เมื่อเดือนมีนาคม และช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสกลับมาดำน้ำอีกครับ ที่ฝั่งทะเลตะวันตกของไทย หรือที่เราๆส่วนใหญ่รู้จักกันในนาม อันดามัน หลายคนอาจจะไม่รู้ว่า ทะเลอันดามันนั้นเราแบ่งออกเป็น สองส่วน คือ อันดามันเหนือ และ อันดามันใต้โดยใช้จุดแบ่งแบบคราวๆ ให้เข้าใจง่าย โดยใช้ภูเก็ตเป็นตัวแบ่ง
ผมเองได้เริ่มต้นเรียนดำน้ำครั้งแรก เมื่อ ราวๆ เดือน กรกฎาคม ปี 2014 ปปีนี้ก็จะเข้าปีที่สองในชีวิตการดำน้ำลึก หลายคนอาจจะมองกีฬานี้ว่าเป็น กีฬาที่เสี่ยงอันตรายบ้าง หรือกีฬาคนรวยบ้าง แต่จากประสบการณ์ของผมนั้นเรื่องการเรียนการสอน หากได้รับการฝึกอบรมณ์ ที่ถูกต้องจากสถาบันดำน้ำที่น่าเชื่อถือ และได้รับการถ่ายถอดความรู้ที่ถูกต้อง กีฬาประเภทนี้ นับได้ว่าเป็นกีฬาที่ปลอดภัยมากที่สุดอย่างหนึ่งเลยดีเดียว
กลับมาเข้าเรื่องทะเลอันดามันกันต่อเถอะครับ หากใครมีข้อสงสัยเรื่องการเรียนดำน้ำสามารถสอบถามหลังไมค์ได้ครับ
ผมมีโอกาสได้ดำน้ำทะเลอันดามันครั้งแรกในปี 2015 จากที่ก่อนหน้าที่ดำฝั่งอ่าวไทย พวกพัทยา แสมสร ชุมพรมาตลอด พอมาถึงทะเลฝั่งนี้ ในไดฟ์แรกที่ได้โดดน้ำลงไปนั้น ทำให้ผมตื่นตะลึงตระการตาอลังการงานสร้างมาก ทำให้คิดว่า เราไปทำอะไรอยู่ที่ไหนมา ที่ผ่านมาเราทำอะไร เพราะน้ำนั้นใสมาก หากใครที่ดำน้ำ ทั้งสองฝั่งแล้วจะรู้ว่าความใสระดับ 5-10 เมตร กับ 20-30 เมตรเป็นอย่างไร (เป็นระะการมองเห็นออกไปในแนวราบ) และที่ประทับใจกว่านั้นคือการได้พบเจอกับ ฉลามวาฬ หรือที่นักดำน้ำเรียกกันว่าน้องจุด
พอมาปีนี้ได้กลับมาดำอีก ผมก็ยังคงตื่นเต้นกับความใสของน้ำเพราะนานๆทีจะได้มีโอกาสมาดำฝั่งอันดามัน
สำหรับทริปแรกของปีนี้ผมได้ไปทะเลอันดามันใต้ก่อน โดยผมได้ใช้การดำน้ำแบบ liveaboard หลายคนอาจจะไม่เข้าใจว่าคืออะไร มา ผมจะขยายความอธิบายใฟัง
การดำน้ำลึกเรามีวิธีการเดินทางดำ หลายแบ แต่หลักๆในบ้านเราจะมี แบบที่เรียกว่า
1. Day Trip - คือ การที่เราพักที่ฝั่ง แล้วเราซื้อทัวร์กับเรือที่ให้บริการดำน้ำลึกแบบเป็นวันเค้าจะพาเราไปดำตามจุดต่างๆ ตามที่เราสนใจหรือตามที่หมายกำหนดการเรือ ตอนเย็นก็กลับเข้าฝั่ง เหมาะสำหรับคนเวลาน้อย
2. Live aboard Trip - คือการเดินทางอาศัยเรือขนาดกลางโดยเราจะกินนอนอยู่บนเรือตลอดระยะเวลาทริป และเรือจะพาเราไปหมายดำน้ำตามจุดต่างๆ ซึ่งจะค่อนข้างสะดวกสบายกว่า Day trip พอสมควร เพราะเราไม่ต้องกุลีกุจร รีบตื่นแต่เช้ามาท่าเรือ เหมาะสำหรับคนที่มีเวลาหลายๆวันเพราะ ทริปแบบนี้ มีตั้งแต่ 3-7วัน
3. Shore Dive - คือการดำน้ำโดยเดินลงจากชายหาดซึ่งไม่ไกลจากจุดดำน้ำ บ้านเรายังไม่ค่อยเป็นที่นิย,อาจเป็นเพราะยังไม่มีที่สวยๆที่เหมาะสม แต่ในมืองนอกมีหลายที่บ้าง เช่น บาหลี
สำหรับทริปแรก ในเดือนมีนาคมของผมในปีนี้ ผมได้ใช้บริการเรือ Tapana Catamaran ซึ่งเป็นเรือ liveaboard ที่จัดได้ว่าที่ที่สุดในไทย ณ ขณะนี้ โดยเรือออกจากท่าเรือรัษฎา ภูเก็ต ทริปนี้เป็รทริป 4 วันโดยเราจะไปอันดามันใต้กัน high light สำคัญๆ ของอันตามันใต้
การมาครั้งนี้ ได้เป็นเปลี่ยนสถานะจาก Diver หรือ นักดำน้ำทั่วไป มาเป็น DMT หรือ Dive master trainnee
DMT คืออะไร - ตอบ คือคนที่กำลังเรียน Dive master ซึ่งเป็น หลักสูตร หนึ่ง ของการ ดำน้ำ ซึ่งผมจะไล่ระดับให้ฟังคร่าวๆ จาก Basic สุด จน Advance ขึ้นไปนะครับ
Open water diver (ดำได้ไม่เกิน 18 เมตร) -> Advance open water -> Rescue diver (สำหรับคนที่จะมาเรียน หลักสูตรนี้ ต้องผ่านการเรียน Emergency first respond หรือการรับมือกับผู้ประสบอุบัติเหตุ) -> Dive master -> Open water Instructor
คร่าวๆตามนี้นะครับ ซึ่งในหลักสูตรการฝึก DMT มีเรื่อง Boat/Trip Management ด้วย ทริปนี้ผมจึงต้องมาทำหน้าทีดูแล ทริปและนักดำน้ำให้ราบรื่น โดยคนเป็น Instructor จะเป็นคนประเมิน ในส่วนนี้ขอข้ามไปนะครับ มาต่อกันที่เรื่อง Dive site ที่เราได้ไปดำกันเลยดีกว่า
เรือออกจากภูเก็ตประมาณ ห้าทุ่ม พอเช้ามาเราก็เดินทางมาถึงเกาะห้าลูกสาม โดยวันแรกเราจะดำกันทั้งหมด 4 dives โดยเริ่มจาก เกาะห้าลูกสาม หินม่วง หินแดง และ Night dive กันที่เกาะรอก จุดเด็นของหินม่วงและหินแดงนั้น คือมีมี ประการัง อ่อน สีตามชื่อ เลยครับในจำนวนที่เยอะมาก
เกาะห้าลูกสาม
by ผมเอง
มีฝรั่งพานักเรียนมาสอบ
หินม่วง หินแดง
Cr. Isorapong Komannont
Cr. Isorapong Komannont
ส่วนวันที่สองเช้ามาเรือแล่นมาถึงหลีเป๊ะวันนี้ เราจะดำน้ำกันที่ หินสโตนเฮนจ์ หินตาลัง สาวัง และกลับไป Night dive ที่เกาะผึ้ง ต้องย้ำว่าเกาะผึ้งจริงๆ ครับ เพราะพอตกเย็นผึ้งเยอะมาก ได้ข่าวแว่วๆจากเด็กเรือว่าเกาะนี้จะมีลิงอยู่หนึ่งตัวซึ่งมันว่ายนามทางไกลมาอาศัยอยู่ ทุกครั้งที่เรือผ่านมาเด็กเรือจะเอากล้วยไปทิ้งไว้ให้มันกิน มันต้องเป็นลิงโอลิมปิกแน่ๆ สำหรับสโตนเฮนจ์นั้น เอกลักษณ์ ของมันก็คือเป็นแท่งหินใต้น้ำ หลายแท่งเหมือนสโตนเฮนจ์ ขอดีของการมาหลีเป๊ะครั้งนี้ จากที่หลายท่านทราบว่าการมาหลีเป๊ะ นั้น ยากลำบากมาก เพราะนอกจากเราต้องนั้งเครื่องบินมา ต่อรถมาท่าเรือ ยังต้องนั่งเรือต่ออีกหลาย ชั่วโมงกว่าจะถึง แต่ครั้งนี้เมื่อเรามาแบบ liveaboard จึงค่อนข้างสบายมากนอนตลอดคืนเช้าก็มาถึง
Stonehenge
Cr. Pae Supak Rodto
ขึ้นเกาะหลีแปะ
วันที่สามเนื่องจากหลีเป๊ะเป็นจุดหมายที่ไกลที่สุดสำหรับทริปนี้ เมื่อมีไปก็ต้องมีกลับ เรือก็กลับมาดำต่อที่หินแดง หินม่วง และ เกาะห้าอีก 2 dive ทำให้เรามีโอกาสได้ไปเล่นน้ำชายหาด ของเกาะห้าลากูนซึ่งหาดสวยน้ำใสทรายขาวมากก่อนที่จะดำไนท์ไดฟ์ สำหรับ เกาะห้านั้น จะมีถ้ำขนาดใหญ่อยู่ซึ่งสามารถดำเข้าไปดูได้อย่างปลอดภัย แต่ dive leader ต้องเชคอากาศกับลูกทีมดีๆว่าพอที่จะเข้าไปด้วย
หินม่วง หินแดง
Cr. Pae Supak Rodto
เกาะห้า
Cr. Pae Supak Rodto
วันสุดท้ายแล้ว ไม่อยากให้ถึงวันนี้เลยยังคงสนุกกับการดำน้ำอยู่ สำหรับไดฟไซด์ในวันนี้คือ เกาะปีดะนอก เรือจม King cruiser และกองหินมุสังข์ หรือหมูสังข์
เกาะปีดะนอกนั้น มีฝูงปลาข้างเหลืองหนาแน่นมาก เหมาะกับคนที่ชอบปลาฝูงใหญ่ๆ ใหญ่ขนาดวายมาบังแต่ละคนหายไปเลย สำหรับ เรือจม King cruiser นั้นเป็นเรือที่จมจากอุบัติเหตุขนกองหินแต่ไม่มีผู้เสียชีวิต ส่วนกองหินมุสังข์นั้น เป็นจุดดำน้ำที่ Sea Fan หรือกัลปังหา อุดมสมบูณร์มากแห่งหนึ่ง เนื่องจากเป็นจุดที่กระแสน้ำไหลพอสมควร
เกาะปีดะนอก
Cr. Hut Sornkarn
เรือจม king cruiser
Cr. Hut Sornkarn
หินมุสังข์
Cr. Hut Sornkarn
Cr. Isorapong Komannont
ส่วนนี่ผมเอง
เนื่องจากผมถ่ายรูปไม่ค่อยเก่ง จึงขอปิดท้ายด้วย คลิป VDO ที่ทำขำๆให้นักดำน้ำทุกคนที่มาทริปนี้แทน
สำหรับทริปนี้ มีสาวน้อย Nancy แห่งกิจกรรม Out door มาร่วมทริปด้วย เธอมีเพจ facebook ที่นำเสนอกิจกรรมที่เธอทำ
ซึ่งเป็นแรงบรรดาลใจให้หลายๆคนได้ออกท่องเที่ยว คนในรูปเดี่ยวที่ Stonehenge นั้นแหละครับ
หากใครสนใจติดตาม เข้าไปติดตามเธอได้เลย ตาม link นี้นะครับ
https://www.facebook.com/happynancyofficial
ปล. ชอบรูปถ่ายของใคร สามารถนำชื่อ ใน Cr. ไปค้นหาติดตามใน facebook ได้เลยนะครับ
สำหรับ Ep. 2 จะตามมาเร็วๆนี้ เป็นทริปที่ได้ขึ้นไปดำน้ำที่อันดามันเหนือ ทริปนี้มี high light ที่ส่วยงามมาก แต่ขออุบไว้ก่อน แล้วมารอติดตามกันครับ
ปล.2 edit แก้คำผิดกับจัดหน้ากระดาษ
มหัศจรรย์น่านน้ำไทย อันดามันเหนือ จรด อันดามันใต้ กับการดำน้ำลึก (Scuba Diving) Ep. 1
ผมเองได้เริ่มต้นเรียนดำน้ำครั้งแรก เมื่อ ราวๆ เดือน กรกฎาคม ปี 2014 ปปีนี้ก็จะเข้าปีที่สองในชีวิตการดำน้ำลึก หลายคนอาจจะมองกีฬานี้ว่าเป็น กีฬาที่เสี่ยงอันตรายบ้าง หรือกีฬาคนรวยบ้าง แต่จากประสบการณ์ของผมนั้นเรื่องการเรียนการสอน หากได้รับการฝึกอบรมณ์ ที่ถูกต้องจากสถาบันดำน้ำที่น่าเชื่อถือ และได้รับการถ่ายถอดความรู้ที่ถูกต้อง กีฬาประเภทนี้ นับได้ว่าเป็นกีฬาที่ปลอดภัยมากที่สุดอย่างหนึ่งเลยดีเดียว
กลับมาเข้าเรื่องทะเลอันดามันกันต่อเถอะครับ หากใครมีข้อสงสัยเรื่องการเรียนดำน้ำสามารถสอบถามหลังไมค์ได้ครับ
ผมมีโอกาสได้ดำน้ำทะเลอันดามันครั้งแรกในปี 2015 จากที่ก่อนหน้าที่ดำฝั่งอ่าวไทย พวกพัทยา แสมสร ชุมพรมาตลอด พอมาถึงทะเลฝั่งนี้ ในไดฟ์แรกที่ได้โดดน้ำลงไปนั้น ทำให้ผมตื่นตะลึงตระการตาอลังการงานสร้างมาก ทำให้คิดว่า เราไปทำอะไรอยู่ที่ไหนมา ที่ผ่านมาเราทำอะไร เพราะน้ำนั้นใสมาก หากใครที่ดำน้ำ ทั้งสองฝั่งแล้วจะรู้ว่าความใสระดับ 5-10 เมตร กับ 20-30 เมตรเป็นอย่างไร (เป็นระะการมองเห็นออกไปในแนวราบ) และที่ประทับใจกว่านั้นคือการได้พบเจอกับ ฉลามวาฬ หรือที่นักดำน้ำเรียกกันว่าน้องจุด
พอมาปีนี้ได้กลับมาดำอีก ผมก็ยังคงตื่นเต้นกับความใสของน้ำเพราะนานๆทีจะได้มีโอกาสมาดำฝั่งอันดามัน
สำหรับทริปแรกของปีนี้ผมได้ไปทะเลอันดามันใต้ก่อน โดยผมได้ใช้การดำน้ำแบบ liveaboard หลายคนอาจจะไม่เข้าใจว่าคืออะไร มา ผมจะขยายความอธิบายใฟัง
การดำน้ำลึกเรามีวิธีการเดินทางดำ หลายแบ แต่หลักๆในบ้านเราจะมี แบบที่เรียกว่า
1. Day Trip - คือ การที่เราพักที่ฝั่ง แล้วเราซื้อทัวร์กับเรือที่ให้บริการดำน้ำลึกแบบเป็นวันเค้าจะพาเราไปดำตามจุดต่างๆ ตามที่เราสนใจหรือตามที่หมายกำหนดการเรือ ตอนเย็นก็กลับเข้าฝั่ง เหมาะสำหรับคนเวลาน้อย
2. Live aboard Trip - คือการเดินทางอาศัยเรือขนาดกลางโดยเราจะกินนอนอยู่บนเรือตลอดระยะเวลาทริป และเรือจะพาเราไปหมายดำน้ำตามจุดต่างๆ ซึ่งจะค่อนข้างสะดวกสบายกว่า Day trip พอสมควร เพราะเราไม่ต้องกุลีกุจร รีบตื่นแต่เช้ามาท่าเรือ เหมาะสำหรับคนที่มีเวลาหลายๆวันเพราะ ทริปแบบนี้ มีตั้งแต่ 3-7วัน
3. Shore Dive - คือการดำน้ำโดยเดินลงจากชายหาดซึ่งไม่ไกลจากจุดดำน้ำ บ้านเรายังไม่ค่อยเป็นที่นิย,อาจเป็นเพราะยังไม่มีที่สวยๆที่เหมาะสม แต่ในมืองนอกมีหลายที่บ้าง เช่น บาหลี
สำหรับทริปแรก ในเดือนมีนาคมของผมในปีนี้ ผมได้ใช้บริการเรือ Tapana Catamaran ซึ่งเป็นเรือ liveaboard ที่จัดได้ว่าที่ที่สุดในไทย ณ ขณะนี้ โดยเรือออกจากท่าเรือรัษฎา ภูเก็ต ทริปนี้เป็รทริป 4 วันโดยเราจะไปอันดามันใต้กัน high light สำคัญๆ ของอันตามันใต้
การมาครั้งนี้ ได้เป็นเปลี่ยนสถานะจาก Diver หรือ นักดำน้ำทั่วไป มาเป็น DMT หรือ Dive master trainnee
DMT คืออะไร - ตอบ คือคนที่กำลังเรียน Dive master ซึ่งเป็น หลักสูตร หนึ่ง ของการ ดำน้ำ ซึ่งผมจะไล่ระดับให้ฟังคร่าวๆ จาก Basic สุด จน Advance ขึ้นไปนะครับ
Open water diver (ดำได้ไม่เกิน 18 เมตร) -> Advance open water -> Rescue diver (สำหรับคนที่จะมาเรียน หลักสูตรนี้ ต้องผ่านการเรียน Emergency first respond หรือการรับมือกับผู้ประสบอุบัติเหตุ) -> Dive master -> Open water Instructor
คร่าวๆตามนี้นะครับ ซึ่งในหลักสูตรการฝึก DMT มีเรื่อง Boat/Trip Management ด้วย ทริปนี้ผมจึงต้องมาทำหน้าทีดูแล ทริปและนักดำน้ำให้ราบรื่น โดยคนเป็น Instructor จะเป็นคนประเมิน ในส่วนนี้ขอข้ามไปนะครับ มาต่อกันที่เรื่อง Dive site ที่เราได้ไปดำกันเลยดีกว่า
เรือออกจากภูเก็ตประมาณ ห้าทุ่ม พอเช้ามาเราก็เดินทางมาถึงเกาะห้าลูกสาม โดยวันแรกเราจะดำกันทั้งหมด 4 dives โดยเริ่มจาก เกาะห้าลูกสาม หินม่วง หินแดง และ Night dive กันที่เกาะรอก จุดเด็นของหินม่วงและหินแดงนั้น คือมีมี ประการัง อ่อน สีตามชื่อ เลยครับในจำนวนที่เยอะมาก
เกาะห้าลูกสาม
by ผมเอง
มีฝรั่งพานักเรียนมาสอบ
หินม่วง หินแดง
Cr. Isorapong Komannont
Cr. Isorapong Komannont
ส่วนวันที่สองเช้ามาเรือแล่นมาถึงหลีเป๊ะวันนี้ เราจะดำน้ำกันที่ หินสโตนเฮนจ์ หินตาลัง สาวัง และกลับไป Night dive ที่เกาะผึ้ง ต้องย้ำว่าเกาะผึ้งจริงๆ ครับ เพราะพอตกเย็นผึ้งเยอะมาก ได้ข่าวแว่วๆจากเด็กเรือว่าเกาะนี้จะมีลิงอยู่หนึ่งตัวซึ่งมันว่ายนามทางไกลมาอาศัยอยู่ ทุกครั้งที่เรือผ่านมาเด็กเรือจะเอากล้วยไปทิ้งไว้ให้มันกิน มันต้องเป็นลิงโอลิมปิกแน่ๆ สำหรับสโตนเฮนจ์นั้น เอกลักษณ์ ของมันก็คือเป็นแท่งหินใต้น้ำ หลายแท่งเหมือนสโตนเฮนจ์ ขอดีของการมาหลีเป๊ะครั้งนี้ จากที่หลายท่านทราบว่าการมาหลีเป๊ะ นั้น ยากลำบากมาก เพราะนอกจากเราต้องนั้งเครื่องบินมา ต่อรถมาท่าเรือ ยังต้องนั่งเรือต่ออีกหลาย ชั่วโมงกว่าจะถึง แต่ครั้งนี้เมื่อเรามาแบบ liveaboard จึงค่อนข้างสบายมากนอนตลอดคืนเช้าก็มาถึง
Stonehenge
Cr. Pae Supak Rodto
ขึ้นเกาะหลีแปะ
วันที่สามเนื่องจากหลีเป๊ะเป็นจุดหมายที่ไกลที่สุดสำหรับทริปนี้ เมื่อมีไปก็ต้องมีกลับ เรือก็กลับมาดำต่อที่หินแดง หินม่วง และ เกาะห้าอีก 2 dive ทำให้เรามีโอกาสได้ไปเล่นน้ำชายหาด ของเกาะห้าลากูนซึ่งหาดสวยน้ำใสทรายขาวมากก่อนที่จะดำไนท์ไดฟ์ สำหรับ เกาะห้านั้น จะมีถ้ำขนาดใหญ่อยู่ซึ่งสามารถดำเข้าไปดูได้อย่างปลอดภัย แต่ dive leader ต้องเชคอากาศกับลูกทีมดีๆว่าพอที่จะเข้าไปด้วย
หินม่วง หินแดง
Cr. Pae Supak Rodto
เกาะห้า
Cr. Pae Supak Rodto
วันสุดท้ายแล้ว ไม่อยากให้ถึงวันนี้เลยยังคงสนุกกับการดำน้ำอยู่ สำหรับไดฟไซด์ในวันนี้คือ เกาะปีดะนอก เรือจม King cruiser และกองหินมุสังข์ หรือหมูสังข์
เกาะปีดะนอกนั้น มีฝูงปลาข้างเหลืองหนาแน่นมาก เหมาะกับคนที่ชอบปลาฝูงใหญ่ๆ ใหญ่ขนาดวายมาบังแต่ละคนหายไปเลย สำหรับ เรือจม King cruiser นั้นเป็นเรือที่จมจากอุบัติเหตุขนกองหินแต่ไม่มีผู้เสียชีวิต ส่วนกองหินมุสังข์นั้น เป็นจุดดำน้ำที่ Sea Fan หรือกัลปังหา อุดมสมบูณร์มากแห่งหนึ่ง เนื่องจากเป็นจุดที่กระแสน้ำไหลพอสมควร
เกาะปีดะนอก
Cr. Hut Sornkarn
เรือจม king cruiser
Cr. Hut Sornkarn
หินมุสังข์
Cr. Hut Sornkarn
Cr. Isorapong Komannont
ส่วนนี่ผมเอง
เนื่องจากผมถ่ายรูปไม่ค่อยเก่ง จึงขอปิดท้ายด้วย คลิป VDO ที่ทำขำๆให้นักดำน้ำทุกคนที่มาทริปนี้แทน
สำหรับทริปนี้ มีสาวน้อย Nancy แห่งกิจกรรม Out door มาร่วมทริปด้วย เธอมีเพจ facebook ที่นำเสนอกิจกรรมที่เธอทำ
ซึ่งเป็นแรงบรรดาลใจให้หลายๆคนได้ออกท่องเที่ยว คนในรูปเดี่ยวที่ Stonehenge นั้นแหละครับ
หากใครสนใจติดตาม เข้าไปติดตามเธอได้เลย ตาม link นี้นะครับ
https://www.facebook.com/happynancyofficial
ปล. ชอบรูปถ่ายของใคร สามารถนำชื่อ ใน Cr. ไปค้นหาติดตามใน facebook ได้เลยนะครับ
สำหรับ Ep. 2 จะตามมาเร็วๆนี้ เป็นทริปที่ได้ขึ้นไปดำน้ำที่อันดามันเหนือ ทริปนี้มี high light ที่ส่วยงามมาก แต่ขออุบไว้ก่อน แล้วมารอติดตามกันครับ
ปล.2 edit แก้คำผิดกับจัดหน้ากระดาษ