***
กระทู้นี้ว่าด้วยเรื่องช้างน้อยของลูกและการขริบ ซึ่งจะมีภาพค่อนข้างน่ากลัว (สำหรับท่านที่กำลังตัดสินใจว่า จะเอาไว้หรือไปเอาออกค่ะ) ดังนั้น
ท่านใดที่ต้องการลุ้นว่าสุดท้ายจะออกมาแบบไหน ก็ดูภาพตามลำดับไปเรื่อย ๆ
ส่วนท่านใดที่ไม่อยากลุ้น
แนะนำให้ไปดูภาพสุดท้ายก่อน เพื่อเป็นการลดความน่ากลัวค่ะ และสร้างกำลังใจสำหรับคนที่คิดจะไปขริบค่ะ
ภาพถ่ายส่วนใหญ่ถ่ายมาตอนล้างแผลและใส่เบตาดีนแล้ว ภาพเลยจะออกแดง ๆ หน่อย อันนั้นไม่ใช่เลือดนะคะ
เริ่มกัน...
ลูกชายอายุ 11 ค่ะ มีปัญหาเรื่องปลายช้างน้อยไม่เปิดเลย ตอนเคารพธงชาติตอนเช้าทำให้รู้สึกอึดอัด บางทีก็รู้สึกว่าเหมือนเขาจะทำความสะอาดได้ไม่ดีพอ ด้วยความที่ลูกอยู่ไกล ก็กลัวลูกจะมีปัญหาหรืออักเสบตอนอยู่ไกลแม่ ปิดเทอมกลับบ้านมาสองเดือนเลยได้โอกาสพาไปขลิบ
แม่จูนหาข้อมูลอยู่หลายวันค่ะ หาภาพประกอบก็ยากมากแทบไม่มีเลย แม่จูนอยากรู้ว่าทำวันแรกแผลเป็นแบบไหน วันที่สองสภาพแผลจะเป็นแบบไหน ขลิบไปแล้วกี่วันแผลลูกจะหาย กลัวไปหมดว่าจะทำร้ายลูกหรือเปล่า ถ้าช้างน้อยลูกเน่าหรือมีปัญหาจะทำยังไง เฮ้อ....สารพัด
เสียงเชียร์ในเว็บส่วนใหญ่บอกว่า ให้ไปทำกับคุณหมอชาติชาย ที่สันติชนคลีนิค ซอยลาดพร้าว 112 เอาวะ.....ตัดสินใจโทรนัด และไปจัดการตั้งแต่เมื่อวันที่ 4 พค. ที่ผ่านมา วันนี้ก็ 24 พ.ค. แล้ว 20 วันเป๊ะ แผลหายสนิทและสวยมากเลยอยากเอามาแบ่งปันแม่ ๆ หรือน้อง ๆ ผู้ชายที่อยากไปขลิบแต่ไม่กล้ากันค่ะ
แม่จูนถ่ายรูปเอาไว้ด้วย อยากโพสต์รูปให้ดูเพียงแต่รูปมัน 25+ มาก เพราะถ่ายใกล้เห็นแผลและสัดส่วนชัดเจน ถ้าไม่คิดอะไรมากก็มองว่ามันคือความรู้ค่ะเผื่อคนที่จะไปจะได้ตัดสินใจง่ายหน่อย (ว่าจะเอาออกหรือเก็บไว้ 555)
อนุญาตให้นำรูปไปใช้ได้ค่ะไม่หวง เพื่อเป็นวิทยาทานและความรู้
ทีมงานพันทิปคะ....ถ้ากระทู้ไม่เหมาะสม อนุญาตให้ลบค่ะ แต่อย่ายึดอมยิ้มเค้าน๊าาาา
พร้อมแล้วไปดูกัน
4 พ.ค. น้องเข้าห้องคิวแรกค่ะ ตอน 18.00 น. ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก็เสร็จแล้ว สภาพของช้างน้อยตอนออกจากห้องเป็นแบบนี้เลยค่ะ คุณหมอไม่ได้วางยาสลบนะคะ แค่ฉีดยาชา 2 เข็มที่ตรงโคนช้าง รอยเขียว ๆ อันเนื่องมาจากเข็มฉีดยานี่จะอยู่ไปกับน้อง 3-4 วัน อ้อ...คุณแม่ที่จะพาน้องไปขลิบแนะนำว่าต้องเอาผ้าโสร่ง ไปให้น้องใส่หลังขลิบนะคะ เพราะแม่จูนพลาดเอากางเกงหลวม ๆ ให้น้องใส่น้องใส่ไม่ได้เลย เลยเอาผ้าคลุมไหล่พัน ๆ ตัวน้องแทนพอขึ้นรถมาได้เท่านั้น น้องแก้ผ้าใส่แค่เสื้อตัวเดียวกลับบ้านจ๊ะ
ภาพนี้ตอนน้องเดินออกมาจากห้องขลิบเลยค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อย่าไปถามลูกว่าเจ็บไหม เพราะว่ายาชาหมดฤทธิ์ตั้งแต่ 10 นาทีแรกที่ออกจากห้องขลิบแล้วค่ะ ถ้าดูแผลแล้วปกติเลือดไม่ซึมคุณหมอก็จะให้กลับบ้านได้เลย สรุปคืนนั้นน้องต้องนอนเป็นชีเปลือยสวมแค่เสื้อเพราะว่าจะปวดแผลมาก (แอบสงสารลูก) ตอนน้องเข้าห้องน้ำแม่จูนต้องคอยเอากระดาษทิชชู่ซับปลายให้น้อง เพราะแผลจะโดนน้ำไม่ได้เลย สรุปคืนนั้นไม่ค่อยได้นอนเพราะน้องปวดแผล
ดูสภาพแผลตอนเช้าเป็นแบบรูปด้านล่างนี้ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รูปตั้งแต่วันที่ 5 พ.ค. เป็นต้นไปจะเป็นสภาพแผลที่แม่จูนถ่ายไว้ค่ะ ติดเรทและน่ากลัวเล็กน้อยคิดว่าเป็นไปเพื่อความรู้นะคะ
5 พ.ค. เช้าวันแรกหลังจากไปขลิบมา ต้องพาน้องไปล้างแผลแล้ว เลยพาน้องไป รพ.ใกล้บ้าน สภาพแผลตอนพยาบาลแกะออกมาเป็นแบบนี้ค่ะ (ตอนแกะแผลพยาบาลใช้น้ำเกลือราดค่ะเพื่อไม่ให้น้ำเหลืองติดกับผ้าก๊อซที่พันเอาไว้ แต่น้องก็ร้องซะ รพ.แทบแตก ^^" ) คุณแม่ช่วยอะไรไมไ่ด้เลยค่ะ ได้แต่กอดลูกแน่น ๆ
ไหมที่หมอเย็บมาเป็นไหมละลายนะคะ มันจะหลุดไปเองตอนแผลแห้งแล้ว หมอบอกว่าหลังจาก 7 วันไปแล้วให้น้องอาบน้ำได้ แต่แม่จูนยังสงสารลูกอยู่ เลยอาบน้ำเอาตอนวันที่ 12 ระหว่างนั้นก็เช็ดตัวลูกทุกวัน และทำแผลวันละ 2 ครั้งค่ะ เช้า-เย็น
การทำแผล แม่จูนพาไป รพ.แค่ครั้งเดียวค่ะ เพราะดูแล้วว่าแม่จูนก็ทำได้ อุปกรณ์ที่ใช้ก็แค่สำลีที่พันปลายไม้ ปกติตามร้านขายยามี 3 ขนาดค่ะ เลือกขนาดกลางมา กำลังดีเลย / น้ำเกลือสำหรับล้างแผล / เบตาดีน /ผ้าก๊อต แค่นี้จ๊ะ ถ้าไม่อยากให้น้ำเหลืองติดกับผ้าก๊อต ให้คุณแม่ซื้อแผ่นตาข่าย เหมือนภาพด้านล่าง มาพันอีกรอบก่อนแปะผ้าก๊อตนะคะ (แม่จูนจำไม่ได้ว่าเขาเรียกว่าอะไร) น้ำเกลือนี่มีประโยชน์มากตอนล้างแผล ถ้าผ้าก๊อซติดแผลก็เอาน้ำเกลือราดนะคะ ไม่แสบหรอกแต่ผ้าก๊อซจะหลุดง่ายขึ้น
วันนี้เป็นต้นไปจะเป็นวันที่น้ำเหลืองไหลเยอะค่ะ คุณแม่ต้องทนเสียงร้องของลูกให้ได้ตอนแกะผ้าล้างแผลเพราะน้องจะเจ็บมาก
ได้เวลาขับรถกลับบ้าน แปะไว้ 3 ชั่วโมง เดี๋ยวจะมาเล่าต่อจ๊ะ
"ขลิบ" ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด..อยากรู้ล้อมวงเข้ามาค่ะ แม่จูนจะเล่าให้ฟัง (ภาพ 25+ มากค่ะ เสี่ยงโดนยึดอมยิ้มเกิ๊น!!)
ท่านใดที่ต้องการลุ้นว่าสุดท้ายจะออกมาแบบไหน ก็ดูภาพตามลำดับไปเรื่อย ๆ
ส่วนท่านใดที่ไม่อยากลุ้น แนะนำให้ไปดูภาพสุดท้ายก่อน เพื่อเป็นการลดความน่ากลัวค่ะ และสร้างกำลังใจสำหรับคนที่คิดจะไปขริบค่ะ
ภาพถ่ายส่วนใหญ่ถ่ายมาตอนล้างแผลและใส่เบตาดีนแล้ว ภาพเลยจะออกแดง ๆ หน่อย อันนั้นไม่ใช่เลือดนะคะ
เริ่มกัน...
ลูกชายอายุ 11 ค่ะ มีปัญหาเรื่องปลายช้างน้อยไม่เปิดเลย ตอนเคารพธงชาติตอนเช้าทำให้รู้สึกอึดอัด บางทีก็รู้สึกว่าเหมือนเขาจะทำความสะอาดได้ไม่ดีพอ ด้วยความที่ลูกอยู่ไกล ก็กลัวลูกจะมีปัญหาหรืออักเสบตอนอยู่ไกลแม่ ปิดเทอมกลับบ้านมาสองเดือนเลยได้โอกาสพาไปขลิบ
แม่จูนหาข้อมูลอยู่หลายวันค่ะ หาภาพประกอบก็ยากมากแทบไม่มีเลย แม่จูนอยากรู้ว่าทำวันแรกแผลเป็นแบบไหน วันที่สองสภาพแผลจะเป็นแบบไหน ขลิบไปแล้วกี่วันแผลลูกจะหาย กลัวไปหมดว่าจะทำร้ายลูกหรือเปล่า ถ้าช้างน้อยลูกเน่าหรือมีปัญหาจะทำยังไง เฮ้อ....สารพัด
เสียงเชียร์ในเว็บส่วนใหญ่บอกว่า ให้ไปทำกับคุณหมอชาติชาย ที่สันติชนคลีนิค ซอยลาดพร้าว 112 เอาวะ.....ตัดสินใจโทรนัด และไปจัดการตั้งแต่เมื่อวันที่ 4 พค. ที่ผ่านมา วันนี้ก็ 24 พ.ค. แล้ว 20 วันเป๊ะ แผลหายสนิทและสวยมากเลยอยากเอามาแบ่งปันแม่ ๆ หรือน้อง ๆ ผู้ชายที่อยากไปขลิบแต่ไม่กล้ากันค่ะ
แม่จูนถ่ายรูปเอาไว้ด้วย อยากโพสต์รูปให้ดูเพียงแต่รูปมัน 25+ มาก เพราะถ่ายใกล้เห็นแผลและสัดส่วนชัดเจน ถ้าไม่คิดอะไรมากก็มองว่ามันคือความรู้ค่ะเผื่อคนที่จะไปจะได้ตัดสินใจง่ายหน่อย (ว่าจะเอาออกหรือเก็บไว้ 555)
อนุญาตให้นำรูปไปใช้ได้ค่ะไม่หวง เพื่อเป็นวิทยาทานและความรู้
ทีมงานพันทิปคะ....ถ้ากระทู้ไม่เหมาะสม อนุญาตให้ลบค่ะ แต่อย่ายึดอมยิ้มเค้าน๊าาาา
พร้อมแล้วไปดูกัน
4 พ.ค. น้องเข้าห้องคิวแรกค่ะ ตอน 18.00 น. ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก็เสร็จแล้ว สภาพของช้างน้อยตอนออกจากห้องเป็นแบบนี้เลยค่ะ คุณหมอไม่ได้วางยาสลบนะคะ แค่ฉีดยาชา 2 เข็มที่ตรงโคนช้าง รอยเขียว ๆ อันเนื่องมาจากเข็มฉีดยานี่จะอยู่ไปกับน้อง 3-4 วัน อ้อ...คุณแม่ที่จะพาน้องไปขลิบแนะนำว่าต้องเอาผ้าโสร่ง ไปให้น้องใส่หลังขลิบนะคะ เพราะแม่จูนพลาดเอากางเกงหลวม ๆ ให้น้องใส่น้องใส่ไม่ได้เลย เลยเอาผ้าคลุมไหล่พัน ๆ ตัวน้องแทนพอขึ้นรถมาได้เท่านั้น น้องแก้ผ้าใส่แค่เสื้อตัวเดียวกลับบ้านจ๊ะ
ภาพนี้ตอนน้องเดินออกมาจากห้องขลิบเลยค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อย่าไปถามลูกว่าเจ็บไหม เพราะว่ายาชาหมดฤทธิ์ตั้งแต่ 10 นาทีแรกที่ออกจากห้องขลิบแล้วค่ะ ถ้าดูแผลแล้วปกติเลือดไม่ซึมคุณหมอก็จะให้กลับบ้านได้เลย สรุปคืนนั้นน้องต้องนอนเป็นชีเปลือยสวมแค่เสื้อเพราะว่าจะปวดแผลมาก (แอบสงสารลูก) ตอนน้องเข้าห้องน้ำแม่จูนต้องคอยเอากระดาษทิชชู่ซับปลายให้น้อง เพราะแผลจะโดนน้ำไม่ได้เลย สรุปคืนนั้นไม่ค่อยได้นอนเพราะน้องปวดแผล
ดูสภาพแผลตอนเช้าเป็นแบบรูปด้านล่างนี้ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รูปตั้งแต่วันที่ 5 พ.ค. เป็นต้นไปจะเป็นสภาพแผลที่แม่จูนถ่ายไว้ค่ะ ติดเรทและน่ากลัวเล็กน้อยคิดว่าเป็นไปเพื่อความรู้นะคะ
5 พ.ค. เช้าวันแรกหลังจากไปขลิบมา ต้องพาน้องไปล้างแผลแล้ว เลยพาน้องไป รพ.ใกล้บ้าน สภาพแผลตอนพยาบาลแกะออกมาเป็นแบบนี้ค่ะ (ตอนแกะแผลพยาบาลใช้น้ำเกลือราดค่ะเพื่อไม่ให้น้ำเหลืองติดกับผ้าก๊อซที่พันเอาไว้ แต่น้องก็ร้องซะ รพ.แทบแตก ^^" ) คุณแม่ช่วยอะไรไมไ่ด้เลยค่ะ ได้แต่กอดลูกแน่น ๆ
ไหมที่หมอเย็บมาเป็นไหมละลายนะคะ มันจะหลุดไปเองตอนแผลแห้งแล้ว หมอบอกว่าหลังจาก 7 วันไปแล้วให้น้องอาบน้ำได้ แต่แม่จูนยังสงสารลูกอยู่ เลยอาบน้ำเอาตอนวันที่ 12 ระหว่างนั้นก็เช็ดตัวลูกทุกวัน และทำแผลวันละ 2 ครั้งค่ะ เช้า-เย็น
การทำแผล แม่จูนพาไป รพ.แค่ครั้งเดียวค่ะ เพราะดูแล้วว่าแม่จูนก็ทำได้ อุปกรณ์ที่ใช้ก็แค่สำลีที่พันปลายไม้ ปกติตามร้านขายยามี 3 ขนาดค่ะ เลือกขนาดกลางมา กำลังดีเลย / น้ำเกลือสำหรับล้างแผล / เบตาดีน /ผ้าก๊อต แค่นี้จ๊ะ ถ้าไม่อยากให้น้ำเหลืองติดกับผ้าก๊อต ให้คุณแม่ซื้อแผ่นตาข่าย เหมือนภาพด้านล่าง มาพันอีกรอบก่อนแปะผ้าก๊อตนะคะ (แม่จูนจำไม่ได้ว่าเขาเรียกว่าอะไร) น้ำเกลือนี่มีประโยชน์มากตอนล้างแผล ถ้าผ้าก๊อซติดแผลก็เอาน้ำเกลือราดนะคะ ไม่แสบหรอกแต่ผ้าก๊อซจะหลุดง่ายขึ้น
วันนี้เป็นต้นไปจะเป็นวันที่น้ำเหลืองไหลเยอะค่ะ คุณแม่ต้องทนเสียงร้องของลูกให้ได้ตอนแกะผ้าล้างแผลเพราะน้องจะเจ็บมาก
ได้เวลาขับรถกลับบ้าน แปะไว้ 3 ชั่วโมง เดี๋ยวจะมาเล่าต่อจ๊ะ