ชีวิตปัจจุบัน ที่ต้องอยู่กับอากาศร้อนๆ รถติด งานที่มากมายไม่รู้จบ
สิ่งนึงที่ทุกคนล้วนต้องการคือ ความสงบในจิตใจ
ต่างคนต่างมีวิธีของตนเอง แล้วคุณหละ?
สำหรับเราคือการดำน้ำ ได้จมลงสู่อีกโลกนึง หลีกหนีจากโลกแห่งความจริง
ได้อยู่กับตัวเอง พร้อมการหายใจเข้าออกช้าๆอย่างมีสติเหมือนเป็นการทำสมาธิ
พร้อมเพลิดเพลินไปกับความงามจากสิ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ้น
------------------------------------------------------------------------------------
ภาพไม่มี VDO ล้วนๆฮะ*
https://youtu.be/iGFzR82TZsI
ทริปนี้เป็นทริปที่แพลนกันข้ามปี เพราะตั้งใจจะเหมาเรือไปกันเอง
การดำน้ำครั้งนี้ พวกเราเลือกไปกันที่ อันดามันใต้ กับเรือ Venus Marina
เดินทางจากกรุงเทพสู่จังหวัดภูเก็ตไฟลท์สุดท้ายของวันโดยสายการบิน AirAsia
แล้วมุ่งหน้าไปยังท่าเรือรัษฎา สำหรับการพักผ่อนในคืนแรก พร้อมการมุ่งหน้าสู่กลางทะเล
เริ่มต้นการดำน้ำด้วย เกาะห้าลากูน หนึ่งในหมู่เกาะห้า เป็นจุดดำน้ำที่ขึ้นชื่อมาก ทั้งแบบ Snockling และแบบ Scuba พวกเราได้เจอกับ Manta กันตั้งแต่ไดร์ฟแรก บินวนไปวนมาให้ถ่ายรูปกันจนพอใจ และไปต่อกันที่ หินม่วง ที่มีปะการังอ่อนสีม่วง ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในทุ่งดอกไม้ กับภาพ landscape ที่สวยเกินบรรยาย จบการดำน้ำสำหรับวันแรกที่สาวัง ที่ได้เจอกับงูทะเล และพุ่งตัวไปเก็บภาพจนเรียกได้ว่า เป็นช๊อตเสี่ยงตาย
เราไปต่อกันที่ ตาลัง เป็นจุดดำน้ำที่ขึ้นชื่อว่าสวยมากเป็นอันดับต้นๆของประเทศไทย และมีกองหินยักษ์ที่มีฝรั่งมาตั้งชื่อว่า Stonehenge ด้วยความที่เป็นแท่งหินใต้น้ำที่ตั้งเรียงรายกัน พร้อมถูกปกคลุมด้วยปะการังอ่อนหลากสีสัน และยังมีปะการังอ่อนสีม่วงสดเหมือนกันทุ่งลาเวนเดอร์ใต้น้ำ แล้วกลับไปที่บริเวณ หินม่วง และ หินแดงกันอีกรอบ พร้อมชมฝูงปลาข้างเหลืองที่ว่ายวนเวียนให้เห็นจนแทบจะลืมเวลา
เกาะห้าเหนือ หนึ่งในจุดดำน้ำในดวงใจ ที่มี Highlight คือการลอดถ้ำ ความงดงามของโลกใต้น้ำภายใต้ความมืดที่มีเพียงลำแสงที่ออกมาจากปล่องถ้ำ พร้อมฝูงปลาที่ว่ายวนเวียนอยู่ภายใต้ความมืด เป็นภาพที่ประทับใจแบบไม่รู้ลืมจริงๆ
เรือจม King Cruiser อดีตเรือเฟอร์รี่ที่รับส่งผู้โดยสาร พีพี-ภูเก็ต ที่จมลงเมื่อปี 2540 ที่ปัจจุบันเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำมากมาย โดยเฉพาะฝูงปลาข้างเหลือง และฝูงปลาบาราคูด้า ถึงแม้น้ำจะขุ่น แต่ก็ไม่สามารถปกปิดความสวยงามของธรรมชาติได้เลย
ใกล้ๆกันนั้น มีอีกจุดเรือดำน้ำที่ชื่อ Anemone Reef เป็นจุดที่เรือ King Cruiser เข้าไปชนเข้า จนเป็นเหตุให้ท้องเรือแตกและจมลง เป็นอีกแหล่งที่มีความอุดมสมบูรณ์ทั้งสัตว์น้ำและปะการัง เป็นจุดดำน้ำที่มีสีสันสวยงามจากการผสมผสานจากธรรมชาติอย่างลงตัว และใกล้ๆกันนั้นกับการดำน้ำไดร์ฟสดท้ายของทริป Shark Point หรือคนไทยเรียกว่า หินมุสัง ที่เป็นแหล่งที่มีนักดำน้ำพบเจอฉลามกบกันเยอะจนได้ชื่อว่า Shark Point แต่ต่อให้พวกเราไม่เจอกับฉลาม แต่ก็ยังได้ชื่นชมความสวยงามของธรรมชาติในบริเวณนี้ เป็นการจบทริปดำน้ำที่อันดามันใต้อย่างสวยงาม
ค่าใช้จ่ายสำหรับทริปนี้
ค่าตั๋วเครื่องบินประมาณ 1500 บาท
ค่าดำน้ำ+เช่าอุปกรณ์+อุทยาน 20000 บาท
จิปาถะ ค่ากินเที่ยวดื่ม 3000 บาท
รวม 24500 บาท
*รายละเอียดอาจจะไม่ครบถ้วนเพราะทริปนี้ไปมาตั้งแต่ต้นปีแล้ว แต่เพิ่งได้มีโอกาสตัดวีดีโอจนเสร็จ
มือใหม่หัดถ่าย หัดตัด หัด Review ติชมได้ค่า
[CR] ปล่อยใจลงสู่โลกใต้ทะเล ประสบการณ์สุดพิเศษที่ลืมไม่ลงที่ South Andaman
สิ่งนึงที่ทุกคนล้วนต้องการคือ ความสงบในจิตใจ
ต่างคนต่างมีวิธีของตนเอง แล้วคุณหละ?
สำหรับเราคือการดำน้ำ ได้จมลงสู่อีกโลกนึง หลีกหนีจากโลกแห่งความจริง
ได้อยู่กับตัวเอง พร้อมการหายใจเข้าออกช้าๆอย่างมีสติเหมือนเป็นการทำสมาธิ
พร้อมเพลิดเพลินไปกับความงามจากสิ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ้น
------------------------------------------------------------------------------------
ภาพไม่มี VDO ล้วนๆฮะ*
https://youtu.be/iGFzR82TZsI
ทริปนี้เป็นทริปที่แพลนกันข้ามปี เพราะตั้งใจจะเหมาเรือไปกันเอง
การดำน้ำครั้งนี้ พวกเราเลือกไปกันที่ อันดามันใต้ กับเรือ Venus Marina
เดินทางจากกรุงเทพสู่จังหวัดภูเก็ตไฟลท์สุดท้ายของวันโดยสายการบิน AirAsia
แล้วมุ่งหน้าไปยังท่าเรือรัษฎา สำหรับการพักผ่อนในคืนแรก พร้อมการมุ่งหน้าสู่กลางทะเล
เริ่มต้นการดำน้ำด้วย เกาะห้าลากูน หนึ่งในหมู่เกาะห้า เป็นจุดดำน้ำที่ขึ้นชื่อมาก ทั้งแบบ Snockling และแบบ Scuba พวกเราได้เจอกับ Manta กันตั้งแต่ไดร์ฟแรก บินวนไปวนมาให้ถ่ายรูปกันจนพอใจ และไปต่อกันที่ หินม่วง ที่มีปะการังอ่อนสีม่วง ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในทุ่งดอกไม้ กับภาพ landscape ที่สวยเกินบรรยาย จบการดำน้ำสำหรับวันแรกที่สาวัง ที่ได้เจอกับงูทะเล และพุ่งตัวไปเก็บภาพจนเรียกได้ว่า เป็นช๊อตเสี่ยงตาย
เราไปต่อกันที่ ตาลัง เป็นจุดดำน้ำที่ขึ้นชื่อว่าสวยมากเป็นอันดับต้นๆของประเทศไทย และมีกองหินยักษ์ที่มีฝรั่งมาตั้งชื่อว่า Stonehenge ด้วยความที่เป็นแท่งหินใต้น้ำที่ตั้งเรียงรายกัน พร้อมถูกปกคลุมด้วยปะการังอ่อนหลากสีสัน และยังมีปะการังอ่อนสีม่วงสดเหมือนกันทุ่งลาเวนเดอร์ใต้น้ำ แล้วกลับไปที่บริเวณ หินม่วง และ หินแดงกันอีกรอบ พร้อมชมฝูงปลาข้างเหลืองที่ว่ายวนเวียนให้เห็นจนแทบจะลืมเวลา
เกาะห้าเหนือ หนึ่งในจุดดำน้ำในดวงใจ ที่มี Highlight คือการลอดถ้ำ ความงดงามของโลกใต้น้ำภายใต้ความมืดที่มีเพียงลำแสงที่ออกมาจากปล่องถ้ำ พร้อมฝูงปลาที่ว่ายวนเวียนอยู่ภายใต้ความมืด เป็นภาพที่ประทับใจแบบไม่รู้ลืมจริงๆ
เรือจม King Cruiser อดีตเรือเฟอร์รี่ที่รับส่งผู้โดยสาร พีพี-ภูเก็ต ที่จมลงเมื่อปี 2540 ที่ปัจจุบันเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำมากมาย โดยเฉพาะฝูงปลาข้างเหลือง และฝูงปลาบาราคูด้า ถึงแม้น้ำจะขุ่น แต่ก็ไม่สามารถปกปิดความสวยงามของธรรมชาติได้เลย
ใกล้ๆกันนั้น มีอีกจุดเรือดำน้ำที่ชื่อ Anemone Reef เป็นจุดที่เรือ King Cruiser เข้าไปชนเข้า จนเป็นเหตุให้ท้องเรือแตกและจมลง เป็นอีกแหล่งที่มีความอุดมสมบูรณ์ทั้งสัตว์น้ำและปะการัง เป็นจุดดำน้ำที่มีสีสันสวยงามจากการผสมผสานจากธรรมชาติอย่างลงตัว และใกล้ๆกันนั้นกับการดำน้ำไดร์ฟสดท้ายของทริป Shark Point หรือคนไทยเรียกว่า หินมุสัง ที่เป็นแหล่งที่มีนักดำน้ำพบเจอฉลามกบกันเยอะจนได้ชื่อว่า Shark Point แต่ต่อให้พวกเราไม่เจอกับฉลาม แต่ก็ยังได้ชื่นชมความสวยงามของธรรมชาติในบริเวณนี้ เป็นการจบทริปดำน้ำที่อันดามันใต้อย่างสวยงาม
ค่าใช้จ่ายสำหรับทริปนี้
ค่าตั๋วเครื่องบินประมาณ 1500 บาท
ค่าดำน้ำ+เช่าอุปกรณ์+อุทยาน 20000 บาท
จิปาถะ ค่ากินเที่ยวดื่ม 3000 บาท
รวม 24500 บาท
*รายละเอียดอาจจะไม่ครบถ้วนเพราะทริปนี้ไปมาตั้งแต่ต้นปีแล้ว แต่เพิ่งได้มีโอกาสตัดวีดีโอจนเสร็จ
มือใหม่หัดถ่าย หัดตัด หัด Review ติชมได้ค่า