คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 12
ถ้านั่ง 5 คน (รวมคนขับ) ผมว่า ทั้ง CX-5 หรือ CRV ก็ได้ทั้ง 2 คันเหละครับ
ถ้าพูดถึงออฟชั่นความปลอดภัย ของ CX-5 ให้มาเยอะกว่า CRV ครับ เช่น มีพวกระบบเตือนออกนอกเลน มีระบบหยุดรถอัตโนมัติทั้งเดินหน้าและถอยหลัง เตือนจุดอับสายตาด้านข้าง และด้านหลัง เตือนแรงดันลมยาง ไฟหน้าเลี้ยวตามการเลี้ยวของรถ นอกจากนี้ยังมีระบบ ALH ปรับลำแสงอัตโนมัติอีกด้วย ไม่ว่าจะปรับความสูงของระดับไฟ ปรับความไฟสว่างของไฟสูงต่ำ เพื่อไม่ให้รบกวนรถที่อยู่ข้างหนัา หรือรถที่สวนมา หรือ กระจายแสงต่างกันตามความเร็วในการขับขี่
แต่ที่คุณบอกว่า ตัวล่างของทั้ง 2 รุ่น ระบบความปลอดภัยมีมาให้น้อยกว่า
ถ้าเป็น CX-5 คือใช่ครับ ออฟชั่นเพียบอย่างที่ผมยกตัวอย่าง เพราะตัวท็อป ระบบความปลอดภัยมาเต็มมาก จริง ๆ มากกว่านั้นอีกนะ ต้องไปดูในแคตตาล็อกเอาครับ
แต่สำหรับ CRV นั้น ระบบความปลอดภัย ไม่ว่าตัวไหน ตั้งแต่ตัวล่างสุด ขับ 2 เบนซิน กับตัว ดีเซลขับ 4 แทบไม่ต่างกันเลยครับ จะต่างกันแค่ 2 อย่างคือ HONDA LANE WATCH กับ ระบบช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ แค่นั้น
แต่สิ่งที่ต่างกัน จริง ๆ ไม่ใช่เรื่องความปลอดภัยครับ เพราะรถระดับนี้ ออฟชั่นมันครบมาอยู่แล้ว เช่น ถุงลมก็ให้รอบคัน ระบบควบคุมการทรงตัว ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน อะไรพวกนี้ มันมีมาให้ทุกรุ่นอยู่แล้ว
แต่สิ่งที่มันต่างกัน อย่างของ CRV คือ ออฟชั่นอย่างอื่นครับ เช่น พวกไฟหน้าเปิดปิดอัตโนมัติ ปรับสูงต่ำอัตโนมัติ ที่ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ ล้อแม็กขนาดต่างกัน แอร์แยกอุณหภูมิได้ 2 ฝั่ง เบาะผู้โดยสารปรับไฟฟ้า ระบบ NAVI อะไรประมาณนี้ ที่หลัก ๆ จะแตกต่างกัน
โจทย์คือ ถ้าให้คุณแม่ขับนะ แล้วปกติใช้ในเมือง ขับไม่เกินวันละ 30 กม มีออกต่างจังหวัดบ้างปีนึง 2 - 3 ครั้ง นั่ง 5 คน ชอบรถดีเซลด้วย
ผมกลับเชียร์ไปที่ CRV ดีเซลขับ 2 นะ มากกว่าจะไปเล่นตัว AWD เพราะดูลักษณะการใช้งาน ผมว่า ไม่จำเป็นเลยที่จะต้องไปเอาตัว AWD มาให้เสียเงินเล่น
ส่วนที่ผมบอกคือ ออฟชั่นด้านความปลอดภัย แทบไม่ได้ต่างกันเลย ระหว่าง ตัวล่างกับตัวบน แถม ราคา เบนซิน 2.4 AWD กับ ดีเซล ขับ 2 ก็เท่ากันด้วย
ถามว่า ทำไม ผมเชียร์ CRV มากกว่า CX-5 สำหรับ โจทย์ตรงนี้
1. CRV ขับง่ายกว่า พวงมาลัยเบากว่า ขับในเมืองสบาย ภายในกว้าง ช่วงล่างนุ่มนวล เป็นรถที่ผู้หญิงจะชอบ แต่ CX-5 จะค่อนข้างเน้นไปทางสมรรถนะการขับขี่ อัตราเร่งที่ดี ช่วงล่างที่เกาะถนน ซึ่ง ผมมองว่า มันไม่ตอบโจทย์ ถ้าให้คุณแม่คุณขับ
2. CRV ประกอบในบ้านเรา ดังนั้นอะไหล่ของ CRV มีให้ไม่ต้องกังวลครับ ส่วน CX-5 เป็นรถนำเข้าจากมาเลเซีย เคยอ่านเจอ รถที่เกิดอุบัติเหตุ รออะไหล่กันค่อนข้างนาน
3. จากที่ดูแล้ว คุณแม่คุณใช้รถในเมืองเป็นหลัก แล้วใช้วันนึงแค่ 30 กม ออกต่างจังหวัดปีนึงก็ไม่กี่หน ดังนั้น ก็ไม่รู้จะไปซื้อตัว AWD ทำไม เพราะทุกวันนี้ คุณแม่คุณก็ใช้ ALTIS ซึ่งก็เป็นรถขับเคลื่อนล้อหน้า ก็ยังใช้งานได้
ถ้าพูดถึงออฟชั่นความปลอดภัย ของ CX-5 ให้มาเยอะกว่า CRV ครับ เช่น มีพวกระบบเตือนออกนอกเลน มีระบบหยุดรถอัตโนมัติทั้งเดินหน้าและถอยหลัง เตือนจุดอับสายตาด้านข้าง และด้านหลัง เตือนแรงดันลมยาง ไฟหน้าเลี้ยวตามการเลี้ยวของรถ นอกจากนี้ยังมีระบบ ALH ปรับลำแสงอัตโนมัติอีกด้วย ไม่ว่าจะปรับความสูงของระดับไฟ ปรับความไฟสว่างของไฟสูงต่ำ เพื่อไม่ให้รบกวนรถที่อยู่ข้างหนัา หรือรถที่สวนมา หรือ กระจายแสงต่างกันตามความเร็วในการขับขี่
แต่ที่คุณบอกว่า ตัวล่างของทั้ง 2 รุ่น ระบบความปลอดภัยมีมาให้น้อยกว่า
ถ้าเป็น CX-5 คือใช่ครับ ออฟชั่นเพียบอย่างที่ผมยกตัวอย่าง เพราะตัวท็อป ระบบความปลอดภัยมาเต็มมาก จริง ๆ มากกว่านั้นอีกนะ ต้องไปดูในแคตตาล็อกเอาครับ
แต่สำหรับ CRV นั้น ระบบความปลอดภัย ไม่ว่าตัวไหน ตั้งแต่ตัวล่างสุด ขับ 2 เบนซิน กับตัว ดีเซลขับ 4 แทบไม่ต่างกันเลยครับ จะต่างกันแค่ 2 อย่างคือ HONDA LANE WATCH กับ ระบบช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ แค่นั้น
แต่สิ่งที่ต่างกัน จริง ๆ ไม่ใช่เรื่องความปลอดภัยครับ เพราะรถระดับนี้ ออฟชั่นมันครบมาอยู่แล้ว เช่น ถุงลมก็ให้รอบคัน ระบบควบคุมการทรงตัว ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน อะไรพวกนี้ มันมีมาให้ทุกรุ่นอยู่แล้ว
แต่สิ่งที่มันต่างกัน อย่างของ CRV คือ ออฟชั่นอย่างอื่นครับ เช่น พวกไฟหน้าเปิดปิดอัตโนมัติ ปรับสูงต่ำอัตโนมัติ ที่ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ ล้อแม็กขนาดต่างกัน แอร์แยกอุณหภูมิได้ 2 ฝั่ง เบาะผู้โดยสารปรับไฟฟ้า ระบบ NAVI อะไรประมาณนี้ ที่หลัก ๆ จะแตกต่างกัน
โจทย์คือ ถ้าให้คุณแม่ขับนะ แล้วปกติใช้ในเมือง ขับไม่เกินวันละ 30 กม มีออกต่างจังหวัดบ้างปีนึง 2 - 3 ครั้ง นั่ง 5 คน ชอบรถดีเซลด้วย
ผมกลับเชียร์ไปที่ CRV ดีเซลขับ 2 นะ มากกว่าจะไปเล่นตัว AWD เพราะดูลักษณะการใช้งาน ผมว่า ไม่จำเป็นเลยที่จะต้องไปเอาตัว AWD มาให้เสียเงินเล่น
ส่วนที่ผมบอกคือ ออฟชั่นด้านความปลอดภัย แทบไม่ได้ต่างกันเลย ระหว่าง ตัวล่างกับตัวบน แถม ราคา เบนซิน 2.4 AWD กับ ดีเซล ขับ 2 ก็เท่ากันด้วย
ถามว่า ทำไม ผมเชียร์ CRV มากกว่า CX-5 สำหรับ โจทย์ตรงนี้
1. CRV ขับง่ายกว่า พวงมาลัยเบากว่า ขับในเมืองสบาย ภายในกว้าง ช่วงล่างนุ่มนวล เป็นรถที่ผู้หญิงจะชอบ แต่ CX-5 จะค่อนข้างเน้นไปทางสมรรถนะการขับขี่ อัตราเร่งที่ดี ช่วงล่างที่เกาะถนน ซึ่ง ผมมองว่า มันไม่ตอบโจทย์ ถ้าให้คุณแม่คุณขับ
2. CRV ประกอบในบ้านเรา ดังนั้นอะไหล่ของ CRV มีให้ไม่ต้องกังวลครับ ส่วน CX-5 เป็นรถนำเข้าจากมาเลเซีย เคยอ่านเจอ รถที่เกิดอุบัติเหตุ รออะไหล่กันค่อนข้างนาน
3. จากที่ดูแล้ว คุณแม่คุณใช้รถในเมืองเป็นหลัก แล้วใช้วันนึงแค่ 30 กม ออกต่างจังหวัดปีนึงก็ไม่กี่หน ดังนั้น ก็ไม่รู้จะไปซื้อตัว AWD ทำไม เพราะทุกวันนี้ คุณแม่คุณก็ใช้ ALTIS ซึ่งก็เป็นรถขับเคลื่อนล้อหน้า ก็ยังใช้งานได้
แสดงความคิดเห็น
New Honda CR-V 2017 vs New Mazda CX-5 ขอความคิดเห็นด้วยครับ
New Honda CR-V 2017 รุ่นเบนซิน 2.4 EL 4WD ตัวท็อปเบนซิน
กับ
New Mazda CX-5 รุ่นดีเซล 2.2 AWD ตัวท็อป
คันเก่าเป็น Toyota Altis แต่เริ่มเก่าแล้วเลยจะขายแล้วซื้อใหม่ ไม่เคยขับ SUV ตอนนี้ลังเลระหว่างเบนซินกับดีเซล
การใช้งาน
ลูก ๆ จะซื้อให้คุณแม่ขับไปทำงานในเมืองคนเดียว วันธรรมดาขับวันนึงไม่เกิน 30 กิโลฯ ครอบครัวมี 5 คน ลูก ๆ โตทำงานกันหมดแล้ว ไปเที่ยวต่างจังหวัดปีละสองสามครั้ง
คุณแม่อยากได้รถที่ใหญ่หน่อยจะได้นั่งกันสบาย ๆ เผื่อเสาร์ - อาทิตย์ ไปเที่ยวกันทั้งครอบครัว หรือมีหยุดยาวก็ไปเที่ยวต่างจังหวัดกัน นั่ง 5 คน จะได้เอารถคันเดียวไปจะได้นั่งสบาย ๆ ไม่ต้องเบียดกันหรือไม่ต้องเอารถไปสองคันครับ
แต่ก็ไม่อยากใหญ่มากเพราะขับลำบากเลยตัดพวก Fortuner, Pajero, Everest ออกเพราะใหญ่เกิน คุณแม่ขับลำบาก
ตัด Sienta, Mobilio, BR-V ออกเพราะเครื่องเล็กกลัวไม่ไหว
ตัด HR-V, CX-3 ออกเพราะเล็กไปนั่ง 5 คนไม่สบาย
ถ้าเปลี่ยนแล้วคงใช้ยาวไม่กะขายครับ เพราะที่บ้านไม่ค่อยเปลี่ยนรถบ่อย
คุณแม่อยากได้เครื่องดีเซลเพราะชอบที่ประหยัดน้ำมันครับ แต่ก็อยากได้ CR-V ที่การตกแต่งด้านใน แต่ก็ไม่อยากเอา CR-V ตัวดีเซลเพราะแพงและเครื่อง 1.5 พอมาดู CX-5 เจอเครื่อง 2.2 ดีเซลที่ประหยัดกว่าเลยสนใจอีกตัว
ที่เอาตัวท็อปเพราะว่ามี option ด้านความปลอดภัยมาให้ด้วยครับ ตัวล่าง ๆ ของทั้งสองรุ่นไม่มีให้ครับ เผื่อขับต่างจังหวัดไกล ๆ จะได้ปลอดภัยเพิ่มขึ้น
ขอความคิดเห็นด้วยครับ ทั้งด้านการใช้งานและความคุ้มค่า