เกริ่นนำก่อน
ผมทำงานอยู่ชลบุรี ติดถนนสาย 7 มอเตอร์เวย์ ระหว่าง กม.111-112 ปีนี้เป็นปี ที่ 7 แล้ว ดูแลธุรกิจ สถานีบริการ NGV ร้านสะดวกซื้อ ร้านกาแฟอเมซอน และ สถานีบริการ LPG ให้เจ้านาย มีเพื่อนร่วมงานด้วยกัน 40 กว่าชีวิต
สถานีบริการ LPG เปิดได้ 5 ปีแล้ว ที่ผ่านมาถือว่าประสบความสำเร็จพอสมควร เนื่องจากลูกค้า ที่เดินทางมาเที่ยวพักผ่อนภาคตะวันออก รวมถึงรถโดยสาร แท๊กซี่ พาลูกค้าต่างชาติมาเที่ยวพัทยา สามารถแวะเติมเชื้อเพลิงได้สะดวกก่อนเข้า กทม. ผลกำไร มีพอที่เจ้านายแบ่งปันออกมาเป็นโบนัสให้ลูกน้องหน้าใสไปตามๆกันได้ 3 ปี เค้าลางไม่ชอบมาพากล เริ่มมาเยือน
ทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 เริ่มก่อสร้าง วางระบบ เพื่อเก็บเงินค่าผ่านทางมีการปิดทางเชื่อมเข้าออกระหว่างทางหลักกับ ทางคู่ขนาน โดยเปิดชั่วคราวไว้ให้บางจุด เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้เดินทาง และ คนในพื้นที่ ซึ่งช่วงนั้น ยอดขายหายไป 30-40% กัดฟันสู้กันต่อจนลูกค้าเริ่ม รู้เส้นทางออกคู่ขนานเพื่อมาใช้บริการ จนกระทั้งเมื่อ วันอาทิตย์ที่ผ่านมา นรกของจริงเริ่มมาเยือน
จู่ๆ งานก่อสร้างด่านเก็บเงิน ทำการปิดช่องทางออกชั่วคราวตรงแยกโป่ง ทำให้คนเดินทางมาจากพัทยาไม่สามารถออกทางคู่ขนานได้ โกลาหล กันไปหมด ลูกค้าประจำที่เคยเข้ามาไม่มีทางเข้า ไม่มีการประชาสัมพันธ์ ไม่มีการแนะนำเส้นทาง ลูกค้าบางรายต้องยอมวิ่งย้อนศร กลับมาเติมก๊าซ NGV เพราะ ไม่พอถึงกรุงเทพฯ ยอดขาย หายไป 70% โดยไม่รู้ตัว ผลกำไรต่อวัน ยังไม่พอจ่ายค่าแรงให้กับพนักงาน ยังไม่ต้องมองถึงรายจ่ายอื่น เช่น ภาษีบำรุงท้องที่,ภาษี อบจ. เริ่มมองเห็นสถานการณ์ความไม่มั่นคงของชีวิตของตัวเองและเพื่อนร่วมงาน
เข้าสู่โหมดคำถาม ที่คงไม่มีไครมาตอบ
สงสัยนะ ว่าเพราะอะไร ทำไม ผู้ที่ตัดสินใจทำอย่างนั้น เขาคิดแบบนั้นใช้ ตรรกกะ เหตุผลอะไรในการตัดสินใจ
1 ทำไม เปิดทางออก ก่อนถึงแยกโป่ง ให้รถที่ต้องการเข้าคู่ขนาน ต้องเลี้ยวซ้าย ไปยูเทิร์น ไป-กลับ 4 กม.กว่าๆ ไม่ออกแบบให้สามารถออกจากด่านเก็บเงินแล้วสามารถวิ่งเข้าทางคู่ขนานได้ ทั้งๆที่สามารถทำได้อย่างง่ายๆ ไม่ต้องใช้ทุนที่มากมายอะไร เดี๋ยวถ้ามีเวลาจะเอามาลงเพิ่มให้วิศวกรช่วย Comment
2 ทำไม ต้องรีบปิดทางเข้า-ออก ชั่วคราวที่เปิดไว้บรรเทาความเดือดร้อน ในขณะที่งานก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ คาดว่าน่าจะเริ่มเดินระบบเก็บเงินค่าผ่านทางได้ประมาณ ต้นปี 2561 หรือในอีก 7 เดือน ข้างหน้า ถ้าบอกว่าบริเวณที่เปิดไว้ เป็นอุปสรรค ต่อการก่อสร้างด่านเก็บเงินจำเป็นต้องปิด ก็สามารถย้ายตำแหน่งเปิดไว้ออกมาให้พ้นได้หรือไม่ หรือว่าต้องการสร้างความคุ้นเคยกับความลำบากให้คนในพื้นที่ และคนเดินทาง ซึ่งจะเครียดมากกับคำตอบนี้ เพราะแสดงถึงวุฒิภาวะของคนตัดสินใจว่า มองเห็นคนอื่นๆ ฉลาดน้อย ต้องใช้เวลา เรียนรู้นานขนาดนั้น
และข้อ 3 ทำไม ไม่คิดถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับผู้ประกอบการอื่นๆ ที่เกิดขึ้นก่อนที่จะมีการทำทางพิเศษนี้ เพราะ 7 เดือนที่ปิดทางเข้า-ออก เส้นทางทำมาหากิน ก่อนที่จะทำระบบให้เรียบร้อย ทำทางเลี่ยง ทางเบี่ยงให้เสร็จสมบูรณ์ มันสร้างความเดือดร้อนให้ขนาดใหน ซึ่งการตกงานของคน 10-20 หรือ ธุรกิจจะต้องเลิกดำเนินการไป ซัก 2-3 ราย ไม่ได้กระทบต่อรายได้ของท่านผู้ตัดสินใจตรงนี้ ใช่ใหมครับ
*** ผมจะได้ยกย่องคุณว่าเป็น ส่วนหนึ่งที่ส่งเสริมให้ เศรษฐกิจของประเทศมันดิ่งลงอย่างนี้ เพราะเหตุการณ์นี้เป็นตัวอย่าง ที่อาจจะเล็กๆ ตัวอย่างหนึ่ง
เอาละ สบายใจขึ้นที่ได้ระบายออกมาบ้าง...ขอบคุณ..
ไครหนอ ที่ตัดสินใจแบบนี้
ผมทำงานอยู่ชลบุรี ติดถนนสาย 7 มอเตอร์เวย์ ระหว่าง กม.111-112 ปีนี้เป็นปี ที่ 7 แล้ว ดูแลธุรกิจ สถานีบริการ NGV ร้านสะดวกซื้อ ร้านกาแฟอเมซอน และ สถานีบริการ LPG ให้เจ้านาย มีเพื่อนร่วมงานด้วยกัน 40 กว่าชีวิต
สถานีบริการ LPG เปิดได้ 5 ปีแล้ว ที่ผ่านมาถือว่าประสบความสำเร็จพอสมควร เนื่องจากลูกค้า ที่เดินทางมาเที่ยวพักผ่อนภาคตะวันออก รวมถึงรถโดยสาร แท๊กซี่ พาลูกค้าต่างชาติมาเที่ยวพัทยา สามารถแวะเติมเชื้อเพลิงได้สะดวกก่อนเข้า กทม. ผลกำไร มีพอที่เจ้านายแบ่งปันออกมาเป็นโบนัสให้ลูกน้องหน้าใสไปตามๆกันได้ 3 ปี เค้าลางไม่ชอบมาพากล เริ่มมาเยือน
ทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 เริ่มก่อสร้าง วางระบบ เพื่อเก็บเงินค่าผ่านทางมีการปิดทางเชื่อมเข้าออกระหว่างทางหลักกับ ทางคู่ขนาน โดยเปิดชั่วคราวไว้ให้บางจุด เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้เดินทาง และ คนในพื้นที่ ซึ่งช่วงนั้น ยอดขายหายไป 30-40% กัดฟันสู้กันต่อจนลูกค้าเริ่ม รู้เส้นทางออกคู่ขนานเพื่อมาใช้บริการ จนกระทั้งเมื่อ วันอาทิตย์ที่ผ่านมา นรกของจริงเริ่มมาเยือน
จู่ๆ งานก่อสร้างด่านเก็บเงิน ทำการปิดช่องทางออกชั่วคราวตรงแยกโป่ง ทำให้คนเดินทางมาจากพัทยาไม่สามารถออกทางคู่ขนานได้ โกลาหล กันไปหมด ลูกค้าประจำที่เคยเข้ามาไม่มีทางเข้า ไม่มีการประชาสัมพันธ์ ไม่มีการแนะนำเส้นทาง ลูกค้าบางรายต้องยอมวิ่งย้อนศร กลับมาเติมก๊าซ NGV เพราะ ไม่พอถึงกรุงเทพฯ ยอดขาย หายไป 70% โดยไม่รู้ตัว ผลกำไรต่อวัน ยังไม่พอจ่ายค่าแรงให้กับพนักงาน ยังไม่ต้องมองถึงรายจ่ายอื่น เช่น ภาษีบำรุงท้องที่,ภาษี อบจ. เริ่มมองเห็นสถานการณ์ความไม่มั่นคงของชีวิตของตัวเองและเพื่อนร่วมงาน
เข้าสู่โหมดคำถาม ที่คงไม่มีไครมาตอบ
สงสัยนะ ว่าเพราะอะไร ทำไม ผู้ที่ตัดสินใจทำอย่างนั้น เขาคิดแบบนั้นใช้ ตรรกกะ เหตุผลอะไรในการตัดสินใจ
1 ทำไม เปิดทางออก ก่อนถึงแยกโป่ง ให้รถที่ต้องการเข้าคู่ขนาน ต้องเลี้ยวซ้าย ไปยูเทิร์น ไป-กลับ 4 กม.กว่าๆ ไม่ออกแบบให้สามารถออกจากด่านเก็บเงินแล้วสามารถวิ่งเข้าทางคู่ขนานได้ ทั้งๆที่สามารถทำได้อย่างง่ายๆ ไม่ต้องใช้ทุนที่มากมายอะไร เดี๋ยวถ้ามีเวลาจะเอามาลงเพิ่มให้วิศวกรช่วย Comment
2 ทำไม ต้องรีบปิดทางเข้า-ออก ชั่วคราวที่เปิดไว้บรรเทาความเดือดร้อน ในขณะที่งานก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ คาดว่าน่าจะเริ่มเดินระบบเก็บเงินค่าผ่านทางได้ประมาณ ต้นปี 2561 หรือในอีก 7 เดือน ข้างหน้า ถ้าบอกว่าบริเวณที่เปิดไว้ เป็นอุปสรรค ต่อการก่อสร้างด่านเก็บเงินจำเป็นต้องปิด ก็สามารถย้ายตำแหน่งเปิดไว้ออกมาให้พ้นได้หรือไม่ หรือว่าต้องการสร้างความคุ้นเคยกับความลำบากให้คนในพื้นที่ และคนเดินทาง ซึ่งจะเครียดมากกับคำตอบนี้ เพราะแสดงถึงวุฒิภาวะของคนตัดสินใจว่า มองเห็นคนอื่นๆ ฉลาดน้อย ต้องใช้เวลา เรียนรู้นานขนาดนั้น
และข้อ 3 ทำไม ไม่คิดถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับผู้ประกอบการอื่นๆ ที่เกิดขึ้นก่อนที่จะมีการทำทางพิเศษนี้ เพราะ 7 เดือนที่ปิดทางเข้า-ออก เส้นทางทำมาหากิน ก่อนที่จะทำระบบให้เรียบร้อย ทำทางเลี่ยง ทางเบี่ยงให้เสร็จสมบูรณ์ มันสร้างความเดือดร้อนให้ขนาดใหน ซึ่งการตกงานของคน 10-20 หรือ ธุรกิจจะต้องเลิกดำเนินการไป ซัก 2-3 ราย ไม่ได้กระทบต่อรายได้ของท่านผู้ตัดสินใจตรงนี้ ใช่ใหมครับ
*** ผมจะได้ยกย่องคุณว่าเป็น ส่วนหนึ่งที่ส่งเสริมให้ เศรษฐกิจของประเทศมันดิ่งลงอย่างนี้ เพราะเหตุการณ์นี้เป็นตัวอย่าง ที่อาจจะเล็กๆ ตัวอย่างหนึ่ง
เอาละ สบายใจขึ้นที่ได้ระบายออกมาบ้าง...ขอบคุณ..