เทคนิคปราบหน้าหมองในแบบฉบับสาวออฟฟิศ แค่อยู่ในออฟฟิศแต่หน้าก็ยังหมอง? เรามีเทคนิคมาแชร์ค่ะ

กระทู้สนทนา
สวัสดีค่า ก่อนอื่นอยากบอกกก่อนว่าเราเป็นสาวออฟฟิตคนนึงที่ไม่ค่อยได้โดนแดด จะมีเจอแดดแรงๆก็แค่ตอนกลางวันเท่านั้น แต่ว่าเรารู้สึกเลยว่าหน้าเราหมองคล้ำ คือผิวที่หน้าดำกว่าผิวที่มืออีก ไม่มีรู้มีใครเป็นเหมือนเราไหม
ทีนี้ด้วยนิสัยส่วนตัวที่ไม่ค่อยชอบทากันแดด เพราะคิดว่ามันเหนอะหน่ะ เหงื่อออกก็เป็นคราบ แถมหลายขั้นตอน ทั้งเซรั่ม ไวเทนนิ่ง ไหนจะกันแดด ไหนจะรองพื้นอีก หือกว่าจะจบ เราเลยคิดว่าที่หน้าหมองๆ อาจเป็นเพราะสาเหตุนี้รึป่าว หรือว่ามันเป็นที่กรรมพันธุ์ แต่ก็คิดว่าไม่น่าจะใช่ เพราะพี่สาวเราแท้ๆ หน้าใสขาวผ่อง เราเองเป็นน้องสาวแท้ๆเลยไปถามว่าทำยังไงก็ต้องบอกไว้เลยว่ากระทู้นี้ได้เทคนิคมาจากพี่สาว ซึ่งเราใช้แล้วได้ผลจริงๆ เลยอยากจะเอามาแชร์กันค่ะ

เริ่มจากการทานน้ำให้เพียงพอเลยค่ะ อย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว พี่เราเค้าบอกว่าคนเราต้องดื่มน้ำเพื่อชดเชยส่วนที่ออกจากร่างกายทุกวัน ยิ่งอากาศร้อนๆแบบบ้านเรานี่เหงื้อออกกันเป็นว่าเล่นเลยก็เลยต้องจิบทั้งวันจนเป็นนิสัย แต่ไม่ใช่ว่าจะกระดกทีเดียว 8 แก้วนะคะ (ไม่แนะนำให้ทานน้ำทีเดียวเยอะๆ เพราะอะไรที่มากเกินไปย่อมส่งผลเสียกับร่างกายทั้งนั้น) แม้ว่าจะอยู่ในห้องแอร์เป็นสาวออฟฟิศทั้งวัน การทานน้ำอย่างเพียงพอก็จะช่วยให้ผิวไม่แห้งค่ะ


เคล็ดลับกับผิวหมองต่อมาคือวิตามินค่ะ พี่เราทานวิตามินซีเป็นประจำ ตัวเราก็ได้อานิสงค์นี้มาด้วยส่วนนึงเพราะเราเป็นคนที่เป็นหวัดง่ายมากๆ พี่เราเลยบังคับให้กินด้วยกัน พอทานวิตามินแล้วรู้เลยว่าร่างกายดีขึ้น ไม่ค่อยเป็นหวัดง่ายเหมือนเมื่อก่อนแล้ว และอีกตัวก็จะเป็นวิตามินบีค่ะ สาวออฟฟิศยังเราต้องการวิตามินบีเพื่อมาบำรุงสมองและคลายเครียด


ต่อมาเป็นพวกครีมบำรุง ส่วนใหญ่เราก็จะใช้กับพี่สาวเรานะคะ  แบบว่าไม่ต้องซื้อเอง ใช้ด้วยกันประหยัดดี ตัวแรกเป็นเซรั่ม เรากับพี่ใช้ของยูเซอรีนที่เป็นเซรั่มอันเล็กๆ เนื่องจากพี่เราผิวแพ้ง่ายเลยต้องใช้พวกเวชสำอางเป็นหลัก อันนี้ซึมง่ายมาก ตอนใช้เราต้องพยายามบีบออกมาทีละนิดเพราะหมดไวมากเช่นกัน ตัวนี้ราคาสูงนิดนึงแต่พี่บอกว่าจำเป็นค่ะ อย่างช่วงที่พี่เราเพิ่งกลับมาจากทะเล เราเห็นเค้าโบกตัวนี้ตลอด แปบเดียวหน้ากลับมาเหมือนเดิมแล้วอ่ะ


ถัดจากเซรั่มก็เป็นครีม Innisfree The Green Tea Seed Cream อันนี้ไปถอยมาจากเกาหลี เรากับพี่ใช้แล้วไม่แพ้ กลิ่นหอมอ่อนๆ ทาแล้วซึมไปกับผิว อย่างเราอยู่แต่ในห้องแอร์ใช้อันนี้แล้วให้ความรู้ว่าผิวสึกชุ่มชื่นดีมากและหน้าไม่มัน ที่สำคัญคือมีช๊อปที่เมืองไทยแล้วด้วย ไม่ต้องไปตามพรีออร์เดอร์ให้ยุ่งยากอีกต่อไป


ต่อมาคือการทากันแดด สำคัญมากกกกกก ก่อนหน้านี้เราไม่ทาเพราะรู้สึกกันแดดมันเหนียวอ่ะ แล้วไม่ว่าจะลองกี่ยี่ห้อก็ทำให้เป็นสิว รักษาสิวนี่ยากกว่าอะไรทั้งหมด คือก็เลยไม่ทา แต่พอมาเจอตัวนี้คือชีวิตเปลี่ยนนะ ไม่เป็นสิวด้วย หน้าไม่มันเลยทั้งวัน และก็หน้าขาวขึ้น ไบรท์ขึ้น
กันแดดในรูปที่ใช้ประจำคือ  EUCERIN Sun Acne Oil Control Dry Touch SPF50+ PA++++ โอ้โหไม่รู้ชื่อจะยาวไปไหน แต่บอกเต็มๆเผื่อใครสนใจ



พอทาแล้วหน้าดูไม่วอก ชอบค่ะชอบ เนื้อบางเบา ไม่มันไม่เหนียวเหนอะหนะ พอทาเสร็จเราเลยซับมันให้ดูสะหร้อย เพื่อการันตี ว่าเค้าไม่มันจริง ๆ เปลี่ยนใจจากที่เคยคิดว่ากันแดดทำให้หน้าเหนียวมาใช้ประจำได้เลยอ่ะ



ต่อกันอีกนิดนึงคือการสครับหน้า อันนี้แม่เราแนะนำเลยของไทยๆ เป็นสมุนไพรขัดหน้ายี่ห้อปทุมมาศ ในเซเว่นขาย 25 บาทเอง ขัดหน้าเบาๆอาทิตย์ละ 2 ครั้ง หลังขัดหน้าจะเหลืองนวลผ่องด้วยผงขมิ้น แต่ใช้แล้วหน้าเนียนมาก!! ปลื้มปลิ่มจริงๆ แต่อันนี้สำหรับคนแพ้ง่ายต้องระวังนิดนึงนะ เพราะพี่เราใช้ไม่ได้ แต่หน้าเราสบายมาก ฮ่าๆ


ปิดท้ายด้วยภาพปัจจุบันของเรานะคะ พวกครีมและขั้นตอนต่างๆที่เรานำมาแชร์ เราใช้เวลา 2 เดือนกว่าๆที่เปลี่ยนหน้าหมองๆให้ดีขึ้นมาได้ ยังไงลองดูนะคะ อาจต้องใช้เวลานิดนึงแต่เห็นผลแน่นอน สำหรับวันนี้ลาไปก่อน สวัสดีค่าาาา ยิ้ม

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่