ห้องเพลง**คนรากหญ้า** พักยกการเมือง มุมเสียงเพลง มุมนี้ไม่มีสี ไม่มีกลุ่ม..มีแต่เสียง 27/5/2017 - UFO และการเผชิญ 4 ชนิด

กระทู้คำถาม

ห้องเพลงคนรากหญ้าเปิดขึ้นมามีวัตถุประสงค์ เพื่อ

1. มีพื้นที่ให้เพื่อนๆ ได้มาพบปะ พูดคุยระหว่างกัน ในภาวะที่ต้องระมัดระวังการโพสการเมืองอย่างเคร่งครัด
2. เป็นพื้นที่ พักผ่อน ลดความเครียดทางการเมือง ให้เพื่อนๆ มีกิจกรรมสนุกๆ ร่วมกัน
3. สร้างมิตรภาพและความปรองดอง ซึ่งเราหวังให้สังคมไทยเป็นเช่นนี้ แม้นคิดต่างกัน แต่เมื่อคุยกันแล้วก็เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม

กระทู้ห้องเพลงเป็นกระทู้เปิด มิได้ปิดกั้นผู้หนึ่งผู้ใด "ขอให้มาดี เราคือเพื่อนกัน" ซึ่งก็เหมือนกับกระทู้ทั่วไป ที่เราไม่จำเป็นต้องทราบว่า User ท่านไหนเป็นใครมาจากไหน  ...ดังนั้น หากมีบุคคลใดที่มีการโพสสิ่งผิดกฎหมายและศีลธรรมอันดีของสังคมนั้น หรือสิ่งรบกวนใดๆ ในบอร์ด เป็นเรื่องส่วนบุคคล ทางห้องเพลงจึงขอแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสิ้น
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สวัสดีครับอมยิ้ม17 สมาชิกห้องเพลงทุกๆท่าน วันนี้ผม MC WANG JIE (แอ๊ด) เข้าประจำการครับอมยิ้ม36

วันนี้ ขอนำเสนอ เรื่องราวลึกลับ ที่ยังไม่มีข้อสรุป 100% แต่มีพยานหลักฐานปรากฏ มากมาย ทั่วโลก นั่นคือ UFO และ การเผชิญหน้า 4 ชนิด ครับ



คำว่า "ยูเอฟโอ" (UFO) เป็นคำย่อ มาจากคำ 3 คำเต็มๆ ว่า Unidentified Flying Object หมายถึง "วัตถุบินซึ่งบอกไม่ได้ว่าเป็นอะไรกันแน่" คำนี้ เป็นศัพท์ที่ "นักจานบินวิทยา" (UFOLOGIST) บัญญัติไว้ และใช้กันมานาน แต่ก่อนหน้าจะมีคำว่า UFO ที่ทุกคนรู้จักนี้ มีคำสามัญธรรมดาคำหนึ่งที่ใช้กันมาก่อน และปัจจุบันนี้ก็ยังใช้กันอยู่ นั่นคือ คำว่า "จานบิน" (คนไทยบางทีใช้คำว่า "จานผี") และคำนี้ มีที่มา จากประสบการณ์การพบเจอ ของนักบินชาวสหรัฐอเมริกาคนหนึ่ง ชื่อว่า "เคนเนธ อาร์โนลด์" (Kenneth Arnold)

เคนเนธ อาร์โนลด์ เป็นนักบินเครื่องบินพาณิชย์ เช้าวันที่ 24 มิถุนายน ปี 1947  ขับเครื่องบินส่วนตัวของเขาไปแถบเทือกเขาเรนเนียร์ ในมลรัฐวอชิงตั้น ขณะกำลังบินสูงอยู่เหนือเทือกเขา เขาได้เห็น วัตถุบินลึกลับจำนวนถึง 9 ลำ กำลังบินผ่านเทือกเขาอยู่ข้างหน้า และเขาบรรยายการบินของวัตถุบินลึกลับเหล่านั้นว่า "เหมือนจานที่ร่อนไปบนผิวน้ำ" (resembling a saucer skipped across water) และเมื่อเขาให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนแล้ว หนังสือพิมพ์หลายฉบับก็เริ่มใช้ศัพท์ Flying Disk บ้าง Flying Saucer บ้าง ซึ่งคำหลังนี้เป็นที่นิยมกันเป็นอันมาก ดังนั้น เคนเนธ อาร์โนลด์ จึงได้ชื่อว่าเป็นผู้ให้กำเนิด หรือ บิดาแห่งจานบินเลยก็ว่าได้....และในภายหลัง เขาบอกเพิ่มเติมว่า มีอยู่ลำหนึ่งมีปีกออกสองข้าง และวาดรูปให้ดู

เรื่องราวของอาร์โนลด์ ถูกตรวจสอบจากทางการ และได้รับการยืนยันว่าเขาได้มีประสบการณ์จริงเนื่องจากมีผู้พบเห็นคนอื่นด้วย
การพบเห็น "จานบิน" นั้น มีปรากฏไปทั่วโลก มิใช่แต่เพียงในสหรัฐอเมริกาแต่เพียงแห่งเดียว แต่ในสมัยช่วงปี 1940 นั้น เป็นช่วงของสงครามโลกครั้งที่ 2 ดังนั้น หลายครั้งที่พวกทหารในกองทัพประเทศต่างๆที่เข้าร่วมสงคราม ได้มองเห็นวัตถุบินลึกลับบนฟ้า แต่มิได้คิดว่าเป็นยานจากต่างดาว หากแต่เข้าใจว่า ยานลึกลับที่ตนเห็นนั้น เป็น "อากาศยานแบบใหม่ของศัตรู" ฝ่ายอักษะ (พวกฮิตเลอร์เยอรมัน อิตาลี ญี่ปุ่น) เห็นจานบินก็นึกว่าเป็นยานของฝ่ายสัมพันธมิตร ฝ่ายสัมพันธมิตรเห็นเข้า ก็นึกว่าเป็นของฝ่ายอักษะ เป็นอย่างนี้บ่อยมาก และหาข้อสรุปไม่ได้เหมือนกันทั้งสองฝ่าย จึงมีการบัญญัติศัพท์เรียกชื่อยานลึกลับที่เห็นกัน (นักบินจะเห็นหลายครั้ง) นั้นว่า " นักรบปีศาจ" (FOO FIGHTER)

FOO FIGHTER-1

FOO FIGHTER-2

FOO FIGHTER-3 ภาพนี้โด่งดังมากที่สุด

เมื่อสงครามโลกจบลง ทุกฝ่ายจึงได้ทราบว่า "นักรบปีศาจ" ไม่ใช่เป็นของฝ่ายใดทั้งสิ้น แต่เป็นยานลึกลับ และการศึกษาค้นคว้าเรื่องยานลึกลับก็เริ่มจริงจังมากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับสหรัฐอเมริกา มีการตั้งองค์กร ตั้งโครงการศึกษาอย่างจริงจัง หลายครั้ง หลายกลุ่ม ทั้งฝ่ายรัฐบาลและเอกชน โครงการหนึ่งของรัฐบาลสหรัฐที่เคยมีมาและดังไปทั่วโลกคือโครงการที่ชื่อว่า "โครงการสมุดปกสีน้ำเงิน" (PROJECT BLUE BOOK)

Project Blue Book ตั้งขึ้นมาเพื่อให้ศึกษาปรากฏการณ์ UFO เหตุการณ์ พยาน หลักฐานต่างๆ ที่เก็บรวบรวมมาทั่วประเทศและทั่วโลกเท่าที่จะสามารถเก็บข้อมูลมาได้ และวิเคราะห์อย่างละเอียด จับผิด หาข้อพิรุธ จนในที่สุดสามารถตีภาพและเหตุการณ์กรณีต่างๆตกไปว่า ไม่ใช่ UFO เป็นเรื่องที่อธิบายได้มากเกือบหมด คือมากถึง 93% !!! อย่างไรก็ตาม มีอยู่ 7 % ที่ไม่สามารถหาคำอธิบายได้ (Unexplanable) !!!
ภาพที่เห็นนี้ คือการรวบรวมข้อมูลลักษณะ UFO ในระยะแรกๆ และมีการ "ปฏิเสธ" โดยส่วนใหญ่จะบอกว่า เป็นบอลลูน
ปัจจุบันนี้ มี UFO มากมายหลายแบบที่ผู้คนพบเห็น ดังภาพต่อไปนี้

และในที่สุด โครงการบลูบุ๊ค ก็ถูกปิดไป ไม่มีการทำต่อ แต่ทางฝ่ายเอกชนนั้น ไม่หยุด มีการศึกษาค้นคว้าต่อไปอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับการตั้งข้อสงสัยว่า ทางรัฐบาล ปกปิดความลับอะไรบางอย่างไว้หรือไม่ จึงได้สั่งปิดโครงการบลูบุ๊คไปเสียอย่างน่าเสียดาย และไม่มีคำอธิบายใดๆด้วย เกี่ยวกับ 7% ของเหตุการณ์หรือเคสที่อธิบายไม่ได้นั้น คือ อธิบายไม่ได้ ก็ปิดโครงการมันเสียเลย!!!

เมื่อการศึกษาค้นคว้าทางฝ่ายเอกชนดำเนินต่อไป ก็แน่นอนว่าข้อมูลต่างๆย่อมจะเพิ่มพูนไปเรื่อยๆ องค์กรที่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่งของเอกชนคือ "มูฟ่อน" (MUFON) ย่อมาจาก Mutual UFO Network สถาปนาเมื่อปี 1969 และดำเนินการเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน อยู่ที่รัฐมิสซูรี่
เว็บไซต์ของ "มูฟ่อน" = http://www.missourimufon.org/ ใครพบเห็นจานบิน ถ่ายรูปได้ ถ่ายวีดิโอได้ ส่งไปมูฟ่อนได้เลย แต่ต้องสมัครสมาชิกก่อนนะครับ ฟรี เป็นองค์กรที่ทำโดยไม่หวังผลเก็งกำไรใดๆ

เมื่อมีการศึกษาค้นคว้ามากขึ้น ในที่สุด มีการสรุป จัดแบ่งชนิดของ "การเผชิญหน้า" 3 ชนิด คือ
(1) Close Encounter of The 1st Kind = การเผชิญหน้าชนิดแรก คือ การพบเห็น UFO ปรากฏอยู่บนฟ้าธรรมดาๆ พอพบแล้ว มันก็บินหนีไปบ้าง หายไปกับตาเฉยๆเลยบ้าง (เหตุนี้กระมัง ภาษาไทยจึงมีคำว่า "จานผี" ด้วย นอกจากคำว่าจานบิน) คนที่เห็นแล้ว ก็แล้วไป อาจจะถ่ายรูปได้ ถ่ายวีดิโอได้ ก็นับว่าเป็น The 1st Kind แน่นอน ชนิดแรกนี้ มีมากที่สุดทั่วโลกนับไม่หวาดไม่ไหว ปัจจุบันนี้ทั่วโลกมีคนเห็นกันแทบทุกวัน อยู่ที่ใครจะโชคดี (หรือร้าย ?) ที่ได้เห็น เท่านั้นเอง (ลองเข้ายูทูป พิมพ์ UFO เสิร์ชดู บอกรับสมาชิกหรือติดตามสักอัน จะได้เห็นคลิปใหม่ๆมาตลอด)

(2) Close Encounter of The 2nd Kind = การเผชิญหน้าชนิดที่สอง แตกต่างจากชนิดแรก คือ ผู้พบเห็นนั้น จะได้รับ "ผลกระทบบางอย่างที่แปลกๆ" จากการพบเห็นนั้นด้วย เช่น ถูกแสงจาก UFO ทำให้ผิวเกรียมเหมือนโดนแดดเผา (SUNBURN) มีหลายคนได้เจอประสบการณ์นี้ หรือ เห็น UFO ลงจอด ณ ที่ใดที่หนึ่ง พอมันบินจากไป เหลือรอยจอดไว้บนพื้นดิน ก็จัดว่าเป็นการเผชิญหน้าชนิดนี้
  
ร่องรอยลงจอดของ UFO ใกล้เทือกเขา ทูลิจี (Tooligie Hill) ประเทศออสเตรเลีย
รอยจอดแบบนี้ ยังถือว่าธรรมดา แต่รอยที่สร้างความตื่นตะลึงไปทั้งโลก คือรอยชนิดที่เรียกว่า CROP CIRCLE

CROP CIRCLE เป็นรอยขนาดใหญ่ ที่ปรากฏบนผืนหญ้า บนไร่ หลายๆที่ในโลก และรูปร่างจะเป็นอะไรนั้น จะมองเห็นได้ชัดเจนก็ทางอากาศมองลงมาบนพื้นดินเท่านั้น!! มันปรากฏไปทั่วโลก โดยมากมีลักษณะรูปทรงแบบเรขาคณิตให้เห็น เช่น วงกลม สามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม ดาว ฯลฯ บางคนตั้งข้อสังเกต สงสัยว่ามีคนทำ ก็อาจมีคนทำจริงๆในบางแห่ง แต่มันหลายแห่งมากเกินไป และมันทิ้งร่องรอยประหลาดที่ไม่น่าจะใช่คนทำขึ้นมา เช่น ร่องรอยการกดที่หนักๆ รอยไหม้ รังสีบางอย่าง เป็นต้น อันนี้ก็จัดเข้าใน The 2nd Kind

รอยวงกลมที่กลมดิกตามเรขาคณิต

อันนี้ ที่ใกล้บ้านเรา อินโดนีเซีย

(3) Close Encounter of The 3rd Kind = การเผชิญหน้าชนิดที่ 3 ชนิดนี้ น่าตื่นเต้น และน่ากลัว เพราะผู้พบเห็น จะถูก "ผู้ที่มากับยาน" จับตัวไป เพื่อทำอะไรบางอย่าง แล้วปล่อยตัวกลับมายังสถานที่เดิม !!! และเขาจะสูญเสียความทรงจำ จำไม่ได้ว่าไปทำอะไรมา เกิดอะไรขึ้น หลังจากนั้น เขาจะฝันแปลกๆ คือฝันเห็น UFO และเริ่มฝันเห็นตนถูกจับไปทำการต่างๆเป็นครั้งคราว จนต้องมีการไปหาจิตแพทย์ช่วยสะกดจิตรื้อฟื้นความทรงจำ จึงจำเรื่องราวได้ทั้งหมด มีกรณีแบบนี้เกิดขึ้นมากมายในสหรัฐอเมริกา และเมื่อเรื่องราวมีการเปิดเผย ก็จะต้องถูกตรวจสอบ ปัจจุบันมีเครื่องจับเท็จช่วยด้วย...เหตุการณ์ที่โด่งดังมากที่สุด คือกรณีของ ครอบครัวฮิลล์ เบ็ตตี้ และ บาร์นี่ ฮิลล์
วันที่ 19 กันยายน 1961 เบ็ตตี้และบาร์นี่ ฮิลล์ (Betty and Barney Hill) สองสามีภรรยาแห่งรัฐนิวแฮมเชียร์ ขับรถเชฟโรเล็ตไปตามถนนจากมอลทรียลเพื่อกลับบ้านที่ปอร์ตสมัธ ไปถึงสถานที่ๆเรียกว่า ฟรานโคเนีย น็อทช์ พวกเขาแวะจอดรถริมถนนเพื่อจูงสุนัขไปเดินเล่น และเจอวัตถุบินประหลาดรูปทรงเหมือนแพนเค้กลอยอยู่ข้างหน้า พวกเขาตกใจกลัวมาก จึงพากันขึ้นรถ บาร์นี่ขับรถไปทางทิศใต้ในขณะที่เบ็ตตี้ผู้ภรรยาเหลียวหลังจับตาดูยานลึกลับข้างหลัง ทั้งสองได้ยินเสียงดังหึ่งไปทั่ว และรถก็สั่นสะเทือนไปทั้งคัน หลังจากนั้นพวกเขาก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย จนกระทั่งมาพบตัวเองอยู่ในรถตามเดิมบนถนนสายเดิม กำลังขับรถผ่านย่านชื่อ แอชแลนด์ ห่างจากจุดเกิดเหตุ 35 ไมล์ในเวลาต่อมา พอกลับถึงบ้าน พวกเขาพบว่า นาฬิกาข้อมือของตน หยุดเดิน เข็มไม่กระดิก ที่กระโปรงรถก็มีรอยแปลกๆ และเวลา ผ่านไปนานสองชั่วโมง ซึ่งมันมากกว่าที่พวกเขาคาดไว้ พวกเขาไม่น่าจะใช้เวลาขับรถกลับถึงบ้านนานขนาดนั้น แต่เวลามันหยุดบนนาฬิกาข้อมือ นั่นหมายความว่า เวลา หายไป 2 ชั่วโมง หายไปไหน ??? พวกเขาไม่รู้
เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป โปรดรอติดตาม ตอนที่ 2 วันพรุ่งนี้ครับ



และต่อแต่นี้เป็นต้นไป เชิญทุกท่าน เข้าสู่มิติแห่งการแลกเปลี่ยนเสียงเพลงแก่กันและกัน ตามอัธยาศัยได้เลยครับ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 29
สวัสดีค่ะ MC พี่แอ๊ดและเพื่อนๆ

วันนี้แหวกแนวกับ UFO เลย รอลุ้นต่อวันพรุ่งนี้ค่ะ กำลังตื่นเต้น อยากรู้ว่าสองสามีภรรยา Hill ไปเจออะไรมา

ยังไม่เคยมีประสบการณ์เห็นด้วยตาตัวเอง แต่ก็ไม่ได้แปลว่าอะไรที่เราไม่ได้เห็นเองจะไม่มีอยู่จริง
ในจักรวาลเราเป็นแค่หน่วยย่อยที่เล็กมาก บางทีอาจมีอะไรที่มีความฉลาด มีวิวัฒนาการ มีเทคโนโลยีสูงกว่าเราก็ได้

มีหลักฐานหลายชิ้นที่เกี่ยวกับ UFO ที่ต้องรอการพิสูจน์ เช่น

ภาพแกะสลักของอียิปต์โบราณ มีรูปจานผี UFO (บ้างก็ว่าคนเพิ่งทำขึ้นภายหลัง)











ยังมีอีกหลายภาพ หลายเหตุการณ์ เยอะมากๆ
บางเหตุการณ์ถูกเปิดเผยภายหลังว่าเป็นการทำขึ้น การแต่งภาพ ความบังเอิญ ฯลฯ
แต่หลายๆ เหตุการณ์ก็อธิบายไม่ได้ ยังเป็นปริศนาให้เราต้องค้นหาคำตอบกันต่อไป
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่