กรณีเป็นงานสีภายนอกตึกแถวเก่านั้น คชจ.กว่า 60-70% จะเป็นค่าแรง + ค่านั่งร้าน  ส่วนค่าสีจะเพียง 30-40 %เท่านั้น และด้วยจะทำเป็นธุรกิจบ้านเช่า/ห้องเช่า ส่วนตัวแนะว่าควรเลือกใช้สีภายนอกที่มีคุณภาพระดับ มอก. 2321-2549 (สีอิมัลชั่นทนสภาวะ) ขึ้นไป  เพราะอาคารควรจะดูดีนานๆเพื่อดึงดูดผู้เช่า และพื้นที่ภายนอกก็น้อย (หากเทียบกับงานสีภายใน)  และจะมาทาใหม่ก็ค่อนข้างยุ่งยากในการหาช่าง & เป็นการรบกวนผู้เช่าในระหว่างทาสีใหม่ด้วย สีภายนอกในเกรดนี้ (Medium Grade)  อาทิ  TOA : 4 Seasons, ICI : Dulux Inspire และ Captain : Longlife เป็นต้น  ราคาประมาณ บาท/ถังใหญ่ (18.9 ลิตร) ราคาจะตกประมาณ 2,000 บาท/ถังใหญ่  [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้            

     อนึ่งหากจำเป็นต้องการประหยัดงบจริงๆ ก็มาเลือกสีระดับ มอก.272-2549 (สีอิมัลชั่นทั่วไป) แต่ก็ควรเลือกเป็นเฉดสีอ่อนๆเข้าไว้ เพราะอาจจะซีดจางได้ง่าย อาทิ  TOA : SuperTech หรือ Super Matex, Nippon Paint : Extra V และ ICI : Supercote เป็นต้น ราคาจะประมาณ 1,400-1,600 บาท/ถังใหญ่  [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้                     

หมายเหตุ :  สียี่ห้อ National ที่ จขกท.เอ่ยถึง เป็นสีที่ไม่ได้รับมาตรฐาน มอก.นะครับ (เป็นสีเกรดล่างของยี่ห้อ Delta) สีในเกรดนี้ อาทิ Homecote (TOA), Mark (Captain)  และ Bull (Beger) เป็นต้น ราคาประมาณ 8-900 บาท/ถังใหญ่ สำหรับชนิดภายนอก และราคา 700 บาท/ถังใหญ่ สำหรับชนิดภายใน [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้                  


     อนึ่งสำหรับคุณภาพงานสีภายนอกอาคารเก่านั้น  คุณภาพของการเตรียมพื้นผิวและช่างทาสี สำคัญยิ่งกว่าคุณภาพของยี่ห้อสีเสียอีก  ดังนั้นควรพิถีพิถันใน
     :-  การขัดล้างฟิล์มสีเก่า ด้วยน้ำสะอาด + แปรง (หลีกลี่ยงการใช้แปรงลวด)
     :-  การอุดโป๊วรอยแตกร้าวด้วยอะครีลิคฟิลเลอร์ (อย่าใช้ผงยิบซั่ม) และ
     :-  กรณีกรณีเดิมมีคราบเชื้อรามาก ก็ควรทาน้ำยากำจ้ดเชื้อราก่อนเริ่มระบบงานสี เพื่อไม่ให้เชื้อรากลับมาขึ้นที่เดิมอีกในอนาคต  
     :-  ควรใช้ทั้งวัสดุโป๊ว น้ำยาฆ่าเชื้อรา และสี เป็นยี่ห้อเดียวกัน เป็นต้น


     ส่วนกรณีสีภายในนั้น เห็นด้วยว่าหากต้องการประหยัด ก็เลือกใช้สีราคาประหยัด ระดับ มอก.272-2549 สำหรับพื้นที่ส่วนกลาง (ทางเดิน โถง บันได)  ส่วนภายในห้องเช่าก็เลือกใช้สีเกรดล่าง ราคาถูกๆ  ด้วยต้องทาอยู่เสมอๆ เมื่อเปลี่ยนผู้เช่า  ซึ่งงานผนังภายในเราก็ยังพอจะทาสีเองก็ไม่ยุ่งยากเท่าไหร่นัก

     อนึ่งเพื่อเป็นการประหยัดขึ้นอีก แนะนำว่าเลือกซื้อเป็นสีเบอร์ที่ผลิตจากโรงงาน (มีขนาด 1 กล. และถังใหญ่ 5 กล.) จะมีราคาถูกกว่าสีที่ผลิตผสมจากเครื่องผสมสีอัตโนมัติกว่า 10-20% (มีขนาด 1 กล. และถังกลาง 2.5 กล.)