เป็นคนที่ไม่ชอบเขียนอะไรเกิน 3 บรรทัด..แต่วันนี้ขอฝืนหน่อย
เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อ 3 ปีที่แล้ว..เพื่อนผมไปแจ้งความให้ดำเนินคดีกับลูกน้องข้อหายักยอกทรัพย์(รถยนต์)ที่โรงพักแห่งหนึ่ง(ขอสงวน) ใช้แทนเป็น โรงพัก ก.)
พนักงานสอบสวนได้ขอให้ศาลอนุมัติออกหมายจับตัวลูกน้อง(ผู้ต้องหา)
ศาลได้อนุมัติให้ออกหมายจับเมื่อเดือน พ.ย.2556..ตลอด 3 เกือบ 4 ปีหลังจากออกหมาย ตำรวจไม่มีการติดตามจับตัวผู้ต้องหา..
ทั้งๆที่เพื่อนผมก็แจ้งภูมิลำเนาบ้านเกิดของผู้ต้องหาอย่างชัดเจน
เพื่อนผมเลยต้องสวมวิญญานนักสืบเอง เดินทางไปมาระหว่างจังหวัด..ตามสืบหาตัวผู้ต้องหา..หมดเงินไปหลายหมื่นบาท
จนสืบทราบมาว่าตัวผู้ต้องหาไม่ได้หนีไปไกลจากบ้าน.ยังวนเวียนแถวอยู่บ้านเกิดของตัวเอง..
จนเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา..เพื่อนผมได้ไปหาพรรคพวกที่เป็นอัยการที่อยู่ในจังหวัดผู้ต้องหา
เพื่อขอให้อัยการช่วยเร่งรัดตำรวจในพื้นที่ตามจับผู้ต้องหา...
อัยการได้ติดต่อไปหาผู้กำกับ สภ.ที่ผู้ต้องหาหลบหนีอยู่ เพื่อนผมได้ไปที่ สภ.(ขอสงวน ใช้โรงพัก.ข)เพื่อไปพบกับ ผกก... แต่ก็ไม่พบกับตัว ผกก...แต่ได้พบกับ รองผู้กำกับโรงพัก ข.เพื่อนผมได้เอาหมายจับผู้ต้องหา..
ในระหว่างที่พูดคุยกับรอง ผกก.ก็โอดครวญกับเพื่อนผมว่าเป็นโรงพักตัวเองเป็นโรงพักเล็กๆ เงินเบี้ยเลี้ยง น้ำมันรถก็มีน้อย ไม่พอที่จะให้ลูกน้องออกไปตามจับผู้ต้องหา เพื่อนผมเลยจำใจควักเงินให้ไป 1 หมื่นบาท..
หลังจากนั้นประมาณ 1 อาทิตย์ มีตำรวจจาก สภ.แห่งหนึ่ง(ขอสงวนใช้โรงพัก ค.)..ที่อยู่เขตติดกันกับโรงพัก.ข.โทรมาหาเพื่อนผม..พร้อมทั้งโอดครวญขอเงินค่าน้ำมันรถพร้อมขอเงินเพื่อเป็นเบี้ยเลี้ยงอีก 1 หมื่นบาท..
แมร่งมันปลิงหรือตำรวจวะ..มันจะสูบเลือดกันไปถึงไหน
ตำรวจก็รู้กันว่าเพื่อนผมต้องผ่อนรถยนต์ต่อหลังจากที่ถูกยักยอกไป(น่าจะเรียกว่าผ่อนกุญแจรถ)ประมาณเดือนละ 12,000 บาท ที่ถูกยักยอกไป..
เพือนผมก็สุดแสนจะใจดี..โอนไปให้ตำรวจโรงพัก ค.อีก 6 พันบาท(ต่อลองขอลด)
วันรุ่งขึ้นหลังจากที่โอนเงินไปให้ตำรวจโรงพัก ค. ก็โทรมาบอกว่าจับตัวผู้ต้องหาได้แล้ว...
ยังๆแค่นี้ยังไม่จบ..เย็นวันเดียวกัน มีโทรจากตำรวจโรงพัก ก (ที่เกิดเหตุ)
โทรมาแจ้งเพื่อนผมว่าจับตัวผู้ต้องหาได้แล้ว.. ตำรวจบอกเพื่อนผมว่าเช้าวันพรุ่งนี้ให้เพื่อนผมไปกับตำรวจ
โดยให้ใช้รถเพื่อนผมไปรับตัวผู้ต้องหาที่โรงพัก ค.
เพื่อนผมโทรมาหาผม...ถามว่าตัวเพื่อนผมต้องไปด้วยเหรอ ผมบอกเพื่อนว่าเป็นหน้าที่ของตำรวจ..ไม่ใช่หน้าที่ผู้เสียหาย
เพื่อนผมจึงโทรไปปฏิเสธตำรวจโรงพัก ก. ก่อนวางสาย..ตำรวจที่โทรมา..ถามที่อยู่เพื่อนผม..บอกว่าตอนเช้าก่อนไปรับตัวผู้ต้องหาจะมาขอพบ..
ตอนเช้าตำรวจจากโรงพัก ก.ก็มาหาเพื่อนผม..บอกว่ามันต้องเดินทางไปโรงพัก ค.(ต่างจังหวัด)รับตัวผู้ต้องหาในวันหยุด(วันวิสาขะ) ไม่มีเบี้ยเลี้ยง..
ขอเงินเพื่อนผม 5 พันบาท..เพื่อนผมใจอ่อนทนดราม่าของตำำรวจนายนั้นไม่ไหว..ต่อลองขอลดเหลือ 3 พันบาทให้กับตำรวจไป..ยังไม่จบอีก..
ตำรวจโรงพัก ก.กลับไปนั่งในรถ..กวักมือเรียกเพื่อนผมไปที่รถตำรวจที่ขับมา..พร้อมกับชี้ให้เพื่อนผมดูเกจ์วัดน้ำมัน
ตำรวจพูดกับเพื่อนผมว่า"ดูซิไม่มีน้ำมันเลย เงิน 3 พันไม่พอหรอกขออีก 1 พัน...ปลิงเอ๊ย!
ข้อเท็จจริงการเดินทางไปรับตัวผู้ต้องหาตำรวจก็เบิกน้ำมันรถ เงินเบี้ยเลี้ยงไปราชการได้
และแค่ละโรงพักยังมีเงินกองทุนสำหรับเบิกไปสืบสวน ติดตามจับผู้ต้องหาตามหมายจับได้..
ตามความเป็นจริงเงินกองทุนนี้ทุกโรงพักก็เบิกมาใช้จนเกลี้ยง..แต่ก็ไม่ได้เอาไปใช้ทำงานสืบสวนหาข่าว..
ส่วนใหญ่หัวหน้าโรงพักจะเบิกใช้งานที่ไม่เกี่ยวข้อง
ที่แย่หน่อยก็เบิกเท็จไปใช้ส่วนตัวไม่เกี่ยวกับการสืบสวนติดตามผู้ต้องหา
ตำรวจยุคเป็นยุคที่เสื่อมจริงๆ(รีว่ามันเป็นนานแล้ว)..นอกจากจะมีข่าวเรื่องเป่าสำนวน..จับแพะ ยังหากินแม้กระทั่งบนความทุกข์ของชาวบ้าน.
สมควรแล้วที่ชาวบ้านเค้าเรียกร้องปฏิรูปตำรวจ...เพราะตำรวจแย่ๆ..อย่างพวกนี้นี่เอง
ยุคตกต่ำของตำรวจ...ใครเคยเจอแบบนี้บ้าง
เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อ 3 ปีที่แล้ว..เพื่อนผมไปแจ้งความให้ดำเนินคดีกับลูกน้องข้อหายักยอกทรัพย์(รถยนต์)ที่โรงพักแห่งหนึ่ง(ขอสงวน) ใช้แทนเป็น โรงพัก ก.)
พนักงานสอบสวนได้ขอให้ศาลอนุมัติออกหมายจับตัวลูกน้อง(ผู้ต้องหา)
ศาลได้อนุมัติให้ออกหมายจับเมื่อเดือน พ.ย.2556..ตลอด 3 เกือบ 4 ปีหลังจากออกหมาย ตำรวจไม่มีการติดตามจับตัวผู้ต้องหา..
ทั้งๆที่เพื่อนผมก็แจ้งภูมิลำเนาบ้านเกิดของผู้ต้องหาอย่างชัดเจน
เพื่อนผมเลยต้องสวมวิญญานนักสืบเอง เดินทางไปมาระหว่างจังหวัด..ตามสืบหาตัวผู้ต้องหา..หมดเงินไปหลายหมื่นบาท
จนสืบทราบมาว่าตัวผู้ต้องหาไม่ได้หนีไปไกลจากบ้าน.ยังวนเวียนแถวอยู่บ้านเกิดของตัวเอง..
จนเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา..เพื่อนผมได้ไปหาพรรคพวกที่เป็นอัยการที่อยู่ในจังหวัดผู้ต้องหา
เพื่อขอให้อัยการช่วยเร่งรัดตำรวจในพื้นที่ตามจับผู้ต้องหา...
อัยการได้ติดต่อไปหาผู้กำกับ สภ.ที่ผู้ต้องหาหลบหนีอยู่ เพื่อนผมได้ไปที่ สภ.(ขอสงวน ใช้โรงพัก.ข)เพื่อไปพบกับ ผกก... แต่ก็ไม่พบกับตัว ผกก...แต่ได้พบกับ รองผู้กำกับโรงพัก ข.เพื่อนผมได้เอาหมายจับผู้ต้องหา..
ในระหว่างที่พูดคุยกับรอง ผกก.ก็โอดครวญกับเพื่อนผมว่าเป็นโรงพักตัวเองเป็นโรงพักเล็กๆ เงินเบี้ยเลี้ยง น้ำมันรถก็มีน้อย ไม่พอที่จะให้ลูกน้องออกไปตามจับผู้ต้องหา เพื่อนผมเลยจำใจควักเงินให้ไป 1 หมื่นบาท..
หลังจากนั้นประมาณ 1 อาทิตย์ มีตำรวจจาก สภ.แห่งหนึ่ง(ขอสงวนใช้โรงพัก ค.)..ที่อยู่เขตติดกันกับโรงพัก.ข.โทรมาหาเพื่อนผม..พร้อมทั้งโอดครวญขอเงินค่าน้ำมันรถพร้อมขอเงินเพื่อเป็นเบี้ยเลี้ยงอีก 1 หมื่นบาท..
แมร่งมันปลิงหรือตำรวจวะ..มันจะสูบเลือดกันไปถึงไหน
ตำรวจก็รู้กันว่าเพื่อนผมต้องผ่อนรถยนต์ต่อหลังจากที่ถูกยักยอกไป(น่าจะเรียกว่าผ่อนกุญแจรถ)ประมาณเดือนละ 12,000 บาท ที่ถูกยักยอกไป..
เพือนผมก็สุดแสนจะใจดี..โอนไปให้ตำรวจโรงพัก ค.อีก 6 พันบาท(ต่อลองขอลด)
วันรุ่งขึ้นหลังจากที่โอนเงินไปให้ตำรวจโรงพัก ค. ก็โทรมาบอกว่าจับตัวผู้ต้องหาได้แล้ว...
ยังๆแค่นี้ยังไม่จบ..เย็นวันเดียวกัน มีโทรจากตำรวจโรงพัก ก (ที่เกิดเหตุ)
โทรมาแจ้งเพื่อนผมว่าจับตัวผู้ต้องหาได้แล้ว.. ตำรวจบอกเพื่อนผมว่าเช้าวันพรุ่งนี้ให้เพื่อนผมไปกับตำรวจ
โดยให้ใช้รถเพื่อนผมไปรับตัวผู้ต้องหาที่โรงพัก ค.
เพื่อนผมโทรมาหาผม...ถามว่าตัวเพื่อนผมต้องไปด้วยเหรอ ผมบอกเพื่อนว่าเป็นหน้าที่ของตำรวจ..ไม่ใช่หน้าที่ผู้เสียหาย
เพื่อนผมจึงโทรไปปฏิเสธตำรวจโรงพัก ก. ก่อนวางสาย..ตำรวจที่โทรมา..ถามที่อยู่เพื่อนผม..บอกว่าตอนเช้าก่อนไปรับตัวผู้ต้องหาจะมาขอพบ..
ตอนเช้าตำรวจจากโรงพัก ก.ก็มาหาเพื่อนผม..บอกว่ามันต้องเดินทางไปโรงพัก ค.(ต่างจังหวัด)รับตัวผู้ต้องหาในวันหยุด(วันวิสาขะ) ไม่มีเบี้ยเลี้ยง..
ขอเงินเพื่อนผม 5 พันบาท..เพื่อนผมใจอ่อนทนดราม่าของตำำรวจนายนั้นไม่ไหว..ต่อลองขอลดเหลือ 3 พันบาทให้กับตำรวจไป..ยังไม่จบอีก..
ตำรวจโรงพัก ก.กลับไปนั่งในรถ..กวักมือเรียกเพื่อนผมไปที่รถตำรวจที่ขับมา..พร้อมกับชี้ให้เพื่อนผมดูเกจ์วัดน้ำมัน
ตำรวจพูดกับเพื่อนผมว่า"ดูซิไม่มีน้ำมันเลย เงิน 3 พันไม่พอหรอกขออีก 1 พัน...ปลิงเอ๊ย!
ข้อเท็จจริงการเดินทางไปรับตัวผู้ต้องหาตำรวจก็เบิกน้ำมันรถ เงินเบี้ยเลี้ยงไปราชการได้
และแค่ละโรงพักยังมีเงินกองทุนสำหรับเบิกไปสืบสวน ติดตามจับผู้ต้องหาตามหมายจับได้..
ตามความเป็นจริงเงินกองทุนนี้ทุกโรงพักก็เบิกมาใช้จนเกลี้ยง..แต่ก็ไม่ได้เอาไปใช้ทำงานสืบสวนหาข่าว..
ส่วนใหญ่หัวหน้าโรงพักจะเบิกใช้งานที่ไม่เกี่ยวข้อง
ที่แย่หน่อยก็เบิกเท็จไปใช้ส่วนตัวไม่เกี่ยวกับการสืบสวนติดตามผู้ต้องหา
ตำรวจยุคเป็นยุคที่เสื่อมจริงๆ(รีว่ามันเป็นนานแล้ว)..นอกจากจะมีข่าวเรื่องเป่าสำนวน..จับแพะ ยังหากินแม้กระทั่งบนความทุกข์ของชาวบ้าน.
สมควรแล้วที่ชาวบ้านเค้าเรียกร้องปฏิรูปตำรวจ...เพราะตำรวจแย่ๆ..อย่างพวกนี้นี่เอง