สืบเนื่องจากกระทู้
https://m.ppantip.com/topic/36960090? ซึ่งผมได้พูดถึงปัญหาของแอร์ไดกิ้นในหลายๆเรื่อง ทั้งในด้านการผลิตและการบริการ เมื่อ 2 เดือนก่อนเจอกับตัวเองเข้าเต็มๆละครับ ว่าจะเขียนนานละ แต่ลืม
เรื่องของเรื่องคือ แอร์ไดกิ้น FTE12NV2S ของผมได้ลาโลกไปแล้วครับ ยังใช้ได้ไม่ทัน 4 ปีเต็มด้วยซ้ำ แต่ผมก็ยังไม่เข็ดครับ จัด ATM13NV2S มาอีกเครื่อง
เพราะที่คุยกับเซลขายแอร์ เธอบอกผมว่าแอร์ไดกิ้นเป็นแอร์เกรดเดียวกับ ฟิจิสึ มิตซู แคเรีย ผมเลยถามเซลว่าถ้าเกรดเดียวกันจริงทำไม FTE ของผมมันใช้ได้ไม่ถึง 4 ปีก็ลาโลกแล้วอะครับ
ทางเซลก็ทำการบ้านมาดีครับ เซลตอบผมว่าไดกิ้นรุ่น FTE เป็นรุ่นลดต้นทุนแบบสุดโต่งเพื่อทำตลาดแข่งกับยี่ห้ออื่นๆ ดังนั้นอายุการใช้งานก็ได้ราวๆ 3 - 5 ปีเท่านั้น แต่รุ่นอื่นๆที่เป็น non-inverter ที่ดีขึ้นมาหน่อยอย่าง ATM นี่อยู่ได้ 10 - 20 ปี สบายๆ (เดี๋ยวจะรอดู 55555)
ประกอบกับที่บ้านผมใช้แอร์ไดกิ้นหลายเครื่องมากแล้วไม่เคยมีปัญหาอะไรหนักหน่วง รุ่นเก่าๆนี่ 20 กว่าปีไม่เคยซ่อม ก็เลยเชื่อเซลว่าน่าจะทนอย่างที่พูดจริง(มั๊ง)
หลังจากนั้นผมก็ได้ถามคำถามเชิงเทคนิคกับเซลหลายคำถาม โดยเฉพาะความแตกต่างของคอมเพรสเซอร์รุ่น FTE กับ ATM เพื่อประกอบการตัดสินใจ เซลก็น่ารักครับ(ทั้งการพูดจา และหน้าตา อิอิ) ยอมตอบทุกคำถามแบบไม่มีปัดรำคาญเลย
ผมใช้เวลาตัดสินใจจากข้อมูลที่ได้(บวกกับความน่ารักของเซล อันนี้ล้อเล่นครับ อิอิ) ก็ได้ถอยแอร์ไดกิ้น ATM13NV2S มาเลยครับ(ตอนแรกเซลก็เชียร์ให้ซื้อไดกิ้น อินเวอร์เตอร์ แหละ แต่ไม่ไว้ใจความทนทานของแผง PCB ที่อยู่ในตัวคอยล์ร้อน)
พอช่างติดตั้ง แว็คระบบแอร์เสร็จ ผมก็ลองเปิดใช้เลย รอ 3 นาทีให้คอมเพรสเซอร์ทำงาน ก็พบว่าคอมเพรสเซอร์ทำงานเงียบมาก เหมือนคอมเพรสเซอร์ไดกิ้นรุ่นเก่าๆเลย เงียบกว่า FTE เยอะ เวลาคอมเพรสเซอร์ ตัด-ต่อ คอยล์ร้อนไม่สั่นเลย(FTE คอมเพรสเซอร์ตัดแต่ละที ตัวคอนล์ร้อนสั่นแรงเวอร์) แต่..... ทำไมต้องมีเสียงดังแกรกๆๆๆด้วยวะ
ผมเลยออกไปดูที่ตัวคอยล์ร้อน....ตามคาดเลยครับ ใบพัดคอยล์ร้อนเจ้าปัญหา(รหัสตรงศูนย์กลางใบพัด PZ400R เหมือนกับของรุ่น FTE12NV2S เลย บ้านใครติดแอร์ไดกิ้นลองสังเกตตรงศูนย์กลางใบพัดคอยล์ร้อนกันดูนะครับ) ตอนพัดลมคอนล์ร้อนหมุนนี่สั่นอย่างแรงส์ ถ้าปล่อยไปนานๆลูกปืนมอเตอร์แตกแน่นอน
โชคดีที่ผมยังไม่ขาย FTE ไป เลยนำใบพัดคอยล์ร้อนที่ผมเคยเปลี่ยนในรุ่น FTE มาใช้ได้(ใบพัดคอยล์ร้อนที่เอามาเปลี่ยนใน FTE รหัสตรงศูนย์กลาง PZ380D)
ขั้นตอนการเปลี่ยนใบพัดคอยล์ร้อน ผมทำตามนี้ครับ
1. เช็คขนาดใบพัดว่าใส่แทนกันได้หรือเปล่า(ขนาดใบพัดต้องเท่ากับใบพัดเดิม หรือเล็กกว่าไม่มาก) เช่น ในกรณีของผม ใบพัดที่นำมาเปลี่ยนแทน PZ400R(ขนาด 40 cm) คือ ใบพัดรหัส PZ380D(ขนาด 38 cm)
2. เช็คขนาดแกนมอเตอร์ว่าเท่ากันหรือไม่ ในกรณีที่แกนมอเตอร์ไม่เท่ากัน ต้องเช็คว่า รูยึดน็อตมอเตอร์ตัวที่นำมาเปลี่ยน ตรงกับ รูยึดน็อตมอเตอร์ตัวที่มากับโรงงาน หรือไม่ เช่น ในกรณีของผมก็โชคดีอีกตามเคยที่รูยึดน็อตของมอเตอร์ตรงกันทั้ง 4 รู
ที่สำคัญ อย่าลืมเปลี่ยนน็อตยึดพัดลม เพราะใบพัดรหัส PZ380D กับ PZ400R ขนาดแกนมอเตอร์ไม่เท่ากัน น็อตยึดพัดลมก็คนละตัวกัน
3. เช็ค airflow rate ตัวคอยล์ร้อน ว่าต้องมากกว่าหรือเท่ากับใบพัดเดิม ซึ่งจากที่ผมโทรสอบถามไดกิ้น ใบพัดของเดิมที่มากับแอร์รุ่น ATM (ใบพัด PZ400R) ใช้มอเตอร์ 27 W มี airflow rate 27 m
3/min แต่ใบพัด PZ380D ใช้มอเตอร์ 27 W มี airflow rate 28.1 m
3/min เพราะ PZ380D เป็นใบพัด 4 แฉก ถึงแม้ว่าจะขนาดเล็กกว่าก็มี airflow rate สูงกว่า PZ400R ซึ่งเป็นแบบ 3 แฉก
4. เช็คแจ็กเสียบของมอเตอร์ว่าหัวเหมือนกันรึป่าว ถ้าเหมือนกัน ก็เสียบได้เลย แต่ถ้าไม่เหมือนกันก็ต้องตัดสายไฟแล้วเอาแจ็กเสียบเดิมมาต่อเข้าแทน เช่น ในกรณีของผม สายสีแดงกับสีขาวซึ่งเป็นสายที่ไว้ต่อกับแคปรันมีแจ็กเสียบเหมือนกัน แต่สายสีดำแจ็กเสียบไม่เหมือนกัน ก็เลยต้องตัดปลายสายสีดำส่วนที่มีแจ็กเสียบทิ้ง แล้วนำแจ็กเสียบของมอเตอร์เดิมที่มากับเครื่องมาต่อแทน(ซึ่งขั้นตอนนี้ผมได้ทำมาแล้วตั้งแต่เปลี่ยนใบพัดในแอร์รุ่น FTE)
5. เช็คประเภทมอเตอร์ว่าเป็นไฟ AC หรือ DC โดยปกติแอร์รุ่นธรรมดาจะใช้มอเตอร์ AC แต่รุ่น Inverter จะใช้มอเตอร์ DC มอเตอร์ที่นำมาเปลี่ยนแทนต้องเป็นไฟประเภทเดียวกันกับมอเตอร์ตัวเดิมที่มาจากโรงงาน(เป็น AC หรือ DC เหมือนกัน)
6. ข้อสุดท้าย สำคัญที่สุด อย่าลืมปิดเบรกเกอร์
หลังจากเปลี่ยนเสร็จก็ลองเปิดเครื่องดู คราวนี้เสียงแกรกๆๆๆ หายสนิทเลยครับ
คำเตือน : สำหรับคนที่ใช้ไดกิ้น FTE ถึงแม้จะเปลี่ยนใบพัดคอยล์ร้อนแล้ว แต่คอมเพรสเซอร์ก็ยังดังอยู่ดี ฉะนั้น อย่าคาดหวังว่าเสียงจะเบาลงมาก (ก็เสียงเบาลงบ้างแหละ) เพราะจากที่เคยใช้ รุ่น FTE นี่เสียงดังยังกับใช้คอมลูกสูบ
ปล. วิธีที่ผมเขียนเป็นแค่วิธีนึงเท่านั้นครับ ใครมีวิธีอื่นช่วยๆกันแชร์หน่อยครับ จะได้เป็นความรู้
ใครมีวิธีแก้แอร์เสียงดังยังไงกันบ้าง มาแชร์กันหน่อยครับ
เรื่องของเรื่องคือ แอร์ไดกิ้น FTE12NV2S ของผมได้ลาโลกไปแล้วครับ ยังใช้ได้ไม่ทัน 4 ปีเต็มด้วยซ้ำ แต่ผมก็ยังไม่เข็ดครับ จัด ATM13NV2S มาอีกเครื่อง
เพราะที่คุยกับเซลขายแอร์ เธอบอกผมว่าแอร์ไดกิ้นเป็นแอร์เกรดเดียวกับ ฟิจิสึ มิตซู แคเรีย ผมเลยถามเซลว่าถ้าเกรดเดียวกันจริงทำไม FTE ของผมมันใช้ได้ไม่ถึง 4 ปีก็ลาโลกแล้วอะครับ
ทางเซลก็ทำการบ้านมาดีครับ เซลตอบผมว่าไดกิ้นรุ่น FTE เป็นรุ่นลดต้นทุนแบบสุดโต่งเพื่อทำตลาดแข่งกับยี่ห้ออื่นๆ ดังนั้นอายุการใช้งานก็ได้ราวๆ 3 - 5 ปีเท่านั้น แต่รุ่นอื่นๆที่เป็น non-inverter ที่ดีขึ้นมาหน่อยอย่าง ATM นี่อยู่ได้ 10 - 20 ปี สบายๆ (เดี๋ยวจะรอดู 55555)
ประกอบกับที่บ้านผมใช้แอร์ไดกิ้นหลายเครื่องมากแล้วไม่เคยมีปัญหาอะไรหนักหน่วง รุ่นเก่าๆนี่ 20 กว่าปีไม่เคยซ่อม ก็เลยเชื่อเซลว่าน่าจะทนอย่างที่พูดจริง(มั๊ง)
หลังจากนั้นผมก็ได้ถามคำถามเชิงเทคนิคกับเซลหลายคำถาม โดยเฉพาะความแตกต่างของคอมเพรสเซอร์รุ่น FTE กับ ATM เพื่อประกอบการตัดสินใจ เซลก็น่ารักครับ(ทั้งการพูดจา และหน้าตา อิอิ) ยอมตอบทุกคำถามแบบไม่มีปัดรำคาญเลย
ผมใช้เวลาตัดสินใจจากข้อมูลที่ได้(บวกกับความน่ารักของเซล อันนี้ล้อเล่นครับ อิอิ) ก็ได้ถอยแอร์ไดกิ้น ATM13NV2S มาเลยครับ(ตอนแรกเซลก็เชียร์ให้ซื้อไดกิ้น อินเวอร์เตอร์ แหละ แต่ไม่ไว้ใจความทนทานของแผง PCB ที่อยู่ในตัวคอยล์ร้อน)
พอช่างติดตั้ง แว็คระบบแอร์เสร็จ ผมก็ลองเปิดใช้เลย รอ 3 นาทีให้คอมเพรสเซอร์ทำงาน ก็พบว่าคอมเพรสเซอร์ทำงานเงียบมาก เหมือนคอมเพรสเซอร์ไดกิ้นรุ่นเก่าๆเลย เงียบกว่า FTE เยอะ เวลาคอมเพรสเซอร์ ตัด-ต่อ คอยล์ร้อนไม่สั่นเลย(FTE คอมเพรสเซอร์ตัดแต่ละที ตัวคอนล์ร้อนสั่นแรงเวอร์) แต่..... ทำไมต้องมีเสียงดังแกรกๆๆๆด้วยวะ
ผมเลยออกไปดูที่ตัวคอยล์ร้อน....ตามคาดเลยครับ ใบพัดคอยล์ร้อนเจ้าปัญหา(รหัสตรงศูนย์กลางใบพัด PZ400R เหมือนกับของรุ่น FTE12NV2S เลย บ้านใครติดแอร์ไดกิ้นลองสังเกตตรงศูนย์กลางใบพัดคอยล์ร้อนกันดูนะครับ) ตอนพัดลมคอนล์ร้อนหมุนนี่สั่นอย่างแรงส์ ถ้าปล่อยไปนานๆลูกปืนมอเตอร์แตกแน่นอน
โชคดีที่ผมยังไม่ขาย FTE ไป เลยนำใบพัดคอยล์ร้อนที่ผมเคยเปลี่ยนในรุ่น FTE มาใช้ได้(ใบพัดคอยล์ร้อนที่เอามาเปลี่ยนใน FTE รหัสตรงศูนย์กลาง PZ380D)
ขั้นตอนการเปลี่ยนใบพัดคอยล์ร้อน ผมทำตามนี้ครับ
1. เช็คขนาดใบพัดว่าใส่แทนกันได้หรือเปล่า(ขนาดใบพัดต้องเท่ากับใบพัดเดิม หรือเล็กกว่าไม่มาก) เช่น ในกรณีของผม ใบพัดที่นำมาเปลี่ยนแทน PZ400R(ขนาด 40 cm) คือ ใบพัดรหัส PZ380D(ขนาด 38 cm)
2. เช็คขนาดแกนมอเตอร์ว่าเท่ากันหรือไม่ ในกรณีที่แกนมอเตอร์ไม่เท่ากัน ต้องเช็คว่า รูยึดน็อตมอเตอร์ตัวที่นำมาเปลี่ยน ตรงกับ รูยึดน็อตมอเตอร์ตัวที่มากับโรงงาน หรือไม่ เช่น ในกรณีของผมก็โชคดีอีกตามเคยที่รูยึดน็อตของมอเตอร์ตรงกันทั้ง 4 รู
ที่สำคัญ อย่าลืมเปลี่ยนน็อตยึดพัดลม เพราะใบพัดรหัส PZ380D กับ PZ400R ขนาดแกนมอเตอร์ไม่เท่ากัน น็อตยึดพัดลมก็คนละตัวกัน
3. เช็ค airflow rate ตัวคอยล์ร้อน ว่าต้องมากกว่าหรือเท่ากับใบพัดเดิม ซึ่งจากที่ผมโทรสอบถามไดกิ้น ใบพัดของเดิมที่มากับแอร์รุ่น ATM (ใบพัด PZ400R) ใช้มอเตอร์ 27 W มี airflow rate 27 m3/min แต่ใบพัด PZ380D ใช้มอเตอร์ 27 W มี airflow rate 28.1 m3/min เพราะ PZ380D เป็นใบพัด 4 แฉก ถึงแม้ว่าจะขนาดเล็กกว่าก็มี airflow rate สูงกว่า PZ400R ซึ่งเป็นแบบ 3 แฉก
4. เช็คแจ็กเสียบของมอเตอร์ว่าหัวเหมือนกันรึป่าว ถ้าเหมือนกัน ก็เสียบได้เลย แต่ถ้าไม่เหมือนกันก็ต้องตัดสายไฟแล้วเอาแจ็กเสียบเดิมมาต่อเข้าแทน เช่น ในกรณีของผม สายสีแดงกับสีขาวซึ่งเป็นสายที่ไว้ต่อกับแคปรันมีแจ็กเสียบเหมือนกัน แต่สายสีดำแจ็กเสียบไม่เหมือนกัน ก็เลยต้องตัดปลายสายสีดำส่วนที่มีแจ็กเสียบทิ้ง แล้วนำแจ็กเสียบของมอเตอร์เดิมที่มากับเครื่องมาต่อแทน(ซึ่งขั้นตอนนี้ผมได้ทำมาแล้วตั้งแต่เปลี่ยนใบพัดในแอร์รุ่น FTE)
5. เช็คประเภทมอเตอร์ว่าเป็นไฟ AC หรือ DC โดยปกติแอร์รุ่นธรรมดาจะใช้มอเตอร์ AC แต่รุ่น Inverter จะใช้มอเตอร์ DC มอเตอร์ที่นำมาเปลี่ยนแทนต้องเป็นไฟประเภทเดียวกันกับมอเตอร์ตัวเดิมที่มาจากโรงงาน(เป็น AC หรือ DC เหมือนกัน)
6. ข้อสุดท้าย สำคัญที่สุด อย่าลืมปิดเบรกเกอร์
หลังจากเปลี่ยนเสร็จก็ลองเปิดเครื่องดู คราวนี้เสียงแกรกๆๆๆ หายสนิทเลยครับ
คำเตือน : สำหรับคนที่ใช้ไดกิ้น FTE ถึงแม้จะเปลี่ยนใบพัดคอยล์ร้อนแล้ว แต่คอมเพรสเซอร์ก็ยังดังอยู่ดี ฉะนั้น อย่าคาดหวังว่าเสียงจะเบาลงมาก (ก็เสียงเบาลงบ้างแหละ) เพราะจากที่เคยใช้ รุ่น FTE นี่เสียงดังยังกับใช้คอมลูกสูบ
ปล. วิธีที่ผมเขียนเป็นแค่วิธีนึงเท่านั้นครับ ใครมีวิธีอื่นช่วยๆกันแชร์หน่อยครับ จะได้เป็นความรู้