อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย ... กับ 7 ที่ท่องเที่ยว ที่ต้องไปให้ได้


อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย
อำเภอเล็กๆ ที่หลายคนพอคุ้นเคยจากเรื่องราวของ 15 ค่ำเดือน 11
ปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาค บางคนรู้จักกับตำนานเมืองหลวงของพญานาค
แห่งโลกบาดานใต้แม่น้ำโขง
แต่...หลายคนยังไม่ทราบว่า อำเภอโพนพิสัย มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย
ที่กำลังรอให้ทุกท่านได้สัมผัส กับ รีวิวชุดนี้ครับ


1.วัดไทย และ ถ้ำพญานาค
ถ้ำพญานาค หรือ ถ้ำเมืองบาดาลจำลอง ตั้งอยู่ที่ วัดไทย อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย
ตำนานเล่าขานกันถึงเมืองหลวงของพญานาคแห่งโลกบาดาลใต้แม่น้ำโขง
เชื่อกันว่า อยู่ที่ริมแม่น้ำโขงหน้าวัดไทยนี้เอง


ในคืนหนึ่ง เจ้าอาวาสวัดไทยได้นิมิตว่า มีหญิงชาย ร่างกายสีดำมานิมนต์ให้สร้างสัญลักษณ์ประจำเมืองบาดาล
หรือเมืองพญานาคไว้เมืองมนุษย์ ณ บริเวณ วัดไทย ท่านเจ้าอาวาสจึงดำริสร้างสิ่งแทนโลกบาดาลคือ
1.ราชาแห่งพญานาค เฝ้าที่หน้าทางเข้าถ้ำ สูง 19 เมตร
2.สร้างเป็นนาคบาท คือลักษณะแบบงูกินหาง หมายถึงสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ของบ้านเมือง
3.เสาหลักเมืองบาดาล เป็นรูปร่างสามเหลี่ยม
4.ประตูทางเข้าเมืองบาดาล


ทางเข้าจะเชื่อมเข้าไปในลำตัวของพญานาค ซึ่งจะลอดเข้าทางส่วนท้องของพญานาค
และจะมุดออกทางส่วนหางของพญานาค
ภายในแบ่งเป็น ถ้ำจำลอง 7 ห้อง แต่ละห้องแสดงถึงเรื่องราวของเมืองบาดาล


เช่นห้องสมบัติพญานาค จำรองถ้ำใต้บาลที่เป็นที่เก็บสมบัติของพญานาคเอาไว้
จำรองเป็นแก้วแหวนเงินทอง ผนังห้องเป็นสีทอง



ห้องอริยสงฆ์ เป็นห้องที่มีหุ่นขี้ผึ่งจำรอง อริยสงฆ์ของประเทศไทยเอาไว้
บริเวณทางเดิน ประดับด้วยจิตกรรมฝาผนังที่งดงาม
เล่าเรื่องราวถึงตำนานของพญานาคและโลกบาดาล
นอกจากนี้ บริเวณริมฝั่งโขงหน้าวัดไทย เป็นจุดชมบั้งไฟพญานาคที่ได้รับความนิยมที่สุด


2.ริมฝั่งโขง อำเภอโพนพิสัย
บริเวณหน้าวัดเป็นลานนาคาเบิงฟ้า ลานที่ยื้นลงไปริมแม่น้ำโขง
เป็นที่ตั้งของ พญาพิสัยศรีสัตนาคราช
พญานาคองค์สีทอง 7 เศียร ซึ่งเป็นอีกหนึ่ง แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของโพนพิสัย


ริมแม่น้ำโขง เขตเทศบาลอำเภอโพนพิสัย ถูกสร้างเป็นถนนเล็กๆโค้งไปตามตลิ่งน้ำโขง
ระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร ตั้งแต่วัดหลวง จนมาถึงหน้าวัดจอมนาง


ผ่านวัด และสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ทั้งบรรยากาศวิถีชีวิตริมแม่น้ำโขง
ที่ผู้คนมีความผูกพันธุ์กับสายน้ำ


เริ่มต้นเส้นทางที่ วัดหลวง โดดเด่นด้วยศาสนาสถานที่งดงามทั้งเจดีย์ วิหาร
และที่สะดุดตาคือพระยืนริมแม่น้ำโขงขนาดใหญ่


นอกจากนี้ยังมี พระสุกจำรอง ซึ่งเป็นหนึ่งในพระพุทธรูป 3 องค์ ที่อัญเชิญมาจากเวียงจันทร์
อันประกอบด้วย พระสุก พระเสริม และพระใส แต่พระสุกเพียงพระองค์เดียวที่เกิดเหตุอัสจรรย์จมลงใต้ลำน้ำโขง
ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าเป็นอิทธิฤทธิ์ของพญานาค


ถัดมาคือบริเวณ ปากห้วยหลวง เป็นจุดที่มีการทำเกษรริมแม่น้ำโขง
เพราะดินบริเวณดังกล่าวเป็นดินปากแม่น้ำ จึงมีแร่ธาตุสะสมอยู่มาก
ใกล้ๆกันนั้นเป็นที่ตั้งของ ศาลหลักเมือง อ.โพนพิสัย และ ศาลเจ้าปู่ย่า
ซึ่งเป็นที่เคารพกราบไหว้ของชาวโพนพิสัยมาช้านาน


ถัดมาอีกประมาณ 800 เมตร เป็นที่ตั้งของ ตลาดนัดไทยลาว
มีทุกวันเสาร์และวันอังคาร เป็นตลาดที่จุดผ่อนปรนให้ชาวลาวสามารถ
ข้ามมาค้าขายที่ฝั่งไทยได้ โดยสินค้ามักเป็นอาหารพื้นเมือง อาหารป่าจากฝั่งลาว
เครื่องหัตถกรรมของชาวลาวโดยจะค้าขายช่วงเวลา 08.00-12.00น.


3.ปากน้ำงึม (แม่น้ำสองสี ) และหาดบ้านหนองกุ้ง
จุดท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ที่จัดได้ว่าสวยงามที่สุดของโพนพิสัย คือ จุดชมวิวแม่น้ำสองสี
บริเวณดังกล่าวอยู่ที่บ้านหนองกุ้ง ห่างจากตัวเมืองประมาณ 8กม.


จุดดังกล่าว อยู่ริมแม่น้ำโขงตรงข้ามกับปากแม่น้ำงึมของประเทศลาว
แม่น้ำงึมเป็นแม่น้ำขนาดใหญ่ของประเทศลาว ไหลลงมาจากเขื่อนแม่น้ำงึม


และไหลลงมาที่แม่น้ำโขงที่ บ้านปากงึมประเทศลาว
แม่น้ำงึมมีน้ำสีเขียว ส่วนแม่น้ำโขงมีน้ำสีส้มแดงเมื่อน้ำไหลมาบรรจบกันก็จะเป็นลักษณะแม่น้ำสองสี
ซึ่งสามารถชมความงามได้ชัดเจนที่ฝั่งไทยบริเวณบ้านหนองกุ้ง


บ้านหนองกุ้งยังเป็นสถานที่หนึ่งที่สามรถชมบั้งไฟพญานาคได้
ใกล้ๆกับจุดชมวิวนี้เอง ในช่วงหน้าร้อนจะมีหาดทรายริมชายโขง
ที่เรียกว่า หาดหนองกุ้ง หรือบางคนเรียกว่า หาดจอมเพชร


เป็นสถานที่เล่นน้ำคลายร้อนยอดนิยมของชาวโพนพิสัย และคนต่างจังหวัด
มีบริการร้านอาหารและเครื่องดื่มในรูปแบบแพริมน้ำ มีบริการเช่าห่วงยาง เสื้อชูชีพ
หาดหนองกุ้งจะมีในฤดูร้อน คือ ช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม


4.พระเสี่ยง วัดมณีโคตร
พระเสี่ยงพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของชาวโพนพิสัย และอำเภอข้างเคียง
เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่อายุกว่า 300ปี สร้างโดยกษัตริย์อาณาจักรล้านช้าง


เมื่อปี พ.ศ. 2400 กิตติศัพท์ข่าวลือเกี่ยวกับอภินิหารของพระเสี่ยง ได้ทราบไปถึงรัชกาลที่ 4
จึงมีพระบรมราชโองการอัญเชิญเอาพระพุทธรูปที่สำคัญมาที่สยามพร้อมกัน แต่ไม่สำเร็จ


เมื่อประมาณ 100 ปีที่ผ่านมา มีผู้คิดจะนำพระเสี่ยงไปไว้ที่กรุงเทพฯ
จึงได้อัญเชิญพระเสี่ยงขึ้นหลังช้าง พระเสี่ยงก็ได้แสดงอภินิหารให้ช้างหนักจนไปไม่ได้
พระเสี่ยงตกจากหลังช้าง เป็นเหตุให้หูหักเกศคต จึงได้ประดิษฐานที่วัดมณีโคตร ดังในปัจจุบัน


นอกจากนี้พระเสี่ยงยังมีความสำคัญต่องานประเพณีของชาวโพนพิสัยคือ
งานมหาสงกรานต์โพนพิสัย ที่ วัดมณีโคตร อ.โพนพิสัย
ซึ่งจะทำการแห่พระเสี่ยง วัดมณีโคตร ให้ประชาชนได้สรงน้ำ
ซึ่งจะอัญเชิญลงจากวิหารในวันที่ 13 เมษายน


นอกจากพระเสี่ยงแล้ว วัดมณีโคตร ยังมีจิตกรรมฝาผนัง สามมิติ
เรื่องตำนานพญานาค ซึ่งมีรูปเจ้าแม่นาคีอีกด้วย (ละครเรื่องนาคี ละครช่อง3)


5.ศูนย์วัฒนธรรมเฉลิมราช พิพิธภัณฑ์เมืองโพนพิสัย
ศูนย์วัฒนธรรมเฉลิมราช พิพิธภัณฑ์เมืองโพนพิสัย เป็นอาคารที่ว่าการอำเภอโพนพิสัยหลังเดิม
ทีถูกสร้างเมื่อปี พ.ศ.2465 เป็นอาคารชั้นเดียวศิลปะแบบโคโรเนียล


ปัจจุบันได้ปรับปรุงจนกลายเป็นรูปแบบพิพิธภัณฑ์เมือง ที่เก็บรักษาโบราณวัตถุ ของมีค่า
เก่าแก่ตั้งแต่ยุคสมัยก่อตั้งอำเภอโพนพิสัย อีกทั้งเก็บรวบรวมเรื่องราวทางประวัติศาสตร์
ผู้ปกครองเมือง และเจ้าเมืองในอดีต
อีกทั้งบอกเล่าถึงเรื่องราวความเชื่อของชาวโพนพิสัยกับพญานาคและบั้งไฟพญานาค


ตำนานพระเสี่ยง พระคู่บ้านคู่เมืองของโพนพิสัย
การแสดงปฏิมากรรมปูนปั้นพญานาคของศิลปินแห่งชาติ
การแสดงภาพถ่ายของอำเภอโพนพิสัยในอดีต


บางโอกาศจะมีการแสดงหมุนเวียนต่างๆ เช่น การแสดงภาพเขียนของศิลปินชาวอีสานที่มีชื่อเสียง
นอกจากนี้ยังเป็นที่ประดิษฐาน พระบรมสาทิสลักษณ์รัชกาลที่ 9 สูง 2.4เมตร


โดยพิพิธภัณฑ์เปิดในวันราชการ เวลา 09.00น.-16.00น.
ไม่เสียค่าเข้าชมแต่อย่างใด


6.หาดบ้านใหม่ทรายทอง
อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวช่วงหน้าร้อน ยอดนิยมของชาวโพนพิสัย
คือหาดทราย ที่บ้านใหม่ทรายทอง อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย
ห่างจาก อ.โพนพิสัย ประมาณ 8 กม.


ที่ว่าเป็นชายหาดริมฝั่งโขง ที่ใกล้ที่สุดของอำเภอโพนพิสัย
บริเวณหาด มีบริการจุดฝากรถ ร้านค้า ร้านอาหาร เครื่องดื่ม และจุดเช่าห่วงยางเล่นน้ำ


หาดทรายบ้านใหม่ทรายทองจะอยู่ตรงข้ามกับ บ้านดอนของประเทศลาว
ซึ่งมีลักษณะเป็นที่ดอน หรือเกาะกลางแม่น้ำโขง
ทำให้มีแม่น้ำโขงแยกออกเป็นสองทาง
ลักษณะดังกล่าว ทำให้เกิดหาดทรายตามธรรมชาติฝั่งประเทศไทย


หาดบ้านใหม่ทรายทองจึงมีหาดทรายเกือบทั้งปี ยกเว้นช่วงหน้าฝน
แต่ร้านค้าริมหาดทรายจะมีเฉพาะในช่วงหน้าร้อนนะครับ


7.สวนสาธารณะวัดหนองเรือคำ
สถานที่ออกกำลังยอดนิยมของชาวโพนพิสัย คือ สวนสาธารณะวัดหนองเรือคำ
อยู่ใกล้กับสะพานข้ามแม่น้ำหลวง
มีความพิเศษคือเป็นสวนสาธารณะ ที่ตั้งอยู่ในวัด


มีถนนวิ่งออกกำลังกายรอบหนองน้ำขนาดใหญ่
มีเอกลักษณะโดดเด่นด้วยศาลากลางหนองน้ำ
ประดิษฐานพระพุทธรูปในศาลา
เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00 – 19.00น.


นอกจากนี้ภายในวัดมีเจดีย์เก่าแก่ ตกแต่งด้วยพุทธศิลป์แบบอีสานโบราณ
ตั้งอยู่บริเวณหลังโบสถ์ของวัดหนองเรือคำ


อำเภอโพนพิสัย อยู่ห่างจากตัวจังหวัดหนองคาย 45 กิโลเมตร
เดินทาง ถนนสาย 212 ไปทาง จ.บึงกาฬ
สามารถเดินทาง โดยรถตู้โดยสาร หรือ รถประจำทาง
และแผนที่สถานที่ท่องเที่ยว อ.โพนพิสัย


หนองคายเมืองเล็กๆ แต่ก็สามารถเที่ยวได้ทั้ง 12เดือน
กับรีวิวใหญ่ ที่รวบรวม Link รีวิวต่างๆของหนองคายเข้าไว้
https://ppantip.com/topic/36235573


ติดตาม ความเป็นไปภาพถ่าย เรื่องราวของหนองคายที่ติดตาม ความเป็นไปภาพถ่าย
เรื่องราวของหนองคายที่ facebook:Love nongkhai
( https://www.facebook.com/Lovenongkhal )


สงวนลิขสิทธิ์ภาพถ่ายและรีวิว ... หากต้องติดต่อ พูดคุย
ขออนุญาตการนำภาพไปใช้ ซื้อขายภาพที่
facebook:https://www.facebook.com/thapanun.mahisanun

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่