คำชะโนด วังบาดาล กับการเดินทางที่ไม่ธรรมดา
วันหยุดช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ช่วงวันแรงงานนะคะ วางแผนจะไปดูงานที่เวียงจันทร์ แต่ด้วยความที่เราอยากไป ป่าคำชะโนดมาก ๆ ก็เลยอ้อนแฟน ขอให้เขาพาแวะเข้าไปหน่อย ซึ่งก็โดนแฟนทักท้วงตั้งแต่ก่อนออกน่ะคะ ว่าอย่าไปเลย ช่วงนี้คนเยอะน่ะ เพราะมันเป็นวันหยุดยาวแล้วก็ก่อนวันหวยแห่งชาติด้วย
แฟน: อย่าไปเลยเธอ คนเยอะมากขนาดนั้น เธอยืนรอไม่ไหวหรอก
เรา: จะไป จะไป ๆ
สุดท้ายทนเราเร้าหรือไม่ไหว เขาก็ขับรถไปให้นะคะ ออกก่อนล่วงหน้าห้าวัน จากชุมพร-อุดร ใช้เวลาขับประมาณสองวัน จำได้ว่าวันนั้นที่ไปถึงคือ วันเสาร์ที่ 29 เมษา 60 ถึงที่ป่าคำชะโนด ช่วงสี่โมงเย็น ก่อนจะถึงตัววัด สิ่งที่เจอและตื่นตะลึงอันดับแรงคือ ที่จอดรถมหาศาล ตอนนั้นรถจอดไม่เยอะนะคะ ยังคิดในใจว่า เยอะขนาดนี้ จะมีคนมาจอดหรือ เล่นถมไร่นา มาทำที่จอดรถกันเลย วันเสาร์ตอนที่ไป รถไม่เยอะคะ จอดรถตรงข้ามกับวัดสะดวกดี แล้วเดินเข้าไปด้านใน
ผ่านศาลาอเนกประสงค์ และเต๊นให้ยืนรอประมาณ 30 หลัง ต่อแถวเพื่อจะเดินเข้าไปในวังบาดาล พอเดินเข้ามาเท่านั้น เห็นคนที่ยืนรอเต็มประมาณ 15 เต๊น
ก็หันมาชวนแฟนออกไปหาที่พักกันก่อน พรุ่งนี้ค่อยมาไหว้ใหม่อีกรอบ เช้า ๆ คนหน้าจะน้อย เขาก็ยิ้ม ๆ นะคะ ไม่ได้พูดอะไร
***สำหรับคนที่ต้องการค้างคืน ควรจัดการที่พักให้เรียบร้อยก่อนเข้าไปไหว้ที่ป่าคำชะโหนดนะคะ เพราะที่พักส่วนมากจะเต็มทุกที่ ควรจองไว้ก่อนค่ะ***
ตอนนั้นไล่ถามตั้งแต่ออกมาจากป่าคำชะโนด บ้านดุง ได้พักจริง ๆ คือใกล้ถึงเมืองอุดรอีกเพียง 20 กิโล เสียเวลาไปสามชั่วโมงในการหาที่พัก
เช้าวันอาทิตย์ ที่สดใส วันที่ 30 เมษา
เพราะเราได้ที่พักไกล ออกมาตอนแปดโมงเช้า กว่าจะเดินทางมาถึงคำชะโนดคือ สิบโมง แม่เจ้า!!! รถติดตั้งแต่ปากทางเข้า ยาวเกือบสิบกิโล กว่าจะขยับได้แต่ละคืบนี้ช้ามาก กว่าจะไปถึงหน้าวัดคือเที่ยงตรงพอดี เชื่อไหมค่ะ ว่าที่จอดรถที่เราเห็นว่าง ๆ เมื่อวานเต็มหมด เต๊นทั้ง 30หลังเต็มไปด้วยผู้คน ศาลาอเนกประสงค์ ก็มีแต่คนยืนต่อแถว เลยออกมาบนถนนซ้อนสามแถว ยาวออกไปห่างจากตัววัดประมาณสี่กิโล สี่กิโลจริง ๆ ค่ะ
ส่วนเราเพราะหาที่กลับรถไม่ได้ ก็ต้องขับตาม ๆ กันไป คือไม่ต้องคิดจะไปต่อคิวเลยค่ะ ไม่มีที่จอดรถ คนส่วนมากที่มายืนต่อแถวก็จะเป็นผู้เฒ่าผู้แก่ที่มาจากต่างถิ่นกันทั้งนั้น แดดก็ร้อนมาก ไม่มีที่นั่งพัก สรุปวันนี้ก็ไม่ได้เข้าวังบาดาลเช่นเคย ขนาดที่จอดรถยังไม่มีเลย หันไปมองหน้าแฟน เราก็กลัวเขาเหนื่อย ขับมาสองสันแล้วยังไมได้เข้าไปไหว้เลย แต่ประโยคเด็ดก็ลอยมา
"ผมบอกคุณแล้ว ว่าคนมันเยอะ" จี้ใจดำชะมัด "รู้แล้วแต่ก็คนมันอยากมาอ่ะ เข้าใจป่ะ"
ภาพวันที่สองค่ะ
ออกมาจากป่าคำชะโนดก็หาที่พักกันเลยค่ะ ได้อยู่แถวบ้านดุง ชื่อ ลีลาวดี ก็พอพักได้นะคะ ราคา 500 เดินทางไม่ไกล เจ้าของใจดีด้วยค่ะ
https://www.google.co.th/maps/@17.6256781,103.2494568,3a,77.8y,256.12h,80.09t/data=!3m6!1e1!3m4!1susVD2iSLw0B1vbGtbU7Gxw!2e0!7i1
วันที่สามนี้ออกจากที่พักตั้งแต่ตีสี่ นะคะ กะไปนอนต่อในรถ แต่ เมื่อไปถึงคนก็ล้นออกมาถึงศาลาอเนกประสงค์แล้ว แต่ก็ต้องยืนรอค่ะ เพราะพรุ่งนี้ต้องเดินทางไปเวียงจันทร์แล้ว
สิ่งที่ต้องเตรียมไปนะคะ
1. ขวดน้ำ ที่จะไปเอาใส่น้ำศักสิทธ์ แม้ว่าแถวนั้นจะมีขายเยอะแยะ แต่ขวดมันเล็กนะคะ ราคาก็ประมาณ 20 บาทซึ่งถ้าเราซื้อออร่าไปสักขวด จะได้มีน้ำกินระหว่างยืนรอ ขากลับก็จะมีขวดใส่น้ำศักสิทธิ์กลับมาด้วย
2.ถุงสำหรับใส่รองเท้า ต้องเตรียมไปนะคะ ถ้าไม่อยากซื้อถุงพลาสติกใบละ 5-10 บาท
3.บายศรี อันนี้แล้วแต่กำลังศรัทธาคะ แต่ถ้าเลือกใช้บายศรีให้เหมาะกับจุดประสงค์ก็จะศิริมงคลยิ่งขึ้น
ก็จะมี บายศรีเสี่ยงคู่ บายศรีเปิดทรัพย์ บายศรีหนึ่ง - เก้าเศียร สามารถหาซื้อได้ตั้งแต่ปากทาง จนถึงปากทางเข้าวัด ราคาย่อมเยาว์
4.ถ้ารู้ว่าคนจะเยอะ กรุณา เตรียมยาดม พัด หรือเก้าอี้พกพาไปด้วย จะดีมากค่ะ
5.ของกิน และการเข้าห้องน้ำ ***เตรียมของกินและเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยนะคะ การที่เราต้องต่อแถวนาน ๆ แล้วต้องออกจากแถวไปเข้าห้องน้ำ หรือ หาของกิน มันไม่สะดวกหรอกนะคะ พอเราไปแล้วจะกลับมาอยู่ที่เดิมก็จะเจอกับสายตาประนามจากประชาชาติว่าเราแซงคิวเขารึเปล่า
6.ที่จอดรถ แนะนำจากประสบการณ์ส่วนตัวนะคะ ....วิ่งไปให้ถึงซุ้มประตูวัดก่อน อย่าจอดตั้งแต่ยังมองไม่เห็นวัด เดินไกลคะ
ถ้าคิดจะจอดที่ในวัด จะเจอกับป้ายบอกทางที่โครตจะงง ไม่รู้จะให้ไปทางไหนแน่ ที่ขยายออกไปใหม่นั้นก็มีหลุม เนิน รถเล็กท้องต่ำ ไม่แนะนำ
*** จากประสบการณ์คือ จอดฝั่งตรงข้ามกับศาลาอเนกประสงค์ ทำเลดีสุดค่ะ มีหลังคา มีคนโบก ติดถนน เดินใกล้ กลับรถง่าย และ 40คะ***
7.เวลาที่เหมาะสม
วันที่ไม่ควรไป - วันหยุดยาว ก่อนวันหวยออก
เวลาที่เหมาะ - ออกเช้า ๆ ค่ะ จะได้ไม่ร้อน ไปต่อคิวก่อนเลย รอบแรกเข้าตอน 7.00 โมง ถ้าเราไปถึงที่นั้นซัก6.00 ประมาณ 9.00
ก็เสร็จเรียบร้อย อากาศก็ไม่ร้อนด้วยค่ะ
8. อันนี้แนะนำ ว่ายังไงก็ควรพกติดตัวไปค่ะ *** ที่ปิดจมูก***
ในช่วงที่ต้องยืนแออัดกันอยู่ในเต๊น 30 หลังนั้น อย่าลืมนะคะว่าพื้นเป็นดินลูกรัง ส่วนมากทุกคนจะเดินลากเท้า ทำให้มีฝุ่นฟุ้งกระจาย ตอนที่เรายืนรอบนอกยังยื่นหน้ามาสูดอากาศรอบ ๆ ได้ แต่เมื่อคุณต้องอยู่โซนกลางที่มีแต่ฝุ่น มันไม่สนุกนะคะ เตรียมไปด้วยค่ะ ส่วนตัวคิดว่าโครตจำเป็นเลย
จากใจเลยนะคะ คือก่อนมานี้แฟนก็บ่นว่าคนเยอะ ขนาดนี้ จะสงบเหรอ จะมีมนต์ขลังไหม บอกเลย วันนั้นตอนที่ไปคนเยอะมาก แต่ทุกคนต่อแถวกันเรียบร้อย พูดคุยกันเบามาก ไม่มีเสียงโทรศัพย์ดังซักครั้งเดียว ถึงคนมันจะเยอะแต่ก็มีระบบ ระเบียบดี ตอนที่เดินเข้าไป ก่อนเข้าป่าคำชะโหนด ตรงประตูบาดาล เจ้าข้าเอ๋ย ! ขนลุก ขนชัน เราก็เดินไปกันเงียบ ๆ เห็นอะไรก็เงียบ ดูอย่างเดียว
ภาพท้ายสุด นั้นเป็นที่บ่อน้ำศักสิทธิ์นะคะ มีเรื่องอยากจะเล่าให้ฟัง ค่ะ คือตอนนั้นคนเยอะมาก เราเลยเดินอ้อมไปอีกด้านของบ่อน้ำค่ะ อยากได้น้ำแต่ใช้ถังนั้นไม่เป็น แล้วพอดี น้องผู้หญิงที่เขาตักก่อนหน้า ตักเท่าไหร่ ก็ตักไม่ได้สักที ได้ทีละนิด ๆ ไอ้เราก็ตักไม่เป็น มองซ้ายขวาไอ้มุมที่เรายืนมันไม่ค่อยมีคนคะ จู่ ๆ มีลุงที่ไหนก็ไม่รู้โผล่มาจากด้านหลัง แต่งตัวชิวมาก เหมือนมาเดินเที่ยว แกอาสาตักให้ ได้ขึ้นมาเต็มถังนั่นเลย ลุงจัดการเทใส่ขวดให้น้องเขาก่อน ก็ยังเหลือ แล้วแกก็เอามาเทใส่ขวดที่เราเตรียมไป ก็ยังเหลือ ตอนนั้นน้องผู้หญิงคนนั้นเดินไปแล้วนะคะ เรายืนอยู่กับลุง ก็มองว่าแก่จะเอาด้วยไหม เราจะได้ช่วยเทให้ แต่ลุงบอกว่าแกมีแล้ว
ในจังหวะที่เรากำลังคิดว่า แล้วน้ำที่เหลือจะทำยังไง จะเอาไปให้คนอื่นก็ไม่เห็นมีใครยืนอยู่แถวนั่นเลย แก่บอกว่าจะล้างหน้า ล้างตาไหม ถ้าไม่...ก็ให้เอาไปเทใต้ต้นไม้ ให้นั่งเทต่ำ ๆ และห้ามเอาไปล้างเท้า ได้ฟังก็หันไปหาแฟน สงสายตาถามกันประมาณว่า คุณจะล้างหน้าไหมค่ะ แต่ดูจากสีหน้าแล้วแฟนคงไม่ ก็เลยเดินไปสามก้าวแล้วเทน้ำที่เหลือใต้ต้นไม้ ว่าจะหันไปขอบคุณลุง สักหน่อย แต่พอหันกลับไป ลุงก็ไม่อยู่แล้ว ไม่รู้ไปไหน มองหารอบ ๆ ก็ไม่เจอ ก็เลยชวนแฟนกลับออกมา
เก้าโมงก็เสร็จค่ะ หลังจากนั้นสองวัน ก็กลับไปที่ป่าคำชะโนดอีกรอบก่อนกลับ เพื่อพิสูจน์สิ่งที่แฟนเคยพูดไว้ ว่าถ้าไม่ตรงกับวันหยุด ไม่ติดวันหวยแห่งชาติ
คนจะไม่เยอะ ไอ้เราน่ะเถียงคอเป็นเอ็น เลย ไม่จริงหรอก คนก็เยอะทุกวันแหล่ะ
"คุณไม่เชื่อผมเหรอ งั้นเราไปดูกัน"
แต่เชื่อไหมค่ะ ครั้งหลังที่ไป แม้จะใช้เวลาทั้งหมดเพียงครึ่งชัวโมง แต่แปลกมาก ดูไม่ค่อยสงบ มีคนเฟสทาม คุยโทรศัพย์เสียงดัง เฮฮาถ่ายรูปหมู่ประดุจมาดรีมเวิลด์ ดังนั้นจะสงบหรือไม่ คงไม่เกี่ยวกับจำนวนคนแล้วแหล่ะคะ อยู่ที่ใจเราดีที่สุด ถ้าคนไม่คุ้นชินทาง ขับรถตอนกลางคืนระวังนะคะ แถวนั้นค่อนข้างเปลี่ยวและโค้งเยอะ ถนนก็ไม่กว้างมาก ใช้ความระวังด้วยค่ะ คนที่ไม่คุ้นทางแนะนำให้วิ่งเส้น 2096 ผ่านทางบ้านดุงจะดีที่สุด เส้นที่แผ่นที่แนะนำมันลัดเลาะค่ะ วิ่งลำบาก ตัดผ่านนั่นนี้ วุ่นวาย ปิดท้ายด้วยภาพนี้แล้วกันค่ะ
"เวียงจันทร์ วันแดดร้อน"
[CR] สักครั้งที่ คำชะโนด วังบาดาล สิ่งที่คุณควรรู้ก่อนออกเดินทาง
วันหยุดช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ช่วงวันแรงงานนะคะ วางแผนจะไปดูงานที่เวียงจันทร์ แต่ด้วยความที่เราอยากไป ป่าคำชะโนดมาก ๆ ก็เลยอ้อนแฟน ขอให้เขาพาแวะเข้าไปหน่อย ซึ่งก็โดนแฟนทักท้วงตั้งแต่ก่อนออกน่ะคะ ว่าอย่าไปเลย ช่วงนี้คนเยอะน่ะ เพราะมันเป็นวันหยุดยาวแล้วก็ก่อนวันหวยแห่งชาติด้วย
แฟน: อย่าไปเลยเธอ คนเยอะมากขนาดนั้น เธอยืนรอไม่ไหวหรอก
เรา: จะไป จะไป ๆ
สุดท้ายทนเราเร้าหรือไม่ไหว เขาก็ขับรถไปให้นะคะ ออกก่อนล่วงหน้าห้าวัน จากชุมพร-อุดร ใช้เวลาขับประมาณสองวัน จำได้ว่าวันนั้นที่ไปถึงคือ วันเสาร์ที่ 29 เมษา 60 ถึงที่ป่าคำชะโนด ช่วงสี่โมงเย็น ก่อนจะถึงตัววัด สิ่งที่เจอและตื่นตะลึงอันดับแรงคือ ที่จอดรถมหาศาล ตอนนั้นรถจอดไม่เยอะนะคะ ยังคิดในใจว่า เยอะขนาดนี้ จะมีคนมาจอดหรือ เล่นถมไร่นา มาทำที่จอดรถกันเลย วันเสาร์ตอนที่ไป รถไม่เยอะคะ จอดรถตรงข้ามกับวัดสะดวกดี แล้วเดินเข้าไปด้านใน
ผ่านศาลาอเนกประสงค์ และเต๊นให้ยืนรอประมาณ 30 หลัง ต่อแถวเพื่อจะเดินเข้าไปในวังบาดาล พอเดินเข้ามาเท่านั้น เห็นคนที่ยืนรอเต็มประมาณ 15 เต๊น
ก็หันมาชวนแฟนออกไปหาที่พักกันก่อน พรุ่งนี้ค่อยมาไหว้ใหม่อีกรอบ เช้า ๆ คนหน้าจะน้อย เขาก็ยิ้ม ๆ นะคะ ไม่ได้พูดอะไร
***สำหรับคนที่ต้องการค้างคืน ควรจัดการที่พักให้เรียบร้อยก่อนเข้าไปไหว้ที่ป่าคำชะโหนดนะคะ เพราะที่พักส่วนมากจะเต็มทุกที่ ควรจองไว้ก่อนค่ะ***
ตอนนั้นไล่ถามตั้งแต่ออกมาจากป่าคำชะโนด บ้านดุง ได้พักจริง ๆ คือใกล้ถึงเมืองอุดรอีกเพียง 20 กิโล เสียเวลาไปสามชั่วโมงในการหาที่พัก
เช้าวันอาทิตย์ ที่สดใส วันที่ 30 เมษา
เพราะเราได้ที่พักไกล ออกมาตอนแปดโมงเช้า กว่าจะเดินทางมาถึงคำชะโนดคือ สิบโมง แม่เจ้า!!! รถติดตั้งแต่ปากทางเข้า ยาวเกือบสิบกิโล กว่าจะขยับได้แต่ละคืบนี้ช้ามาก กว่าจะไปถึงหน้าวัดคือเที่ยงตรงพอดี เชื่อไหมค่ะ ว่าที่จอดรถที่เราเห็นว่าง ๆ เมื่อวานเต็มหมด เต๊นทั้ง 30หลังเต็มไปด้วยผู้คน ศาลาอเนกประสงค์ ก็มีแต่คนยืนต่อแถว เลยออกมาบนถนนซ้อนสามแถว ยาวออกไปห่างจากตัววัดประมาณสี่กิโล สี่กิโลจริง ๆ ค่ะ
ส่วนเราเพราะหาที่กลับรถไม่ได้ ก็ต้องขับตาม ๆ กันไป คือไม่ต้องคิดจะไปต่อคิวเลยค่ะ ไม่มีที่จอดรถ คนส่วนมากที่มายืนต่อแถวก็จะเป็นผู้เฒ่าผู้แก่ที่มาจากต่างถิ่นกันทั้งนั้น แดดก็ร้อนมาก ไม่มีที่นั่งพัก สรุปวันนี้ก็ไม่ได้เข้าวังบาดาลเช่นเคย ขนาดที่จอดรถยังไม่มีเลย หันไปมองหน้าแฟน เราก็กลัวเขาเหนื่อย ขับมาสองสันแล้วยังไมได้เข้าไปไหว้เลย แต่ประโยคเด็ดก็ลอยมา
"ผมบอกคุณแล้ว ว่าคนมันเยอะ" จี้ใจดำชะมัด "รู้แล้วแต่ก็คนมันอยากมาอ่ะ เข้าใจป่ะ"
ภาพวันที่สองค่ะ
ออกมาจากป่าคำชะโนดก็หาที่พักกันเลยค่ะ ได้อยู่แถวบ้านดุง ชื่อ ลีลาวดี ก็พอพักได้นะคะ ราคา 500 เดินทางไม่ไกล เจ้าของใจดีด้วยค่ะ
https://www.google.co.th/maps/@17.6256781,103.2494568,3a,77.8y,256.12h,80.09t/data=!3m6!1e1!3m4!1susVD2iSLw0B1vbGtbU7Gxw!2e0!7i1
วันที่สามนี้ออกจากที่พักตั้งแต่ตีสี่ นะคะ กะไปนอนต่อในรถ แต่ เมื่อไปถึงคนก็ล้นออกมาถึงศาลาอเนกประสงค์แล้ว แต่ก็ต้องยืนรอค่ะ เพราะพรุ่งนี้ต้องเดินทางไปเวียงจันทร์แล้ว
สิ่งที่ต้องเตรียมไปนะคะ
1. ขวดน้ำ ที่จะไปเอาใส่น้ำศักสิทธ์ แม้ว่าแถวนั้นจะมีขายเยอะแยะ แต่ขวดมันเล็กนะคะ ราคาก็ประมาณ 20 บาทซึ่งถ้าเราซื้อออร่าไปสักขวด จะได้มีน้ำกินระหว่างยืนรอ ขากลับก็จะมีขวดใส่น้ำศักสิทธิ์กลับมาด้วย
2.ถุงสำหรับใส่รองเท้า ต้องเตรียมไปนะคะ ถ้าไม่อยากซื้อถุงพลาสติกใบละ 5-10 บาท
3.บายศรี อันนี้แล้วแต่กำลังศรัทธาคะ แต่ถ้าเลือกใช้บายศรีให้เหมาะกับจุดประสงค์ก็จะศิริมงคลยิ่งขึ้น
ก็จะมี บายศรีเสี่ยงคู่ บายศรีเปิดทรัพย์ บายศรีหนึ่ง - เก้าเศียร สามารถหาซื้อได้ตั้งแต่ปากทาง จนถึงปากทางเข้าวัด ราคาย่อมเยาว์
4.ถ้ารู้ว่าคนจะเยอะ กรุณา เตรียมยาดม พัด หรือเก้าอี้พกพาไปด้วย จะดีมากค่ะ
5.ของกิน และการเข้าห้องน้ำ ***เตรียมของกินและเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยนะคะ การที่เราต้องต่อแถวนาน ๆ แล้วต้องออกจากแถวไปเข้าห้องน้ำ หรือ หาของกิน มันไม่สะดวกหรอกนะคะ พอเราไปแล้วจะกลับมาอยู่ที่เดิมก็จะเจอกับสายตาประนามจากประชาชาติว่าเราแซงคิวเขารึเปล่า
6.ที่จอดรถ แนะนำจากประสบการณ์ส่วนตัวนะคะ ....วิ่งไปให้ถึงซุ้มประตูวัดก่อน อย่าจอดตั้งแต่ยังมองไม่เห็นวัด เดินไกลคะ
ถ้าคิดจะจอดที่ในวัด จะเจอกับป้ายบอกทางที่โครตจะงง ไม่รู้จะให้ไปทางไหนแน่ ที่ขยายออกไปใหม่นั้นก็มีหลุม เนิน รถเล็กท้องต่ำ ไม่แนะนำ
*** จากประสบการณ์คือ จอดฝั่งตรงข้ามกับศาลาอเนกประสงค์ ทำเลดีสุดค่ะ มีหลังคา มีคนโบก ติดถนน เดินใกล้ กลับรถง่าย และ 40คะ***
7.เวลาที่เหมาะสม
วันที่ไม่ควรไป - วันหยุดยาว ก่อนวันหวยออก
เวลาที่เหมาะ - ออกเช้า ๆ ค่ะ จะได้ไม่ร้อน ไปต่อคิวก่อนเลย รอบแรกเข้าตอน 7.00 โมง ถ้าเราไปถึงที่นั้นซัก6.00 ประมาณ 9.00
ก็เสร็จเรียบร้อย อากาศก็ไม่ร้อนด้วยค่ะ
8. อันนี้แนะนำ ว่ายังไงก็ควรพกติดตัวไปค่ะ *** ที่ปิดจมูก***
ในช่วงที่ต้องยืนแออัดกันอยู่ในเต๊น 30 หลังนั้น อย่าลืมนะคะว่าพื้นเป็นดินลูกรัง ส่วนมากทุกคนจะเดินลากเท้า ทำให้มีฝุ่นฟุ้งกระจาย ตอนที่เรายืนรอบนอกยังยื่นหน้ามาสูดอากาศรอบ ๆ ได้ แต่เมื่อคุณต้องอยู่โซนกลางที่มีแต่ฝุ่น มันไม่สนุกนะคะ เตรียมไปด้วยค่ะ ส่วนตัวคิดว่าโครตจำเป็นเลย
จากใจเลยนะคะ คือก่อนมานี้แฟนก็บ่นว่าคนเยอะ ขนาดนี้ จะสงบเหรอ จะมีมนต์ขลังไหม บอกเลย วันนั้นตอนที่ไปคนเยอะมาก แต่ทุกคนต่อแถวกันเรียบร้อย พูดคุยกันเบามาก ไม่มีเสียงโทรศัพย์ดังซักครั้งเดียว ถึงคนมันจะเยอะแต่ก็มีระบบ ระเบียบดี ตอนที่เดินเข้าไป ก่อนเข้าป่าคำชะโหนด ตรงประตูบาดาล เจ้าข้าเอ๋ย ! ขนลุก ขนชัน เราก็เดินไปกันเงียบ ๆ เห็นอะไรก็เงียบ ดูอย่างเดียว
ภาพท้ายสุด นั้นเป็นที่บ่อน้ำศักสิทธิ์นะคะ มีเรื่องอยากจะเล่าให้ฟัง ค่ะ คือตอนนั้นคนเยอะมาก เราเลยเดินอ้อมไปอีกด้านของบ่อน้ำค่ะ อยากได้น้ำแต่ใช้ถังนั้นไม่เป็น แล้วพอดี น้องผู้หญิงที่เขาตักก่อนหน้า ตักเท่าไหร่ ก็ตักไม่ได้สักที ได้ทีละนิด ๆ ไอ้เราก็ตักไม่เป็น มองซ้ายขวาไอ้มุมที่เรายืนมันไม่ค่อยมีคนคะ จู่ ๆ มีลุงที่ไหนก็ไม่รู้โผล่มาจากด้านหลัง แต่งตัวชิวมาก เหมือนมาเดินเที่ยว แกอาสาตักให้ ได้ขึ้นมาเต็มถังนั่นเลย ลุงจัดการเทใส่ขวดให้น้องเขาก่อน ก็ยังเหลือ แล้วแกก็เอามาเทใส่ขวดที่เราเตรียมไป ก็ยังเหลือ ตอนนั้นน้องผู้หญิงคนนั้นเดินไปแล้วนะคะ เรายืนอยู่กับลุง ก็มองว่าแก่จะเอาด้วยไหม เราจะได้ช่วยเทให้ แต่ลุงบอกว่าแกมีแล้ว
ในจังหวะที่เรากำลังคิดว่า แล้วน้ำที่เหลือจะทำยังไง จะเอาไปให้คนอื่นก็ไม่เห็นมีใครยืนอยู่แถวนั่นเลย แก่บอกว่าจะล้างหน้า ล้างตาไหม ถ้าไม่...ก็ให้เอาไปเทใต้ต้นไม้ ให้นั่งเทต่ำ ๆ และห้ามเอาไปล้างเท้า ได้ฟังก็หันไปหาแฟน สงสายตาถามกันประมาณว่า คุณจะล้างหน้าไหมค่ะ แต่ดูจากสีหน้าแล้วแฟนคงไม่ ก็เลยเดินไปสามก้าวแล้วเทน้ำที่เหลือใต้ต้นไม้ ว่าจะหันไปขอบคุณลุง สักหน่อย แต่พอหันกลับไป ลุงก็ไม่อยู่แล้ว ไม่รู้ไปไหน มองหารอบ ๆ ก็ไม่เจอ ก็เลยชวนแฟนกลับออกมา
เก้าโมงก็เสร็จค่ะ หลังจากนั้นสองวัน ก็กลับไปที่ป่าคำชะโนดอีกรอบก่อนกลับ เพื่อพิสูจน์สิ่งที่แฟนเคยพูดไว้ ว่าถ้าไม่ตรงกับวันหยุด ไม่ติดวันหวยแห่งชาติ
คนจะไม่เยอะ ไอ้เราน่ะเถียงคอเป็นเอ็น เลย ไม่จริงหรอก คนก็เยอะทุกวันแหล่ะ
"คุณไม่เชื่อผมเหรอ งั้นเราไปดูกัน"
แต่เชื่อไหมค่ะ ครั้งหลังที่ไป แม้จะใช้เวลาทั้งหมดเพียงครึ่งชัวโมง แต่แปลกมาก ดูไม่ค่อยสงบ มีคนเฟสทาม คุยโทรศัพย์เสียงดัง เฮฮาถ่ายรูปหมู่ประดุจมาดรีมเวิลด์ ดังนั้นจะสงบหรือไม่ คงไม่เกี่ยวกับจำนวนคนแล้วแหล่ะคะ อยู่ที่ใจเราดีที่สุด ถ้าคนไม่คุ้นชินทาง ขับรถตอนกลางคืนระวังนะคะ แถวนั้นค่อนข้างเปลี่ยวและโค้งเยอะ ถนนก็ไม่กว้างมาก ใช้ความระวังด้วยค่ะ คนที่ไม่คุ้นทางแนะนำให้วิ่งเส้น 2096 ผ่านทางบ้านดุงจะดีที่สุด เส้นที่แผ่นที่แนะนำมันลัดเลาะค่ะ วิ่งลำบาก ตัดผ่านนั่นนี้ วุ่นวาย ปิดท้ายด้วยภาพนี้แล้วกันค่ะ
"เวียงจันทร์ วันแดดร้อน"
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น