Review :: ดอกเชอรี่บาน ณ เมืองบอนน์ + แถม "ความดอกไม้" ในฤดูใบไม้ผลิ

"Cherry Blossom in Bonn + Königswinter"
3 April 2017




สวัสดีค่ะทุกคน  พอดี จขกท. เรียนอยู่ที่ประเทศเยอรมันพอดี เนื่องจากมีสิทธิ์นั่งรถฟรีในรัฐ
มีเวลาว่างๆเมื่อไรก็นั่งรถเล่นไปเที่ยวเมืองนู้นเมืองนี้เรื่อยๆค่ะ ตามประสาคนบ้าเที่ยว
วันนี้เลยเอาเรื่องราวตอนไปเที่ยวเมือง Bonn และเมือง Königswinter มาให้ได้อ่านได้ดูกัน

คือไปมาตั้งแต่ต้นเดือนที่แล้วนะคะ 3 เมษายน ถ้าใครจะไปเที่ยวตามน่าจะไม่ทันดอกไม้แล้วละค่ะ คงต้องรอปีหน้านู้น
ต้องบอกก่อนว่า พอดีก็อปคำบรรยายมาจากที่เขียนลงในบล็อกไว้นานแล้วนะคะ
มันอาจจะเนือยๆเรื่อยๆไปสักหน่อย พอดีค่อนข้างขี้เกียจและก็ไม่ค่อยจะมีเวลาเท่าไร อมยิ้ม35
เลยไม่ได้เขียนใหม่ ถ้าน่าเบื่อก็ขออภัยด้วยค่า >< ดูรูปเอาเนอะ

เนื่องจากช่วงนี้เข้าฤดูใบไม้ผลิเต็มตัวแล้ว ที่ผ่านมาก็เก็บภาพดอกไม้ใบ้ไม้ได้เยอะเลยค่ะ
เดี๋ยวจะมีแถมๆรูปให้ได้ดูกัน ท้ายๆกระทู้ ยังไงฝากอ่าน ฝากติดตามด้วยค่ะ
ใครอยากเอารูปไปทำสวัสดีวันจันทร์ถึงวันอาทิตย์ให้พ่อให้แม่ อาม่าอากงใช้กันในไลน์ ก็เอาไปได้เลยค่ะ
ไม่ว่ากัน ไม่เก็บค่าลิขสิทธิ์ด้วย ฮ่าๆ แต่ขอให้มาบอกกันก่อนสักนิดก็จะขอบพระคุณค่ะ

ตอนนี้ไปดูทริปดูดอกเชอรี่ที่บอนน์กันก่อน…..

ช่วงสองสามวันก่อน อากาศในประเทศเยอรมันอุ่นขึ้นมาก ประมาณ 12-20 องศา เย็นสบาย ยิ่งวันไหนแดดออกจะว่าร้อนก็ได้
เพราะอากาศเย็นจัดมานานจากฤดูหนาวที่พึ่งผ่านพ้นไป แต่วันที่เดินทางไปบอนน์ เมืองบ้านเกิดของบีโทเฟ่น
อากาศเย็นลงอยู่ที่ 6-10 องศา แถมหมอกลงมองแทบไม่ค่อยจะเห็นอะไร เรียกว่าอากาศที่นี่เอาแน่เอานอนไม่ค่อยจะได้
ต้องตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางจะได้ใส่เสื้อผ้าถูก ถ้าเทียบกับที่ไทยที่ร้อนสม่ำเสมอ จริงๆแอบคิดอยู่ว่าก็ถือเป็นข้อดีนะ
เพราะไม่ต้องคอยเช็คสภาพอากาศด้วย ฮ่าๆ

น้องเป็ดและน้องหงส์ที่ท่าเรือ



ไปถึงบอนน์ก็นั่งจิบชา แก้ง่วง รอหมอกจาง รอพระอาทิตย์ที่พยากรณ์อากาศบอกว่าจะโผล่มาตอนเที่ยงๆ
พอใกล้ๆเที่ยง พระอาทิตย์ก็ยังไม่มาแต่คิดว่าคงไม่รอแล้วเดี๋ยวจะเสียเวลาไม่ได้เที่ยวหลายที่ ก็เลยนั่งรถไฟไม่เกิน 10 นาที
ไปเมืองใกล้ๆ ชื่อ Königswinter เพื่อจะไปดูปราสาท Schloss Drachenburg (ถ้าแปลก็คงอารมณ์ ปราสาทมังกร)
ต้องนั่งเรือข้ามฝากแม่น้ำไรน์ ค่าข้ามฝาก 1.20 ยูโรต่อเที่ยว และเดินขาลากขึ้นเขาไป
ซึ่งชันและสูงพอสมควร ชมนกชมไม้ระหว่างทาง บ้านคนบนเขาน่ารักมากๆ มีร้านอาหารข้างบนด้วย






เดินขึ้นมาก็เมื่อยเหมือนกัน แต่ชมวิวไปถ่ายรูปไปเพลินๆก็สนุกดี แต่ถ้าใครเดินขึ้นไม่ไหว
หรือไม่อยากเมื่อยก็มีรถไฟเป็นอีกหนึ่งทางเลือก

แต่ว่าพอไปถึงจริงๆ ไม่ได้เสียเงินเข้าไปดูในปราสาท ได้แต่แอบถ่ายรูปปราสาทจากร้านขายของที่ระลึก ฮ่าๆ
แวะซื้อไอศกรีมกินแล้วก็ไปเดินขึ้นเขาต่อ เดินขึ้นเขาตามทางไปเรื่อยๆก็จะมีปราสาทหินเก่าอีกที่นึง
Drachenfels ซึ่งอยู่สูงกว่า มองลงมาเห็นวิวแม่น้ำและเมืองได้รอบๆ แต่เสียดายที่หมอกยังไม่ค่อยจาง
เลยเห็นแค่ลางๆ แต่ก็ได้บรรยากาศและสวยไปอีกแบบเหมือนกันค่ะ (บุญมีแต่หมอกบัง)



มีคู่รักนั่งสวีทเป็นแบบให้พอดี โรแมนติกจริงๆ

นั่งรถกลับมายังเมืองบ้านเกิดของบีโทเฟ่นอีกครั้ง เพราะ จุดประสงค์หลักที่มา คืออยากมาดูดอกไม้
ช่วงนี้กำลังบานพอดี ที่ Altstadt อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองบอนน์ มีต้นเชอรี่สองข้างทาง เป็นสีชมพูได้ที่
กว่าจะถ่ายได้แต่ละรูปต้องคอยหลบรถและหลบคนตลอดเวลา 555 แต่คุ้มค่ามากเพราะสวยจริงๆ
ถ้าอยากได้รูปสวยๆไม่มีคนและรถผ่านแนะนำให้มาช่วงเช้าๆ ไม่ก็ดึกๆไปเลย
อาจจะสงบและสะดวกในการชื่นชมได้มากกว่า แต่ขนาดว่าไปตอนบ่ายๆคนเยอะ
ที่ว่าถ่ายไม่ค่อยสะดวกก็ได้รูปมาเยอะมากกก เชิญชมให้จุใจ



ถ่ายเสร็จจนหนำใจแล้ว ก็เลยเดินเล่นในเมืองอีกนิดหน่อย ก่อนกลับ
จะว่าไปบอนน์ก็มีตึกที่มีสถาปัตยกรรมสวยงามและเก่าแก่เยอะเหมือนกัน
ที่สำคัญบรรยากาศคึกคักตามสไตล์เมืองใหญ่และเป็นเมืองท่องเที่ยว
ยิ่งวันที่แดดออกดีๆ จะเห็นผู้คนออกมาจิบกาแฟตามคาเฟ่นั่งตากแดดกันเป็นเรื่องปกติ
ลองมาทำแบบนี้ที่ไทย มีหวังเนื้อสุกกันพอดี

รูปปั้นเบโทเฟ่น


เดินไปตามทางเรื่อยๆก็ถึงสถานีรถไฟ เป็นอันว่าจบทริป...


ตามสัญญา มาว่ากันด้วยเรื่อง "ฤดูใบไม้ผลิ - Spring - Frühling "
เข้าใจแล้วทำไมเมืองไทยไม่มีฤดูนี้

ที่นี่นอกจากหน้าร้อนและฤดูใบไม้ผลิแล้ว ก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเห็นดอกไม้


หลังจากเหน็บหนาว แห้งแล้งอยู่นาน ดอกไม้ก็จะขึ้นพร้อมๆกัน ในช่วงเวลานี้ และอยู่ไม่นานก็ร่วงไปกลายเป็นเวลาของใบไม้บ้าง

ซึ่งบ้านเราดอกไม้ขึ้นไม่พร้อมกัน แล้วแต่พันธุ์แล้วแต่ชนิด ผลัดกันขึ้นหน้าร้อนบ้าง หน้าฝนบ้าง หน้าหนาวบ้าง
ก็ยังมีให้เห็นกันตลอด ที่สำคัญใบไม้ไม่มีร่วง มีแต่ต้นไม้ตายทีเดียวเลยตอนฤดูแล้ง เอ้ย ฤดูร้อน!

เพราะฉะนั้น มันคงทำให้การผลิของดอกไม้และใบไม้ของที่นี่จึงมีความสำคัญควรค่าพอที่จะมีชื่ออยู่เป็นหนึ่งในฤดูกาล
(ถูกมั้ยก็ไม่รู้ คิดเองเออเองล้วนๆ เรียกว่า มั่วก็ได้ 555)

อย่างที่บอกไปว่าพอเข้าฤดูใบไม้ผลิ ดอกไม้ก็มากันเยอะแยะไปหมด ถ่ายๆรูปเก็บไว้ ไม่รู้ว่าคือดอกอะไรบ้าง
ยังมีที่ถ่ายไม่ทันก็เยอะ เสียดายดอกทิวลิปแดงที่ขึ้นเองตามเกาะกลางถนน พอจะมีเวลาไปถ่ายก็เหี่ยวแห้งไปหมดแล้ว



หมดแล้ว ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคะ

ฝากเพจและบล็อคบันทึกคนบ้าเที่ยวไว้ด้วยนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่