ต่อจากกะทู้ Part 2 :
https://ppantip.com/topic/36509543
ย้อนกลับไปอ่าน Part 1 :
https://ppantip.com/topic/36508686
รถออกจากทุ่งหญ้าตัวมอมอตมาสักระยะ ราวๆยี่สิบนาที เราก็เห็นทะเลสาบปันกอง
สถานที่ในฝัน wishlist มาหลายปีของเรา แว้ปแรกที่เห็นก็คืออึ้งไปเลย
เหมือนฝันเป็นจริง โอ้โห มันสวยมาก น้ำทะเลสาบสีฟ้าน้ำเงิน
ตัดกับภูเขาสีน้ำตาลเท่ๆ มันดีงามมากจริงๆ
และนี่คือมนุษย์แม่ของเราเอง นางสามารถถ่ายรูปกระโดดชิคๆได้
อาหารเที่ยงที่ทางโรงแรมแพ็คมาให้ เป็นข้าวผัดไข่+ไก่ทอด
กินมื้อเที่ยงเสร็จ เราก็มีเวลาถ่ายรูปเก็บภาพ ราวๆ 2 ชม.ค่ะ
เอาโดรนบินได้แปปเดียวค่ะ เพราะนกไล่จิก ไล่ตาม 555
ราวๆบ่ายสองครึ่งเราก็เริ่มออกเดินทางกลับจากทะเลสาบปันกองเข้าเมืองเลห์
เรื่องที่เกริ่นไว้ตอนต้น เรื่อง อาการแพ้ความสูงก็เกิดขึ้นกับเพื่อนของน้องชายค่ะ
เนื่องจาก ลืมกินยา Diamox ขากลับนั่งรถมาได้แค่ครึ่งชม. น้องผญ.
มีอาการคลื่นไส้ ปวดหัวรุนแรง อาเจียนหนักมาก พวกเราในรถช่วยกันปฐมพยาบาล
ด้วยการให้กินยา Diamox ดมยาดม เช็ดหน้า แต่น้องก็ยังอาเจียนตลอดทาง
และแน่นอนค่ะ ว่ามีเพื่อนร่วมอาเจียน ร่วมแพ้ความสูง ตามรายทาง จอดแวะเต็มไปหมด
อาจไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ แต่ถือเป็นอาการอันตราย Nurbu คนขับรถของเรา
ขากลับแทบจะบินกลับลงสู่พื้นราบเลยทีเดียว
และที่เบาใจได้คือ เมื่อ ลงสู่ระดับความสูงที่ต่ำกว่า
เพื่อนน้องชายมีอาการดีขึ้นทันที จากการสัมภาษณ์
น้องบอกว่า เหมือนเป็นคนละคนกันเลยทีเดียว
เพราะฉะนั้น ยา Diamox เป็นสิ่งจำเป็น ห้ามลืมกิน น่าจะเป็นตัวช่วยที่ดี
ในการช่วยลดอาการแพ้ความสูง
เรากลับมาถึงตัวเมืองเลห์ตอนค่ำแล้วค่ะ
ทานมื้อเย็นแล้วก็แยกย้ายกันพักผ่อน
ทริปวันที่ 4 : Confluence of 2 rivers จุดตัดแม่น้ำสองสาย / Magnetic Hill แมกเนติกฮิลล์
Confluence of 2 rivers จุดตัดแม่น้ำสองสาย หรือ หุบเขาซันสการ์ ( Zanskar ) แม่น้ำสองสี
เดิมเคยถูกเรียกว่าเป็นเมืองลับแลแห่ง หลังคาโลก
เพราะถูกปิดล้อมไปด้วยเทือกเขาสูงชันทางใต้ของเลห์ซึ่งมีแม่น้ำสินธุ ( Indus) เป็นสีเขียว
และแม่น้ำซันสการ์ ( Zanskar ) จะออกสีน้ำตาล
ไหลเลียบขอบเขามาบรรจบกันกลายเป็นแม่น้ำสองสี
แต่ในช่วงหน้าหนาวแม่น้ำทั้งสองสายจะกลายเป็นธารน้ำแข็ง
เป็นเส้นทางแทรคกิ้งของนักท่องเที่ยว
ที่ต้องการการท้าความเย็นที่อุณภูมิติดลบกว่า 20 องศา
ที่นี่จะมีกิจกรรมให้ล่องแก่งด้วยค่ะ แต่น้ำเย็นเกินไป ในทีมเราไม่มีใครลองค่ะ
ถ้าเป็นฤดูร้อนน่าจะสนุกและเป็นกิจกรรมที่น่าสนใจ
Magnetic Hill นี่จริงๆแล้วมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า Gravity Hill ซึ่งถ้าจอดรถเอาไว้ตรงจุดที่เค้ากำหนดไว้
แล้วดับเครื่องยนต์ เราจะเห็นเหมือนกับว่า รถมันไหลขึ้นภูเขาได้เอง
ซึ่งจริงๆแล้วมันเป็นภาพลวงตา ทางถนนจริงๆมันเป็นทางลงเขาต่างหาก
แต่มุมมองที่มองมันเหมือนกับขึ้นภูเขานั่นเอง
วันนี้ทริปเราเที่ยวแค่สองที่เท่านั้น เพราะตอนบ่ายมีแพลนไปเดินช้อปปิ้ง
ในตลาด Main Market
ของน่าช้อปมากๆค่ะ พวกผลิตภัณฑ์หิมาลายา ราคาเท่ากันหมด ไม่ต้องกลัวโดนโกง
หินสี สร้อยข้อมือ ธงมนต์ กงล้อมนตรา แอปปริคอตตากแห้ง ฯลฯ
เราเดินตลาดจนถึงค่ำเลยทีเดียว และกลับมากินมื้อค่ำที่โรงแรม
ระหว่างแวะร้าน Gesmo ตามลายแทงในพันทิป ซื้อเบเกอรี่มาเยอะแยะ
มากินที่โรงแรม รสชาติไม่อร่อยเอาเสียเลย หรืออาจะไม่ถูกปากเราอาจเป็นได้
ขนมเค้ก เบเกอรี่เหล่านี้ ให้พนักงานโรงแรมไปหมดเลยค่ะ เพราะไม่อร่อยจริงๆ
หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันพักผ่อน เก็บกระเป๋าเตรียมตัวเดินทางกลับ
ในวันรุ่งขึ้น Nurbu มารับตอนเช้าตรู่เลยค่ะ
การผ่านตม. เช็คอิน คิวยาวและวุ่นวายมากทีเดียว
เครื่องออก 7.40 น. boarding จวนเจียนมากค่ะ 7.30 น. เพิ่งได้ขึ้นเครื่อง
ขากลับ ขนมบนไฟลท์ก็เป็นแบบเดียวกับขามา
รอต่อเครื่องที่ New Delhi 3-4 ชม. ก็แวะช้อปผลิตภัณฑ์หิมาลายาเป็นของฝาก
ขากลับอาหารบนเครื่องเป็นมัสมั่นไก่ แน่นอนว่า พวกเราทุกคนเริ่มไม่ไหวหับกลิ่นเครื่องเทศ
กินได้นิดหน่อยค่ะ อาหารไม่น่าทานเอาเสียเลย
สุดท้าย ก็อยากจะสรุปเกี่ยวกับทริปเลห์ ลาดัก ในทัศนะของเราว่า
1. เลห์ ลาดักห์ เป็นสถานที่ที่มีวัฒนธรรมบางอย่างที่มีชีวิต สัมผัสได้ จับต้องได้
และไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ ไม่ว่าโลกเราจะศิวิไลซ์แค่ไหนก็ตาม
2. สิ่งที่กล้องถ่ายออกมานั้น ทั้งหมดนี้ ไม่สวยเท่าที่สองตาของเรามองเห็น
3. ผู้คนที่นี่ดีมาก มากจริงๆ มีน้ำใจ จิตใจดี ไม่โลภ ไม่ขู่เข็ญนักท่องเที่ยว
4. ชาวลาดักห์นับถือลามะมากและผ่านสถูปเจดีย์ที่ไหน เขาจะยกมือทำความเคารพ
เราจะเห็นผู้คนเดินหมุนกงล้อมมนตราตามข้างทาง
5. ที่นี่เป็นดินแดนสนธยาที่มีอยู่จริงบนโลก อินเตอร์เน็ตไม่มีความหมาย
ไม่มีการดิ้นรน ไม่มีการแข่งขัน ใช้ชีวิตแบบ traditional มันงดงามมากจริงๆ
6. หากคุณยังเดินไหว หาเงินได้ ที่นี่ควรเป็น wishlist
7. การพาพ่อแม่ไปเที่ยว ในสถานที่ที่เราคิดว่ามันอาจยากลำบาก แต่เชื่อเถอะว่า
ถ้าเราเตรียมพร้อม เตรียมตัวให้ดี ทุกอย่างเกิดขึ้นได้ และมันจะสนุกมากๆ
ที่เราได้มาเห็นอะไรแบบนี้ด้วยกัน
8. คนที่อยากหาคำตอบ อาจจะได้คำตอบ จริงๆชีวิตเราอาจไม่ต้องการอะไร
ที่มันวุ่นวน วุ่นวาย ลองไปใช้ชีวิตแบบ slow life ไม่แคร์โลก
9. ลองมาเลห์สักครั้ง แล้วคุณจะรักเลห์ ลาดักห์แบบที่เรารัก
ขออนุญาตปิดกะทู้ด้วยภาพรวมสมาชิกทริปของเรา
พบกันใหม่ทริปหน้า และหากเพื่อนๆมีคำถามข้อสงสัย
ก็หลังไมค์กันมาค่ะ
Part 1 :
https://ppantip.com/topic/36508686
Part 2 :
https://ppantip.com/topic/36509543
[CR] ^*Leh in May 2017*^ แบกเป้พาพ่อแม่เที่ยว มันก็จะสนุกหน่อยๆ Part 3
ย้อนกลับไปอ่าน Part 1 : https://ppantip.com/topic/36508686
สถานที่ในฝัน wishlist มาหลายปีของเรา แว้ปแรกที่เห็นก็คืออึ้งไปเลย
เหมือนฝันเป็นจริง โอ้โห มันสวยมาก น้ำทะเลสาบสีฟ้าน้ำเงิน
ตัดกับภูเขาสีน้ำตาลเท่ๆ มันดีงามมากจริงๆ
อาหารเที่ยงที่ทางโรงแรมแพ็คมาให้ เป็นข้าวผัดไข่+ไก่ทอด
ราวๆบ่ายสองครึ่งเราก็เริ่มออกเดินทางกลับจากทะเลสาบปันกองเข้าเมืองเลห์
เรื่องที่เกริ่นไว้ตอนต้น เรื่อง อาการแพ้ความสูงก็เกิดขึ้นกับเพื่อนของน้องชายค่ะ
เนื่องจาก ลืมกินยา Diamox ขากลับนั่งรถมาได้แค่ครึ่งชม. น้องผญ.
มีอาการคลื่นไส้ ปวดหัวรุนแรง อาเจียนหนักมาก พวกเราในรถช่วยกันปฐมพยาบาล
ด้วยการให้กินยา Diamox ดมยาดม เช็ดหน้า แต่น้องก็ยังอาเจียนตลอดทาง
และแน่นอนค่ะ ว่ามีเพื่อนร่วมอาเจียน ร่วมแพ้ความสูง ตามรายทาง จอดแวะเต็มไปหมด
อาจไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ แต่ถือเป็นอาการอันตราย Nurbu คนขับรถของเรา
ขากลับแทบจะบินกลับลงสู่พื้นราบเลยทีเดียว
และที่เบาใจได้คือ เมื่อ ลงสู่ระดับความสูงที่ต่ำกว่า
เพื่อนน้องชายมีอาการดีขึ้นทันที จากการสัมภาษณ์
น้องบอกว่า เหมือนเป็นคนละคนกันเลยทีเดียว
เพราะฉะนั้น ยา Diamox เป็นสิ่งจำเป็น ห้ามลืมกิน น่าจะเป็นตัวช่วยที่ดี
ในการช่วยลดอาการแพ้ความสูง
เรากลับมาถึงตัวเมืองเลห์ตอนค่ำแล้วค่ะ
ทานมื้อเย็นแล้วก็แยกย้ายกันพักผ่อน
ทริปวันที่ 4 : Confluence of 2 rivers จุดตัดแม่น้ำสองสาย / Magnetic Hill แมกเนติกฮิลล์
เดิมเคยถูกเรียกว่าเป็นเมืองลับแลแห่ง หลังคาโลก
เพราะถูกปิดล้อมไปด้วยเทือกเขาสูงชันทางใต้ของเลห์ซึ่งมีแม่น้ำสินธุ ( Indus) เป็นสีเขียว
และแม่น้ำซันสการ์ ( Zanskar ) จะออกสีน้ำตาล
ไหลเลียบขอบเขามาบรรจบกันกลายเป็นแม่น้ำสองสี
แต่ในช่วงหน้าหนาวแม่น้ำทั้งสองสายจะกลายเป็นธารน้ำแข็ง
เป็นเส้นทางแทรคกิ้งของนักท่องเที่ยว
ที่ต้องการการท้าความเย็นที่อุณภูมิติดลบกว่า 20 องศา
ที่นี่จะมีกิจกรรมให้ล่องแก่งด้วยค่ะ แต่น้ำเย็นเกินไป ในทีมเราไม่มีใครลองค่ะ
ถ้าเป็นฤดูร้อนน่าจะสนุกและเป็นกิจกรรมที่น่าสนใจ
แล้วดับเครื่องยนต์ เราจะเห็นเหมือนกับว่า รถมันไหลขึ้นภูเขาได้เอง
ซึ่งจริงๆแล้วมันเป็นภาพลวงตา ทางถนนจริงๆมันเป็นทางลงเขาต่างหาก
แต่มุมมองที่มองมันเหมือนกับขึ้นภูเขานั่นเอง
ในตลาด Main Market
หินสี สร้อยข้อมือ ธงมนต์ กงล้อมนตรา แอปปริคอตตากแห้ง ฯลฯ
เราเดินตลาดจนถึงค่ำเลยทีเดียว และกลับมากินมื้อค่ำที่โรงแรม
ระหว่างแวะร้าน Gesmo ตามลายแทงในพันทิป ซื้อเบเกอรี่มาเยอะแยะ
มากินที่โรงแรม รสชาติไม่อร่อยเอาเสียเลย หรืออาจะไม่ถูกปากเราอาจเป็นได้
ขนมเค้ก เบเกอรี่เหล่านี้ ให้พนักงานโรงแรมไปหมดเลยค่ะ เพราะไม่อร่อยจริงๆ
ในวันรุ่งขึ้น Nurbu มารับตอนเช้าตรู่เลยค่ะ
การผ่านตม. เช็คอิน คิวยาวและวุ่นวายมากทีเดียว
เครื่องออก 7.40 น. boarding จวนเจียนมากค่ะ 7.30 น. เพิ่งได้ขึ้นเครื่อง
ขากลับ ขนมบนไฟลท์ก็เป็นแบบเดียวกับขามา
ขากลับอาหารบนเครื่องเป็นมัสมั่นไก่ แน่นอนว่า พวกเราทุกคนเริ่มไม่ไหวหับกลิ่นเครื่องเทศ
กินได้นิดหน่อยค่ะ อาหารไม่น่าทานเอาเสียเลย
1. เลห์ ลาดักห์ เป็นสถานที่ที่มีวัฒนธรรมบางอย่างที่มีชีวิต สัมผัสได้ จับต้องได้
และไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ ไม่ว่าโลกเราจะศิวิไลซ์แค่ไหนก็ตาม
เราจะเห็นผู้คนเดินหมุนกงล้อมมนตราตามข้างทาง
ไม่มีการดิ้นรน ไม่มีการแข่งขัน ใช้ชีวิตแบบ traditional มันงดงามมากจริงๆ
ถ้าเราเตรียมพร้อม เตรียมตัวให้ดี ทุกอย่างเกิดขึ้นได้ และมันจะสนุกมากๆ
ที่เราได้มาเห็นอะไรแบบนี้ด้วยกัน
ที่มันวุ่นวน วุ่นวาย ลองไปใช้ชีวิตแบบ slow life ไม่แคร์โลก
พบกันใหม่ทริปหน้า และหากเพื่อนๆมีคำถามข้อสงสัย
ก็หลังไมค์กันมาค่ะ
Part 1 : https://ppantip.com/topic/36508686
Part 2 : https://ppantip.com/topic/36509543