รอยปริขอบทวาร ริดสีดวง อุจจาระบาด มาทางนี้ผมพึ่งไปผ่ามา

วัตถุประสงค์ที่พิมพ์กระทู้นี้ เพราะว่าผมทรมารมาสองปี อาศัยได้ความรู้จาก google และพันทิพย์ อาศัยพิมพ์ถามเขาเรื่อยมา เลยรู้สึกว่าเป็นหนี้บุญคุณสังคมออนไลน ผมพึ่งผ่ามาเมื่อวานนี้ วันนี้กลับบ้านได้ก็เปิดคอมพ์นั่งพิมพ์เลย เพราะอยากให้คนที่พิมพ์คำว่า "รอยปริขอบทวาร หรือ Annal Fissure" เห็นกระทู้นี้แล้วเป็นประโยชน์ครับ

ตอนที่ 1: เอาล่ะ เข้าเรื่องเลยนะ ผมอายุ 36 ปี ทำธุรกิจส่วนตัว เป็นคนขับถ่ายดีมากๆ ท้องผูกแทบไม่เคยเลย แต่ผมเป็นคนรีบมากๆ เวลาอุจจาระเลยจะรีบๆ เบ่งให้เสร็จเพราะงานยุ่งและเป็นคนทำอะไรเร็วๆ ภรรยาผมเตือนบ่อยๆ ว่าเวลาถ่ายอย่าเบ่งนะเราก็ไม่เคยเชื่อ จนกระทั้งช่วงเจ้าตัวเล็กปิดเทอมผมต้องทำงานไปด้วยเลี้ยงลูกไปด้วยทำให้ลืมถ่าย ลืมไปเลยว่าต้องถ่าย พอมาวันที่สามอาศัยจังหวะลูกยังไม่ตื่นรีบวิ่งเข้าห้องน้ำเบ่งแล้วรู้สึกเลยว่าไม่ปกติมันเหมือนมีดกรีดตรงทวาร ก้มลงไปดูโอ้โหสีแดงฉานเลย เอาทิชชู่เช็ดมีเลือดติดมาด้วย เอาไงล่ะ รีบให้แม่ผมมาดูแทนแล้วไป รพ. แถวบ้าน ได้ยาถ่ายกับไฟเบอร์มูซิลินมาขวดนึง -_-"

*มาทำความเข้าใจกันก่อนนะ ว่าเลือดที่ออกจากทวารเนี่ย มันมีหลายแบบ แต่ถ้าเป็นแบบผมยังปลอดภัยยังพอรอได้ แต่ถ้าถ่ายเป็นเลือดโชกๆ แบบพี่สรยุธหรือพี่นักข่าวที่พึ่งเสียชีวิตไป คุณต้องไปหาหมอทันที! เพราะมันไม่ใช่อาการบาดมันคือเลือดออกภายในคุณตายได้เลยนะ!! ผมเห็นคนพิมพฺ์ถามในพันทิพย์เยอะมากๆ จำไว้นะครับ คุณอาจเสียเลือดมากเกินไปได้ ไม่ต้องมาพิมพ์ถามในนี้แล้วไปหาหมอเลย!*

กลับมาต่อที่เรื่องของผม พอกินยาถ่ายมันก็ออกดีนะ แต่เชื่อใหมว่าชีวิตคุณถ้าโดนบาดแค่ครั้งเดียว คุณจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เพราะเแผลจากการบาดจะนำพาคุณไปยัง 1. รอยปริเรื้อรัง 2. ริดสีดวง 3. ฝีคัณสูคร หรือแม้กระทั้งโรคร้ายกว่านั้น ผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น เพราะวันใหนก็แล้วแต่ที่หยุดยาระบายเลือดจะกลับมาทันที และเจ็บทุกครั้งแสบทุกครั้งหลังถ่าย ใช้ชีวิตไม่สนุกเลย ผมเป็นคนชอบลุย ชอบเที่ยว ชอบทำงาน เจอแบบนี้จิตตกมากๆ ไปห้างต้องพกทิชชู่เปียกไป ผมรู้ว่าคนที่อ่านมาถึงตอนนี้จะเข้าใจว่าผมหมายถึงอะไร

ตอนที่ 2: สองปีเต็มๆ กับการเปลี่ยนสูตรยาถ่ายไปมา ไม่ว่าจะเฮปาแลค MOM ไฟเบอร์มูซิลิน ดูฟาแลค กินมาหมดทุกอย่างจนกระทั่งเราไม่อยากกินยาแล้วเราเบื่อมาก เพราะต่อให้กินยาถ้าไม่ถ่ายสองวันก็เจ็บอยู่ดี ตอนนี้เริ่มมีติ่งเนื้อออกมาจากก้นแล้วโดนไม่ได้เลยแสบมาก เลยตัดสินใจกลับไปหาหมอคนเดิมที่ให้ยาถ่ายมา หมอบอกให้ส่องกล้อง ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นเรื่องที่ดีนะครับ จะได้รู้ว่าไส้เราเป็นยังไง แต่ถามว่าถ้าเรางบน้อยจำเป็นใหม? ผมพึ่งมารู้ที่หลังว่าไม่จำเป็นเลย เดี๋ยวผมจะเล่าตอนหลังๆ ว่าทำไมนะ

* การส่องกล้อง คุณก็ต้องงดน้ำงดอาหาร แล้วไปกินยาถ่ายตอนเช้าออกหมดเกลี้ยงเลย ถึงเวลาก็ฉีดยานอนหลับ แล้วคุณก็ไม่รู้เรื่องอะไรอีกแล้ว*

พอส่องกล้องเสร็จแล้ว หมอบอกไม่เจออะไรนะ เจอแต่ภายในก่อนถึงทวารมันดูบางๆ กลับบ้านได้ ผมบอกเลยว่า สี่หมื่นบาทถึงประกันจะจ่ายแต่ผมก็เสียดายมาก ผมเริ่มไม่พอใจหมอในระดับหนึ่งเพราะว่า หมอไม่ค่อยใส่ใจรับฟังที่ผมพูดที่ผมเล่าเท่าใหร่นัก และมารู้ที่หลังก็จากอ่านพันทิพย์นี่แหละว่าจริงๆ โรคของเรามันไม่ใช่แค่ศัลยกรรมทั่วๆ ไปนะที่รักษา มันต้องเป็นศัลยกรรมเฉพาะทางที่เชี่ยวชาญลำไส้ใหญ่และทวารหนักจะตรงสายแบบมองแผลปุ๊บรู้เลยต้องทำอะไร

ตอนที่ 3 กับการรักษาเข้าปีที่ 2
โชคดี ที่เสริชไปเจอชื่อคุณหมอนพ.ธีรสันติ์ ตันติเตมิท รพ.พญาไท 2 เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องนี้พอดีเลยลองไปปรึกษาอาจารย์ดู ซึ่งวันที่ไปต้องพบว่าอาจารย์ยังหนุ่มมากๆ แต่อาจารย์ตั้งใจฟังเราทุกปัญหา ไม่เคยพูดแทรก และพอเราเล่าจบอาจารย์บอกว่า เอาล่ะ มาลองดูแผลกัน หลังจากที่อาจารย์มองปุ๊บอาจารย์บอกว่า คุณไปส่องกล้องทำไม ริดสีดวงคุณไม่มีหรืออาจจะมี แต่ว่าแผลมันเด่นชัดขนาดนั้น คุณเอายาไปทา ยาตัวนี้ชื่อ Isosorbide Dimirate (ลองเอามาเสิร์ช ใน google ดู ก็พบว่ามันช่วยเรื่องหัวใจ แล้วมันเกี่ยวกับก้นเรายังไงหว่า แต่เดาว่าน่าจะคลายกล้ามเนื้อเฉพาะตรงที่ทามั้ง) ทาแล้วจะเย็นๆ แต่ว่าสบายแผลมาก ไม่นานแผลก็ไม่เจ็บ แต่ก็ยังไป follow up กับอาจารย์อยู่ ตอนนี้ก็ยังทานยาระบายอยู่แต่ทานน้อยมากๆ ไม่เกิน 10 cc ก่อนนอน

จนกระทั้ง อาการกำเริบมาอีก และตอนนี้กลับไปหาอาจารย์ธีรสันติ์ ท่านบอกว่าแผลเราคือเรื้อรังแล้วล่ะ หมอแนะนำให้ผ่านะ ใจผมอยากผ่านะ แต่อีกเดือนนึงผมจำเป็นต้องไปญี่ปุ่นกับครอบครัวแล้ว ก็เลยขออาจารย์กลับมาจากญี่ปุ่นแล้วค่อยผ่าอีกสักเดือนกว่าๆ ตอนไปญี่ปุ่นเราก็เตรียมยาถ่ายยาระบายเราไปเลย ซึ่งด้วยอาหารและอากาศหรืออะไรไม่รู้เราขับถ่ายดีมาก กลับมาไทยก็เลยลืมไปเลยว่าต้องไปผ่า แต่ว่าแน่นอนโรคเรื้องรังยังไงมันก็กลับมา

ตอนสุดท้าย: สุดท้าย สัปดาห์ที่แล้ว มันเกิดกับผมอีก มีเลือด มีอาการเจ็บ มีติ่ง เลยตัดสินใจไปหาอาจารย์ นัดผ่าเลย ค่าใช้จ่ายประมาณ 50,000 ผมก็โอเคเป็นแสนก็ยอม เพราะว่ามันทนไม่ไหวแล้ว ใช้ชีวิตไม่มันส์เลย แต่เราก็กลัวไม่ได้กลัวผ่านะผมผ่าซีสในตัวมาแล้วแปดครั้งผมกับห้องผ่าตัดนี่เหมือนอายุรกรรมธรรมดาๆ เลย แต่เรากลัว 1. กล้นตดไม่ได้ 2. กลั้นอึไม่ได้ 3. กลัวไม่หาย แต่สุดท้าย เราก็คิดว่าเอาวะ ใหนๆ ก็ใหนๆ แล้วเลยตัดสินใจผ่า

วันผ่า ไป รพ คนเดียว ผ่าคนเดียวไม่อยากกวนลูกเมีย พ่อแม่ ไปถึงพยาบาลจับตรวจปอด เลือด แล้วก็สวนไปสองครั้งเพราะเรารู้สึกอุจจาระยังไม่หมด สวนเสร็จพยาบาลเอายานอนหลับให้กิน แล้วก็ให้ขึ้นรถเข็นไปห้องผ่า จำได้ว่าหมอบอกว่าจะฉีดยาชานะ เจ็บหน่อยๆ ผมก็โอเคเพราะผมไม่กลัวเจ็บ แต่พอไปถึงห้องผ่าตัดผมก็จำอะไรไม่ได้อีกเลยจนเข็นกลับมาที่ห้อง ยาโดเมคุ่มแค่ครึ่งเม็ดทำเอาผมจำอะไรไม่ได้เลยไม่แปลกที่เขาเรียกว่ายาเสียสาว

ตื่นมาผมรู้สึกจุกๆ ที่ก้น เพราะมีผ้าก๊อซแปะอยุ่ วันนั้นหมอไม่มาเพราะเคสเยอะมาก ตอนกลางคืนผมก็หลับไปแบบจุกๆ ที่ก้นนี่แหละ ตื่นมาวันนี้ตอนเช้า รู้สึกตึงๆ แผล หน่วงๆ แล้วก็ปวดท้องเข้าห้องน้ำ เอาว่ะ ได้เวลาลองของละ แต่ที่โหดกว่าผ่าคือตอนดึงผ้าก๊อดนี่แหละ โอย มันติดกับขนตูดแบบกว่าจะดึงออกหมดแทบจะถ่ายเรี่ยราด แต่พอถ่ายแล้วก็เป็นถ่ายเหลว รู้สึกแสบแบบเราทนได้ เจ็บน้อยกว่าตอนเป็นแผลอักเสปแล้วเรายังไม่ผ่าอีก เราก็โอเค เรารับได้ ไม่นานหมอมาดูแผลก็บอกว่าเออ แผลเรียบดี กลับบ้านได้ อีกสองสัปดาห์มาเจอกัน เอาผ้าอนามัยกับยาฆ่าเชื้อไปด้วย อ้อ หมอแอบเจอริดสีดวงเม็ดเล็กๆ ข้างใจด้วยนะ หมอเย็บไปละ เม็ดมันไม่ใหญ่มาก ผมก็โอ มาผ่าหนึ่งได้สองขอบคุณครับ หมอบอกที่แสบๆ ก็จากริดสีดวงนี่แหละ ผ่าแผลไม่เท่าใหร่หรอก แกก็เอารูปติ่งเนื้อที่ตัดออกมาให้ดู มีขนาดประมาณครึ่ง เซนติเมตร เบื้องต้นตอนนี้ผมก็แสบๆ ก้นนะแต่ไม่ได้เจ็บเกินทน หมอบอกว่า ห้ามออกกำลังหนึ่งสัปดาห์ อยากกินอะไรก็กินได้หมดแล้วแต่เราครับ

สรุปก็คือ ตอนนี้ผมยังไม่มีอาการอะไรนะนอกจากหน่วงๆ แสบๆ แผลนิดหน่อบ

แต่อยากมาพิมพ์ทิ้งไว้เฉยๆ ใครสงสัยอะไรก็พิมพ์ถามได้นะครับ ผมจะมาดูเรื่อยๆ และจะมาอัพเดทเรื่อยๆด้วย ว่าหลังจากผ่า หนึ่งสัปดาห์ หนึ่งเดือน หนึ่งปี เป็นยังไงบ้าง

ขอบคุณทุกๆ คนครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่