สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 15
ถ้าเหตุการณ์ อย่างนี้เกิดกับผมและลูก ผมคงดีใจอย่างบอกไม่ถูกเลยที่ลูก จะตัดสินใจมาดูแล
ผมเมื่อตอนที่ผมป่วย.. มันเป็นสิ่งที่สวยงามมากๆ ในฐานะมนุษย์คนนึง ตอบแทนให้กับมนุษย์อีกคนนึง
แต่...มันไม่ใช่สิ่งที่ดี ที่ถูกต้องสำหรับผมแน่ๆ...ผมเชื่อว่าของขวัญสุดล้ำค่าที่สุด ของพ่อ-แม่
คือได้เห็น ลูกๆ เติบโต และประสบความสำเร็จ ในชีวิต ต่างหาก ถ้าเป็นผมๆ คง
ไม่ให้ ลูกผม ลาออกมาเลี้ยงดู ผมๆ จะอธิบายทุกอย่างให้เขาเข้าใจและเปลี่ยนใจ
ผมจะเป็นยังไงก็ได้..ถึงเวลานั้นคงทำใจได้ แต่ผมต้องไม่ใช่คนที่จะทำลาย อนาคตของลูกผมแน่ๆ
คิดให้ดีๆครับ..การตอบแทน การดูแล มีอีกหลายวิธี ที่จะทำได้ ผมเชื่อว่า แม่คุณ ก็คิดเช่นเดียวกันกับผม
ผมเมื่อตอนที่ผมป่วย.. มันเป็นสิ่งที่สวยงามมากๆ ในฐานะมนุษย์คนนึง ตอบแทนให้กับมนุษย์อีกคนนึง
แต่...มันไม่ใช่สิ่งที่ดี ที่ถูกต้องสำหรับผมแน่ๆ...ผมเชื่อว่าของขวัญสุดล้ำค่าที่สุด ของพ่อ-แม่
คือได้เห็น ลูกๆ เติบโต และประสบความสำเร็จ ในชีวิต ต่างหาก ถ้าเป็นผมๆ คง
ไม่ให้ ลูกผม ลาออกมาเลี้ยงดู ผมๆ จะอธิบายทุกอย่างให้เขาเข้าใจและเปลี่ยนใจ
ผมจะเป็นยังไงก็ได้..ถึงเวลานั้นคงทำใจได้ แต่ผมต้องไม่ใช่คนที่จะทำลาย อนาคตของลูกผมแน่ๆ
คิดให้ดีๆครับ..การตอบแทน การดูแล มีอีกหลายวิธี ที่จะทำได้ ผมเชื่อว่า แม่คุณ ก็คิดเช่นเดียวกันกับผม
ความคิดเห็นที่ 17
คือ ถ้าคุณมุ่งมั่นจะทำ และได้ลงมือลาออกมาแล้ว เราคงไม่ห้ามค่ะ
แต่ถ้ากำลังคิดลังเล เราขอท้วงค่ะ
เพราะถ้าแม่คุณป่วยนานเป็นปีๆ เงินแค่สองหมื่นต่อเดือน ไม่สามารถเลี้ยงไหว และคุณอาจจะป่วยทางกายและใจตามท่านไปด้วย
ทันทีที่คุณลาออกจากงานมา สังคมจะเปลี่ยน สถานะของคุณก็เปลี่ยน เงินทองจะเริ่มไม่คล่องมือ
ยิ่งนานวัน คุณจะยิ่งเสียดายโอกาสที่คุณเสียสละไป
และเมื่อแม่คุณจากไป คุณจะป่วยด้วยโรคซึมเศร้า เพราะขาดสิ่งยึดเหนี่ยวสิ่งเดียวในชีวิต
แต่ถ้ายังมีงานให้กลับไปทำ จะช่วยดึงคุณไม่ให้เครียดมากเกินไป
อย่าตึงเกินไป อย่าหย่อนเกินไป น่าจะดีกว่า ในระยะยาวนะคะ
แต่ถ้ากำลังคิดลังเล เราขอท้วงค่ะ
เพราะถ้าแม่คุณป่วยนานเป็นปีๆ เงินแค่สองหมื่นต่อเดือน ไม่สามารถเลี้ยงไหว และคุณอาจจะป่วยทางกายและใจตามท่านไปด้วย
ทันทีที่คุณลาออกจากงานมา สังคมจะเปลี่ยน สถานะของคุณก็เปลี่ยน เงินทองจะเริ่มไม่คล่องมือ
ยิ่งนานวัน คุณจะยิ่งเสียดายโอกาสที่คุณเสียสละไป
และเมื่อแม่คุณจากไป คุณจะป่วยด้วยโรคซึมเศร้า เพราะขาดสิ่งยึดเหนี่ยวสิ่งเดียวในชีวิต
แต่ถ้ายังมีงานให้กลับไปทำ จะช่วยดึงคุณไม่ให้เครียดมากเกินไป
อย่าตึงเกินไป อย่าหย่อนเกินไป น่าจะดีกว่า ในระยะยาวนะคะ
ความคิดเห็นที่ 27
ดิฉันเคยลาออกมาเทคแคร์ผู้ใหญ่วาระสุดท้ายแบบนี้ค่ะ
คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยเข้าใจหรอกค่ะ ว่าเวลามันซื้อกลับไม่ได้
แนะนำจขกท ว่า เมื่อผ่านเหตุการณ์นี้ไปแล้ว อนาคตเป็นเรื่องไม่แน่นอนทำให้กลัวก็จริงค่ะ
แต่มันมีทางไปค่ะ เคสดิฉัน เจ้านายมาตามตัวกลับไป ชีวิตการงานเจริญขึ้นด้วยซ้ำค่ะ
เอาใจช่วยนะคะ
คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยเข้าใจหรอกค่ะ ว่าเวลามันซื้อกลับไม่ได้
แนะนำจขกท ว่า เมื่อผ่านเหตุการณ์นี้ไปแล้ว อนาคตเป็นเรื่องไม่แน่นอนทำให้กลัวก็จริงค่ะ
แต่มันมีทางไปค่ะ เคสดิฉัน เจ้านายมาตามตัวกลับไป ชีวิตการงานเจริญขึ้นด้วยซ้ำค่ะ
เอาใจช่วยนะคะ
ความคิดเห็นที่ 24
การดูแลผู้ป่วยติดเตียงไม่ใช่ง่าย ๆ นะ แรก ๆ ก็ยังโอเคนะ
แต่พอเวลานาน ๆ ไป การอยู่ใกล้กันตลอดไม่ใช่สิ่งที่ดีค่ะ
จะเครียดมาก ๆ ทั้งอารมณ์ของผู้ป่วย และอารมณ์ของเราเอง
เราว่าจ้างคนมาช่วยดูดีกว่าค่ะ
เรายังดูได้ด้วย เจอผู้ป่วยก็จะมีแต่ความสุข มากกว่าที่จะอยู่
ด้วยกัน 24 ชั่วโมง
เจียดเงินเดือนคุณจ้างคนดู 2 กะ เงินที่เหลืออาจจะมากกว่า
เงินบำนาญคุณนิดหน่อย แม่ไม่เครียด คุณไม่เครียดมาก
งานยังดำเนินต่อไปได้ มีคนชำนาญมาดูแลในขณะที่คุณ
ก็ไม่ได้ทิ้งยังอยู่ข้าง ๆ ให้เขาได้เห็น
เอาแม่มาอยู่ใกล้ ๆ แบบที่ไปมาสะดวกจะดีกว่า
จากประสบการณ์บ้านเราเองนะ ป้าเราออกจากงานมาดูแลย่า
เครียดมาก เกิดอารมณ์ซึมเศร้า เพราะย่าเราเวลาป่วยอารมณ์ไม่ปกติค่ะ
ส่วนพ่อเรา เป็นคนจ่ายเงินทุกอย่างทั้งทางส่วนของค่ารักษาของย่า
เงินเดือนที่ป้าควรจะได้ต่อเดือน พ่อไปเจอย่าทุกวัน ไปทานข้าวด้วยทุกวัน
ย่าจะรู้สึกดีกับพ่อ มากกว่าป้าค่ะ ป้านี่คือที่รองรับอารมณ์ย่าเลยละ
สงสารเลยละ จนสุดท้ายต้องจ้างคนมาช่วยเพราะป้าอายุเยอะขึ้น
กลับตัวย่าทุก 2 ชั่วโมงไม่ไหว มีปัญหากับหลังค่ะ
แต่พอเวลานาน ๆ ไป การอยู่ใกล้กันตลอดไม่ใช่สิ่งที่ดีค่ะ
จะเครียดมาก ๆ ทั้งอารมณ์ของผู้ป่วย และอารมณ์ของเราเอง
เราว่าจ้างคนมาช่วยดูดีกว่าค่ะ
เรายังดูได้ด้วย เจอผู้ป่วยก็จะมีแต่ความสุข มากกว่าที่จะอยู่
ด้วยกัน 24 ชั่วโมง
เจียดเงินเดือนคุณจ้างคนดู 2 กะ เงินที่เหลืออาจจะมากกว่า
เงินบำนาญคุณนิดหน่อย แม่ไม่เครียด คุณไม่เครียดมาก
งานยังดำเนินต่อไปได้ มีคนชำนาญมาดูแลในขณะที่คุณ
ก็ไม่ได้ทิ้งยังอยู่ข้าง ๆ ให้เขาได้เห็น
เอาแม่มาอยู่ใกล้ ๆ แบบที่ไปมาสะดวกจะดีกว่า
จากประสบการณ์บ้านเราเองนะ ป้าเราออกจากงานมาดูแลย่า
เครียดมาก เกิดอารมณ์ซึมเศร้า เพราะย่าเราเวลาป่วยอารมณ์ไม่ปกติค่ะ
ส่วนพ่อเรา เป็นคนจ่ายเงินทุกอย่างทั้งทางส่วนของค่ารักษาของย่า
เงินเดือนที่ป้าควรจะได้ต่อเดือน พ่อไปเจอย่าทุกวัน ไปทานข้าวด้วยทุกวัน
ย่าจะรู้สึกดีกับพ่อ มากกว่าป้าค่ะ ป้านี่คือที่รองรับอารมณ์ย่าเลยละ
สงสารเลยละ จนสุดท้ายต้องจ้างคนมาช่วยเพราะป้าอายุเยอะขึ้น
กลับตัวย่าทุก 2 ชั่วโมงไม่ไหว มีปัญหากับหลังค่ะ
ความคิดเห็นที่ 12
ปรึกษาคุณแม่ดีกว่า
พูดในฐานะพ่อแม่คนนะ การเป็นสาเหตุให้ลูกเสียโอกาสในหน้าที่การงานเนี่ย คงเสียใจเหมือนกันนะ
ถ้าต้องจ้างคนมาดูแล หรือการส่งไปศูนย์พักฟื้น อาจเป็นทางเลือกนึงที่ไม่ต้องลาออก
ผมแน่ใจว่าไม่มีอะไรสำคัญกว่าคุณแม่
แต่วันนึงเมื่อไม่มีท่าน คุณจะอยู่อย่างไรโดยไม่ให้ท่านเป็นห่วง
พูดในฐานะพ่อแม่คนนะ การเป็นสาเหตุให้ลูกเสียโอกาสในหน้าที่การงานเนี่ย คงเสียใจเหมือนกันนะ
ถ้าต้องจ้างคนมาดูแล หรือการส่งไปศูนย์พักฟื้น อาจเป็นทางเลือกนึงที่ไม่ต้องลาออก
ผมแน่ใจว่าไม่มีอะไรสำคัญกว่าคุณแม่
แต่วันนึงเมื่อไม่มีท่าน คุณจะอยู่อย่างไรโดยไม่ให้ท่านเป็นห่วง
แสดงความคิดเห็น
การตัดสินใจครั้งสุดท้ายที่จะเลือกความกตัญญู
ต้องบอกว่าความรู้สึกในใจก็เสียดายเงินเดือน แต่เมื่อลองคำนวณดูแล้ว คิดว่าน่าจะอยู่ได้จากเงินที่มีอยู่ค่ะ เนื่องจากเป็นข้าราชการ ลาออกแล้วจะได้รับบำนาญ ประมาณเดือนละ 22,000 บาท ค่ารักษาพยาบาลถ้าเข้า รพ.รัฐ ยังสามารถเบิกได้ อาจมีค่าส่วนต่างบ้างครั้งละประมาณ 1,000 บาทบวกลบ มีเงินเก็บเป็นเงินเย็น 3 ล้านบาท ในกองทุน 1 ล้านบาท และเงินประกันชีวิตอีก 3 แสนบาท ชีวิตส่วนตัวเป็นคนใช้ของธรรมดา ไม่มีหนี้บ้านหรือหนี้รถ ไม่ใช้แบรนด์เนม ท่องเที่ยวเป็นบางครั้งกับเพื่อน เงินที่มีอยู่น่าจะพอ เพียงแต่การจะทำให้งอกเงยกว่าเดิมคงต้องบริหารให้ดี
เพื่อน ๆ ท่านใด มีความคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะบ้างไม๊คะ