สวัสดีทุกท่านนะครับ...
ปกติการเที่ยวเอง ผมจะไปเที่ยวต่างประเทศเองแบบแบ็คแพ็คตลอดครับ พึ่งมีครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่ได้ไปกับทัวร์ ไปกับทัวร์ครั้งแรกเมื่อ ปลายๆเดือนเมษายน 2560 ครั้งนั้นโปรไฟไหม้ไปโซล 4 วัน 3 คืน 10,900 บาท + ค่าไกด์ 1,050 บาท (ว่าถูกแล้วนะครับ) แต่ไม่ได้ทำรีวิว ครั้งนี้ไปในราคาโปรไฟไหม้อีก ไปค่ำๆวันที่ 17 กลับดึกๆ 21 พค.60 ไปที่ เกาะเชจู เกาหลีใต้ ในราคา 7,777 บาท + ค่าไกด์ 1,200 บาท นอนโรงแรม 3 ดาว เลี้ยงอาหาร 10 มื้อ (โปร 6990 บาทก็มีนะครับ แต่แค่ 2 คืนเอง) เห็นว่าถูกดี เลยรีบคว้าเลย ท่านใดที่มีงานประจำ ถ้าลาด่วนได้ ก็ฟันโปรนี้ได้ครับ เตรียมพาสปอร์ตให้พร้อม เสื้อผ้าให้พร้อม พอโปรมา ก็จองเลย ไม่ยากครับ ทัวร์เค้าจะมีมาเรื่อยๆครับ เค้าจะถือว่าปล่อยราคาถูกๆดีกว่าไม่ได้อะไรเลย
ส่วนเอเย่นต์ ทัวร์โปรไฟไหม้ ใน Facebook จะมีหลายๆเจ้าครับ พอมีคนจอง เค้าจะส่งชื่อเราไปเข้าบริษัททัวร์ตัวจริงเลย ผมเลือกเอาเจ้าที่มีลูกเพจหลักแสน กับดูประวัติผ่านๆมาเอาครับ (แต่ก็เล็งๆ เจ้าที่เพจหลักหมื่นเหมือนกัน เห็นมีหลายเจ้า)
โปรไฟไหม้ ส่วนมากจะมาก่อนวันไปวันนึง เหมือนๆ ที่นั่งหลุด หรือว่างเนี่ยแหละครับ เค้าจะไม่ให้เสียเปล่า ก็เลยมาเลหลังถูกๆ ยิ่งถ้าเลหลังเช้าวันนั้น และเดินทางเย็นวันนั้น ราคายิ่งถูกลงอีก ส่วนผมตอนนี้ ไม่ได้ทำงานแล้ว ลาออกมากินบำนาญ เลยไม่เป็นปัญหาเท่าไหร่ ไปกับพี่อีกคนที่เกษียณหลายปีแล้ว
หลักๆ เลย หลังจากเราโอนเงินให้เค้าภายในครึ่งชั่วโมงแล้ว ก็ถ่ายรูปหน้าพาสปอตส่งให้เค้า แล้วเค้าจะส่งใบนัดมาให้เราทางอีเมล์ ว่าเจอกันเวลาเท่าไหร่ กับบริษัททัวร์อะไร ที่เค้าเตอร์อะไร จะมีเจ้าหน้าที่มาคอยต้อนรับแถวๆเคาเตอร์ ส่วนโปรแกรมเที่ยวนั้น จะอยู่ในเพจเฟสบุ้คที่เค้าโฆษณาอยู่แล้ว แต่อย่าไปยึดติดโปรแกรมนะครับ เพราะเค้าจะเปลี่ยนแปลงโปรแกรมตามสถานการณ์ ตามความเหมาะสม (จะมีหมายเหตุบอกในโปรแกรม)
ไปด้วยสายการบิน Jinair ที่นั่ง 2 ฝั่ง ๆ ละ 3 คน โหลดกระเป๋าใต้ท้องเครื่อง ได้ไม่เกิน 15 กก. แอร์โฮสเตส หน้าตาก็สวยดี แบบเกาหลีสุดๆ สูง ใส่กางเกงยีนส์ เอกสารเข้าเมือง ออกเมือง ทางทัวร์เค้าพิมพ์ให้เสร็จ แล้วใส่ซองให้เราเลยครับ แค่เซ็นอย่างเดียว แล้วพนักงานก็จะเก็บเงินเราอีก 1,200 บาทเป็นค่าไกด์ ซึ่งค่าไกด์จะประมาณนี้ครับ ถ้าไป 2 คืน ค่าไกด์บางทีเห็นเก็บ 750 บาท ตอนไปโซล เก็บค่าไกด์ 1,050 บาทครับ
ที่นั่งบนเครื่องบิน จะจัดเรียงตาม มาก่อนจะได้นั่งแถวหน้าๆ มาหลัง ก็จะได้นั่งแถวหลังๆครับ
ตัดมาที่สนามบินเชจูเลยนะครับ ทางกรุ้ปทัวร์ครั้งนี้ มีประมาณ 140 คน (จำไม่ได้ชัดว่าเท่าไหร่) ผ่านรอดตม.หมดทุกคน แต่หลังผ่านมาแล้ว ก็กระโดดหนีไป 2 คน 555 ส่วนคราวที่แล้วที่ไปโซล กรุ้ป 24 คน ผ่านรอดตม.ทุกคนเหมือนกัน แต่พอผ่านไปแล้ว ก็โดดหายไป 7 คน ครับ 555
พอโผล่พ้นศุลกากรแล้ว ทางไกด์ทัวร์ของเกาหลี ก็ยืนถือป้ายชื่อบริษัทัวร์ต้อนรับ คอยบอกว่า จุดนี้คือบัสคันไหน (มี 4 บัส) ในบัส 1 คัน จะมีไกด์เกาหลีพูดไทยได้ 1 คน ผู้ช่วยไกด์ 1 คน หัวหน้าทัวร์(คนไทย) 1 คน และลูกทัวร์ ประมาณ 35 คน ไปถึงที่สนามบินประมาณ 10 โมงเช้ากว่าๆ (ผู้ช่วยไกด์ เป็นคนที่ทางร้านถ่ายรูปส่งมาช่วยทุกอย่าง และจะถ่ายรูปตอนที่ลูกทัวร์เดินเที่ยว ในแต่ละแห่ง พอถึงวันสุดท้าย จะนำรูปที่อัดเป็นรูปใหญ่ มาขายให้ใบละ 150 บาท ทั้งนี้ ทั้งนั้น ไม่ได้บังคับว่าจะต้องซื้อ แล้วแต่ทางลูกทัวร์จะเลือก ส่วนผมก็เอามาแค่ใบเดียว มีรูปผมแค่รูปเดียว เพราะผมจะเซลฟี่ตลอด 55 จนทางผู้ช่วยไกด์ไม่ได้ถ่ายรูปผมเลย 555 (บางทีจะถ่ายผม ผมรีบปฏิเสธ อิอิ)
ลูกทัวร์ก็เดินตามไกด์ไปที่ลานจอดรถ
พอออกเดินทางแล้ว ทางไกด์ กับหัวหน้าทัวร์ ก็แนะนำตัว และอธิบายสถานที่จะไปเที่ยว
ใกล้เที่ยงแล้ว ก็พาไปทานข้าวมื้อเที่ยงก่อน รูปหน้าร้าน
เป็นอาหารเกาหลี จัดโต๊ะให้นั่งโต๊ะละ 4 คน มีปลาซาบะ กับเครื่องเคียงเติมได้ไม่อั้น ซึ่งทางไกด์ ผู้ช่วยไกด์ และหัวหน้าทัวร์ จะช่วยกันเสริฟตลอดเวลา ขออภัยด้วยครับที่สภาพอาหารไม่สวย ผมมาถ่ายตอนตักทานแล้ว
ที่แรก ก็พาไปวัด Bomunsa ซึ่งอยู่ใกล้ๆทะเล
มองไปด้านหน้าวัด เป็นทะเล
อีกมุมหนึ่ง
ด้านหน้าวัดจะมีร้านกาแฟ นั่งดื่มชมวิวทะเลด้วย
หลังจากครบเวลา ก็ขึ้นรถไปต่อที่สวนบอนไซ ในการไปแต่ละจุด ทางไกด์จะนัดเวลากลับมาที่รถ ซึ่ง ผมว่า ไม่รีบอะไรมากมายครับ
บ่อปลาคราฟ
ด้านหน้าสวนบอนไซ
หลังจากนั้นก็ขึ้นรถ เดินทางไปไร่ชาเขียวต่อ
เขียวๆ สวยดี
พอชมไร่ชาเขียวเสร็จแล้ว ก็เดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม จะเป็นที่ชมไร่บนชั้น 3 จะมีของฝาก เครื่องดื่ม ขนมขายด้วย
ขายดี คนซื้อ คนนั่งทาน เยอะมากๆ
มีห้องให้ชมอุปกรณ์ดื่มชาเขียวสมัยก่อนด้วยครับ
บรรยากาศไร่ชา จากชั้น 3
จากนั้น พาไปทานอาหารเย็นที่ร้านนี้ครับ
บรรยากาศในร้านครับ
อาหารมาแล้ว เป็นไก่ทั้งตัว ยัดไส้ด้วยข้าวครับ ใส่เหล้าเกาหลีด้วย เป็นจอกเล็กๆครับ
ทานข้าวเสร็จก็มาที่รร.เพื่อเช็คอินครับ ทางไกด์จะแจ้งว่า ใครจะได้ห้องเบอร์อะไร และแจ้งรายละเอียดการเข้าพักต่างๆ นัดหมายว่า จะปลุกด้วยโทรศัพท์ในห้อง เวลา 06.00 น. ทานข้าว 07.00 น. ออกเดินทาง 08.00 น. แต่ละคนก็ไม่เลทกันเท่าไหร่ครับ
กำลังรับกุญแจห้องกัน รร.ที่นี่เค้าบอกไม่มีชั้น 4 นะครับ เค้าถือว่าเลข 4 เป็นเลขไม่ดี ในลิฟท์จะเป็นชั้น 3 แล้วชั้น 5 เลยครับ
ทางเข้าไปห้องอาหาร
บันได
ห้องนอนครับ ผมว่าสะอาดมากๆ
วันที่ 2
บรรยากาศยามเช้านอกหน้าต่าง
มื้อเช้าเป็นบุฟเฟ่ต์ของทางโรงแรมครับ ทานเสร็จแล้วต้องเก็บจานเองนะครับ นำไปเก็บตรงที่จัดให้ เทเศษอาหารเองครับ
หน้าห้องอาหาร จะมีร้านสะดวกซื้อ ร้าน CU ร้านยอดฮิตของเกาหลีครับ คล้ายๆเซเว่น หมดค่าเบียร์ไปเยอะเลย 555
ทานข้าวเสร็จ ก็มาขึ้นรถ เช้านี้ที่แรก ไป Teddy Bear Museum Jeju
]
หลังจากนั้น ก็เดินทางมาที่อุทยานภูเขาฮัลลาซาน
เดินเข้าไปในอุทยานครับ
รถราง ลำเลียงเจ้าหน้าที่ อุปกรณ์ไปทำงานบนเขา
โรงถังขยะแบบแยกประเภท
สถานีชาร์จรถไฟฟ้า
เสร็จจากที่นี่ ก็ออกเดินทางไปชมสำนักงานของแอพแชทชื่อดังของเกาหลี คือ kakao ครับ
[CR] รีวิว ลองเที่ยวกับทัวร์โปรไฟไหม้ เกาะเชจู เกาหลีใต้ 7,777 บาท + ค่าไกด์ 1,200 บาท 4 วัน 3 คืน นอน รร.3 ดาว ดูครับ
สวัสดีทุกท่านนะครับ...
ปกติการเที่ยวเอง ผมจะไปเที่ยวต่างประเทศเองแบบแบ็คแพ็คตลอดครับ พึ่งมีครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่ได้ไปกับทัวร์ ไปกับทัวร์ครั้งแรกเมื่อ ปลายๆเดือนเมษายน 2560 ครั้งนั้นโปรไฟไหม้ไปโซล 4 วัน 3 คืน 10,900 บาท + ค่าไกด์ 1,050 บาท (ว่าถูกแล้วนะครับ) แต่ไม่ได้ทำรีวิว ครั้งนี้ไปในราคาโปรไฟไหม้อีก ไปค่ำๆวันที่ 17 กลับดึกๆ 21 พค.60 ไปที่ เกาะเชจู เกาหลีใต้ ในราคา 7,777 บาท + ค่าไกด์ 1,200 บาท นอนโรงแรม 3 ดาว เลี้ยงอาหาร 10 มื้อ (โปร 6990 บาทก็มีนะครับ แต่แค่ 2 คืนเอง) เห็นว่าถูกดี เลยรีบคว้าเลย ท่านใดที่มีงานประจำ ถ้าลาด่วนได้ ก็ฟันโปรนี้ได้ครับ เตรียมพาสปอร์ตให้พร้อม เสื้อผ้าให้พร้อม พอโปรมา ก็จองเลย ไม่ยากครับ ทัวร์เค้าจะมีมาเรื่อยๆครับ เค้าจะถือว่าปล่อยราคาถูกๆดีกว่าไม่ได้อะไรเลย
ส่วนเอเย่นต์ ทัวร์โปรไฟไหม้ ใน Facebook จะมีหลายๆเจ้าครับ พอมีคนจอง เค้าจะส่งชื่อเราไปเข้าบริษัททัวร์ตัวจริงเลย ผมเลือกเอาเจ้าที่มีลูกเพจหลักแสน กับดูประวัติผ่านๆมาเอาครับ (แต่ก็เล็งๆ เจ้าที่เพจหลักหมื่นเหมือนกัน เห็นมีหลายเจ้า)
โปรไฟไหม้ ส่วนมากจะมาก่อนวันไปวันนึง เหมือนๆ ที่นั่งหลุด หรือว่างเนี่ยแหละครับ เค้าจะไม่ให้เสียเปล่า ก็เลยมาเลหลังถูกๆ ยิ่งถ้าเลหลังเช้าวันนั้น และเดินทางเย็นวันนั้น ราคายิ่งถูกลงอีก ส่วนผมตอนนี้ ไม่ได้ทำงานแล้ว ลาออกมากินบำนาญ เลยไม่เป็นปัญหาเท่าไหร่ ไปกับพี่อีกคนที่เกษียณหลายปีแล้ว
หลักๆ เลย หลังจากเราโอนเงินให้เค้าภายในครึ่งชั่วโมงแล้ว ก็ถ่ายรูปหน้าพาสปอตส่งให้เค้า แล้วเค้าจะส่งใบนัดมาให้เราทางอีเมล์ ว่าเจอกันเวลาเท่าไหร่ กับบริษัททัวร์อะไร ที่เค้าเตอร์อะไร จะมีเจ้าหน้าที่มาคอยต้อนรับแถวๆเคาเตอร์ ส่วนโปรแกรมเที่ยวนั้น จะอยู่ในเพจเฟสบุ้คที่เค้าโฆษณาอยู่แล้ว แต่อย่าไปยึดติดโปรแกรมนะครับ เพราะเค้าจะเปลี่ยนแปลงโปรแกรมตามสถานการณ์ ตามความเหมาะสม (จะมีหมายเหตุบอกในโปรแกรม)
ไปด้วยสายการบิน Jinair ที่นั่ง 2 ฝั่ง ๆ ละ 3 คน โหลดกระเป๋าใต้ท้องเครื่อง ได้ไม่เกิน 15 กก. แอร์โฮสเตส หน้าตาก็สวยดี แบบเกาหลีสุดๆ สูง ใส่กางเกงยีนส์ เอกสารเข้าเมือง ออกเมือง ทางทัวร์เค้าพิมพ์ให้เสร็จ แล้วใส่ซองให้เราเลยครับ แค่เซ็นอย่างเดียว แล้วพนักงานก็จะเก็บเงินเราอีก 1,200 บาทเป็นค่าไกด์ ซึ่งค่าไกด์จะประมาณนี้ครับ ถ้าไป 2 คืน ค่าไกด์บางทีเห็นเก็บ 750 บาท ตอนไปโซล เก็บค่าไกด์ 1,050 บาทครับ
ที่นั่งบนเครื่องบิน จะจัดเรียงตาม มาก่อนจะได้นั่งแถวหน้าๆ มาหลัง ก็จะได้นั่งแถวหลังๆครับ
ตัดมาที่สนามบินเชจูเลยนะครับ ทางกรุ้ปทัวร์ครั้งนี้ มีประมาณ 140 คน (จำไม่ได้ชัดว่าเท่าไหร่) ผ่านรอดตม.หมดทุกคน แต่หลังผ่านมาแล้ว ก็กระโดดหนีไป 2 คน 555 ส่วนคราวที่แล้วที่ไปโซล กรุ้ป 24 คน ผ่านรอดตม.ทุกคนเหมือนกัน แต่พอผ่านไปแล้ว ก็โดดหายไป 7 คน ครับ 555
พอโผล่พ้นศุลกากรแล้ว ทางไกด์ทัวร์ของเกาหลี ก็ยืนถือป้ายชื่อบริษัทัวร์ต้อนรับ คอยบอกว่า จุดนี้คือบัสคันไหน (มี 4 บัส) ในบัส 1 คัน จะมีไกด์เกาหลีพูดไทยได้ 1 คน ผู้ช่วยไกด์ 1 คน หัวหน้าทัวร์(คนไทย) 1 คน และลูกทัวร์ ประมาณ 35 คน ไปถึงที่สนามบินประมาณ 10 โมงเช้ากว่าๆ (ผู้ช่วยไกด์ เป็นคนที่ทางร้านถ่ายรูปส่งมาช่วยทุกอย่าง และจะถ่ายรูปตอนที่ลูกทัวร์เดินเที่ยว ในแต่ละแห่ง พอถึงวันสุดท้าย จะนำรูปที่อัดเป็นรูปใหญ่ มาขายให้ใบละ 150 บาท ทั้งนี้ ทั้งนั้น ไม่ได้บังคับว่าจะต้องซื้อ แล้วแต่ทางลูกทัวร์จะเลือก ส่วนผมก็เอามาแค่ใบเดียว มีรูปผมแค่รูปเดียว เพราะผมจะเซลฟี่ตลอด 55 จนทางผู้ช่วยไกด์ไม่ได้ถ่ายรูปผมเลย 555 (บางทีจะถ่ายผม ผมรีบปฏิเสธ อิอิ)
ลูกทัวร์ก็เดินตามไกด์ไปที่ลานจอดรถ
พอออกเดินทางแล้ว ทางไกด์ กับหัวหน้าทัวร์ ก็แนะนำตัว และอธิบายสถานที่จะไปเที่ยว
ใกล้เที่ยงแล้ว ก็พาไปทานข้าวมื้อเที่ยงก่อน รูปหน้าร้าน
เป็นอาหารเกาหลี จัดโต๊ะให้นั่งโต๊ะละ 4 คน มีปลาซาบะ กับเครื่องเคียงเติมได้ไม่อั้น ซึ่งทางไกด์ ผู้ช่วยไกด์ และหัวหน้าทัวร์ จะช่วยกันเสริฟตลอดเวลา ขออภัยด้วยครับที่สภาพอาหารไม่สวย ผมมาถ่ายตอนตักทานแล้ว
ที่แรก ก็พาไปวัด Bomunsa ซึ่งอยู่ใกล้ๆทะเล
มองไปด้านหน้าวัด เป็นทะเล
อีกมุมหนึ่ง
ด้านหน้าวัดจะมีร้านกาแฟ นั่งดื่มชมวิวทะเลด้วย
หลังจากครบเวลา ก็ขึ้นรถไปต่อที่สวนบอนไซ ในการไปแต่ละจุด ทางไกด์จะนัดเวลากลับมาที่รถ ซึ่ง ผมว่า ไม่รีบอะไรมากมายครับ
บ่อปลาคราฟ
ด้านหน้าสวนบอนไซ
หลังจากนั้นก็ขึ้นรถ เดินทางไปไร่ชาเขียวต่อ
เขียวๆ สวยดี
พอชมไร่ชาเขียวเสร็จแล้ว ก็เดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม จะเป็นที่ชมไร่บนชั้น 3 จะมีของฝาก เครื่องดื่ม ขนมขายด้วย
ขายดี คนซื้อ คนนั่งทาน เยอะมากๆ
มีห้องให้ชมอุปกรณ์ดื่มชาเขียวสมัยก่อนด้วยครับ
บรรยากาศไร่ชา จากชั้น 3
จากนั้น พาไปทานอาหารเย็นที่ร้านนี้ครับ
บรรยากาศในร้านครับ
อาหารมาแล้ว เป็นไก่ทั้งตัว ยัดไส้ด้วยข้าวครับ ใส่เหล้าเกาหลีด้วย เป็นจอกเล็กๆครับ
ทานข้าวเสร็จก็มาที่รร.เพื่อเช็คอินครับ ทางไกด์จะแจ้งว่า ใครจะได้ห้องเบอร์อะไร และแจ้งรายละเอียดการเข้าพักต่างๆ นัดหมายว่า จะปลุกด้วยโทรศัพท์ในห้อง เวลา 06.00 น. ทานข้าว 07.00 น. ออกเดินทาง 08.00 น. แต่ละคนก็ไม่เลทกันเท่าไหร่ครับ
กำลังรับกุญแจห้องกัน รร.ที่นี่เค้าบอกไม่มีชั้น 4 นะครับ เค้าถือว่าเลข 4 เป็นเลขไม่ดี ในลิฟท์จะเป็นชั้น 3 แล้วชั้น 5 เลยครับ
ทางเข้าไปห้องอาหาร
บันได
ห้องนอนครับ ผมว่าสะอาดมากๆ
วันที่ 2
บรรยากาศยามเช้านอกหน้าต่าง
มื้อเช้าเป็นบุฟเฟ่ต์ของทางโรงแรมครับ ทานเสร็จแล้วต้องเก็บจานเองนะครับ นำไปเก็บตรงที่จัดให้ เทเศษอาหารเองครับ
หน้าห้องอาหาร จะมีร้านสะดวกซื้อ ร้าน CU ร้านยอดฮิตของเกาหลีครับ คล้ายๆเซเว่น หมดค่าเบียร์ไปเยอะเลย 555
ทานข้าวเสร็จ ก็มาขึ้นรถ เช้านี้ที่แรก ไป Teddy Bear Museum Jeju
]
หลังจากนั้น ก็เดินทางมาที่อุทยานภูเขาฮัลลาซาน
เดินเข้าไปในอุทยานครับ
รถราง ลำเลียงเจ้าหน้าที่ อุปกรณ์ไปทำงานบนเขา
โรงถังขยะแบบแยกประเภท
สถานีชาร์จรถไฟฟ้า
เสร็จจากที่นี่ ก็ออกเดินทางไปชมสำนักงานของแอพแชทชื่อดังของเกาหลี คือ kakao ครับ