียใจเพราะเรา  ทำไมเขาไม่เคยบอกเราเลยว่าเขาเป็นใคร ตอนนั้นยิ่งกว่ารุ้สึกผิดค่ะ ละอายใจมาก เรื่องนี้ทำเราเครียดมากส่งผลทำให้แอดไม่ติดซักที่เลย มหาลัยที่สอบได้ที่กทม ที่กำลังจะขึ้นไปรายงานตัว ก็ลืมค่ะ เหมือนเป็นอัลไซเมอร์ชั่วคราวไปเลย จนต้องไปเรียนรามคำแหง เพราะไม่อยากรอแอดรอบสองแล้ว
             ไปอยุกทมแล้วก็ยังไม่ดีขึ้นนะคะ เริ่องนี้ตามหลอกหลอนเราตลอดเลย เวลาปิดเทอมกลับบ้าน เวลาเจอเขา เราไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้า ไม่กล้าสู้หน้าด้วยซ้ำ จนอยู่ปี3ค่ะ เราตัดสินใจค้นหาชื่อเขาในเฟสก็เจอเพราะเป็นเพื่อนในเฟสมาตั้งแต่เราอยุ่ป.6แล้วค่ะ ตัดสินใจทักไปถาม ว่าสบายดีมั้ยเป็นยังไงบ้าง ครูน.ก็ตอบมาดีนะคะ ถามว่าเรียนไหนเป็นไงบ้าง คุยกันอยุ่พักนึกค่ะ เราก็พิมไปว่า "เรื่องตอนนั้นหนูขอโทษนะคะ ที่เคยทำแย่ๆใส่ หนุพึ่งมารู้ว่าครูเป็นน้องของน้าเคยดูแลหนูตั้งแต่เล็กๆเหมือนกัน เท่ากับครูก็เป็นน้าของหนูคนนึง" ครูเขาเงียบไปพักนึงเลยค่ะ ตอบมาแค่ว่า"ไม่เป็นไรหรอก เรื่องสิบกว่าปีแล้ว อย่าพูดถึงเลย" คำตอบแบบนี้คืออะไรหรอคะ เขาเกลียดเราไปแล้วใช่ไหม เราก็พยายามเฟสคุยกับเขานะคะ ว่าเดี๋ยวกลับบ้านจะไปเยี่ยมนะคะ  เขาตอบกลับมาว่า ไม่เป็นไรค่ะ ....คือไรอะคือเขาไม่อยากเจอเราใช่ไหม

             ตอนนี้ก็กำลังจะปี4ละค่ะ ปิดเทอมเราก็กลับบ้านปกติ ดูในเฟสเขาว่าเขายังอยุ่ที่เดิมรึเปล่า และเลิกจากรร.แล้วเขาไปไหนบ้าง ก็รู้มาว่าเขายังอยู่ที่บ้านพักตำรวจเหมือนเดิม ลองไปหาเขาที่บ้านค่ะแต่ก็ไม่เจอ พยายามไปทุกที่ค่ะที่คิดว่าจะเจอเขา จนวันนี้นี่แหละ เจอเขาเดินออกมาจากบ้านพัก เขาหันมามองเรานะ(น้องเห็น)แต่เราลับก้มหน้าค่ะ คือไม่กล้าสุ้หน้าจริงๆ และไปเจอเขาอีกทีที่ร้านข้าว เรานั่งโต้ะหลังเขาค่ะ แต่เขานั่งคุยกับเพื่อนอยุ่เลยไม่กล้าทัก พอกินเสร็จเขาก็ลุกขึ้นค่ะ เราก็เรียกเขาทักทายสวัสดีตามปกติ เขาหันมายิ้มแบบไม่เต็มใจจะรับไหว้ด้วยซ้ำ ยังไม่ทันได้คุยอะไรค่ะเขาก็ไปซะก่อน
   เราอยากจะพูดคำว่าขอโทษให้ชัดเจนและต่อหน้าเขาด้วยควาทสำนึกผิดจริงๆ แต่พอเจอจริงๆพูดไม่ได้ทุกทีค่ะ เคยขอโทษในเฟสก็จริง แต่ทันก็ไม่เหมือนได้ขอโทษซึ่งๆหน้านะคะ ไม่รุ้ต้องทนเก็บความรู้สึกผิดนี้ไปอีกกี่ปี เรื่องก็ผ่าน13ปีแล้ว
   ความผิดครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิต คงลืมไม่ได้ไปจนตายเลยล่ะค่ะ ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสขอโทษเขารึเปล่า.....((((ขอบคุณสำหรับคนที่เข้ามาอ่านเรื่องของเรานะคะ อัดอั้นมานานแล้วจริงๆได้ระบายออกก็กัขึ้นนิดนึงค่ะ )))))) >>>ใครอยากแนะนำอะไรคอมเมนต์ไดนะคะ<<<<<
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่