มาเอง คราวนี้ต้องจบ! ฟังแจงทุกมุมดราม่าแบบละเอียด จากสถานทูตเกาหลีใต้

คราวที่แล้วที่เราตั้งไปยังไม่ใช่คำอธิบายจากฝั่งตม.เกา คราวนี้ไปเจอบทสัมภาษณ์นี้อีกรอบเลยเอามาตั้งให้ดูเพิ่มเติม



ในวันนี้ ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ มีทุกคำตอบให้ แฟนๆไทยรัฐออนไลน์ทุกท่าน ซึ่งจะมาสยบทุกคำถาม และ ทุกดราม่าที่เกิดขึ้น เพราะทุกคำตอบนี้ สั่งตรงมาจาก สถานเอกอัคราชทูตเกาหลีใต้ ประจำประเทศไทย ซึ่งได้ให้เกียรติ ตอบคำถามที่ทาง ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ส่งคำถามร้อนๆไปให้  

ซึ่งแฟนๆไทยรัฐออนไลน์ทุกท่าน จะคลายทุกข้อสงสัยและความกังวล นับจากบรรทัดนี้เป็นต้นไป 





อีเมล์จากสถานทูตเกาหลีประจำประเทศไทย ตอบกลับผู้สื่อข่าว
สถิติชัด คนไทยฉวยช่องละเว้นวีซ่า ลักลอบเข้าไปทำงานแบบผิดกฎหมายสูงขึ้น

โดย คำตอบของทางสถานเอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ในประเทศไทย เริ่มต้นว่า ในปัจจุบันตัวเลขของคนไทยที่เดินทางเข้าไปในประเทศเกาหลีใต้ แล้วอยู่เกินกว่าระยะเวลาที่ได้รับอนุญาต....ได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างผิดสังเกต

และยังมีรายงานด้วยว่า ครึ่งหนึ่งของคนไทยที่อาศัยอยู่ในเกาหลีใต้ขณะนี้ เป็นพวกที่อยู่เกินระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด โดยส่วนใหญ่ของคนไทยกลุ่มนี้ เข้ามาโดยอาศัยช่องทางการยกเว้นการตรวจลงตราวีซ่าที่ให้พำนักอยู่ได้ไม่เกิน 90 วัน ซึ่งจะเข้าไปลักลอบทำงานแบบผิดกฎหมาย ตามโรงงานอุตสาหกรรม ภาคการเกษตร และร้านนวดแผนโบราณ ฯลฯ

ชี้แจงจุดประสงค์ในการเยือนชัด ทุกอย่างจบ การันตี ไร้อคติคนไทยและบุคคลข้ามเพศ 

สำหรับประเด็นเรื่องการตรวจคนเข้าเมือง โดยเฉพาะกับนักท่องเที่ยวนั้น สถานเอกอัครทูตเกาหลีใต้ ชี้แจงว่า นักท่องเที่ยว จะต้องเตรียมเอกสารต่างๆให้พร้อม อาทิ ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ใบจองโรงแรมที่พัก และที่สำคัญคือต้องสามารถอธิบายกับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองได้ชัดเจน ถึงจุดประสงค์ในการเดินทางเข้าประเทศเกาหลีใต้

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ไม่เคยปฏิเสธการให้วีซ่าเข้าเมือง อันเนื่องมาจากปัญหาด้านเพศสภาพ เช่น กลุ่มหญิงหรือชายข้ามเพศ นอกจากนี้ ก็ยังไม่มีการเลือกปฏิบัติกับอาชีพใดอาชีพหนึ่ง เช่น คนที่ทำงานอิสระ หรือฟรีแลนซ์ นอกจากนี้ หลักเกณฑ์และกระบวนการตรวจคนเข้าเมืองก็ใช้เหมือนกันกับชาวต่างชาติทุกประเทศ และไม่มีหลักเกณฑ์พิเศษใดๆที่นำมาใช้กันคนไทยเลย!

นอกจากนี้ .... 

มีล่ามไทยให้ช่วยตอบคำถาม หากถูกปฏิเสธเข้าเมือง มีเอกสารแจงเหตุผลให้ลงนาม ที่สำคัญ เป็นภาษาไทย!  

ในระหว่างการสัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองนั้น จะมีการเสนอให้ใช้ล่ามภาษาไทย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนไทย ซึ่งผู้ถูกสัมภาษณ์จะสามารถตอบคำถามได้ โดยไม่ต้องมีอุปสรรคทางด้านภาษา

และหากมีการปฏิเสธไม่ให้ให้เข้าประเทศ ทางเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจะออกเอกสารการปฏิเสธการเข้าเมืองให้แก่ผู้ถูกสัมภาษณ์ โดยระบุถึงเหตุผลที่ปฏิเสธเป็นภาษาไทย โดยจะต้องให้ผู้ถูกสัมภาษณ์ลงนามรับทราบทุกครั้ง พร้อมทั้งระบุด้วยว่า หากผู้ถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าเมืองไม่เห็นด้วย ก็สามารถอุทธรณ์กับหน่วยตรวจคนเข้าเมืองได้โดยกรอกแบบฟอร์มที่มีให้

อย่างไรก็ตาม สถานเอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ ปฏิเสธที่จะเปิดเผยเอกสารรายงานการสัมภาษณ์ผู้ที่ตกเป็นข่าวในสื่อมวลชนไทยเนื่องจากเป็นข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ ยืนยันว่า ได้ปฏิบัติตามกระบวนการที่ได้อธิบายมาครบถ้วนทุกขึ้นตอนแล้ว

ขอปฏิเสธ ข้อหากักตัวห้องเย็นไม่ให้กินน้ำกินข้าว ยันมีอิสระออกไปซื้ออาหารกินได้   

สำหรับขั้นตอนหลังจากที่มีการปฏิเสธการให้เข้าเมืองแล้ว ระหว่างขึ้นเครื่องกลับ ผู้ถูกปฏิเสธ จะถูกขอให้ไปรออยู่ในห้องพักที่บริหารจัดการโดยสายการบิน ซึ่งเจ้าหน้าที่ในห้องดังกล่าวล้วนเป็นเจ้าหน้าที่ของสายการบิน ทั้งนี้ เพราะสายการบินจะต้องรับผิดชอบดูแลพาผู้ถูกปฏิเสธเข้าเมืองกลับประเทศต้นทาง

อย่างไรก็ตาม หากผู้ถูกปฏิเสธเข้าเมืองไม่ต้องการที่จะอยู่ในห้องดังกล่าว ก็สามารถขออนุญาตออกไปอยู่นอกห้องได้

.....ซึ่งแม้ว่า ในห้องดังกล่าวจะมีการเสริฟอาหารให้ แต่ก็สามารถแจ้งกับเจ้าหน้าที่สายการบิน เพื่อ ขอออกไปซื้ออาหารรับประทานเองได้โดยอิสระ 

อย่างไรก็ตาม ผู้ถูกปฏิเสธจำเป็นต้องติดต่อสายการบินที่พวกเขาเดินทางมายังประเทศเกาหลีใต้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้

ทั้งหมดนี้ เป็นคำชี้แจงจากสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจําประเทศไทย ที่ฝากผ่านมือทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ไปถึง ชาวไทยทุกท่าน เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง

พร้อมย้ำอย่างชัดเจนในตอนท้ายอีกครั้งด้วยว่า

เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเกาหลีใต้ ไม่ได้รังเกียจหรือกีดกันชาวไทยเป็นพิเศษอย่างที่เข้าใจผิดกัน!

ที่มา : https://www.thairath.co.th/content/952587

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่