ผมอาจจะเล่าเรื่องไม่เก่ง ขออภัยไว้ก่อนน่ะครับ
ณ โรงเรียนแห่งหนึ่ง เป็นนักเรียนชั้นต้นและชั้นปลาย ภายในโรงเรียน มีเด็กม.4 ชื่อว่าคริส เป็นนักเรียที่ย้ายมาจากต่างจังหวัด มีลักษณะขาว สูง คริสเป็นเด็กใหม่ของโรงเรียน และเรียนอยู่ห้องม.4/4 ซึ่งในขณะที่เรียนนั้นทางโรงเรียนได้มีกิจกรรมไปทัศนศึกษาที่ต่างจังหวัด ด้วยความที่คริสเป็นเด็กใหม่จึงไปทัศนศึกษาในครั้งนี้ด้วยการทัศนศึกษา ในครั้งนี้ทำให้คริสพบกับว่าน เป็นนักเรียนที่เรียนอยู่ด้วยกันอยู่ในชั้นม.4/2 ซึ่งในระหว่างที่ทัศนศึกษาในต่างจังหวัด ก็ไม่ได้เจอกันจนมาถึงที่พักด้วยความบังเอิญเพื่อนของคริสได้ไปรู้จักกับว่าน เลยได้พาคริส ไปหาว่านและได้ทำความรู้จักซึ่งกันและกันโดยที่แนะนำให้รู้จักนั้นคิดก็ได้แอบชอบตัวของว่าน และได้พาว่านไปที่ห้องที่คริสพักอยู่ ด้วยความที่ไม่มีอะไรทำคิดเลยหากิจกรรมทำกิจกรรมนั้นคือตีหมอนคิดกับว่านนั้นได้ตีหมอน ในขณะที่หมดนั่นเองตัวของคิดก็ได้ไปทับบนตัวของว่านและในขณะนั้นก็ได้มีอาจารย์ที่ปรึกษาที่ไปทัศนศึกษาด้วยกันเค้าได้เปิดประตูเข้ามาในห้องแล้วเค้าก็ได้ถามว่าทำอะไรกันอยู่ ตัวของคริสก็เลยตอบแปลว่า เล่นตีหมอนกันอยู่ครับ และหลังจากนั้นเป็นต้นมาตัวของคริสและว่าน ก็ได้รู้จักกันมาตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา
พอกลับมาจากทัศนศึกษาตัวของคริสจะได้ถามเพื่อนว่า Facebook ของว่านนั้นชื่ออะไร กว่าเพื่อนจะให้คำตอบมาก็ใช้เวลาสองวัน และในที่สุดคริสก็ได้ Facebook ของว่านมาจนได้ และได้ทำการเพิ่มเพื่อนไปเพียงไม่กี่นาทีตัวของว่านไปรับเฟสของคริสและคริสกระทำการแชทไปถามว่าจำเราได้ไหมตัวของว่านนั้นตอบว่าจำได้
หลังจากนั้นมาเราทั้งคู่ก็ได้สนิทสนมกันเป็นต้นมาพอถึงระดับชั้น ม5 เราก็ได้เจอกันบ่อยขึ้นเพราะบังเอิญการจัดห้องของโรงเรียนนั้นทำให้เราสองห้องนั้นได้อยู่ใกล้กันโดยที่อยู่ชั้นเดียวกันดังนั้นคริสก็เจอหน้าว่านทุกวัน และทำให้ตัวของ คริส นั้นชอบในตัวของว่านมากกว่าเดิมอีก ด้วยความบังเอิญที่วันนั้นเวลา 17:00 น. ซึ่งเป็นเวลาเลิกเรียนแต่ทั้งว่านและคริส ก็ต้องอยู่ในกิจกรรมของกีฬาสีของโรงเรียน และในขณะที่นั่งรอเพื่อนของคริส ตัวของว่านก็ได้ถามเจ้าของเฟสว่าคุยเฟสทุกวันนั้นคิดอะไรกับเราหรอในระหว่างนั้นเองตัวของคริสก็ไม่ได้ตอบแต่ส่งเป็นเพียงรอยยิ้มไปแล้วตัวของว่านก็ได้เดินกลับขึ้นไปเพราะมีเพื่อนมาเรียก ตกตอนสองทุ่มว่านก็ได้เฟสมาถามคริสอีกครั้งนึง และตัวของคริสก่อนนะตอบว่านไปว่า"ชอบ" พอวันรุ่งขึ้น เราสองคนก็ได้คุยกันมากกว่าเดิมที่คุยกันวันนั้นจนทำให้ตัวของเสร็จนั่งคิดไปว่าอีกฝ่ายหนึ่งก็ชอบเราเหมือนกันซึ่งพอหลังจากกิจกรรมวันนั้นเราสองคนก็ได้พบกันมากขึ้นเพราะว่าเราสองคนก็เป็นนักกิจกรรมของโรงเรียนทำกิจกรรมร่วมกันอยู่บ่อยบ่อย ไม่ว่าจะทำกิจกรรมในโรงเรียนและต่างจังหวัด หลังจากวันที่บอกชอบกันเสร็จตัวของคริสก็ได้ไปซื้อตุ๊กตาลูกหมามาให้ตัวของว่านแล้วบอกว่านว่าดูแลตุ๊กตาดีดี ตัวของว่านนั้นก็รับตุ๊กตาไป ในขณะที่เรานั้นได้คุยกันความสัมพันธ์ของเจ้าของคริสเริ่มคิดว่า ความสัมพันธ์นั้นมากเกินกว่าเพื่อนโดยที่คุยกันนอกเหนือจากความเป็นเพื่อนจนสนิทสนมกันมากถึงขั้นสนิทกว่าเพื่อนแต่ยังไม่ใช่แฟน โดยที่วันหนึ่งเราก็ได้ทะเลาะกันเป็นการทะเลาะกันที่สร้างปมมาด้วยกันทะเลาะกันครั้งนี้ทำให้ความสัมพันธ์ความเป็นเพื่อนของเรานั่นสั่นเครือ โดยที่ตัวของว่านบอกไปว่าถ้าจะไม่คุยกันเราก็เลิกเป็นเพื่อนกันไปเลยหลังจากนั้นภายในเจ็ดวันตัวของคริสก็ไม่ได้คุยกับว่านอีกเลย แต่ว่านเจอหน้าคริสก็ยังยิ้มให้ และทำเหมือนกลับไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นทั้งทั้งที่ตัวว่าน เป็นคนบอกตัดขาดความสัมพันธ์ความเป็นเพื่อนของเรา วันนึงเราสองคนบังเอิญเจอหน้ากันและตัวของคริสต์ก็ได้วิ่งขึ้นตัวอาคารขึ้นไปในขณะนั้น ตัวของว่านซึ่งเป็นโรคหอบหืด ก็เลยวิ่งขึ้นไปชั้นสี่พร้อมกับตัวของคริสแต่ตัวของคริสได้วิ่งเข้าไปให้ห้อง นั่งร้องไห้แล้วถามตัวเองว่าตัดเพื่อนกันแล้วแล้วทำไมถึงกลับมาทำดีใส่ มาทำให้ความรู้สึกไม่ดี
หลังจากวันนั้นตัวของว่านก็ได้หาวิธีด้วยการที่ใช้เฟสเพื่อนของเขาทักแชทมาหาตัวของคริสแล้วบอกว่าทำไมถึงไม่คุยกับว่านเลย โกรธอะไรเป็นอะไรทำไมถึงไม่คุยกัน หลังจากวันนั้นตัวของคริสก็ใจอ่อนกลับไปคุยแต่กลับมีความรู้สึกว่าความสัมพันธ์หรือความรู้สึกที่เคยคุยกันมันกลับไม่ใช่แบบเดิมเหมือนกับเป็นอีกแบบหนึ่งแบบเฉยชาถามคำตอบคำไม่เหมือนเมื่อก่อนที่คุยกัน
ในขณะที่คุยกันตัวของคริสทราบมาว่าแฟนเก่าของว่านนั้นซึ่งเป็นผู้หญิง ได้มาสมัครเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ดังนั้นด้วยความที่คริสรู้จักคนเยอะเค้าก็ได้ไป สืบ มาโดยที่น้องคนนั้นมีชื่อว่าน้องโมโน โมโนก็รู้ว่าตัวของคริสนั้นก็ชอบว่าน และโมโนก็ได้สนับสนุนอย่างเต็มที่ รวมถึงว่านชอบอะไรไม่ชอบอะไรบ้านอยู่ที่ไหน มีพี่น้องกี่คนเรียนจบจากที่ไหนใช้เบอร์อะไรอยู่ ด้วยความที่ว่านกับคริสคุยกันแบบไม่เหมือนเมื่อก่อนทำให้หลายๆครั้งตัวของคริสคิดว่าตัวของว่านนั้นไม่ได้คิดอะไรมากกระทั่งเพื่อนกับตัวของคริสเลย จึงทำให้หน่อยครั้งนั้นตัวของคริสต์ไม่คุยกับว่านเลยจนเลยเถิดมาครั้งนี้ที่ตัวของคริสไม่สามารถกลับไปเป็นเพื่อนหรือรู้สึกเหมือนเดิมกับตัวของว่านได้อีกเลยแต่ตัวว่านนั้น ก็ยังยืนยันอยู่ว่าเค้ายังคิดกับเราเป็นเพื่อนแต่การกระทำของว่านนั้น ดูแล้วเหมือนไม่ใช่ Facebook ไปก็ไม่ตอบสามวันตอบครั้งหนึ่งทั้งทั้งที่เค้าออนและลงภาพอยู่ตลอดจนมาล่าสุด ตัวของคริสก็ได้แชทไป อธิบายความรู้สึกทั้งหมดเลยแล้วตัดขาดความเป็นเพื่อนกับเขาโดยที่ไม่สามารถกลับมารู้สึกเหมือนเดิมและเป็นเพื่อนกันได้แม้แต่อย่างใด
ตอนนี้ผมคิดว่าคงโอเครทั้งสองฝ่าย ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายรับทราบแต่ผมบล็อกไม่ให้เค้าตอบ
ขอบคุณที่อ่านน่ะครับ ถ้าเป็นคุณคุณจะทำยังไง
ประสบการณ์ตอน ม ปลาย
ณ โรงเรียนแห่งหนึ่ง เป็นนักเรียนชั้นต้นและชั้นปลาย ภายในโรงเรียน มีเด็กม.4 ชื่อว่าคริส เป็นนักเรียที่ย้ายมาจากต่างจังหวัด มีลักษณะขาว สูง คริสเป็นเด็กใหม่ของโรงเรียน และเรียนอยู่ห้องม.4/4 ซึ่งในขณะที่เรียนนั้นทางโรงเรียนได้มีกิจกรรมไปทัศนศึกษาที่ต่างจังหวัด ด้วยความที่คริสเป็นเด็กใหม่จึงไปทัศนศึกษาในครั้งนี้ด้วยการทัศนศึกษา ในครั้งนี้ทำให้คริสพบกับว่าน เป็นนักเรียนที่เรียนอยู่ด้วยกันอยู่ในชั้นม.4/2 ซึ่งในระหว่างที่ทัศนศึกษาในต่างจังหวัด ก็ไม่ได้เจอกันจนมาถึงที่พักด้วยความบังเอิญเพื่อนของคริสได้ไปรู้จักกับว่าน เลยได้พาคริส ไปหาว่านและได้ทำความรู้จักซึ่งกันและกันโดยที่แนะนำให้รู้จักนั้นคิดก็ได้แอบชอบตัวของว่าน และได้พาว่านไปที่ห้องที่คริสพักอยู่ ด้วยความที่ไม่มีอะไรทำคิดเลยหากิจกรรมทำกิจกรรมนั้นคือตีหมอนคิดกับว่านนั้นได้ตีหมอน ในขณะที่หมดนั่นเองตัวของคิดก็ได้ไปทับบนตัวของว่านและในขณะนั้นก็ได้มีอาจารย์ที่ปรึกษาที่ไปทัศนศึกษาด้วยกันเค้าได้เปิดประตูเข้ามาในห้องแล้วเค้าก็ได้ถามว่าทำอะไรกันอยู่ ตัวของคริสก็เลยตอบแปลว่า เล่นตีหมอนกันอยู่ครับ และหลังจากนั้นเป็นต้นมาตัวของคริสและว่าน ก็ได้รู้จักกันมาตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา
พอกลับมาจากทัศนศึกษาตัวของคริสจะได้ถามเพื่อนว่า Facebook ของว่านนั้นชื่ออะไร กว่าเพื่อนจะให้คำตอบมาก็ใช้เวลาสองวัน และในที่สุดคริสก็ได้ Facebook ของว่านมาจนได้ และได้ทำการเพิ่มเพื่อนไปเพียงไม่กี่นาทีตัวของว่านไปรับเฟสของคริสและคริสกระทำการแชทไปถามว่าจำเราได้ไหมตัวของว่านนั้นตอบว่าจำได้
หลังจากนั้นมาเราทั้งคู่ก็ได้สนิทสนมกันเป็นต้นมาพอถึงระดับชั้น ม5 เราก็ได้เจอกันบ่อยขึ้นเพราะบังเอิญการจัดห้องของโรงเรียนนั้นทำให้เราสองห้องนั้นได้อยู่ใกล้กันโดยที่อยู่ชั้นเดียวกันดังนั้นคริสก็เจอหน้าว่านทุกวัน และทำให้ตัวของ คริส นั้นชอบในตัวของว่านมากกว่าเดิมอีก ด้วยความบังเอิญที่วันนั้นเวลา 17:00 น. ซึ่งเป็นเวลาเลิกเรียนแต่ทั้งว่านและคริส ก็ต้องอยู่ในกิจกรรมของกีฬาสีของโรงเรียน และในขณะที่นั่งรอเพื่อนของคริส ตัวของว่านก็ได้ถามเจ้าของเฟสว่าคุยเฟสทุกวันนั้นคิดอะไรกับเราหรอในระหว่างนั้นเองตัวของคริสก็ไม่ได้ตอบแต่ส่งเป็นเพียงรอยยิ้มไปแล้วตัวของว่านก็ได้เดินกลับขึ้นไปเพราะมีเพื่อนมาเรียก ตกตอนสองทุ่มว่านก็ได้เฟสมาถามคริสอีกครั้งนึง และตัวของคริสก่อนนะตอบว่านไปว่า"ชอบ" พอวันรุ่งขึ้น เราสองคนก็ได้คุยกันมากกว่าเดิมที่คุยกันวันนั้นจนทำให้ตัวของเสร็จนั่งคิดไปว่าอีกฝ่ายหนึ่งก็ชอบเราเหมือนกันซึ่งพอหลังจากกิจกรรมวันนั้นเราสองคนก็ได้พบกันมากขึ้นเพราะว่าเราสองคนก็เป็นนักกิจกรรมของโรงเรียนทำกิจกรรมร่วมกันอยู่บ่อยบ่อย ไม่ว่าจะทำกิจกรรมในโรงเรียนและต่างจังหวัด หลังจากวันที่บอกชอบกันเสร็จตัวของคริสก็ได้ไปซื้อตุ๊กตาลูกหมามาให้ตัวของว่านแล้วบอกว่านว่าดูแลตุ๊กตาดีดี ตัวของว่านนั้นก็รับตุ๊กตาไป ในขณะที่เรานั้นได้คุยกันความสัมพันธ์ของเจ้าของคริสเริ่มคิดว่า ความสัมพันธ์นั้นมากเกินกว่าเพื่อนโดยที่คุยกันนอกเหนือจากความเป็นเพื่อนจนสนิทสนมกันมากถึงขั้นสนิทกว่าเพื่อนแต่ยังไม่ใช่แฟน โดยที่วันหนึ่งเราก็ได้ทะเลาะกันเป็นการทะเลาะกันที่สร้างปมมาด้วยกันทะเลาะกันครั้งนี้ทำให้ความสัมพันธ์ความเป็นเพื่อนของเรานั่นสั่นเครือ โดยที่ตัวของว่านบอกไปว่าถ้าจะไม่คุยกันเราก็เลิกเป็นเพื่อนกันไปเลยหลังจากนั้นภายในเจ็ดวันตัวของคริสก็ไม่ได้คุยกับว่านอีกเลย แต่ว่านเจอหน้าคริสก็ยังยิ้มให้ และทำเหมือนกลับไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นทั้งทั้งที่ตัวว่าน เป็นคนบอกตัดขาดความสัมพันธ์ความเป็นเพื่อนของเรา วันนึงเราสองคนบังเอิญเจอหน้ากันและตัวของคริสต์ก็ได้วิ่งขึ้นตัวอาคารขึ้นไปในขณะนั้น ตัวของว่านซึ่งเป็นโรคหอบหืด ก็เลยวิ่งขึ้นไปชั้นสี่พร้อมกับตัวของคริสแต่ตัวของคริสได้วิ่งเข้าไปให้ห้อง นั่งร้องไห้แล้วถามตัวเองว่าตัดเพื่อนกันแล้วแล้วทำไมถึงกลับมาทำดีใส่ มาทำให้ความรู้สึกไม่ดี
หลังจากวันนั้นตัวของว่านก็ได้หาวิธีด้วยการที่ใช้เฟสเพื่อนของเขาทักแชทมาหาตัวของคริสแล้วบอกว่าทำไมถึงไม่คุยกับว่านเลย โกรธอะไรเป็นอะไรทำไมถึงไม่คุยกัน หลังจากวันนั้นตัวของคริสก็ใจอ่อนกลับไปคุยแต่กลับมีความรู้สึกว่าความสัมพันธ์หรือความรู้สึกที่เคยคุยกันมันกลับไม่ใช่แบบเดิมเหมือนกับเป็นอีกแบบหนึ่งแบบเฉยชาถามคำตอบคำไม่เหมือนเมื่อก่อนที่คุยกัน
ในขณะที่คุยกันตัวของคริสทราบมาว่าแฟนเก่าของว่านนั้นซึ่งเป็นผู้หญิง ได้มาสมัครเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ดังนั้นด้วยความที่คริสรู้จักคนเยอะเค้าก็ได้ไป สืบ มาโดยที่น้องคนนั้นมีชื่อว่าน้องโมโน โมโนก็รู้ว่าตัวของคริสนั้นก็ชอบว่าน และโมโนก็ได้สนับสนุนอย่างเต็มที่ รวมถึงว่านชอบอะไรไม่ชอบอะไรบ้านอยู่ที่ไหน มีพี่น้องกี่คนเรียนจบจากที่ไหนใช้เบอร์อะไรอยู่ ด้วยความที่ว่านกับคริสคุยกันแบบไม่เหมือนเมื่อก่อนทำให้หลายๆครั้งตัวของคริสคิดว่าตัวของว่านนั้นไม่ได้คิดอะไรมากกระทั่งเพื่อนกับตัวของคริสเลย จึงทำให้หน่อยครั้งนั้นตัวของคริสต์ไม่คุยกับว่านเลยจนเลยเถิดมาครั้งนี้ที่ตัวของคริสไม่สามารถกลับไปเป็นเพื่อนหรือรู้สึกเหมือนเดิมกับตัวของว่านได้อีกเลยแต่ตัวว่านนั้น ก็ยังยืนยันอยู่ว่าเค้ายังคิดกับเราเป็นเพื่อนแต่การกระทำของว่านนั้น ดูแล้วเหมือนไม่ใช่ Facebook ไปก็ไม่ตอบสามวันตอบครั้งหนึ่งทั้งทั้งที่เค้าออนและลงภาพอยู่ตลอดจนมาล่าสุด ตัวของคริสก็ได้แชทไป อธิบายความรู้สึกทั้งหมดเลยแล้วตัดขาดความเป็นเพื่อนกับเขาโดยที่ไม่สามารถกลับมารู้สึกเหมือนเดิมและเป็นเพื่อนกันได้แม้แต่อย่างใด
ตอนนี้ผมคิดว่าคงโอเครทั้งสองฝ่าย ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายรับทราบแต่ผมบล็อกไม่ให้เค้าตอบ
ขอบคุณที่อ่านน่ะครับ ถ้าเป็นคุณคุณจะทำยังไง