กลายเป็นประเด็นแห่งชาติของแท้ไปแล้วหลังจากที่ ‘เปรี้ยว อึ๋ม..หั่น..สังหาร’ ถูกสื่อนำภาพกิจวัตรในโรงพักมาตีแผ่จนหลายๆ คนเห็นได้ว่า เปรี้ยวได้รับการแลดูปูเสื่ออย่างดี ไม่บอกก็ไม่รู้เลยว่าโดนคดีฆ่าหั่นศพมา จนสังคมเริ่มตั้งแง่ให้แก่ทางตำรวจว่า “ดูแลนางอย่างกับเซเลป” ซึ่งส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยที่เปรี้ยวจะได้รับการปฏิบัติเยี่ยงนี้ และยิ่งไปกว่านั้น..เมื่อไม่นานมานี้ นักสิทธิมนุษยชนเริ่มเคลื่อนไหวด้วยการให้ความเห็นว่า “สังคมควรให้อภัยเปรี้ยว” แน่นอนว่าย่อมเกิดความ ‘หัวร้อน’ ไปทั่วทุกสารทิศอย่างอดไม่ได้
แต่ในขณะที่หลายๆ คนกำลังหัวร้อนกับการที่เปรี้ยวได้รับการปฏิบัติเยี่ยง ‘เซเลบริตี้’ หรือ ‘เซเลบ’ ประเด็นนี้กลับทำให้ผมนึกย้อนไปถึงอีก 1 ฆาตกรที่ “กลายมาเป็นเซเลปจริงๆ” และในกระทู้นี้ ผมจะพาทุกท่านไปรู้จักเขากันครับ..
คำเตือน: ความชอบที่มีต่อหนังสยองขวัญไม่ส่งผลให้เกิดพฤติกรรมส่อไปในทางของความต้องการคร่าชีวิตแต่อย่างใด
“บางคนเลือก ‘คร่าชีวิต’ เพื่อดับความหิวโหยทางจิตของตนเอง”
‘อิสเซ ซางาวะ’ เชฟซาซิมิ ‘เนื้อผู้หญิง’
เมื่อชายคนหนึ่งตกหลุมรักผู้หญิงคนหนึ่ง..ความสวยงามทั้งรูปร่างและสติปัญญาของเธอมันทำให้เขาหลงไหลจนอยากจะกินกลืนเธอทั้งตัวไม่อยากเหลือไว้ให้ใครได้กลิ่น..
กำเนิดความหิวโหย
อิสเซ ซางาวะ ชายชาวญี่ปุ่นผู้เกิดในครอบครัวที่ร่ำรวยวันที่ 24 เมษายน ค.ศ. 1949 (พ.ศ. 2492) เมืองโกเบ จังหวัดเฮียวโงะ การคลอดก่อนกำหนด ส่งผลให้รูปร่างของเขากลายเป็นชายร่างเล็กกว่าคนทั่วไป เมื่อถึงยามเจริญวัยเต็มที่แล้วเขามีความสูงเพียง 152 เซนติเมตร แต่รูปร่างแคระแกร็นของเขาก็ทดแทนด้วยความอัจฉริยะด้านศาสตร์แห่งภาษา อิสเซสนใจด้านวรรณกรรมและภาษามาตั้งแต่เด็ก
“ทุกอย่างมันเริ่มขึ้นเมื่อตอนที่ผมดันไปเห็นต้นขาขาวๆ ของผู้ชายคนหนึ่ง..
ตอนนั้นผมไม่ได้ไปกัดหรือทำอะไรผู้ชายคนนั้น..มันเป็นแค่ความคิด..
แต่ความคิดนั้นมันกลายมาเป็นความรู้สึกฝังอยู่ในใจผมมาโดยตลอด..
ผมอยากลองกินเนื้อคน”
เมื่ออายุ 23 อิสเซกระทำการครั้งแรกด้วยการสะกดรอยตามครูสาวผู้สอนภาษาเยอรมันให้แก่อิสเซไปถึงอพาร์ทเมนต์ในย่านโตเกียว รอเธอจนหลับ..แต่วันนั้นอิสเซไม่ได้พกอะไรมาเป็นอาวุธเลยนอกจากร่มคันหนึ่ง และโชคดีสำหรับเธอ (แต่โชคร้ายสำหรับอิสเซ) เมื่ออิสเซเข้าไปถึงห้องแล้วครูสาวคนนั้นกลับรู้สึกตัวก่อน ครูสาวจึงอาศัยความได้เปรียบด้านร่างกายที่สูงใหญ่กว่าขัดขืนอิสเซก่อนจะส่งไปหาตำรวจ ในตอนนั้นไม่มีใครรู้ว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงของอิสเซคืออะไร ตำรวจจึงลงข้อหาไว้เพียงล่วงละเมิดทางเพศ
และเมื่อเรื่องถึงหูพ่อของอิสเซ พ่อของอิสเซกลับใช้เส้นสายจากความร่ำรวยของตนวิ่งเต้นจนอิสเซหลุดพ้นจากข้อหาก่อนจะส่งอิสเซไปเรียนต่างประเทศเพื่อรอให้เรื่องฉาวคาวกามของอิสเซนั้นเบาลง
อิสเซใช้เวลาที่ตนอยู่เมืองนอกไปกับการพร่ำเรียนเพียรศึกษาจนสอบติดปริญญาเอก มหาวิทยาลัยปารีส ซอบบอนน์ (Paris Sorbonne University) ที่ในขณะนั้นถือเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกด้านมานุษยวิทยาและวรรณกรรม
หมาป่าแรกเริ่มล่า
ถึงแม้ว่าชีวิตปริญญาเอกของอิสเซจะเต็มไปด้วยมรสุมที่ต้องฝ่าเพื่อรับใบปริญญา แต่ความหนักหนาของมรสุมก็ไม่ได้ทำให้ปมแห่งความพิศมัยเนื้อมนุษย์ของอิสเซนั้นลดลงเลย อิสเซยังใช้เวลาส่วนหนึ่งไปกับการซื้อบริการโสเภณีมากินมื้อค่ำและร่วมรักกันเกือบทุกค่ำคืน ก่อนจะปิดท้ายด้วยสิ่งที่เขาปักธงหลักไว้ คือการเชือดแล้วชิม แต่ทว่า..
“ผมพยายามจะยิงพวกเธอตั้งหลายรอบ
แต่ไม่รู้ทำไมในทุกครั้งที่ผมกำลังจะเหนี่ยวไก..
นิ้วของผมมันเหนี่ยวไม่ลงทุกที”
เป็นสัตว์กินเนื้อห้ามหลงรักเหยื่อ(?)
ก่อนที่อิสเซจะลงมือเชือดแล้วชิมโสเภณีคนไหนไปเสียก่อน เขากลับได้พบกับ ‘เรเน่ ฮาร์ทเวลต์’ หญิงสาวชาวดัทช์ อายุ 25 ปี รูปร่างสูงโปร่ง 178 เซนติเมตร ผมบลอนด์ ไม่ต่างอะไรจากนางแบบ แถมยังมีความสดใสร่าเริงในตัว ฉลาด พูดได้ถึง 3 ภาษา
แทนที่เรเน่จะรังเกียจในความเอเชีย และรูปร่างแคระแกร็นของอิสเซเหมือนกับคนอื่นๆ กลับเข้าหา มอบความเป็นเพื่อน พูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้ด้านวรรณกรรมซึ่งถูกคอกันเป็นอย่างดี อิสเซมีความรู้สึกให้แก่เรเน่อย่างจริงจัง แต่บังหน้าความต้องการใกล้ชิดด้วยการจ้างเรเน่สอนความรู้เพิ่มเติมด้านภาษาเยอรมันด้วยค่าจ้างสูงพอตัว และเรเน่เองก็ตอบตกลง
เรเน่ใช้เวลาไปไหนมาไหนกับอิสเซอยู่บ่อยๆ ทั้งดูคอนเสิร์ต ดูงานนิทรรศการ โดยอิสเซจะเป็นฝ่ายชวนก่อนเสมอ เพราะเรเน่เองก็ไม่ได้มีความรู้สึกอะไรให้กับอิสเซมากกว่าแค่เพื่อนเลย แต่นั่นก็ทำลายความหลงไหลสุดใจจากอิสเซไม่ได้เลย..
“ผมอยากจะลองกัดต้นแขนขาวๆ ของเธอดูซักครั้ง”
อีเปรี้ยวก็ยังไม่สุด! | อีก 1 ฆาตกรผู้ได้รับสิทธิ์การเป็น ‘เซเลบ’ (20+)| DEVA HELLBLAZER
แต่ในขณะที่หลายๆ คนกำลังหัวร้อนกับการที่เปรี้ยวได้รับการปฏิบัติเยี่ยง ‘เซเลบริตี้’ หรือ ‘เซเลบ’ ประเด็นนี้กลับทำให้ผมนึกย้อนไปถึงอีก 1 ฆาตกรที่ “กลายมาเป็นเซเลปจริงๆ” และในกระทู้นี้ ผมจะพาทุกท่านไปรู้จักเขากันครับ..
คำเตือน: ความชอบที่มีต่อหนังสยองขวัญไม่ส่งผลให้เกิดพฤติกรรมส่อไปในทางของความต้องการคร่าชีวิตแต่อย่างใด
เมื่อชายคนหนึ่งตกหลุมรักผู้หญิงคนหนึ่ง..ความสวยงามทั้งรูปร่างและสติปัญญาของเธอมันทำให้เขาหลงไหลจนอยากจะกินกลืนเธอทั้งตัวไม่อยากเหลือไว้ให้ใครได้กลิ่น..
กำเนิดความหิวโหย
อิสเซ ซางาวะ ชายชาวญี่ปุ่นผู้เกิดในครอบครัวที่ร่ำรวยวันที่ 24 เมษายน ค.ศ. 1949 (พ.ศ. 2492) เมืองโกเบ จังหวัดเฮียวโงะ การคลอดก่อนกำหนด ส่งผลให้รูปร่างของเขากลายเป็นชายร่างเล็กกว่าคนทั่วไป เมื่อถึงยามเจริญวัยเต็มที่แล้วเขามีความสูงเพียง 152 เซนติเมตร แต่รูปร่างแคระแกร็นของเขาก็ทดแทนด้วยความอัจฉริยะด้านศาสตร์แห่งภาษา อิสเซสนใจด้านวรรณกรรมและภาษามาตั้งแต่เด็ก
ตอนนั้นผมไม่ได้ไปกัดหรือทำอะไรผู้ชายคนนั้น..มันเป็นแค่ความคิด..
แต่ความคิดนั้นมันกลายมาเป็นความรู้สึกฝังอยู่ในใจผมมาโดยตลอด..
ผมอยากลองกินเนื้อคน”
เมื่ออายุ 23 อิสเซกระทำการครั้งแรกด้วยการสะกดรอยตามครูสาวผู้สอนภาษาเยอรมันให้แก่อิสเซไปถึงอพาร์ทเมนต์ในย่านโตเกียว รอเธอจนหลับ..แต่วันนั้นอิสเซไม่ได้พกอะไรมาเป็นอาวุธเลยนอกจากร่มคันหนึ่ง และโชคดีสำหรับเธอ (แต่โชคร้ายสำหรับอิสเซ) เมื่ออิสเซเข้าไปถึงห้องแล้วครูสาวคนนั้นกลับรู้สึกตัวก่อน ครูสาวจึงอาศัยความได้เปรียบด้านร่างกายที่สูงใหญ่กว่าขัดขืนอิสเซก่อนจะส่งไปหาตำรวจ ในตอนนั้นไม่มีใครรู้ว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงของอิสเซคืออะไร ตำรวจจึงลงข้อหาไว้เพียงล่วงละเมิดทางเพศ
และเมื่อเรื่องถึงหูพ่อของอิสเซ พ่อของอิสเซกลับใช้เส้นสายจากความร่ำรวยของตนวิ่งเต้นจนอิสเซหลุดพ้นจากข้อหาก่อนจะส่งอิสเซไปเรียนต่างประเทศเพื่อรอให้เรื่องฉาวคาวกามของอิสเซนั้นเบาลง
อิสเซใช้เวลาที่ตนอยู่เมืองนอกไปกับการพร่ำเรียนเพียรศึกษาจนสอบติดปริญญาเอก มหาวิทยาลัยปารีส ซอบบอนน์ (Paris Sorbonne University) ที่ในขณะนั้นถือเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกด้านมานุษยวิทยาและวรรณกรรม
หมาป่าแรกเริ่มล่า
ถึงแม้ว่าชีวิตปริญญาเอกของอิสเซจะเต็มไปด้วยมรสุมที่ต้องฝ่าเพื่อรับใบปริญญา แต่ความหนักหนาของมรสุมก็ไม่ได้ทำให้ปมแห่งความพิศมัยเนื้อมนุษย์ของอิสเซนั้นลดลงเลย อิสเซยังใช้เวลาส่วนหนึ่งไปกับการซื้อบริการโสเภณีมากินมื้อค่ำและร่วมรักกันเกือบทุกค่ำคืน ก่อนจะปิดท้ายด้วยสิ่งที่เขาปักธงหลักไว้ คือการเชือดแล้วชิม แต่ทว่า..
แต่ไม่รู้ทำไมในทุกครั้งที่ผมกำลังจะเหนี่ยวไก..
นิ้วของผมมันเหนี่ยวไม่ลงทุกที”
เป็นสัตว์กินเนื้อห้ามหลงรักเหยื่อ(?)
ก่อนที่อิสเซจะลงมือเชือดแล้วชิมโสเภณีคนไหนไปเสียก่อน เขากลับได้พบกับ ‘เรเน่ ฮาร์ทเวลต์’ หญิงสาวชาวดัทช์ อายุ 25 ปี รูปร่างสูงโปร่ง 178 เซนติเมตร ผมบลอนด์ ไม่ต่างอะไรจากนางแบบ แถมยังมีความสดใสร่าเริงในตัว ฉลาด พูดได้ถึง 3 ภาษา
แทนที่เรเน่จะรังเกียจในความเอเชีย และรูปร่างแคระแกร็นของอิสเซเหมือนกับคนอื่นๆ กลับเข้าหา มอบความเป็นเพื่อน พูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้ด้านวรรณกรรมซึ่งถูกคอกันเป็นอย่างดี อิสเซมีความรู้สึกให้แก่เรเน่อย่างจริงจัง แต่บังหน้าความต้องการใกล้ชิดด้วยการจ้างเรเน่สอนความรู้เพิ่มเติมด้านภาษาเยอรมันด้วยค่าจ้างสูงพอตัว และเรเน่เองก็ตอบตกลง
เรเน่ใช้เวลาไปไหนมาไหนกับอิสเซอยู่บ่อยๆ ทั้งดูคอนเสิร์ต ดูงานนิทรรศการ โดยอิสเซจะเป็นฝ่ายชวนก่อนเสมอ เพราะเรเน่เองก็ไม่ได้มีความรู้สึกอะไรให้กับอิสเซมากกว่าแค่เพื่อนเลย แต่นั่นก็ทำลายความหลงไหลสุดใจจากอิสเซไม่ได้เลย..