การเคลมเปลี่ยน...คอมเพรสเซอร์แอร์ ครั้งแรกของผม
สวัสดีครับ ชาวพันทิป
หลังจากได้รับความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับแอร์บ้านจากพันทิปมาตลอด
วันนี้ก็อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ เรื่องการขอเคลมเปลี่ยนคอมเพรสเซอร์แอร์บ้าน ครับ
เริ่มจากคืนนึงช่วง พ.ค.60 ที่ผ่านมา มีฝนตกฟ้าร้อง ผมก็สะดุ้งเตือนขึ้นมาจากเตียง
ใครไม่อยากอ่านมากเปิดอ่านสรุปเลย ครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้สรุป... เคลมคอมฯฟรี ในประกัน กับบริษัท ไดกิ้น
ต้องเตรียมค่าใช้จ่ายทั้งหมดเกือบ 4000.- ( เงินทอน ...ผมทิปให้ช่างไปเลย )
ประกันคอม เหลือ 90 วัน ถึงแม้เครื่องจะยังใช้ไม่ถึง 4 ปี
ส่วนสาเหตุ ช่างคาดว่าน่าจะเกิดจากการผลิต คอมฯ มี ดีเฟ็คท์ DEFECT เกิดขึ้นกันได้ (ซวย...ซิเรา)
ฝีมือช่างดีจริง ครับ ทดลองเปิดแอร์ตั้งแต่ซ่อมเสร็จ ยัน ดึกก็ยังเย็นดี อยู่ ขอให้ใช้ได้เกิน 4 ปีทีเถอะ
แต่...มันไม่ใช่เสียงฟ้าร้องที่ปลุกผมจากฝันหวาน แต่เป็นเพราะ ความร้อน แผ่นหลังเริ่มชื้นเหงื่อเลย ครับ
ลุกขึ้นเปิดไฟส่องสว่าง แต่ก็ไม่ติดเสียอีก เดือดร้อนคลำหาไฟฉาย ส่องทางเดินไปที่ตู้ควบคุมไฟฟ้า
เห็นเครื่องตัดไฟ เซฟทีคัท ทิปลงมา ก็ลองดันขึ้น ไปก็ทิปลงอีก อ้าวทำไงละ
ลองปรับไป ที่ 15 และ 25 แอมป์ ก็ยังทิปอีก
จึงลองตัดเบรกเกอร์คุมแอร์ลง ยกเบรกเกอร์ เซฟทีคัทขึ้น ไฟฟ้ามาปกติแล้ว ปรับไปที่ 5 แอมป์ก็ยังโอเค ครับ
แน่นอนสาเหตุมาจากแอร์ห้องนอนแน่ๆ
ยืมภาพมา ครับ
แอร์ที่ใช้เป็นแอร์ไดกิ้น 9000 BTU
รุ่น FTE09NV2S เป็นรุ่นประหยัด ใช้น้ำยา R22
ติดมาตั้งแต่ปี 2556 ปลายปี ครับ ก็ใช้งานมาได้ดี ล้างเองบ้าง ไม่ค่อยมีปัญหาอะไรมาก ยกเว้นถอดพัดลมกระรอกไม่เป็นครับ
เพื่อจะแก้ไขปัญหาแอร์เสีย จึงติดต่อศูนย์ซ่อมแอร์ไดกิ้น ตามใบรับประกันสินค้า
ทางศูนย์รับเรื่องก็ติดต่อนัดช่างมาทำการตรวจซ่อม หลังแจ้ง 2 วัน
ช่างศูนย์เข้ามาช้ากว่านัดเล็กน้อยเพราะมัวหลงทางอยู่ แต่ก็อธิบายเส้นทางจนมาถึงบ้านผมได้
ฝนเริ่มตกๆ หยุดๆ ทำให้อากาศไม่ร้อนนัก
ช่างแอร์คนแรก ก็สอบถามอาการและขอดูตำแหน่งแอร์ การแต่งกายเรียบร้อย มีเสื้อสีน้ำฟ้าเทาไดกิ้น
ตอนแรกก็เปิดชุดคอยล์เย็นดูคอนโทรลบอร์ด แล้วก็ลองยกเบรกเกอร์ดู ผลก็ตามคาดไฟตัดทันที
ลองปรับ ไป 15 -25 แอมป์ก็ตัด แต่พอปรับไดเร็ก ก็ไฟไม่ตัด(แน่นอนซิ เซฟทีคัทไม่ทำงานแล้วนี่นา)
คราวนี้ช่างก็มั่นใจว่าแอร์แน่ๆ ก็ไปเปิดเบรกเกอร์คุมแอร์ ขันแน่นใหม่ทุกสาย แล้วลองอีก ผลเหมือนเดิมไฟตัดอีก
ช่างจึงปีนหลังคาไปดูคอยล์ร้อนที่แขวนผนังไว้ ฝนหยุด ลมพัดเย็นเชียว ก็นำอุปกรณ์วัดแรงดันไปวัด
อุปกรณ์วัดทางไฟฟ้าไปวัด แล้วก็ปีนกลับเข้ามา ลองเปิดแอร์ใหม่ ไฟตัดอีกแล้ว
ช่างก็เลยลองตัดต่อสายระหว่างคอยล์ร้อน คอยล์เย็น แล้วลากสายไฟจากปลั๊กผนังด้วยสายต่อไฟ
จ่ายตรงให้แอร์ คราวนี้ไฟก็ยังตัดอีก ช่างเลยแจ้งว่า น่าจะเป็นที่คอยล์ร้อนมีปัญหา คอมเพรสเซอร์ไฟรั่ว ครับ
วันนี้เขาไม่ได้เตรียมคอมเพรสเซอร์มา ต้องรอเบิกศูนย์ก่อน ช่างก็โทรเช็คศูนย์และเตรียมนัดเข้ามา พร้อมประมาณ
ค่าใช้จ่ายคร่าวๆ ให้ทราบ แจ้งว่า 2800 มีค่าตรวจสอบ ค่าซ่อม ค่าน้ำยา ค่ารถ เท่านั้น จะตัดสินใจซ่อมไหม?
… มาถึงขนาดนี้แล้วจะทนนอนร้อนทำไม ตกปากรับคำ ทันที ช่วยรีบมาเปลี่ยนไวๆทีครับ
เนื่องจากใช้เวลาเบิกหลายวัน ช่างมีนัดซ่อมหลายที่อีก จึงต้องรอ 5 วันกว่าช่างจะกลับมาพร้อมคอมฯ
กว่าจะถึงวันนัด ผมก็นอนตากพัดลม ร้อนหลายวัน หมดเรี่ยวแรง ....555
วันนัดช่างมาตอนบ่าย อากาศร้อนมาก ช่างรีบจัดแจงยกคอมฯ ถังแก็ส ถังออกซิเจน สายวัดต่างๆ รวมทั้งปั๊มด้วย
จัดวางเรียงรายเต็มห้องนอน ผมกลัวพื้นจะเป็นรอย ต้องรีบไปเอาผ้าใบรองพื้นห้อง พื้นเตียงนอนเองก่อนครับ
* นึกว่าช่างจะเตรียมมาปู เอง ซะอีก
ผมขอช่างดู คอมฯใหม่ของผมก่อน อ้าว ไม่ใช่ของไดกิ้น แต่เป็นของ SCI หรือ
Siam Compressor Industry รุ่น RH145…. ใหม่เอี่ยมแกะกล่องทีเดียว
ระหว่างช่างเตรียมและถอดคอมฯออก ก็ถ่ายรูป อ้าวมีแคปรันมาด้วย ช่างบอกว่าควรเปลี่ยนพร้อมกันเลย
อ่านค่าได้ 25uF 370/440VAC
หลังบัดกรีเชื่อมคอมฯ เสร็จ ช่างก็แวค ใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมงกว่า รวมเวลาช่างออกไปพักทานข้าวด้วย
กลับมาเติมน้ำยาวัดค่า ทดลองเปิดแอร์กัน ผมเร่งสุดที่ 18 องศา เลยจะรีรออะไรล่ะ นอนร้อนมาหลายคืนแล้ว
ลมเย็นๆ พวยพุ่งออกมาแล้ว สวรรค์บนดินจริงๆ ตอนบ่ายแก่ๆ
ช่างก็สรุปงานให้ฟัง แล้วก็ส่งบิล และใบงานมาให้
อือหือ เกือบ 4 พันบาทเลยรึ แล้วมันมีค่าอะไรอีกที่เพิ่มมา ช่างก็อธิบายว่าอุปกรณ์ที่ใช้ติดตั้ง แคปรัน
มีค่าทำความสะอาดด้วย ก็ทำไงได้ เขาทำเสร็จหมดแล้ว ไอ้ค่าคลีนนิ่ง เพิ่มมาอีก แต่ก็ต้องยอมจ่าย ครับ
อันที่จริง ในใจก็ไม่อยากทะเลาะกับศูนย์
การรับประกันงานซ่อม 90 วัน ส่วนการรับประกันคอม 5 ปี หมดจบลงแล้ว
ถ้าคอมพังอีก คราวนี้คิดค่าคอมเพิ่มด้วย ก็บวกไปอีกประมาณ 4000.- บาท …จ๊าก ว๊าก
พังอีกคงไม่ซ่อมแล้ว ครับ 8000++ นี่คงตัดใจซื้อยี่ห้ออื่นแล้ว ได้ใหม่ซิงค์ๆ คอมน่าจะยี่ห้อเดียวกันด้วย
สรุป... เคลมคอมฯฟรี ในประกัน กับบริษัท ไดกิ้น
ต้องเตรียมค่าใช้จ่ายทั้งหมดเกือบ 4000.- ( เงินทอน ...ผมทิปให้ช่างไปเลย )
ประกันคอม เหลือ 90 วัน ถึงแม้เครื่องจะยังใช้ไม่ถึง 4 ปี
ส่วนสาเหตุ ช่างคาดว่าน่าจะเกิดจากการผลิต คอมฯ มี ดีเฟ็คท์ DEFECT เกิดขึ้นกันได้ (ซวย...ซิเรา)
ฝีมือช่างดีจริง ครับ ทดลองเปิดแอร์ตั้งแต่ซ่อมเสร็จ ยัน ดึกก็ยังเย็นดี อยู่ ขอให้ใช้ได้เกิน 4 ปีทีเถอะ
แชร์ การเคลมเปลี่ยน...คอมเพรสเซอร์แอร์ ครั้งแรกของผม
สวัสดีครับ ชาวพันทิป
หลังจากได้รับความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับแอร์บ้านจากพันทิปมาตลอด
วันนี้ก็อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ เรื่องการขอเคลมเปลี่ยนคอมเพรสเซอร์แอร์บ้าน ครับ
เริ่มจากคืนนึงช่วง พ.ค.60 ที่ผ่านมา มีฝนตกฟ้าร้อง ผมก็สะดุ้งเตือนขึ้นมาจากเตียง
ใครไม่อยากอ่านมากเปิดอ่านสรุปเลย ครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แต่...มันไม่ใช่เสียงฟ้าร้องที่ปลุกผมจากฝันหวาน แต่เป็นเพราะ ความร้อน แผ่นหลังเริ่มชื้นเหงื่อเลย ครับ
ลุกขึ้นเปิดไฟส่องสว่าง แต่ก็ไม่ติดเสียอีก เดือดร้อนคลำหาไฟฉาย ส่องทางเดินไปที่ตู้ควบคุมไฟฟ้า
เห็นเครื่องตัดไฟ เซฟทีคัท ทิปลงมา ก็ลองดันขึ้น ไปก็ทิปลงอีก อ้าวทำไงละ
ลองปรับไป ที่ 15 และ 25 แอมป์ ก็ยังทิปอีก
จึงลองตัดเบรกเกอร์คุมแอร์ลง ยกเบรกเกอร์ เซฟทีคัทขึ้น ไฟฟ้ามาปกติแล้ว ปรับไปที่ 5 แอมป์ก็ยังโอเค ครับ
แน่นอนสาเหตุมาจากแอร์ห้องนอนแน่ๆ
ยืมภาพมา ครับ
แอร์ที่ใช้เป็นแอร์ไดกิ้น 9000 BTU
รุ่น FTE09NV2S เป็นรุ่นประหยัด ใช้น้ำยา R22
ติดมาตั้งแต่ปี 2556 ปลายปี ครับ ก็ใช้งานมาได้ดี ล้างเองบ้าง ไม่ค่อยมีปัญหาอะไรมาก ยกเว้นถอดพัดลมกระรอกไม่เป็นครับ
เพื่อจะแก้ไขปัญหาแอร์เสีย จึงติดต่อศูนย์ซ่อมแอร์ไดกิ้น ตามใบรับประกันสินค้า
ทางศูนย์รับเรื่องก็ติดต่อนัดช่างมาทำการตรวจซ่อม หลังแจ้ง 2 วัน
ช่างศูนย์เข้ามาช้ากว่านัดเล็กน้อยเพราะมัวหลงทางอยู่ แต่ก็อธิบายเส้นทางจนมาถึงบ้านผมได้
ฝนเริ่มตกๆ หยุดๆ ทำให้อากาศไม่ร้อนนัก
ช่างแอร์คนแรก ก็สอบถามอาการและขอดูตำแหน่งแอร์ การแต่งกายเรียบร้อย มีเสื้อสีน้ำฟ้าเทาไดกิ้น
ตอนแรกก็เปิดชุดคอยล์เย็นดูคอนโทรลบอร์ด แล้วก็ลองยกเบรกเกอร์ดู ผลก็ตามคาดไฟตัดทันที
ลองปรับ ไป 15 -25 แอมป์ก็ตัด แต่พอปรับไดเร็ก ก็ไฟไม่ตัด(แน่นอนซิ เซฟทีคัทไม่ทำงานแล้วนี่นา)
คราวนี้ช่างก็มั่นใจว่าแอร์แน่ๆ ก็ไปเปิดเบรกเกอร์คุมแอร์ ขันแน่นใหม่ทุกสาย แล้วลองอีก ผลเหมือนเดิมไฟตัดอีก
ช่างจึงปีนหลังคาไปดูคอยล์ร้อนที่แขวนผนังไว้ ฝนหยุด ลมพัดเย็นเชียว ก็นำอุปกรณ์วัดแรงดันไปวัด
อุปกรณ์วัดทางไฟฟ้าไปวัด แล้วก็ปีนกลับเข้ามา ลองเปิดแอร์ใหม่ ไฟตัดอีกแล้ว
ช่างก็เลยลองตัดต่อสายระหว่างคอยล์ร้อน คอยล์เย็น แล้วลากสายไฟจากปลั๊กผนังด้วยสายต่อไฟ
จ่ายตรงให้แอร์ คราวนี้ไฟก็ยังตัดอีก ช่างเลยแจ้งว่า น่าจะเป็นที่คอยล์ร้อนมีปัญหา คอมเพรสเซอร์ไฟรั่ว ครับ
วันนี้เขาไม่ได้เตรียมคอมเพรสเซอร์มา ต้องรอเบิกศูนย์ก่อน ช่างก็โทรเช็คศูนย์และเตรียมนัดเข้ามา พร้อมประมาณ
ค่าใช้จ่ายคร่าวๆ ให้ทราบ แจ้งว่า 2800 มีค่าตรวจสอบ ค่าซ่อม ค่าน้ำยา ค่ารถ เท่านั้น จะตัดสินใจซ่อมไหม?
… มาถึงขนาดนี้แล้วจะทนนอนร้อนทำไม ตกปากรับคำ ทันที ช่วยรีบมาเปลี่ยนไวๆทีครับ
เนื่องจากใช้เวลาเบิกหลายวัน ช่างมีนัดซ่อมหลายที่อีก จึงต้องรอ 5 วันกว่าช่างจะกลับมาพร้อมคอมฯ
กว่าจะถึงวันนัด ผมก็นอนตากพัดลม ร้อนหลายวัน หมดเรี่ยวแรง ....555
วันนัดช่างมาตอนบ่าย อากาศร้อนมาก ช่างรีบจัดแจงยกคอมฯ ถังแก็ส ถังออกซิเจน สายวัดต่างๆ รวมทั้งปั๊มด้วย
จัดวางเรียงรายเต็มห้องนอน ผมกลัวพื้นจะเป็นรอย ต้องรีบไปเอาผ้าใบรองพื้นห้อง พื้นเตียงนอนเองก่อนครับ
* นึกว่าช่างจะเตรียมมาปู เอง ซะอีก
ผมขอช่างดู คอมฯใหม่ของผมก่อน อ้าว ไม่ใช่ของไดกิ้น แต่เป็นของ SCI หรือ
Siam Compressor Industry รุ่น RH145…. ใหม่เอี่ยมแกะกล่องทีเดียว
ระหว่างช่างเตรียมและถอดคอมฯออก ก็ถ่ายรูป อ้าวมีแคปรันมาด้วย ช่างบอกว่าควรเปลี่ยนพร้อมกันเลย
อ่านค่าได้ 25uF 370/440VAC
หลังบัดกรีเชื่อมคอมฯ เสร็จ ช่างก็แวค ใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมงกว่า รวมเวลาช่างออกไปพักทานข้าวด้วย
กลับมาเติมน้ำยาวัดค่า ทดลองเปิดแอร์กัน ผมเร่งสุดที่ 18 องศา เลยจะรีรออะไรล่ะ นอนร้อนมาหลายคืนแล้ว
ลมเย็นๆ พวยพุ่งออกมาแล้ว สวรรค์บนดินจริงๆ ตอนบ่ายแก่ๆ
ช่างก็สรุปงานให้ฟัง แล้วก็ส่งบิล และใบงานมาให้
อือหือ เกือบ 4 พันบาทเลยรึ แล้วมันมีค่าอะไรอีกที่เพิ่มมา ช่างก็อธิบายว่าอุปกรณ์ที่ใช้ติดตั้ง แคปรัน
มีค่าทำความสะอาดด้วย ก็ทำไงได้ เขาทำเสร็จหมดแล้ว ไอ้ค่าคลีนนิ่ง เพิ่มมาอีก แต่ก็ต้องยอมจ่าย ครับ
อันที่จริง ในใจก็ไม่อยากทะเลาะกับศูนย์
การรับประกันงานซ่อม 90 วัน ส่วนการรับประกันคอม 5 ปี หมดจบลงแล้ว
ถ้าคอมพังอีก คราวนี้คิดค่าคอมเพิ่มด้วย ก็บวกไปอีกประมาณ 4000.- บาท …จ๊าก ว๊าก
พังอีกคงไม่ซ่อมแล้ว ครับ 8000++ นี่คงตัดใจซื้อยี่ห้ออื่นแล้ว ได้ใหม่ซิงค์ๆ คอมน่าจะยี่ห้อเดียวกันด้วย
สรุป... เคลมคอมฯฟรี ในประกัน กับบริษัท ไดกิ้น
ต้องเตรียมค่าใช้จ่ายทั้งหมดเกือบ 4000.- ( เงินทอน ...ผมทิปให้ช่างไปเลย )
ประกันคอม เหลือ 90 วัน ถึงแม้เครื่องจะยังใช้ไม่ถึง 4 ปี
ส่วนสาเหตุ ช่างคาดว่าน่าจะเกิดจากการผลิต คอมฯ มี ดีเฟ็คท์ DEFECT เกิดขึ้นกันได้ (ซวย...ซิเรา)
ฝีมือช่างดีจริง ครับ ทดลองเปิดแอร์ตั้งแต่ซ่อมเสร็จ ยัน ดึกก็ยังเย็นดี อยู่ ขอให้ใช้ได้เกิน 4 ปีทีเถอะ