“ ไม่ว่าใครในสังคม ก็โกงด้วยกันทั้งนั้น ความโลภทำลายได้ทุกอย่าง แม้แต่อุดมการณ์ตนเอง ”
สวัสดีครับ ! นานเหลือเกินกว่าจะมีหนังไทยสายกระแสหลักที่ทำได้ดีขนาดนี้ สำหรับผมถ้านับเรื่องก่อนหน้านี้ที่โดนใจก็คงเป็น
“ฟรีแลนซ์ ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ” ของ
GTH เจ้าเดิม ส่วนฉลาดเกมส์โกงก็เช่นกัน ถือเป็นหนังกระแสหลักที่ดีที่สุดในรอบปีที่ผ่านมา
ฉลาดเกมส์โกง (2017) กำกับโดย "
บาส นัฐวุฒิ พูนพิริยะ" โดยเล่าชีวิตของ
"ลิน (ออกแบบ ชุติมณฑน์)" เด็กนักเรียนสมองอัจฉริยะที่ได้พบกับ
"เกรซ (อิษยา ฮอสุวรรณ)" เพื่อนสาวที่หัวไม่ดีด้านการเรียน เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นเมื่อลินอยากโกงข้อสอบเพื่อช่วยเพื่อน แต่ปัญหาค่อย ๆ ขยายวงไปลามเรื่อย ๆ
ฉลาดเกมส์โกง : หนังไทยสายกระแสหลักที่ดีที่สุดในรอบปีที่ผ่านมา
- ก่อนอื่นต้องที่ต้องชมก่อน คือ การกล้าทำหนังแนวใหม่ ๆ ที่ไม่ไปยึดติดแนวเดิม จากที่ปกติเราเห็นแต่หนังตลก หนังรัก อันนี้ค่อนข้างฉีกแนวด้วยพล็อตที่ใหม่ ซึ่งไม่ได้เห็นกันบ่อย ๆ ในวงการหนังไทย ทำให้อย่างน้อย เราก็มีความหวังที่จะได้เห็นหนังไทยพล็อตดี ๆ ในอนาคตมากขึ้น !
- ว่ากันตามคุณภาพภาพยนตร์ หนังมีแก่นและบทคุณภาพที่ดี สังเกตว่า ตั้งแต่เริ่มเรื่องจนถึงฉากจบ หนังสามารถคุมประเด็น ปมเรื่องให้อยู่ในเส้นเรื่องได้ตลอดไม่หลุด ไม่ออกทะเล การดำเนินเรื่องเป็นไปด้วยความลื่นไหล ทั้งยังไม่มีช่วงดร็อป
-- ส่วนแรกที่ชอบ ขอยกนิ้วให้
"การคุมธีมทริลเลอร์" หนัง Pressing คนดูให้เครียดและลุ้นอย่างสนุกสนาน โดยเฉพาะความรู้สึกอึดอัด เครียด การโดนหักหลัง ซึ่งเป็นสิ่งที่ตัวละครเผชิญ และเราก็รับรู้ความรู้สึกนี้ได้ในเวลาเดียวกัน
-- หนังหยิบประเด็นเรื่อง
"การโกง" มาเป็นใจความหลัก ธีมการโกงจึงมีตั้งแต่
โกงในไทย (ส่วนแรก) ไปจนถึง
โกงระดับนานาชาติ (ส่วนหลัง)
จุดสำคัญที่สุดของเรื่อง คือ การตั้งคำถามถึง
"ความคุ้มค่าของผลลัพธ์ในการกระทำ" แม้เหล่าตัวละครหลัก จะทราบถึงความเสี่ยงที่เกิดขึ้นและรับรู้ถึงความผิดชอบชั่วดี ทว่าเมื่อความโลภเข้ามาเกาะความคิด เหล่าตัวละครก็ค่อย ๆ สูญเสียตัวตน ถลำลึกลงสู่หุบเหว
สิ่งนี้เองคือ สิ่งที่ทำให้เราอยากรู้ถึงวาระสุดท้ายของแต่ละคน
ทั้งนี้ยังมีประเด็นอื่น ๆ ที่หนังนำมาวิพากษ์วิจารณ์สังคม อย่างประเด็นด้านการศึกษา ซึ่งปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ทั้งการโกงทุจริตล้วนแฝงอยู่ในระบบเหล่านี้
น่าสนใจเหมือนกันว่า นักเรียนจะเติบโตขึ้นเป็นพลเมืองที่ดีได้อย่างไรเมื่อ
"ทุกอย่างมีทางลัด... เรามีทางออกที่ไม่ต้องใช้ความพยายามเสมอ"
- กลวิธีการเล่าในเรื่อง มีหลายอย่างที่น่าสนใจ ทั้งในส่วนการตัดต่อและมุมกล้องที่สร้างความระทึก ความซับซ้อน ความเหนือชั้น
รวมไปถึงเทคนิคที่แพรวพราวอย่าง การแสดงเงาในกระจกซ้อนกันหลายชั้น หรือฉากเปียโนในท้ายเรื่อง ส่วนตรงนี้เล่านัยยะเรื่องเยี่ยม และแสดงกึ๋นของงานออกแบบได้เต็มสูบ
- ชอบอีกอย่างที่หนังเลือกจะไม่ใส่เส้นเรื่องความรักเขามา ทำให้หนังไม่หลุดธีมการโกง แถมยังเป็นระเบียบกว่าการมีซับพล็อตที่ไม่ค่อยเข้ากับธีมเรื่อง
- จุดที่เป็นข้อด้อยหนัง ส่วนแรก รู้สึกว่า ทริคการโกงข้อสอบบางอย่างดูไม่เนียน เอาไปใช้จริงยาก ซึ่งเข้าใจว่า หนังต้องการแสดงความแพรวพราวของการโกง ดังนั้นก็พอจะเป็นส่วนที่ปล่อยข้ามไปได้
ส่วนที่สอง การเร่งจังหวะหนังที่ดูล้นไปบ้าง ฟีลลิ่งเหมือนรถที่เหยียบคันเร่งเค้นคนดูไม่หยุด จนบางทีถ้าผ่อนให้เกิด Space จะทำให้หนังมีความพอดีและสวยยิ่งขึ้น
นักแสดง : ออกแบบ-ชุติมณฑน์ แจ้งเกิดเต็มตัว
- พาร์ทนักแสดง โดยรวมแสดงได้ดีทุกคน สำหรับนักแสดงที่รู้สึกโดดเด่นและชื่นชอบเป็นพิเศษ มีอยู่ 2 คน
-- คนแรกคงเป็นใครไม่ได้นอกจาก "
ออกแบบ - ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุขยิ่ง (ลิน)" แสดงได้เยี่ยมชนิดที่แจ้งเกิดได้ 100% ออกแบบแบกหนังไว้อย่างมั่นคง ตีบทแตกกระจุย
-- คนที่สอง "
ธเนศ วรากุลนุเคราะห์ (พ่อ)" ถ้าบทพ่อไม่ได้แสดงเนียนขนาดนี้ หนังคงจะดร็อปและแบนไปเยอะ ถือว่าคุณธเนศแสดงได้เยี่ยม แถมหน้าตาที่ดูเป็นคนธรรมดา ส่วนนี้เนียนตาและทำให้หนังดูเป็นธรรมชาติมาก
-- ส่วนนักแสดงนำทั้งสามคน ได้แก่
แบงค์ (ชานน สันตินธรกุล) เกรซ (อิษยา ฮอสุวรรณ) พัฒน์ (ธีรดนย์ ศุภพันธ์ภิญโญ)
ทั้งสามแสดงได้ดีเช่นกันตามบทบาทตัวเอง เพียงแต่ถ้าเป็นไปได้ ก็อยากได้คนที่หน้าตาดูเป็นนักเรียนมากกว่านี้อีกหน่อย ดูสามคนนี้ บางทีรู้สึกเหมือนเป็นเด็กมหาลัย แถมรัศมีความหล่อสวย ก็ทำให้ความเป็นธรรมชาติของบทบาทลดลง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ถ้าในแง่มิติของตัวละคร รู้สึกชอบบทแบงค์ดี เป็นคนที่มีการเปลี่ยนแปลงมากที่สุดแล้ว (แล้วก็ล้มเหลวมากที่สุด)
แบงค์เป็นคนดีที่ไม่เคยได้ดี ขณะที่พวกเรียนไม่เอาอ่าว กลับอยู่ร่ำรวยและมีทางเลือกในชีวิตอยู่เสมอ เท่านั้นไม่พอดันมาโชคร้ายจากการหักหลังของเพื่อน
ทำให้สุดท้ายก็เป็นแบงค์นี่แหละที่เลือกที่จะหันหลังให้กับสิ่งที่ตัวเองเชื่อในตอนแรก (ภาพคล้ายกับ Two-Face ใน The Dark Knight)
ดนตรีประกอบภาพยนตร์ : ดีมากสำหรับหนังไทย กดดันและบีบหัวใจ
มองฉันที - อิมเมจ สุธิตา Ost.ฉลาดเกมส์โกง
- ดนตรีประกอบภาพยนตร์ ได้รับการประพันธ์โดย
หัวลำโพงริดดิม ทำออกมาในแนวดนตรีอิเล็กโทรนิกส์ ให้ความรู้สึกดาร์กๆ ทึม ๆ ขัดแย้ง
นอกจากนี้ มีการนำดนตรีคลาสสิคหลายเพลงมาใส่ประกอบหนัง เพิ่มอารมณ์ขัดแย้งหนังจากการสลับไปมาระหว่างดนตรีคลาสสิคกับดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ ถือว่าสร้างอารมณ์ได้ดีและน่าชื่นชม
Magic Flute (Queen of Night Aria)
มีกระทู้น่าสนใจเกี่ยวกับเพลงคลาสสิคที่ใส่ในเรื่อง "ฉลาดเกมส์โกง" ลองฟังกันดูนะครับ (เผื่อจะได้รู้จักกับดนตรีคลาสสิคติดหูเพราะๆด้วย)
สรุป
ฉลาดเกมส์โกง:ถือเป็นหนังไทยคุณภาพเยี่ยม แม้จะมีจุดผิดพลาดบ้าง ดูจงใจบ้าง แต่เป็นข้อผิดพลาดเล็กน้อยเมื่อเทียบกับภาพรวมหนัง ทั้งบทหนัง แก่นหนัง การดำเนินเรื่อง สอบภาพฉลุย
ใครยังไม่ได้ดูก็แนะนำนะครับ มีไม่มากเลยหนังไทยคุณภาพระดับนี้... ดูได้บน Netflix !
8.5/10
----------------------------------------------------------------------
ป.ล. ฉากที่ชอบที่สุด (ชอบฉากใดหรือมีความคิดเห็นอย่างไรก็มาพูดคุยกันได้เลยนะครับ)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้- ฉากที่ลินนั่งที่เปียโนในห้องสอบท้ายๆเรื่อง ตอนนั้นลินจำข้อสอบไม่ได้ จนสุดท้ายนึกถึงเสียงเปียโนขึ้นมาได้ (รู้สึกว่าล้ำมาก คิดได้ยังไง เปียโนไปโผล่ในห้องสอบ 555)
- ฉากโดนไล่ล่าที่สถานีรถไฟ โดยกรรมการคุมสอบ (โคตรลุ้น)
- ฉากที่ลินร้องไห้ซบพ่อที่สนามบิน (รู้สึกหดหู่มาก สุดท้ายคนที่เราไว้ใจ พึ่งพาได้ ก็มีแต่คนในครอบครัวเรานี่แหละ)
- ฉากที่แบงค์รู้ว่าโดนพัฒน์หลอก หักหลัง (รู้สึกว่ามันเฉือนอารมณ์ดี)
ป.ล.2 อีกหนึ่งช่องทาง หากชอบรีวิวหรืออยากติดตามพูดคุยกันนะครับ
IG: benjireview
[SR] (Review) ฉลาดเกมส์โกง (2017) : เครียด ระทึก ลุ้น & การเปิดเส้นทางใหม่ๆให้กับวงการภาพยนตร์ไทย
ฉลาดเกมส์โกง (2017) กำกับโดย "บาส นัฐวุฒิ พูนพิริยะ" โดยเล่าชีวิตของ "ลิน (ออกแบบ ชุติมณฑน์)" เด็กนักเรียนสมองอัจฉริยะที่ได้พบกับ "เกรซ (อิษยา ฮอสุวรรณ)" เพื่อนสาวที่หัวไม่ดีด้านการเรียน เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นเมื่อลินอยากโกงข้อสอบเพื่อช่วยเพื่อน แต่ปัญหาค่อย ๆ ขยายวงไปลามเรื่อย ๆ
- ก่อนอื่นต้องที่ต้องชมก่อน คือ การกล้าทำหนังแนวใหม่ ๆ ที่ไม่ไปยึดติดแนวเดิม จากที่ปกติเราเห็นแต่หนังตลก หนังรัก อันนี้ค่อนข้างฉีกแนวด้วยพล็อตที่ใหม่ ซึ่งไม่ได้เห็นกันบ่อย ๆ ในวงการหนังไทย ทำให้อย่างน้อย เราก็มีความหวังที่จะได้เห็นหนังไทยพล็อตดี ๆ ในอนาคตมากขึ้น !
- ว่ากันตามคุณภาพภาพยนตร์ หนังมีแก่นและบทคุณภาพที่ดี สังเกตว่า ตั้งแต่เริ่มเรื่องจนถึงฉากจบ หนังสามารถคุมประเด็น ปมเรื่องให้อยู่ในเส้นเรื่องได้ตลอดไม่หลุด ไม่ออกทะเล การดำเนินเรื่องเป็นไปด้วยความลื่นไหล ทั้งยังไม่มีช่วงดร็อป
-- หนังหยิบประเด็นเรื่อง "การโกง" มาเป็นใจความหลัก ธีมการโกงจึงมีตั้งแต่ โกงในไทย (ส่วนแรก) ไปจนถึง โกงระดับนานาชาติ (ส่วนหลัง)
จุดสำคัญที่สุดของเรื่อง คือ การตั้งคำถามถึง "ความคุ้มค่าของผลลัพธ์ในการกระทำ" แม้เหล่าตัวละครหลัก จะทราบถึงความเสี่ยงที่เกิดขึ้นและรับรู้ถึงความผิดชอบชั่วดี ทว่าเมื่อความโลภเข้ามาเกาะความคิด เหล่าตัวละครก็ค่อย ๆ สูญเสียตัวตน ถลำลึกลงสู่หุบเหว
สิ่งนี้เองคือ สิ่งที่ทำให้เราอยากรู้ถึงวาระสุดท้ายของแต่ละคน
ทั้งนี้ยังมีประเด็นอื่น ๆ ที่หนังนำมาวิพากษ์วิจารณ์สังคม อย่างประเด็นด้านการศึกษา ซึ่งปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ทั้งการโกงทุจริตล้วนแฝงอยู่ในระบบเหล่านี้
น่าสนใจเหมือนกันว่า นักเรียนจะเติบโตขึ้นเป็นพลเมืองที่ดีได้อย่างไรเมื่อ "ทุกอย่างมีทางลัด... เรามีทางออกที่ไม่ต้องใช้ความพยายามเสมอ"
รวมไปถึงเทคนิคที่แพรวพราวอย่าง การแสดงเงาในกระจกซ้อนกันหลายชั้น หรือฉากเปียโนในท้ายเรื่อง ส่วนตรงนี้เล่านัยยะเรื่องเยี่ยม และแสดงกึ๋นของงานออกแบบได้เต็มสูบ
- ชอบอีกอย่างที่หนังเลือกจะไม่ใส่เส้นเรื่องความรักเขามา ทำให้หนังไม่หลุดธีมการโกง แถมยังเป็นระเบียบกว่าการมีซับพล็อตที่ไม่ค่อยเข้ากับธีมเรื่อง
- จุดที่เป็นข้อด้อยหนัง ส่วนแรก รู้สึกว่า ทริคการโกงข้อสอบบางอย่างดูไม่เนียน เอาไปใช้จริงยาก ซึ่งเข้าใจว่า หนังต้องการแสดงความแพรวพราวของการโกง ดังนั้นก็พอจะเป็นส่วนที่ปล่อยข้ามไปได้
ส่วนที่สอง การเร่งจังหวะหนังที่ดูล้นไปบ้าง ฟีลลิ่งเหมือนรถที่เหยียบคันเร่งเค้นคนดูไม่หยุด จนบางทีถ้าผ่อนให้เกิด Space จะทำให้หนังมีความพอดีและสวยยิ่งขึ้น
- พาร์ทนักแสดง โดยรวมแสดงได้ดีทุกคน สำหรับนักแสดงที่รู้สึกโดดเด่นและชื่นชอบเป็นพิเศษ มีอยู่ 2 คน
ทั้งสามแสดงได้ดีเช่นกันตามบทบาทตัวเอง เพียงแต่ถ้าเป็นไปได้ ก็อยากได้คนที่หน้าตาดูเป็นนักเรียนมากกว่านี้อีกหน่อย ดูสามคนนี้ บางทีรู้สึกเหมือนเป็นเด็กมหาลัย แถมรัศมีความหล่อสวย ก็ทำให้ความเป็นธรรมชาติของบทบาทลดลง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ดนตรีประกอบภาพยนตร์ : ดีมากสำหรับหนังไทย กดดันและบีบหัวใจ
นอกจากนี้ มีการนำดนตรีคลาสสิคหลายเพลงมาใส่ประกอบหนัง เพิ่มอารมณ์ขัดแย้งหนังจากการสลับไปมาระหว่างดนตรีคลาสสิคกับดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ ถือว่าสร้างอารมณ์ได้ดีและน่าชื่นชม
ใครยังไม่ได้ดูก็แนะนำนะครับ มีไม่มากเลยหนังไทยคุณภาพระดับนี้... ดูได้บน Netflix !
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ป.ล.2 อีกหนึ่งช่องทาง หากชอบรีวิวหรืออยากติดตามพูดคุยกันนะครับ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น