BDMS กันสำรองก้อนโต กรณียกเลิก”ไลฟ์พริวิเลจคลับ-Phyathai Ultimate Trust Card” สมาชิกฟ้องเรียกค่าเสียหาย 2,400 ล้าน



หลังจากบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS ซึ่งมี นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่และเป็นเศรษฐีหุ้นไทยอันดับหนึ่งของเมืองไทยที่ครองตำแหน่งนี้ต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 4 แล้ว และติดอันดับ50 เศรษฐีไทยของนิตยสารฟอร์บส์เอเชีย โดยโรงพยาบาลกรุงเทพและโรงพยาบาลพญาไท 2 ซึ่งเป็นโรงพยาบาลในเครือ BDMS ได้ยกเลิกโครงการรักษาฟรีตลอดชีวิตของสมาชิก โดยให้อ้างว่าโครงการดังกล่าวเข้าข่ายเป็นสัญญาประกันภัย ซึ่งโรงพยาบาลไม่มีใบอนุญาต จึงเป็นเหตุให้โรงพยาบาลกรุงเทพและโรงพยาบาลพญาไท2 แจ้งสมาชิกเพื่อยกเลิกโครงการดังกล่าวเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2560 นอกจากนี้ตามมาตรฐานบัญชีใหม่โครงการนี้บริษัทจะต้องตั้งวงเงินสำหรับกันสำรองเป็นเงินหลายพันล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากรายงานผลประกอบการไตรมาสแรก ปี 2560 ของ BDMS มีบันทึกหนี้สินที่ต้องสำรองจ่ายชดเชยสมาชิกจากกรณียกเลิกสัญญารักษาพยาบาลตลอดชีพอีกประมาณ 1,000 ล้านบาท แต่ค่าชดเชยดังกล่าวอาจสูงมากขึ้นเนื่องจากสมาชิกอยู่ระหว่างยื่นฟ้อง BDMS เบื้องต้นพบสมาชิกไลฟ์พริวิเลจคลับกลุ่มหนึ่งฟ้องเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 2,400 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2560 บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) ได้รายงานงบการเงินไตรมาสที่ 1/2560 แก่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า มีรายได้จากการดำเนินการรวมในไตรมาสแรกปี 2560 จำนวน 17,395 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 1 จากไตรมาสแรกของปี 2559 โดยการเติบโตชะลอตัวลงเนื่องจากผู้ป่วยชาวไทยลดจำนวนลง

นอกจากนี้ บริษัท สำนักงาน อีวาย จำกัด ผู้ตรวจสอบบัญชีของ BDMS ได้หมายเหตุในงบการเงินโดยรายงานข้อมูลและเหตุการณ์ที่เน้นมีรายละเอียดดังนี้

“ข้าพเจ้าขอให้สังเกตหมายเหตุประกอบงบการเงินระหว่างกาลข้อ 11 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีโครงการให้การรักษาพยาบาลโดยคิดค่าใช้จ่ายเพียงเล็กน้อยให้แก่สมาชิกที่ได้จ่ายค่าสมาชิกล่วงหน้าเป็นระยะเวลาตลอดชีพ ซึ่งโครงการดังกล่าวได้ยุติแล้วด้วยเหตุผลทางกฎหมาย โดยบริษัทฯ และบริษัทย่อย เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2560 และ 2 กุมภาพันธ์ 2560 ตามลำดับ บริษัทฯ และบริษัทย่อยได้บันทึกหนี้สินไว้ในงบการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2559 โดยถือตามตัวเลขจำนวนเงินที่คาดว่าจะจ่ายคืนและชดเชยให้แก่สมาชิกจากการยุติโครงการในปี 2560 เป็นจำนวนประมาณ 964 ล้านบาท (เฉพาะบริษัทฯ ประมาณ 820 ล้านบาท) ซึ่งในระหว่างงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2560 สมาชิกบางส่วนในงบการเงินรวมจำนวน 172 ราย จาก 334 ราย และในงบการเงินเฉพาะกิจการจำนวน 143 รายจาก 282 ราย ได้ตกลงยอมรับข้อเสนอดังกล่าวและรับเงินจากบริษัทฯ และบริษัทย่อยแล้ว (ณ วันที่ 31 มีนาคม 2560 หนี้สินจากการยุติโครงการให้การรักษาพยาบาลตลอดชีพ ซึ่งคำนวณจากจำนวนเงินค่าสมาชิกที่ต้องจ่ายคืนและเงินชดเชยที่อาจต้องจ่ายคืนให้กับอดีตสมาชิกที่ยังไม่ตอบรับข้อเสนอในงบการเงินรวมและงบการเงินเฉพาะกิจการมีจำนวนประมาณ 486 ล้านบาทและ 407 ล้านบาทตามลำดับ) แต่สมาชิกบางส่วนยังไม่ได้ตอบรับข้อเสนอดังกล่าวและได้ยื่นฟ้องบริษัทฯ ต่อศาลเพื่อให้บริษัทฯ ดำเนินโครงการต่อไปและบางส่วนได้ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากบริษัทฯ ซึ่งขณะนี้คดีความดังกล่าวอยู่ระหว่างขั้นตอนทางกฎหมาย ซึ่งผลของคดียังไม่สามารถสรุปได้ขณะนี้”

หลังจากเปิดเผยงบการเงินไตรมาสแรก หุ้นของ BDMS ปรับตัวลดลงทันทีและลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงวันที่ 15-17 พฤษภาคม 2560 มีราคาปิด ณ วันที่ 17 พฤษภาคมที่ 18.80 บาท/หุ้น

อนึ่ง BDMS ถูกสมาชิกโครงการไลฟ์พริวิเลจคลับ รวม 102 คน ยื่นฟ้องกรณีผิดสัญญาการให้บริการรักษาพยาบาลตลอดชีพเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2560 เพื่อขอให้โรงพยาบาลกรุงเทพยังคงสัญญาการรักษาในโครงการไลฟ์พริวิเลจคลับตามเดิม และยังมีสมาชิกไลฟ์พริวิเลจคลับอีกรวม 21 คน ยื่นฟ้องให้โรงพยาบาลกรุงเทพชดเชยค่าเสียหายกรณียกเลิกสัญญาเป็นจำนวนเงินรวมประมาณ 2,400 ล้านบาท

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2560 สมาชิกโครงการ Phyathai Ultimate Trust Card (Elite/Prime) 52 คน ของโรงพญาบาลพญาไท 2 ได้เข้าร้องเรียนกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคหลังโรงพญาบาลพญาไท 2 ยกเลิกสัญญาบริการสุขภาพตลอดชีพด้วย

ทั้งนี้ ตัวแทนสมาชิกไลฟ์พริวิเลจคลับกลุ่มที่ฟ้องร้องให้โรงพยาบาลกรุงเทพคงสัญญาไว้ตามเดิมนั้นได้ให้ความเห็นว่า อาจจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากโรงพยาบาลกรุงเทพด้วยในจำนวนเงินชดเชยประมาณ 100 ล้านบาทต่อคน

Link : http://thaipublica.org/2017/05/bdms-10/
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่