เมื่อไม่กี่วันก่อน ทั้งไทย ฟิลิปปินส์ และอังกฤษ ก็มีเหตุความไม่สงบเกิดขึ้นเหมือนกัน
แต่เป็นที่ระบุแน่ชัดว่า เหตุดังกล่าวเกิดจากการบ่งการของกลุ่ม IS แค่ ๒ เหตุการณ์ ยกเว้นไทย
จากคำสัมภาษณ์ ถึงประเด็น จดหมายแจ้งเตือนเหตุระเบิด ว่าเป็นฝีมือกลุ่ม BRN และ IS
ท่านศรีวราห์ กล่าวว่า "ไม่อยากชักศึกเข้าบ้าน"
ทำไม ไทยจึงไม่สบายใจหากมีรายงานว่าขบวนการ ๓ จังหวัดแยกตัวไป เข้าไปรับกับกลุ่มที่ใกล้ชิด IS
คำตอบ อาจจะอยู่ในโมเดลของเหตุก่อความไม่สงบของฟิลิปินส์นี้เอง
Islamic State Eyes Asia Base in 2016 in Philippines, Indonesia:
วงการความมั่นคงเขามีคำเตือนและรู้กันล่วงหน้ามาอย่างน้อยสองปีแล้ว ตั้งแต่ IS ยังอาละวาดในอิรัค-ซีเรีย
ยึดเมืองโน้นเมืองนี้ จับคนโยนตึกเล่น เพราะได้พบว่ามีชาวอาเซียนของเรา
ทั้งจากมาเลเซียและอินโดนีเซียเข้าร่วมสงครามในตะวันออกกลางมากกว่า 500 คน
วิธีการปลุกเร้าของ IS มีประสิทธิภาพสูงมาก ถึงกับมีชาวมาเลเซียยอมระเบิดฆ่าตัวตายในสงคราม
ต่อจากนั้นก็มีกรณีก่อการร้ายกลางกรุงจาการ์ต้าเมื่อมกราคม 2559 แล้ว IS ก็ออกแถลงการณ์รับว่าเป็นผู้ลงมือ
เขาได้ตรวจพบว่า IS ได้สร้างเครือข่ายของตนในอินโดนีเซียมาก่อน และธงดำของ IS เคยถูกแห่โดยชาวอินโดนีเซีย
เพื่อประกาศอุดมการณ์รัฐอิสลามที่เมืองสุรการ์ต้า ชวากลางมาก่อนหน้าแล้ว
หลังจากนั้นไม่นาน ลีเซียนลุง ผู้นำสิงคโปร์แสดงความวิตกและเตือนภัยที่ IS ใช้อาเซียนเป็นฐาน
Singapore Warns of Islamic State Base in Southeast Asia หลังจากนั้นก็มีการจับกุมชาวอินโดนีเซียเครือข่าย IS
เตรียมจะใช้จรวดยิงข้ามจากเกาะบาตัมไปยังสิงคโปร์ได้
การก่อการร้ายโดยกบฏมุสลิมในภาคใต้ของฟิลิปปินส์ไม่ใช่เรื่องใหม่ มันมีประวัติศาสตร์ยาวนานมาตั้งแต่ยุคสเปนปกครอง
เรื่อยมาจนหลังสงครามโลก เพราะพื้นที่หมู่เกาะตอนใต้ที่เรียกว่าโมโร อันมีเกาะมินดาเนา
และหมู่เกาะน้อยใหญ่ตอนใต้ลงมา เป็นเขตที่มีชาวอิสลามอยู่มาแต่เดิม แม้จะมีจำนวนน้อยกว่าชาวคริสต์แต่
ชนพื้นเมืองอิสลามเหล่านี้ก็พยายามเรียกร้องผสมกับต่อสู้โดยอ้างประวัติการปกครองที่มีสุลต่านของตนเองมายาวนานตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 14
คือราวกลางสมัยกรุงศรีอยุธยา ต่อให้ยุคสเปนครองพื้นที่ตอนล่างก็ยังมีสุลต่านปกครองอยู่เลย
จนกระทั่งในสมัยประธานาธิบดีมาร์คอส เริ่มมีการยกประเด็นการเรียกร้องของชาวอิสลามสู่ระดับโลก
ขนาดที่ลิเบียเข้ามาเป็นผู้ร่วมเจรจาไกล่เกลี่ยรวมถึง OIC ก็เข้ามารับรององค์กรของชาวอิสลามโมโร
การเรียกร้องแบ่งแยกดินแดนโมโรที่ภาคใต้ฟิลิปปินส์จึงถูกมองว่ามีความคล้ายคลึงกับปัญหาสามจังหวัดภาคใต้ของไทย
โดยเฉพาะประเด็นว่าด้วยเป็นชนกลุ่มน้อยคนละศาสนากับรัฐผู้ปกครอง
แล้วขบวนการต่อสู้ก็ยกข้ออ้างในเรื่องประวัติศาสตร์ความเป็นมา คล้ายคลึงกัน
การเข้าไปของอิสลามในดินแดนหมู่เกาะฟิลิปปินส์เกิดขึ้นราวช่วงต้นกรุงศรีอยุธยาโดยพ่อค้าอิสลามเปอร์เชีย-อาหรับ
ต่อด้วยรัฐสุลต่านบรูไนที่ขยายอิทธิพลไปถึงเกาะลูซอนที่ตั้งของมะนิลาในเวลาต่อมา ยุคนั้นยังเป็นยุคทองของอิสลาม(ช่วงท้ายๆ)
ในขณะที่ฝรั่งกำลังจะโผล่พ้นจากยุคมืด อิสลามมีวิทยาการเดินเรือก้าวหน้า
จนต่อมาสเปนกับโปรตุเกสรับไปพัฒนาการเดินเรือของตัวเองกลายเป็นสองชาติแรกๆ ที่ออกสำรวจทะเล
ก่อนหน้าที่อิสลามจะเข้าไปดินแดนหมู่เกาะอยู่ใต้อิทธิพลของวัฒนธรรมพุทธมหายานฮินดูของอาณาจักรศรีวิชัย
พอศรีวิชัยล่มอิสลามก็เข้าไปแทน มะละกา ปัตตานี อาเจะห์ ก็เริ่มพัฒนารัฐสุลต่านอิสลามของตนในเวลาไล่เลี่ยกัน
จนกระทั่งอีกร้อยกว่าปีต่อมาสเปนเดินเรือเข้ายึดฟิลิปปินส์สถาปนาคริสต์แคธอลิค
ไล่อิสลามออกไปแต่ยังคงเหลือรัฐสุลต่านเล็กๆ ทางด้านใต้ดินแดนหมู่เกาะโมโรที่เป็นปัญหาจนถึงปัจจุบัน ค้างคากันมา…
ก็คล้ายกับภาคใต้ของไทย ที่มีรัฐชาติใหญ่กว่าอีกศาสนาหนึ่งเข้ามาครอง โดยชาวอิสลามเป็นชนกลุ่มน้อย
แม้จะคล้ายกันแต่ฟิลิปปินส์โกโซบิ๊ก-ไปกันใหญ่ มากกว่าของไทยเราหลายเท่า
เวลาที่ขบวนการกบฏแยกดินแดนโมโร (เรียกตามฟิลิปปินส์) ปฏิบัติการรุนแรงมาก
แต่ละรอบมีคนตายเป็นสิบๆ ย้อนดูสถิติเหตุการณ์แล้วหนาว ภาคใต้ของเราเมื่อเทียบกับเขากลายเป็นจิ๊บๆ ไปเลย
เชื้อของมันมีอยู่แล้ว ภูมิศาสตร์หมู่เกาะเล็กเกาะน้อยตอนใต้ปราบปรามยาก
ย้อนดูไทม์ไลน์มันเกิดมีองค์กรระดับโลกทั้งองค์กรธรรมดาและเครือข่ายก่อการร้ายระดับโลก
เข้ามาเชื่อมต่อกับกบฏฟิลิปปินส์โดยตลอด อาบูซายาฟ อัลกออิดะห์ มาจนถึง IS ล่าสุด
ฝ่ายความมั่นคงของไทยคงใช้กรณีฟิลิปปินส์เป็นกรณีศึกษา
จะสังเกตได้ว่าแนวปฏิบัติของทหารไทยจะไม่นิยามฝ่ายตรงกันข้ามให้ใหญ่โต
จนองค์กรระหว่างประเทศอย่าง OIC หรือองค์กรอื่นเข้ามาแทรกแบบเดียวกับสมัยมาร์กอส เปิดให้ลิเบียและ OIC
เข้ามาเป็นตัวกลางเจรจาจนปัญหายกระดับ เชื่อกันว่าการเคลื่อนไหวในภาคใต้ของฟิลิปปินส์ได้รับการสนับสนุน
จากโลกอิสลามบางประเทศมายาวนาน รวมถึงการเชื่อมต่อกับองค์กรก่อการร้ายระดับโลก
IS ในอาเซียนในศตวรรษนี้ ไม่เหมือนยุคก่อการร้ายแยกดินแดนเดิมๆ ที่มีเป้าหมายเฉพาะดินแดนตน
ไม่ข้ามมาประเทศเพื่อนบ้าน โมโรก่อนหน้าก็มุ่งแค่จะประกาศอิสรภาพ ต่อมาต้องการปกครองตนเองในฐานะดินแดนอิสลาม
เพราะว่า IS มีอุดมการณ์สถาปนารัฐอิสลามคอลิฟะห์ แถมยังเคลื่อนไหวผูกติดกับความขัดแย้งทางการเมืองโลกแบบแยกไม่ออก
ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องของ กบฏโมโรหรือขบวนการต่อสู้เพื่อปกครองตนเองของชนกลุ่มน้อยในฟิลิปปินส์ หรือ
เรื่องของ การต่อสู้ของอิสลามผู้มีอุดมการณ์เข้มข้นในอินโดนีเซีย หรือมาเลเซีย แบบเดิมๆ
แต่ IS คือรูปธรรมของความขัดแย้งระดับโลก !!
การข่าวที่ติดตามการเคลื่อนไหวของ IS ในอาเซียน ระบุว่านักรบเครือข่าย IS ก็คือคนของกลุ่มก่อการร้ายเดิมกลุ่มเก่านั่นล่ะ
แต่เป็นคนรุ่นหนุ่มใหม่ๆ ที่เข้าไปร่วมจนกลายเป็นผู้นำองค์กรใหม่ อย่างกลุ่ม Maute ที่เป็นหน่วยปฏิบัติการในฟิลิปปินส์รอบนี้ที่แท้ก็คือกลุ่มโมโร
MILF-Moro Islamic Liberation Front เก่า ย้อนไปดูที่อินโดนีเซีย ผู้นำกลุ่มชื่อดัง บารุน นาอิม ก็เป็นเครือข่ายเดิมของอาบูไซยาฟ
ดังนั้นเส้นทางการได้รับสนับสนุนทั้งเรื่องเทคนิค การเงิน การทหารต่างๆ ย่อมแตกต่างไปจากเดิม
ปฏิบัติการ เป้าหมาย เจตจำนง หรือแม้กระทั่ง วาระซ่อนเร้นของปฏิบัติการจึงเป็นไปตามที่ IS กำหนด
มันก็จริงที่ก่อน IS จะเข้ามา ก็มีกบฏ มีก่อการร้าย แถมบางทีรุนแรงกว่าด้วย แต่เนื้อหาสาระระหว่างเก่าใหม่
ไม่เหมือนกัน นี่แหละ คือความแตกต่าง ก่อนและหลัง IS เข้ามา
ทหารและฝ่ายความมั่นคงไทยคงไม่สบายใจหากมีรายงานว่ามีข่าวว่าขบวนการสามจังหวัดเกิดแตกคอกัน
หรือแยกตัวไป โดยเข้าไปรับหรือต่อสายกับกลุ่มที่ใกล้ชิด IS ก็เพราะมันจะมีเนื้อหาและเจตจำนงที่แตกต่างไปจากเดิม อย่างที่บอก
การทหารของฝ่ายไทยจับตาและรับรู้เรื่องพวกนี้ดี เพราะฟิลิปปินส์เป็นกรณีศึกษาหนึ่งที่ฝ่ายความมั่นคงใช้เปรียบเทียบกับบ้านเรานั้นเอง
ที่มา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://columnist.smartsme.tv/punnarod/1966
จาก IS ฟิลิปปินส์ จะถึง IS ไทยหรือเปล่า ? (โดย บัณรส บัวคลี่)
แต่เป็นที่ระบุแน่ชัดว่า เหตุดังกล่าวเกิดจากการบ่งการของกลุ่ม IS แค่ ๒ เหตุการณ์ ยกเว้นไทย
จากคำสัมภาษณ์ ถึงประเด็น จดหมายแจ้งเตือนเหตุระเบิด ว่าเป็นฝีมือกลุ่ม BRN และ IS
ท่านศรีวราห์ กล่าวว่า "ไม่อยากชักศึกเข้าบ้าน"
ทำไม ไทยจึงไม่สบายใจหากมีรายงานว่าขบวนการ ๓ จังหวัดแยกตัวไป เข้าไปรับกับกลุ่มที่ใกล้ชิด IS
คำตอบ อาจจะอยู่ในโมเดลของเหตุก่อความไม่สงบของฟิลิปินส์นี้เอง
Islamic State Eyes Asia Base in 2016 in Philippines, Indonesia:
วงการความมั่นคงเขามีคำเตือนและรู้กันล่วงหน้ามาอย่างน้อยสองปีแล้ว ตั้งแต่ IS ยังอาละวาดในอิรัค-ซีเรีย
ยึดเมืองโน้นเมืองนี้ จับคนโยนตึกเล่น เพราะได้พบว่ามีชาวอาเซียนของเรา
ทั้งจากมาเลเซียและอินโดนีเซียเข้าร่วมสงครามในตะวันออกกลางมากกว่า 500 คน
วิธีการปลุกเร้าของ IS มีประสิทธิภาพสูงมาก ถึงกับมีชาวมาเลเซียยอมระเบิดฆ่าตัวตายในสงคราม
ต่อจากนั้นก็มีกรณีก่อการร้ายกลางกรุงจาการ์ต้าเมื่อมกราคม 2559 แล้ว IS ก็ออกแถลงการณ์รับว่าเป็นผู้ลงมือ
เขาได้ตรวจพบว่า IS ได้สร้างเครือข่ายของตนในอินโดนีเซียมาก่อน และธงดำของ IS เคยถูกแห่โดยชาวอินโดนีเซีย
เพื่อประกาศอุดมการณ์รัฐอิสลามที่เมืองสุรการ์ต้า ชวากลางมาก่อนหน้าแล้ว
หลังจากนั้นไม่นาน ลีเซียนลุง ผู้นำสิงคโปร์แสดงความวิตกและเตือนภัยที่ IS ใช้อาเซียนเป็นฐาน
Singapore Warns of Islamic State Base in Southeast Asia หลังจากนั้นก็มีการจับกุมชาวอินโดนีเซียเครือข่าย IS
เตรียมจะใช้จรวดยิงข้ามจากเกาะบาตัมไปยังสิงคโปร์ได้
การก่อการร้ายโดยกบฏมุสลิมในภาคใต้ของฟิลิปปินส์ไม่ใช่เรื่องใหม่ มันมีประวัติศาสตร์ยาวนานมาตั้งแต่ยุคสเปนปกครอง
เรื่อยมาจนหลังสงครามโลก เพราะพื้นที่หมู่เกาะตอนใต้ที่เรียกว่าโมโร อันมีเกาะมินดาเนา
และหมู่เกาะน้อยใหญ่ตอนใต้ลงมา เป็นเขตที่มีชาวอิสลามอยู่มาแต่เดิม แม้จะมีจำนวนน้อยกว่าชาวคริสต์แต่
ชนพื้นเมืองอิสลามเหล่านี้ก็พยายามเรียกร้องผสมกับต่อสู้โดยอ้างประวัติการปกครองที่มีสุลต่านของตนเองมายาวนานตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 14
คือราวกลางสมัยกรุงศรีอยุธยา ต่อให้ยุคสเปนครองพื้นที่ตอนล่างก็ยังมีสุลต่านปกครองอยู่เลย
จนกระทั่งในสมัยประธานาธิบดีมาร์คอส เริ่มมีการยกประเด็นการเรียกร้องของชาวอิสลามสู่ระดับโลก
ขนาดที่ลิเบียเข้ามาเป็นผู้ร่วมเจรจาไกล่เกลี่ยรวมถึง OIC ก็เข้ามารับรององค์กรของชาวอิสลามโมโร
การเรียกร้องแบ่งแยกดินแดนโมโรที่ภาคใต้ฟิลิปปินส์จึงถูกมองว่ามีความคล้ายคลึงกับปัญหาสามจังหวัดภาคใต้ของไทย
โดยเฉพาะประเด็นว่าด้วยเป็นชนกลุ่มน้อยคนละศาสนากับรัฐผู้ปกครอง
แล้วขบวนการต่อสู้ก็ยกข้ออ้างในเรื่องประวัติศาสตร์ความเป็นมา คล้ายคลึงกัน
การเข้าไปของอิสลามในดินแดนหมู่เกาะฟิลิปปินส์เกิดขึ้นราวช่วงต้นกรุงศรีอยุธยาโดยพ่อค้าอิสลามเปอร์เชีย-อาหรับ
ต่อด้วยรัฐสุลต่านบรูไนที่ขยายอิทธิพลไปถึงเกาะลูซอนที่ตั้งของมะนิลาในเวลาต่อมา ยุคนั้นยังเป็นยุคทองของอิสลาม(ช่วงท้ายๆ)
ในขณะที่ฝรั่งกำลังจะโผล่พ้นจากยุคมืด อิสลามมีวิทยาการเดินเรือก้าวหน้า
จนต่อมาสเปนกับโปรตุเกสรับไปพัฒนาการเดินเรือของตัวเองกลายเป็นสองชาติแรกๆ ที่ออกสำรวจทะเล
ก่อนหน้าที่อิสลามจะเข้าไปดินแดนหมู่เกาะอยู่ใต้อิทธิพลของวัฒนธรรมพุทธมหายานฮินดูของอาณาจักรศรีวิชัย
พอศรีวิชัยล่มอิสลามก็เข้าไปแทน มะละกา ปัตตานี อาเจะห์ ก็เริ่มพัฒนารัฐสุลต่านอิสลามของตนในเวลาไล่เลี่ยกัน
จนกระทั่งอีกร้อยกว่าปีต่อมาสเปนเดินเรือเข้ายึดฟิลิปปินส์สถาปนาคริสต์แคธอลิค
ไล่อิสลามออกไปแต่ยังคงเหลือรัฐสุลต่านเล็กๆ ทางด้านใต้ดินแดนหมู่เกาะโมโรที่เป็นปัญหาจนถึงปัจจุบัน ค้างคากันมา…
ก็คล้ายกับภาคใต้ของไทย ที่มีรัฐชาติใหญ่กว่าอีกศาสนาหนึ่งเข้ามาครอง โดยชาวอิสลามเป็นชนกลุ่มน้อย
แม้จะคล้ายกันแต่ฟิลิปปินส์โกโซบิ๊ก-ไปกันใหญ่ มากกว่าของไทยเราหลายเท่า
เวลาที่ขบวนการกบฏแยกดินแดนโมโร (เรียกตามฟิลิปปินส์) ปฏิบัติการรุนแรงมาก
แต่ละรอบมีคนตายเป็นสิบๆ ย้อนดูสถิติเหตุการณ์แล้วหนาว ภาคใต้ของเราเมื่อเทียบกับเขากลายเป็นจิ๊บๆ ไปเลย
เชื้อของมันมีอยู่แล้ว ภูมิศาสตร์หมู่เกาะเล็กเกาะน้อยตอนใต้ปราบปรามยาก
ย้อนดูไทม์ไลน์มันเกิดมีองค์กรระดับโลกทั้งองค์กรธรรมดาและเครือข่ายก่อการร้ายระดับโลก
เข้ามาเชื่อมต่อกับกบฏฟิลิปปินส์โดยตลอด อาบูซายาฟ อัลกออิดะห์ มาจนถึง IS ล่าสุด
ฝ่ายความมั่นคงของไทยคงใช้กรณีฟิลิปปินส์เป็นกรณีศึกษา
จะสังเกตได้ว่าแนวปฏิบัติของทหารไทยจะไม่นิยามฝ่ายตรงกันข้ามให้ใหญ่โต
จนองค์กรระหว่างประเทศอย่าง OIC หรือองค์กรอื่นเข้ามาแทรกแบบเดียวกับสมัยมาร์กอส เปิดให้ลิเบียและ OIC
เข้ามาเป็นตัวกลางเจรจาจนปัญหายกระดับ เชื่อกันว่าการเคลื่อนไหวในภาคใต้ของฟิลิปปินส์ได้รับการสนับสนุน
จากโลกอิสลามบางประเทศมายาวนาน รวมถึงการเชื่อมต่อกับองค์กรก่อการร้ายระดับโลก
IS ในอาเซียนในศตวรรษนี้ ไม่เหมือนยุคก่อการร้ายแยกดินแดนเดิมๆ ที่มีเป้าหมายเฉพาะดินแดนตน
ไม่ข้ามมาประเทศเพื่อนบ้าน โมโรก่อนหน้าก็มุ่งแค่จะประกาศอิสรภาพ ต่อมาต้องการปกครองตนเองในฐานะดินแดนอิสลาม
เพราะว่า IS มีอุดมการณ์สถาปนารัฐอิสลามคอลิฟะห์ แถมยังเคลื่อนไหวผูกติดกับความขัดแย้งทางการเมืองโลกแบบแยกไม่ออก
ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องของ กบฏโมโรหรือขบวนการต่อสู้เพื่อปกครองตนเองของชนกลุ่มน้อยในฟิลิปปินส์ หรือ
เรื่องของ การต่อสู้ของอิสลามผู้มีอุดมการณ์เข้มข้นในอินโดนีเซีย หรือมาเลเซีย แบบเดิมๆ
แต่ IS คือรูปธรรมของความขัดแย้งระดับโลก !!
การข่าวที่ติดตามการเคลื่อนไหวของ IS ในอาเซียน ระบุว่านักรบเครือข่าย IS ก็คือคนของกลุ่มก่อการร้ายเดิมกลุ่มเก่านั่นล่ะ
แต่เป็นคนรุ่นหนุ่มใหม่ๆ ที่เข้าไปร่วมจนกลายเป็นผู้นำองค์กรใหม่ อย่างกลุ่ม Maute ที่เป็นหน่วยปฏิบัติการในฟิลิปปินส์รอบนี้ที่แท้ก็คือกลุ่มโมโร
MILF-Moro Islamic Liberation Front เก่า ย้อนไปดูที่อินโดนีเซีย ผู้นำกลุ่มชื่อดัง บารุน นาอิม ก็เป็นเครือข่ายเดิมของอาบูไซยาฟ
ดังนั้นเส้นทางการได้รับสนับสนุนทั้งเรื่องเทคนิค การเงิน การทหารต่างๆ ย่อมแตกต่างไปจากเดิม
ปฏิบัติการ เป้าหมาย เจตจำนง หรือแม้กระทั่ง วาระซ่อนเร้นของปฏิบัติการจึงเป็นไปตามที่ IS กำหนด
มันก็จริงที่ก่อน IS จะเข้ามา ก็มีกบฏ มีก่อการร้าย แถมบางทีรุนแรงกว่าด้วย แต่เนื้อหาสาระระหว่างเก่าใหม่
ไม่เหมือนกัน นี่แหละ คือความแตกต่าง ก่อนและหลัง IS เข้ามา
ทหารและฝ่ายความมั่นคงไทยคงไม่สบายใจหากมีรายงานว่ามีข่าวว่าขบวนการสามจังหวัดเกิดแตกคอกัน
หรือแยกตัวไป โดยเข้าไปรับหรือต่อสายกับกลุ่มที่ใกล้ชิด IS ก็เพราะมันจะมีเนื้อหาและเจตจำนงที่แตกต่างไปจากเดิม อย่างที่บอก
การทหารของฝ่ายไทยจับตาและรับรู้เรื่องพวกนี้ดี เพราะฟิลิปปินส์เป็นกรณีศึกษาหนึ่งที่ฝ่ายความมั่นคงใช้เปรียบเทียบกับบ้านเรานั้นเอง
ที่มา [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้