มีอีกเรื่อง เพราะเห็นพูดถึงเป๊บซี่เลิกใช้ขวดแก้ว

เดี๋ยวนี้ มีขวดอีกแบบขนาดเล็ก (อันที่ 3) ยี่ห้อ est ที่หน้าตาต่างออกไป
ซึ่งเบื้องหลัง เกี่ยวข้องกันกับเป๊บซี่ ที่เลิกใช้ขวดแก้ว

เพราะ est อยู่ในเครือเดียวกับเบอรรี่ยุคเกอร์ (BJC) ที่ผลิตขวดให้เบียร์ช้าง
พูดง่ายๆ ในเครือเสี่ยเจริญทั้งหมด
เลยใช้ความสามารถตรงนี้ให้เป็นประโยชน์ ผลิตเอง ใช้เอง


ต่างจากรายอื่น โดยเฉพาะ pepsi ที่ถ้าจะใช้ขวดแก้ว ต้องยืมจมูกคนอื่นหายใจ
ใช้ขวดพลาสติก หายใจคล่องกว่า เพราะมีผู้ผลิตในตลาดเยอะมาก โรงงานก๊องแก๊งชาวบ้านๆ นำเข้าเครื่องจักจากจีน ยนังมาเป่ขวดเองยังได้ ต่างจากกระบวนการผลิตขวดแก้ว


คนที่ติดตาม จะรู้ว่า est มีที่มาจากที่เสี่ยเจริญไปครอบงำกิจการ (take over) เสริมสุข แบบเป็นมิตรคือเต็มใจให้เอง เมื่อ 7 ปีก่อน
หลังจากสงครามศักดิ์ศรี ที่เสริมสุขเป็นผู้บรรจุขวดและทำตลาดของเป๊ปซี่มายาวนาน จนเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศ ที่ pepsi มียอดสูงกว่า coke จนวันหนึ่ง เป๊บซี่อยากมาทำเอง เลยเสนอซื้อ
^{(หมายเหตุ: business model ของโค้ก และเป๊ปซี่ เหมือนกันคือ ขายหัวเชื้อ แล้วให้ผู้บรรจุขวดแต่ละประเทศขายเอง ในไทย pepsi เดิมคือเสริมสุข โค้กคือ ไทยน้ำทิพย์+หาดทิพย์ (หาดทิพย์ได้ทางภาคใต้ รง.อยู่ที่หาดใหญ่)
รสชาติต่างกันแต่ละประเทศ ไม่ใช่อุปาทาน เพราะฝีมือบริษัท local แต่ละแห่งไม่เหมือนกัน แหล่งน้ำใช้ผสมไม่เหมือนกัน อย่าคนชายแดนกัมพูชา บางคนชอบโค้กไทยมากกว่าโค้กในกัมพูชา ในพนมเปญยุคแรก โค้กกระป๋องบางที่นำเข้าจากสิงคโปร์
แต่ประเทศเดียวกัน ถ้าผู้ผลิตเดียวกัน รู้สึกรสชาติต่าง นั่นอุปาทานแน่นอน)}


พอ pepsi คิดจะทำเอง จะ take over เสริมสุข ในราคาที่มองว่าดูถูก เพราะเตี้ยติดดิน แบบนี้ฝรั่งเรียกว่าการครอบงำกิจการแบบไม่เป็นมิตร hostile takeover เพราะไม่เต็มใจขายแล้ว
หลังจากยื้อมานาน ช่วงหนึ่งมีคนตระกูลโอสถนานุเคราะห์ที่เป็นนักลงทุนในตลาดหุ้นชื่อดังด้วยก็เคยมาช่วยยื้อให้
สุดท้ายเข้าจังหวะ ที่เสี่ยเจริญ อยากจะได้ผลิตภัณฑ์ non-alcohol เพิ่มพอดี

เป๊ปซี่เลยอกหัก เซถลาไปพักใหญ่ เป็นโอกาสทองของโค้กในตลาดไทย หลังจากรอคอยวันนี้มานาน
สุดท้ายไปตั้งตัว ได้โรงงานเบียร์ซานมิเกลที่ระยอง (อมตะซิตี้)