วันนี้ได้มีโอกาสไปร่วมเวทีประชาคม เพราะมีบริษัทมายื่นขอประทานบัตรทำเหมืองแร่ ที่ต.เหมือง อ.เมือง จ.ชลบุรี ซึ่งจะย้ายมาทำในระยะ 400 เมตร ซึ่งมันใกล้หมู่บ้านที่อยู่มาก ตอนแรกที่ตัดสินใจซื้อบ้านเพราะดูว่าสัมปทานจะหมดลงแล้ว และเจ้าของหมู่บ้านก็การันตีว่าหมดสัมปทานจริง แต่ปรากฎว่าหมดสัมปทานอีกที่แต่จะขอมาย้ายทำอีกที่ ซึ่งแน่นอนว่าขนาดระยะไกลเสียงระเบิดยังดังและสั่นสะเทือนมาก แถมฝุ่นก็เยอะ เราอดทนมาตลอด บ้านก็ร้าว แต่คิดว่ามันจะหมดแล้วเลยทนมาตลอด แต่วันนี้คิดว่าความอดทนของเราคงจะไร้ความหมาย
พอเข้ามาในเวทีประชาคมที่เทศบาลเหมือง เขาพูดได้สวยหรูมากว่าตลอดเวลาที่ระเบิดหินทำเหมืองพวกเขารักษาความปลอดภัยดีมากแค่ไหน ซึ่งมันตรงข้ามกับความจริง แถมยังบีบบังคับให้พวกเราลงประชาคมเห็นด้วย ที่เลวร้ายกว่านั้นเราพบว่ามีหน้าม้ามาหลายคน ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นคนในพื้นที่หรือเป็นคนไทยจริงหรือเปล่า แล้วก็เป็นไปตามคาด พวกเขาให้ยกมือลงประชาคมว่าเห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วย ทั้งที่พวกเราขอเลื่อนเพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม พวกเขาบอกว่าไม่มีเวลาและเกรงใจไม่อยากให้มาหลายรอบ ทำการลงมติโดยที่ไม่มีหลักฐาน ไม่มีเอกสาร นับที่ยกมือก็ไม่แน่ว่าตัวเลขคลาดเคลื่อนหรือเปล่า นี่มันเป็นเรื่องที่ทุเรศสิ้นดี มันมัดมือชกกันเห็น ๆ เราเรียกร้องให้ลงประชามติ แต่เขาบอกไม่ได้อยู่ในกฎหมาย นี่มันคืออะไรกัน เรามาถึงจุดนี้ได้ยังไง คนที่เป็นพิธีกรคือปลัดและกำนัน ซึ่งคนเหล่านี้น่าจะฟังความเดือดร้อนของลูกบ้านไม่ใช่เหรอ เรารู้สึกแย่มากๆกับเหตุการณ์ในวันนี้
บ้านหลังนึงเราซื้อในราคา 3ล้านกว่า ซึ่งแน่นอนว่าจะให้เราหนีแล้วทิ้งไปอยู่ที่ไหน มันคือเงินที่เราสะสมในบางส่วนและกู้ซื้อในบางส่วน สำหรับมนุษย์เงินเดือนแล้วมันคือเงินก้อนโต จะให้เราทำอย่างไร ถามว่าขายต่อ แล้วใครจะมาซื้อละ ทำไมเขาไม่เห็นใจเราบ้าง คนเราเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองแล้ว กลับมองข้ามความเดือดร้อนของคนอื่น แถมยังใช้ขั้นตอนประชาคมจากรัฐมาบีบบังคับกันอีก มันสมควรแล้วเหรอ ขนาดหมู่บ้านใกล้ ๆ เป็นครู อาจารย์ ในมหาลัยบูรพา พวกเขายังไม่ฟังเสียงคัดค้านเลย เราต้องเสียงดังแค่ไหนพวกเขาถึงจะฟัง
ช้ำใจกับความมืดบอดของคำว่า"ประชาคม"ในบ้านเรา
พอเข้ามาในเวทีประชาคมที่เทศบาลเหมือง เขาพูดได้สวยหรูมากว่าตลอดเวลาที่ระเบิดหินทำเหมืองพวกเขารักษาความปลอดภัยดีมากแค่ไหน ซึ่งมันตรงข้ามกับความจริง แถมยังบีบบังคับให้พวกเราลงประชาคมเห็นด้วย ที่เลวร้ายกว่านั้นเราพบว่ามีหน้าม้ามาหลายคน ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นคนในพื้นที่หรือเป็นคนไทยจริงหรือเปล่า แล้วก็เป็นไปตามคาด พวกเขาให้ยกมือลงประชาคมว่าเห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วย ทั้งที่พวกเราขอเลื่อนเพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม พวกเขาบอกว่าไม่มีเวลาและเกรงใจไม่อยากให้มาหลายรอบ ทำการลงมติโดยที่ไม่มีหลักฐาน ไม่มีเอกสาร นับที่ยกมือก็ไม่แน่ว่าตัวเลขคลาดเคลื่อนหรือเปล่า นี่มันเป็นเรื่องที่ทุเรศสิ้นดี มันมัดมือชกกันเห็น ๆ เราเรียกร้องให้ลงประชามติ แต่เขาบอกไม่ได้อยู่ในกฎหมาย นี่มันคืออะไรกัน เรามาถึงจุดนี้ได้ยังไง คนที่เป็นพิธีกรคือปลัดและกำนัน ซึ่งคนเหล่านี้น่าจะฟังความเดือดร้อนของลูกบ้านไม่ใช่เหรอ เรารู้สึกแย่มากๆกับเหตุการณ์ในวันนี้
บ้านหลังนึงเราซื้อในราคา 3ล้านกว่า ซึ่งแน่นอนว่าจะให้เราหนีแล้วทิ้งไปอยู่ที่ไหน มันคือเงินที่เราสะสมในบางส่วนและกู้ซื้อในบางส่วน สำหรับมนุษย์เงินเดือนแล้วมันคือเงินก้อนโต จะให้เราทำอย่างไร ถามว่าขายต่อ แล้วใครจะมาซื้อละ ทำไมเขาไม่เห็นใจเราบ้าง คนเราเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองแล้ว กลับมองข้ามความเดือดร้อนของคนอื่น แถมยังใช้ขั้นตอนประชาคมจากรัฐมาบีบบังคับกันอีก มันสมควรแล้วเหรอ ขนาดหมู่บ้านใกล้ ๆ เป็นครู อาจารย์ ในมหาลัยบูรพา พวกเขายังไม่ฟังเสียงคัดค้านเลย เราต้องเสียงดังแค่ไหนพวกเขาถึงจะฟัง