เอาเข้าจริงพล็อตของ “Present Perfect – แค่นี้ก็ดีแล้ว” มันแทบไม่มีอะไรใหม่ แถมยังมีส่วนผสมของความน่าเหลือเชื่อและความซ้ำซากในระดับพอๆ กัน กับเรื่องราวของผู้ชายที่เมามายจนเผลอไผลไปมีอะไรกับผู้ชายด้วยกัน แต่ด้วยบรรยากาศแสนพิเศษของเมืองฮิกาชิคาวะ เสน่ห์ของนักแสดงที่เข้มข้น พร้อมเคมีที่เข้ากันอย่างลงตัว และการเลือกเล่าแบบเรียบๆ ง่ายๆ สไตล์มินิมัลลิสต์ ก็ทำให้มันกลายเป็นรสชาติแปลกใหม่ มีเสน่ห์ในตัวเอง และที่สำคัญที่สุด เราสัมผัสได้ถึงความจริงใจกับเรื่องที่เล่าแบบเต็มหัวใจ
ในขณะที่ “ไอซ์ - อดิศร โทณะวณิก” ค่อยๆ ฉายเสน่ห์ออกมาทีละน้อยตามวินาทีที่ผ่านไปบนจอ “โจ๊ก - กฤษณะ มฤคสนธิ” กลับได้ใจเราไปตั้งแต่หน้าประตู แล้วน่าทึ่งมากที่เคมีของพวกเค้าก็ค่อยๆ หลอมละลายเข้าด้วยกันอย่างช้าๆ ด้วยเพราะตัวละครไม่ได้สนทนาอะไรกันเยอะแยะและมีความเงียบเป็นมวลอากาศใหญ่ในหนัง เราเลยได้เห็นการเล่นแบบลงรายละเอียดของทีมนักแสดง (รวมถึง มิโดริ ทามาเตะ ในบท ยูมิ ด้วย) ทั้งการเคลื่อนไหวร่างกาย สีหน้า แววตา น้ำเสียง ทุกอย่างมันพอเหมาะพอดีไปหมด และคงปฏิเสธไม่ได้ว่า เมืองฮิกาชิคาวะ ก็กลายเป็นอีกหนึ่งตัวละครที่โดดเด่นมาก นี่สะกิดแขนคุณแฟนที่นั่งอยู่ข้างๆ ตลอด “สวยจังเลย .. อยากไป”
ชอบพัฒนาการตัวละคร “เต้ย” มาก คือเอาเข้าจริง มันเสี่ยงมากที่จะเป็นตัวละครที่คนดูยี๊ ด้วยวุฒิภาวะ วิธีแก้ปัญหาของตัวละคร และความ “จะอะไรนักหนา” ของมัน แล้วยิ่งช่วงเปลี่ยนผ่านจากความสับสนสู่การปล่อยไหลตามความรู้สึก ก็ทำให้เราเกือบๆ จะ “เอ๊ะ” เหมือนกัน แต่ด้วยอะไรบางอย่าง เราก็ยอมปล่อยไหลและเชื่อในการเติบโต-ตัดสินใจของตัวละคร ก็นั่นแหละ ต้องให้เครดิต “ไอซ์ - อดิศร” ที่สร้างตัวละครให้ดูจับต้องได้ มีเสน่ห์ และน่าเชื่อขึ้นมาได้
“Present Perfect – แค่นี้ก็ดีแล้ว” ตอกย้ำความเชื่อของเราอีกครั้งว่า “ความรัก” มันทำให้เราเปลี่ยนแปลง เติบโต และเรียนรู้ได้ทุกครั้งแหละ และกับบางความรักบางความสัมพันธ์ แม้มันจะผ่านมาแล้วผ่านไปภายในระยะเวลาสั้นๆ แต่มันก็ส่งผลรุนแรงและสั่นสะเทือนภายในทุกครั้งที่วงโคจรเราเวียนกลับมาสัมผัสกัน หรือแม้แต่...เห็นฟีดบนเฟซบุ๊กของเค้าเลื่อนขึ้นมา...
[CR] [Review] Present Perfect - แค่นี้ก็ดีแล้ว (2017)
เอาเข้าจริงพล็อตของ “Present Perfect – แค่นี้ก็ดีแล้ว” มันแทบไม่มีอะไรใหม่ แถมยังมีส่วนผสมของความน่าเหลือเชื่อและความซ้ำซากในระดับพอๆ กัน กับเรื่องราวของผู้ชายที่เมามายจนเผลอไผลไปมีอะไรกับผู้ชายด้วยกัน แต่ด้วยบรรยากาศแสนพิเศษของเมืองฮิกาชิคาวะ เสน่ห์ของนักแสดงที่เข้มข้น พร้อมเคมีที่เข้ากันอย่างลงตัว และการเลือกเล่าแบบเรียบๆ ง่ายๆ สไตล์มินิมัลลิสต์ ก็ทำให้มันกลายเป็นรสชาติแปลกใหม่ มีเสน่ห์ในตัวเอง และที่สำคัญที่สุด เราสัมผัสได้ถึงความจริงใจกับเรื่องที่เล่าแบบเต็มหัวใจ
ในขณะที่ “ไอซ์ - อดิศร โทณะวณิก” ค่อยๆ ฉายเสน่ห์ออกมาทีละน้อยตามวินาทีที่ผ่านไปบนจอ “โจ๊ก - กฤษณะ มฤคสนธิ” กลับได้ใจเราไปตั้งแต่หน้าประตู แล้วน่าทึ่งมากที่เคมีของพวกเค้าก็ค่อยๆ หลอมละลายเข้าด้วยกันอย่างช้าๆ ด้วยเพราะตัวละครไม่ได้สนทนาอะไรกันเยอะแยะและมีความเงียบเป็นมวลอากาศใหญ่ในหนัง เราเลยได้เห็นการเล่นแบบลงรายละเอียดของทีมนักแสดง (รวมถึง มิโดริ ทามาเตะ ในบท ยูมิ ด้วย) ทั้งการเคลื่อนไหวร่างกาย สีหน้า แววตา น้ำเสียง ทุกอย่างมันพอเหมาะพอดีไปหมด และคงปฏิเสธไม่ได้ว่า เมืองฮิกาชิคาวะ ก็กลายเป็นอีกหนึ่งตัวละครที่โดดเด่นมาก นี่สะกิดแขนคุณแฟนที่นั่งอยู่ข้างๆ ตลอด “สวยจังเลย .. อยากไป”
ชอบพัฒนาการตัวละคร “เต้ย” มาก คือเอาเข้าจริง มันเสี่ยงมากที่จะเป็นตัวละครที่คนดูยี๊ ด้วยวุฒิภาวะ วิธีแก้ปัญหาของตัวละคร และความ “จะอะไรนักหนา” ของมัน แล้วยิ่งช่วงเปลี่ยนผ่านจากความสับสนสู่การปล่อยไหลตามความรู้สึก ก็ทำให้เราเกือบๆ จะ “เอ๊ะ” เหมือนกัน แต่ด้วยอะไรบางอย่าง เราก็ยอมปล่อยไหลและเชื่อในการเติบโต-ตัดสินใจของตัวละคร ก็นั่นแหละ ต้องให้เครดิต “ไอซ์ - อดิศร” ที่สร้างตัวละครให้ดูจับต้องได้ มีเสน่ห์ และน่าเชื่อขึ้นมาได้
“Present Perfect – แค่นี้ก็ดีแล้ว” ตอกย้ำความเชื่อของเราอีกครั้งว่า “ความรัก” มันทำให้เราเปลี่ยนแปลง เติบโต และเรียนรู้ได้ทุกครั้งแหละ และกับบางความรักบางความสัมพันธ์ แม้มันจะผ่านมาแล้วผ่านไปภายในระยะเวลาสั้นๆ แต่มันก็ส่งผลรุนแรงและสั่นสะเทือนภายในทุกครั้งที่วงโคจรเราเวียนกลับมาสัมผัสกัน หรือแม้แต่...เห็นฟีดบนเฟซบุ๊กของเค้าเลื่อนขึ้นมา...