.: Where to go in SWITZERLAND!!
ไปสวิส ไปทำอะ ไร ไปไหนดี ที่นี่มีคำตอบ
คิดว่าหลายๆคน น่าจะมองประเทศฟสวิส ว่าเป็นหนึ่งในจุดหมายที่ต้องไปสักครั้งในชีวิต
วันนี้เรามีคำตอบมาให้ว่าไปไหนดี
หลังจากใช้ชีวิตเป็น นักเรียนการโรงแรมในประเทศนี้มาเป็นปี ก็ขอมีรีวิวสั้นๆเป็นของตัวเอง สักอันค่ะ
ฝากเพจของเราไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะค่ะ
https://www.facebook.com/CharcoalTofuTheCouple
#charcoaltofu
#charcotofuinSwiss
ประเทศ Switzerland ถือว่าเป็นประเทศที่น่าอยู่ ติดอันดับต้นๆของโลก เนื่องจาก สภาพอากาศ ความปลอดภัย และ ผู้คนในประเทศมีความน่ารัก แต่ในขณะเดียวกัน ที่นี่ก็ยังขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่มีค่าครองชีพที่สูงมากๆเช่นเดียวกัน
วันนี้จึงมาขอรีวิว เหตุผลที่ครั้งนึงเราควรไปเยือนประเทศนี้
ไป Blausee ทะเลสาบสีน้ำเงิน
นี่คือแหล่งอนุบาลปลาเทราต์ที่มีร้านอาหารตั้งข้างๆขายผลิตภัณฑ์รวมถึงอาหารที่ทำจากปลาชนิดนี้.. จุดที่ดึงดูดทำให้เราและใครหลายๆคนต้องไป คงจะหนีไม่พ้นความใสและสีของน้ำเมื่อต้องแสงแดด... และถ้าอากาศดีละก็การพายเรือชิวๆก็เป็นอีกกิจกรรมที่แจ่มมากเลยทีเดียว สำหรับประวัติตำนานลองค้นหาอ่านกันได้ตามเว็บทั่วไปนะครับ
ไปตามหา Toblerone ที่ Zermatt
ภูเขานี้หลายๆคนอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตา เพราะ เป็นสัญลักษณ์ประจำของแบรนด์ Toblerone, chocolate สามเหลี่ยมยี่ห้อดังที่เราคุ้นเคยกันมาตั้งแต่ครั้นยังเยาว์วัย
ที่เมือง Zetmatt เป็นเมืองที่มีความ eco เป็นอย่างมาก เพราะ จะไม่อนุญาตให้นำรถที่มีระบบน้ำมันเข้ามาวิ่ง ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นรถที่ใช้ แบตเตอรี่ล้วนๆ และวิธีการมาที่นี่ แนะนำให้มาโดยรถไฟจะสะดวกและตอบโจทย์ที่สุด
ที่นี่ถือเป็นที่ๆหนึ่งที่คุณอาจจะต้องพกดวงไปด้วย เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะโชคดี เจอวันฟ้าเปิด ส่วนใหญ่แล้ว 75% จะมองไม่เห็นยอดเขาเลย
แต่ถือว่าวันนั้นเราโชคดีมากๆ อาจเป็นเพราะจุดธูปไหว้ฟ้าดินไปอย่างดีก็เป็นได้
ไปกิน fondue Cheese ของขึ้นชื่อประจำสวิส
ถ้ามาสวิสแล้วไม่ได้กินอาหารชนิดนี้บอกเลยว่า คุณ.. มา ไม่ ถึงงงงง ..
เพราะนี้คือ Cheese Fondue ที่มีสไตล์และเอกลักษณ์เฉพาะตัวประจำประเทศ สวิตเซอร์แลนด์
ยิ่งถ้าอากาศหนาวๆกับเบียร์สักแก้วละก็ บอกเลยครับ โคตรเด็ด
ปล. ในชีสนั้นไม่ใช่ชีสเพียวๆนะครับคุณสามารถเลือกได้ว่าจะผสมกับ อะไรบ้างเช่น แฮม เห็ด เบคอน เป็นต้น
ไปดูน้ำตก Lauterbrunnen ขนาดมหึมา
ถ้าคุณไป Interlaken แล้วอย่าลืมที่จะแวะที่น้ำตก Lauterbrunnen ล่ะครับ
ผมคนหนึ่งที่จะบอกว่าเป็นสถานที่ที่ ถ่ายยังไงก็ไม่สวยเท่าการได้เห็นของจริง ทำไมน่ะหรอ
ก็ขนาดที่มหึมาของฉากน้ำตกธรรมชาติชิ้นนี้ บวกกับหมู่บ้านน่ารักๆด้านหน้าแล้วบอกได้คำเดียว โคตรพีคเลยครับ
ปล. แม้แต่สุสานด้านหน้าขนาดกว้างๆนั้นยังถูกตกแต่งด้วยดอกไม้หลากสีสวยงาม
สมแล้วครับที่เป็นประเทศที่รักษาธรรมชาติไว้ได้ดีเยี่ยม ต้องไปดูด้วยตานะ
ไปภูเขาที่ขึ้นชื่อว่า Top of Europe
Jungfrau นั้นเป็นเหมือนสถานที่ที่หนึ่งที่ได้รับการโฆษณา ผลักดัน การท่องเที่ยวได้อย่างดีเยี่ยม
ที่นี่ได้รับการขนานมามว่าเป็น Top of Europe(ไม่ได้สูงที่สุดนะภูเขานี้แต่เป็นเขาที่มีรถไฟสร้างขึ้นไปสูงที่สุด)
ราคาค่อนข้างแพง แต่วิวด้านบนก็อลังการไม่เบานะครับ
ที่สำคัญที่สุดต้องพกดวงไปด้วย ไม่งั้นละก็ คุณจะเห็นแค่หมอกขาวทึบๆ ไม่มีวิวอะไรเลย ที่สำคัญข้างบนหนาวมากกกกนะ
ปล. ราคาการขึ้นไปค่อนข้างสูงเลยล่ะครับ และจากประสบการณ์ผมแล้วที่สวิสยังมีภูเขาที่สวยๆและราคาถูกกว่านี้อีกเยอะ
ปเมืองทางเศรษฐกิจของสวิสนาม Zurich
ส่วนตัวผมมีโอกาสได้ทำงานที่ Zurich ครึ่งปี ที่นี่เป็นเมืองเศรษฐกิจที่มีเสน่ห์ไม่น้อยเลย
มีพาร์คเป็นจุดๆให้คนเมืองได้พักผ่อนหย่อนใจ และดูสิครับ หิมะตก อากาศหนาวๆ ก็ได้ฟิลไปอีกแบบใช่ไหมล่ะ
ปล. หลายๆท่านคงได้มีโอกาสผ่านเมืองนี้แน่ๆเพราะนอกจากเจนีวาแล้วนี่เป็นอีกเมืองสำคัญที่นักท่องเที่ยวต้องลงสนามบินที่นี่
ไปปีนเขาที่ Pilatus Mount.
นี่ไงล่ะ ที่ผมบอกว่าสวิสยังมีภูเขาอีกเยอะ ให้เราปีนหรือถ้าขี้เกียจก็ขึ้นกระเช้าโลด
ข้างบนก็วิวดีแต่แอบลื่นกับขั้นบันไดเคลือบหิมะเหมือนกันนะ (ถ้าไปช่วงที่ยังติดหนาวๆ)
ปสูดอากาศบนยอด Rigi Klum
ภูเขาริกิ ตั้งอยู่ที่เมือง Luzern ตอนกลางของประเทศสวิส ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นิยมมากๆ เพราะเนื่องจาก ถ้าซื้อ Swiss pass (บัตรสำหรับระบบขนส่งมวลชน แบบเหมาตามจำนวนวัน) แล้ว การขึ้นมาที่นี่จะถูกรวมไว้กับบัตรนี้แล้ว ซึ่งนั้นหมายถึง ขึ้นฟรี!!! ถ้านับเอาจริงๆ การขึ้นมาที่นี่สำหรับคนปกติ จะมีค่าใช้จ่ายอยุ่ราวๆ 104 CHF
ที่นี่เราได้มีโอกาสไปถึงสองครั้ง ได้ฟิลทั้งตอนที่เขียวชะอุ่ม และ ตอนที่ขาวโพรนไปหมดแล้ว ซึ่งบอกได้เลยว่าสวยทั้งคู่ นอกจากจะขึ้นมาสูดอากาศบริสุทธิ์บนนี้แล้ว เรายังได้เห็นวิวเมืองลูเซินทั้งเมืองอีกตั้งหาก
คำแนะนำคือควรขึ้นมาแต่เช้า เพราะจะได้ไม่เครียดมากเวลาขาลง มาช่วงบ่าย พอลงไปตอนเย็น เรือก็รอบเกือบหมด และรอนานมากกกกก
ไปตามรอย 007 ที่ Schilthorn
ครั้งนี้นอกจาก Jungfrau แล้ว นี่ก็เป็นอีกยอดเขาที่ผมขอแนะนำและบอกเลยว่าราคาไม่แพงมากอีกด้วย
ที่นี่มีอะไร แน่นอนก็วิวดี วิวสวยแถมยังเคยเป็นสถานที่ถ่ายหนังเจมส์ บอน อีกด้วย
แต่อย่าถาม พ.ศ. นะครับ เมื่อครั้งเรายังเยาว์วัยเลยทีเดียว ฮ่าๆๆๆ
ไปเรียนการโรงแรมที่สวิส ในแบบฉบับ Swiss hotelier
มาเรียนที่นี่ เรียนการโรงแรม กับวิวที่สวยระดับเทพ แรกๆโกรธที่บ้านมาก ว่าจะส่งช้านไปไหน ไปทำอะไร แต่พอมาถึง คือวิวดีมาก นอนมองเทือกเขาแอลป์ อยู่ในยอดดอยอันหนาวเหน็บทุกวัน
การมาเรียนที่นี่ ทำให้พบกับเพื่อนที่มาจากทั่วมุมโลก ซึ่งหลักๆแล้วจะเป็นคนจีน
ได้เรียน operation เรียน management และ ได้พบกับมิตรภาพใหม่ๆ
ขึ้นชื่อว่าการโรงแรมแล้ว ประเทศนี้เป็นประเทศหนึ่งที่โด่งดังและมีชื่อเสียงด้านการโรงแรมอันดับต้นๆของโลก
แบบที่เรียกว่า Swiss Hospitality ไงล่ะครับ ถ้าคุณอยากสัมผัสล่ะก็
แนะนำให้ไปเมืองต่างจังหวัดๆ ตามเขา ชาวบ้านน่ารักที่สุด มีน้ำใจ ยิ้มแย้ม
และคุณจะต้อง Say! Bonjour (แถบสวิสฝรั่งเศส) โดยปริยาย เวลามีคนเดินผ่านคุณถึงแม้จะไม่รู้จักกันก็ตาม
ไปดูน้ำตกในถ้ำนาม Trümmelbach
ถึงแม้ว่าสถานที่นี้จะไม่ได้โด่งดังมากมาย แต่พอเข้าไปสัมผัสแล้ว บอกเลยว่าทึ่ง เหมือนเดิมเลยครับ
สเกลน้ำตกที่ใหญ่มากกับเสียงของน้ำที่ตกกระทบหินด้านล่างอย่างแรงๆ ทำให้ใจเต้นไม่น้อย
และอากาศในนั้นบอกเลยว่าหนาวมาก ยิ่งเดินเข้าไปยิ่งมืด แล้วคุณจะได้สัมผัสน้ำตกในถ้ำแบบฉบับ Interlaken
ไปโดดน้ำที่ Valle Verzasca
พอเข้าหน้าร้อนสิ่งหนึ่งที่คนสวิสจะทำคือการอาบแดดและการหาสถานที่พักผ่อนหย่อนใจนอกบ้าน
แบบถ้าเป็นวัยรุ่นก็ต้องโดดน้ำ หรือนั่งชิวๆปาร์ตี้กันได้แบบไม่ต้องกลัวหิมะ อากาศหนาว
สถานที่นี้ก็เป็นอีกที่ที่น้ำใสมากและใครจะเชื่อว่าอากาศด้านบนร้อนแค่ไหน
แต่พอลงน้ำไปล่ะก็หนาวแบบขนลุกเลยทีเดียว เพราะน้ำในธารนี้ไหลลงมาจากเทือกเขา ซึ่งแน่นอนว่า
ก็ต้องละลายมาจากน้ำแข็งตอนหน้าหนาวนั่นล่ะ เพราะงั้นการนั่งตากแดดให้ตัวอุ่นๆร้อนๆแล้วได้โดดลงน้ำเย็นวูบๆ
ก็คงไม่ต่างอะไรกับวิธีการลงบ่อออนเซ็นของคนญี่ปุ่น ที่ลงร้อนเสร็จก็ต้องลงเย็น
ไปพักผ่อนหัวใจ ณ หุบเขา lrysin บนยอดดอยอันหนาวเหน็บ
ที่นี่ Leysin ตั้งอยู่ที่ระดับความสูง 1260 เมตรจากระดับน้ำทะเล
มาที่นี่คุณจะได้พบกับอากาศเย็น ค่อนข้างไปทางหนาวเกือบตลอดทั้งปี ก็ไม่มีอะไรมากอะนะ หิมะลงขาวโพรนแบบนี้จนเห็นเป็นเรื่องปกติ
ไป city tour ที่ Luzern
เมือง luzern ถือว่าเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานแห่งหนึ่งในสวิส
ไปเดินข้ามสะพานไม้ที่มีความเก่าแก่ยาวนานกว่า 100 ปี ซึ่งสะพานนี้ได้มีการบูรณะไปแล้วครั้งหนึ่ง เนื่องจากมีการชำรุดเสียหายไป ดังนั้นสิ่งที่เราเห็นทุกวันนี้ จึงเป็นสะพานที่มีการซ่อมแซมเพื่อให้คงสภาพแบบต้นฉบับไว้
ไปรูปปั้นสิงโต ซึ่งสิงโตตัวนี้เป็นสัญลักษณ์แทนทหารสวิสที่โดนหักหลัง หลังจากเยี่ยมชมเสร็จแล้ว อย่าลืมเดินออกมาร้านขายของที่ระลึก มีร้านของคนไทยอยู่ร้านนึงนะค่ะ
ไปเดินเล่นริมทะเลสาบที่ Montreux
ด้วยความที่ที่นี่ เป็นเมืองที่ใกล้ที่สุด หลังจากลงมาจากโรงเรียน นี่ขนาดใกล้ที่สุด ยังใช้เวลาเป็นชั่วโมงกว่าจะมาถึง
ซึ่งเมืองนี้ได้รับขนานนามว่าเป็นเมืองของคนสูงอายุ เมืองนี้จะเงียบสงบมาก มี supermarket แค่สองแห่ง และ H&M / SARA ที่ราคาถูกกว่าเมืองไทยหลายเท่า
เมืองนี้มีมาก ที่มีร้านอาหารญี่ปุ่นให้เราได้เชยชม รวมถึง asia store ที่ทำให้เรามีชีวิตอยู่รอดปลอดภัย
จุดเด่นของที่นี้คือ ความน้ำใสมาก ในหน้าร้อนเราจะเห็นคนลงไปเล่นน้ำเต็มไปหมด แต่หน้าหนาวแนะนำอย่าลงเลยค่ะ อาจจะแข็งตายได้
ไปนั่งชิวที่ Vevey
Vevey เป็นเมืองเล็กที่อยู่ถัดจาก Montreux ไปนิดนึง เมืองนี้เงียบมาก เค้าก็เลยสร้างจุดขายของตัวเองด้วยการเอาส้อมลงไปปักในทะเลสาบเลยละกัน
มาถึงที่นี่อาจจะ งงๆ นิดนึงว่าชั้นมาทำอะไร แต่ก็มาเถอะ จะได้รู้ว่ามาถึงสวิสแล้วจริงๆ
ปล. วันเสาร์จะมี market เล็กๆ อารมณ์เหมือนขายของเก่าอยู่นะ
ไปนั่งชิวริม Lake Zurich
ถ้าบรรยากาศชิวๆริมทะเลสาบ กับเบียร์เป็นสององค์ประกอบที่จะทำให้คุณฟินได้แบบผม
ที่นี่ก็เป็น Lake ในเมือง Zurich ที่พักผ่อนชั้นเยี่ยมของคนเมืองนี้
กิจกรรมมากมายเกิดขึ้นที่นี่ ไม่แพ้เมืองไหนๆเลยล่ะ หรือถ้าคุณได้เดินขึ้นไปบนเนินเขาแล้วมองกลับลงมาดูแสงสีเมืองยามดึกบอกเลย ฟินโคตรรรรร
Charcoal & Tofu
เผยแพร่โดย Paween Lekawat
ถูกใจเพจแล้ว · 1 ชม. · มีการแก้ไข ·
ไปเมือง Neuchatel
จริงๆแล้วเมืองนี้มีชื่อเสียงเรื่องการปลูกองุ่นและการทำไวน์
แต่ครั้งนี้โรงเรียนพาเราไปในตัวเมืองที่มีเทศกาลประจำปี ซึ่งรายละเอียดนั้นเราไม่แน่ชัด
แต่... ได้กลิ่นอายของขบวนพาเรทและการเฉลิมฉลองของคนสวิสได้อย่างดีเยี่ยม
ทำให้ผมรู้ว่าเวลาเค้าสนุกเค้าเต็มที่จริงๆ(เศษกระดาษสีๆเต็มเมืองเลยล่ะ) ไ่ม่น่าละ ถึงเป็นประเทศอันดับต้นๆที่มีความสุขที่สุดของโลก
มาถึงตรงนี้แล้ว อยากบอกทุกคนว่า ซึกครั้งนึงในชีวิต ควรไปเยือนสวิสเถอะ
[CR] SWITZERLAND where to go ,, ไปสวิส ไปทำอะไร ไปไหนดี ที่นี่มีคำตอบ
ไปสวิส ไปทำอะ ไร ไปไหนดี ที่นี่มีคำตอบ
คิดว่าหลายๆคน น่าจะมองประเทศฟสวิส ว่าเป็นหนึ่งในจุดหมายที่ต้องไปสักครั้งในชีวิต
วันนี้เรามีคำตอบมาให้ว่าไปไหนดี
หลังจากใช้ชีวิตเป็น นักเรียนการโรงแรมในประเทศนี้มาเป็นปี ก็ขอมีรีวิวสั้นๆเป็นของตัวเอง สักอันค่ะ
ฝากเพจของเราไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะค่ะ
https://www.facebook.com/CharcoalTofuTheCouple
#charcoaltofu
#charcotofuinSwiss
ประเทศ Switzerland ถือว่าเป็นประเทศที่น่าอยู่ ติดอันดับต้นๆของโลก เนื่องจาก สภาพอากาศ ความปลอดภัย และ ผู้คนในประเทศมีความน่ารัก แต่ในขณะเดียวกัน ที่นี่ก็ยังขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่มีค่าครองชีพที่สูงมากๆเช่นเดียวกัน
วันนี้จึงมาขอรีวิว เหตุผลที่ครั้งนึงเราควรไปเยือนประเทศนี้
ไป Blausee ทะเลสาบสีน้ำเงิน
นี่คือแหล่งอนุบาลปลาเทราต์ที่มีร้านอาหารตั้งข้างๆขายผลิตภัณฑ์รวมถึงอาหารที่ทำจากปลาชนิดนี้.. จุดที่ดึงดูดทำให้เราและใครหลายๆคนต้องไป คงจะหนีไม่พ้นความใสและสีของน้ำเมื่อต้องแสงแดด... และถ้าอากาศดีละก็การพายเรือชิวๆก็เป็นอีกกิจกรรมที่แจ่มมากเลยทีเดียว สำหรับประวัติตำนานลองค้นหาอ่านกันได้ตามเว็บทั่วไปนะครับ
ไปตามหา Toblerone ที่ Zermatt
ภูเขานี้หลายๆคนอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตา เพราะ เป็นสัญลักษณ์ประจำของแบรนด์ Toblerone, chocolate สามเหลี่ยมยี่ห้อดังที่เราคุ้นเคยกันมาตั้งแต่ครั้นยังเยาว์วัย
ที่เมือง Zetmatt เป็นเมืองที่มีความ eco เป็นอย่างมาก เพราะ จะไม่อนุญาตให้นำรถที่มีระบบน้ำมันเข้ามาวิ่ง ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นรถที่ใช้ แบตเตอรี่ล้วนๆ และวิธีการมาที่นี่ แนะนำให้มาโดยรถไฟจะสะดวกและตอบโจทย์ที่สุด
ที่นี่ถือเป็นที่ๆหนึ่งที่คุณอาจจะต้องพกดวงไปด้วย เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะโชคดี เจอวันฟ้าเปิด ส่วนใหญ่แล้ว 75% จะมองไม่เห็นยอดเขาเลย
แต่ถือว่าวันนั้นเราโชคดีมากๆ อาจเป็นเพราะจุดธูปไหว้ฟ้าดินไปอย่างดีก็เป็นได้
ไปกิน fondue Cheese ของขึ้นชื่อประจำสวิส
ถ้ามาสวิสแล้วไม่ได้กินอาหารชนิดนี้บอกเลยว่า คุณ.. มา ไม่ ถึงงงงง ..
เพราะนี้คือ Cheese Fondue ที่มีสไตล์และเอกลักษณ์เฉพาะตัวประจำประเทศ สวิตเซอร์แลนด์
ยิ่งถ้าอากาศหนาวๆกับเบียร์สักแก้วละก็ บอกเลยครับ โคตรเด็ด
ปล. ในชีสนั้นไม่ใช่ชีสเพียวๆนะครับคุณสามารถเลือกได้ว่าจะผสมกับ อะไรบ้างเช่น แฮม เห็ด เบคอน เป็นต้น
ไปดูน้ำตก Lauterbrunnen ขนาดมหึมา
ถ้าคุณไป Interlaken แล้วอย่าลืมที่จะแวะที่น้ำตก Lauterbrunnen ล่ะครับ
ผมคนหนึ่งที่จะบอกว่าเป็นสถานที่ที่ ถ่ายยังไงก็ไม่สวยเท่าการได้เห็นของจริง ทำไมน่ะหรอ
ก็ขนาดที่มหึมาของฉากน้ำตกธรรมชาติชิ้นนี้ บวกกับหมู่บ้านน่ารักๆด้านหน้าแล้วบอกได้คำเดียว โคตรพีคเลยครับ
ปล. แม้แต่สุสานด้านหน้าขนาดกว้างๆนั้นยังถูกตกแต่งด้วยดอกไม้หลากสีสวยงาม
สมแล้วครับที่เป็นประเทศที่รักษาธรรมชาติไว้ได้ดีเยี่ยม ต้องไปดูด้วยตานะ
ไปภูเขาที่ขึ้นชื่อว่า Top of Europe
Jungfrau นั้นเป็นเหมือนสถานที่ที่หนึ่งที่ได้รับการโฆษณา ผลักดัน การท่องเที่ยวได้อย่างดีเยี่ยม
ที่นี่ได้รับการขนานมามว่าเป็น Top of Europe(ไม่ได้สูงที่สุดนะภูเขานี้แต่เป็นเขาที่มีรถไฟสร้างขึ้นไปสูงที่สุด)
ราคาค่อนข้างแพง แต่วิวด้านบนก็อลังการไม่เบานะครับ
ที่สำคัญที่สุดต้องพกดวงไปด้วย ไม่งั้นละก็ คุณจะเห็นแค่หมอกขาวทึบๆ ไม่มีวิวอะไรเลย ที่สำคัญข้างบนหนาวมากกกกนะ
ปล. ราคาการขึ้นไปค่อนข้างสูงเลยล่ะครับ และจากประสบการณ์ผมแล้วที่สวิสยังมีภูเขาที่สวยๆและราคาถูกกว่านี้อีกเยอะ
ปเมืองทางเศรษฐกิจของสวิสนาม Zurich
ส่วนตัวผมมีโอกาสได้ทำงานที่ Zurich ครึ่งปี ที่นี่เป็นเมืองเศรษฐกิจที่มีเสน่ห์ไม่น้อยเลย
มีพาร์คเป็นจุดๆให้คนเมืองได้พักผ่อนหย่อนใจ และดูสิครับ หิมะตก อากาศหนาวๆ ก็ได้ฟิลไปอีกแบบใช่ไหมล่ะ
ปล. หลายๆท่านคงได้มีโอกาสผ่านเมืองนี้แน่ๆเพราะนอกจากเจนีวาแล้วนี่เป็นอีกเมืองสำคัญที่นักท่องเที่ยวต้องลงสนามบินที่นี่
ไปปีนเขาที่ Pilatus Mount.
นี่ไงล่ะ ที่ผมบอกว่าสวิสยังมีภูเขาอีกเยอะ ให้เราปีนหรือถ้าขี้เกียจก็ขึ้นกระเช้าโลด
ข้างบนก็วิวดีแต่แอบลื่นกับขั้นบันไดเคลือบหิมะเหมือนกันนะ (ถ้าไปช่วงที่ยังติดหนาวๆ)
ปสูดอากาศบนยอด Rigi Klum
ภูเขาริกิ ตั้งอยู่ที่เมือง Luzern ตอนกลางของประเทศสวิส ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นิยมมากๆ เพราะเนื่องจาก ถ้าซื้อ Swiss pass (บัตรสำหรับระบบขนส่งมวลชน แบบเหมาตามจำนวนวัน) แล้ว การขึ้นมาที่นี่จะถูกรวมไว้กับบัตรนี้แล้ว ซึ่งนั้นหมายถึง ขึ้นฟรี!!! ถ้านับเอาจริงๆ การขึ้นมาที่นี่สำหรับคนปกติ จะมีค่าใช้จ่ายอยุ่ราวๆ 104 CHF
ที่นี่เราได้มีโอกาสไปถึงสองครั้ง ได้ฟิลทั้งตอนที่เขียวชะอุ่ม และ ตอนที่ขาวโพรนไปหมดแล้ว ซึ่งบอกได้เลยว่าสวยทั้งคู่ นอกจากจะขึ้นมาสูดอากาศบริสุทธิ์บนนี้แล้ว เรายังได้เห็นวิวเมืองลูเซินทั้งเมืองอีกตั้งหาก
คำแนะนำคือควรขึ้นมาแต่เช้า เพราะจะได้ไม่เครียดมากเวลาขาลง มาช่วงบ่าย พอลงไปตอนเย็น เรือก็รอบเกือบหมด และรอนานมากกกกก
ไปตามรอย 007 ที่ Schilthorn
ครั้งนี้นอกจาก Jungfrau แล้ว นี่ก็เป็นอีกยอดเขาที่ผมขอแนะนำและบอกเลยว่าราคาไม่แพงมากอีกด้วย
ที่นี่มีอะไร แน่นอนก็วิวดี วิวสวยแถมยังเคยเป็นสถานที่ถ่ายหนังเจมส์ บอน อีกด้วย
แต่อย่าถาม พ.ศ. นะครับ เมื่อครั้งเรายังเยาว์วัยเลยทีเดียว ฮ่าๆๆๆ
ไปเรียนการโรงแรมที่สวิส ในแบบฉบับ Swiss hotelier
มาเรียนที่นี่ เรียนการโรงแรม กับวิวที่สวยระดับเทพ แรกๆโกรธที่บ้านมาก ว่าจะส่งช้านไปไหน ไปทำอะไร แต่พอมาถึง คือวิวดีมาก นอนมองเทือกเขาแอลป์ อยู่ในยอดดอยอันหนาวเหน็บทุกวัน
การมาเรียนที่นี่ ทำให้พบกับเพื่อนที่มาจากทั่วมุมโลก ซึ่งหลักๆแล้วจะเป็นคนจีน
ได้เรียน operation เรียน management และ ได้พบกับมิตรภาพใหม่ๆ
ขึ้นชื่อว่าการโรงแรมแล้ว ประเทศนี้เป็นประเทศหนึ่งที่โด่งดังและมีชื่อเสียงด้านการโรงแรมอันดับต้นๆของโลก
แบบที่เรียกว่า Swiss Hospitality ไงล่ะครับ ถ้าคุณอยากสัมผัสล่ะก็
แนะนำให้ไปเมืองต่างจังหวัดๆ ตามเขา ชาวบ้านน่ารักที่สุด มีน้ำใจ ยิ้มแย้ม
และคุณจะต้อง Say! Bonjour (แถบสวิสฝรั่งเศส) โดยปริยาย เวลามีคนเดินผ่านคุณถึงแม้จะไม่รู้จักกันก็ตาม
ไปดูน้ำตกในถ้ำนาม Trümmelbach
ถึงแม้ว่าสถานที่นี้จะไม่ได้โด่งดังมากมาย แต่พอเข้าไปสัมผัสแล้ว บอกเลยว่าทึ่ง เหมือนเดิมเลยครับ
สเกลน้ำตกที่ใหญ่มากกับเสียงของน้ำที่ตกกระทบหินด้านล่างอย่างแรงๆ ทำให้ใจเต้นไม่น้อย
และอากาศในนั้นบอกเลยว่าหนาวมาก ยิ่งเดินเข้าไปยิ่งมืด แล้วคุณจะได้สัมผัสน้ำตกในถ้ำแบบฉบับ Interlaken
ไปโดดน้ำที่ Valle Verzasca
พอเข้าหน้าร้อนสิ่งหนึ่งที่คนสวิสจะทำคือการอาบแดดและการหาสถานที่พักผ่อนหย่อนใจนอกบ้าน
แบบถ้าเป็นวัยรุ่นก็ต้องโดดน้ำ หรือนั่งชิวๆปาร์ตี้กันได้แบบไม่ต้องกลัวหิมะ อากาศหนาว
สถานที่นี้ก็เป็นอีกที่ที่น้ำใสมากและใครจะเชื่อว่าอากาศด้านบนร้อนแค่ไหน
แต่พอลงน้ำไปล่ะก็หนาวแบบขนลุกเลยทีเดียว เพราะน้ำในธารนี้ไหลลงมาจากเทือกเขา ซึ่งแน่นอนว่า
ก็ต้องละลายมาจากน้ำแข็งตอนหน้าหนาวนั่นล่ะ เพราะงั้นการนั่งตากแดดให้ตัวอุ่นๆร้อนๆแล้วได้โดดลงน้ำเย็นวูบๆ
ก็คงไม่ต่างอะไรกับวิธีการลงบ่อออนเซ็นของคนญี่ปุ่น ที่ลงร้อนเสร็จก็ต้องลงเย็น
ไปพักผ่อนหัวใจ ณ หุบเขา lrysin บนยอดดอยอันหนาวเหน็บ
ที่นี่ Leysin ตั้งอยู่ที่ระดับความสูง 1260 เมตรจากระดับน้ำทะเล
มาที่นี่คุณจะได้พบกับอากาศเย็น ค่อนข้างไปทางหนาวเกือบตลอดทั้งปี ก็ไม่มีอะไรมากอะนะ หิมะลงขาวโพรนแบบนี้จนเห็นเป็นเรื่องปกติ
ไป city tour ที่ Luzern
เมือง luzern ถือว่าเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานแห่งหนึ่งในสวิส
ไปเดินข้ามสะพานไม้ที่มีความเก่าแก่ยาวนานกว่า 100 ปี ซึ่งสะพานนี้ได้มีการบูรณะไปแล้วครั้งหนึ่ง เนื่องจากมีการชำรุดเสียหายไป ดังนั้นสิ่งที่เราเห็นทุกวันนี้ จึงเป็นสะพานที่มีการซ่อมแซมเพื่อให้คงสภาพแบบต้นฉบับไว้
ไปรูปปั้นสิงโต ซึ่งสิงโตตัวนี้เป็นสัญลักษณ์แทนทหารสวิสที่โดนหักหลัง หลังจากเยี่ยมชมเสร็จแล้ว อย่าลืมเดินออกมาร้านขายของที่ระลึก มีร้านของคนไทยอยู่ร้านนึงนะค่ะ
ไปเดินเล่นริมทะเลสาบที่ Montreux
ด้วยความที่ที่นี่ เป็นเมืองที่ใกล้ที่สุด หลังจากลงมาจากโรงเรียน นี่ขนาดใกล้ที่สุด ยังใช้เวลาเป็นชั่วโมงกว่าจะมาถึง
ซึ่งเมืองนี้ได้รับขนานนามว่าเป็นเมืองของคนสูงอายุ เมืองนี้จะเงียบสงบมาก มี supermarket แค่สองแห่ง และ H&M / SARA ที่ราคาถูกกว่าเมืองไทยหลายเท่า
เมืองนี้มีมาก ที่มีร้านอาหารญี่ปุ่นให้เราได้เชยชม รวมถึง asia store ที่ทำให้เรามีชีวิตอยู่รอดปลอดภัย
จุดเด่นของที่นี้คือ ความน้ำใสมาก ในหน้าร้อนเราจะเห็นคนลงไปเล่นน้ำเต็มไปหมด แต่หน้าหนาวแนะนำอย่าลงเลยค่ะ อาจจะแข็งตายได้
ไปนั่งชิวที่ Vevey
Vevey เป็นเมืองเล็กที่อยู่ถัดจาก Montreux ไปนิดนึง เมืองนี้เงียบมาก เค้าก็เลยสร้างจุดขายของตัวเองด้วยการเอาส้อมลงไปปักในทะเลสาบเลยละกัน
มาถึงที่นี่อาจจะ งงๆ นิดนึงว่าชั้นมาทำอะไร แต่ก็มาเถอะ จะได้รู้ว่ามาถึงสวิสแล้วจริงๆ
ปล. วันเสาร์จะมี market เล็กๆ อารมณ์เหมือนขายของเก่าอยู่นะ
ไปนั่งชิวริม Lake Zurich
ถ้าบรรยากาศชิวๆริมทะเลสาบ กับเบียร์เป็นสององค์ประกอบที่จะทำให้คุณฟินได้แบบผม
ที่นี่ก็เป็น Lake ในเมือง Zurich ที่พักผ่อนชั้นเยี่ยมของคนเมืองนี้
กิจกรรมมากมายเกิดขึ้นที่นี่ ไม่แพ้เมืองไหนๆเลยล่ะ หรือถ้าคุณได้เดินขึ้นไปบนเนินเขาแล้วมองกลับลงมาดูแสงสีเมืองยามดึกบอกเลย ฟินโคตรรรรร
Charcoal & Tofu
เผยแพร่โดย Paween Lekawat
ถูกใจเพจแล้ว · 1 ชม. · มีการแก้ไข ·
ไปเมือง Neuchatel
จริงๆแล้วเมืองนี้มีชื่อเสียงเรื่องการปลูกองุ่นและการทำไวน์
แต่ครั้งนี้โรงเรียนพาเราไปในตัวเมืองที่มีเทศกาลประจำปี ซึ่งรายละเอียดนั้นเราไม่แน่ชัด
แต่... ได้กลิ่นอายของขบวนพาเรทและการเฉลิมฉลองของคนสวิสได้อย่างดีเยี่ยม
ทำให้ผมรู้ว่าเวลาเค้าสนุกเค้าเต็มที่จริงๆ(เศษกระดาษสีๆเต็มเมืองเลยล่ะ) ไ่ม่น่าละ ถึงเป็นประเทศอันดับต้นๆที่มีความสุขที่สุดของโลก
มาถึงตรงนี้แล้ว อยากบอกทุกคนว่า ซึกครั้งนึงในชีวิต ควรไปเยือนสวิสเถอะ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น