[CR] [รีวิวอัลบั้ม] One More Light - Linkin Park >>> เพลง Light ของคนไม่ Light



ผมคงไม่ต้องเกริ่นนำอะไรมากเกี่ยวกับ Linkin Park ให้มากความ ผมเชื่อว่าผู้อ่านหลายๆท่านคงโตมากับเพลงของพวกพี่ๆเค้าเป็นแน่นแท้ นับตั้งแต่ Hybrid Theory, Meteora เป็นอัลบั้มเพลงสากลอัลบั้มแรกๆที่เปิดโลกทัศน์ในการฟังเพลงสากลเลยก็ว่าได้ แต่หลังจากสองอัลบั้มแรก ทางวงก็อยากทำอะไรใหม่ๆบ้าง ถึงแม้ว่าฐานแฟนเพลงจะจางหายไปก็ตาม แต่ผมก็ยังคงนับถือในความเป็นหัวก้าวหน้าของพวกเขา เพราะอย่างน้อยมันเป็นการไม่ย่ำอยู่กับที่ ในที่สุด 2 ปีถัดจาก The Hunting Party เราก็ได้ฟังผลงานใหม่ของพวกเขาในสตูดิโออัลบั้มชุดที่ 7 ที่มีชื่อว่า One More Light โดยมีซิงเกิ้ลนำร่องอย่าง Heavy ที่ฟังครั้งแรกแล้วก็ตกใจพอสมควร เพราะนี่มันไม่ใช่ลิงกินผักที่เราเคยรู้จักเลยนี่หว่า ซึ่งนั่นก็ทำให้ผมแอบเสียวกับความเสี่ยงที่ตามมาจากการการเปลี่ยนทิศทางทางดนตรี เพราะ Heavy เองก็เกือบจะหลุดกรอบความเป็น LP ไปสู่ความเป็นป็อบกระแสนิยม ซึ่งนั่นทำให้ผมแอบหวั่นอยู่เหมือนกันว่างานเพลงจะเบาบางจนกลายเป็นป็อบตลาดหรือเปล่า

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

พอได้ฟังเต็มชุดแล้ว ก็พึงพอใจในระดับนึงครับ สัดส่วนเพลงที่ชอบมากกว่าเพลงที่เฉยๆเกินครึ่ง อย่างที่ผมได้เคยโพสต์ใน First Reaction เพลงที่ปล่อยออกมาเป็นซิงเกิ้ลจัดว่าเด็ดที่สุดของงานชุดนี้เลยล่ะ อาทิเช่น Battle Symphony ซิงเกิ้ลนี้ทำให้ผมใจชื้นขึ้นมาทันที จำได้ว่าระหว่างที่รอชุดเต็ม ผมฟังเพลงนี้บ่อยมากที่สุด เพราะนี่คือเพลงที่บ่งบอกความเป็น LP ได้มากที่สุด ท่อนอินโทรจัดว่าเด็ด จังหวะอิเล็กโทรกับกีตาร์ไฟฟ้าสอดคล้องกัน มีความเฟี้ยวฟ้าว หวือหวา และด้วยเนื้อหาที่ปลุกขวัญกำลังใจ ล้มแล้วต้องลุกด้วยลำแข้งของตัวเอง เชื่อว่าเพลงนี้น่าจะเป็นลิสท์ที่ชอบลำดับต้นๆแน่นอน Invisible เพลงนี้พี่ Mike Shinoda โซโลร้องเดี่ยวทั้งเพลง เป็นเพลงบัลลาดของ Mike ที่ดีที่สุดเลยก็ว่าได้ ชอบเนื้อหาของเพลงไม่แพ้เพลงที่กล่าวเมื่อซักครู่ มีความปลอบประโลมคนแปลกแยกทางสังคม ฟังบ่อยพอๆกัน ส่วน Heavy ตอนแรกชอบเพราะลูกเล่นแพรวพราวใช้ได้ ช่วงนั้นเจอเรื่องหนักๆ ปล่อยวางไม่ได้ เลยอิน แต่ตอนนี้เริ่มเบื่อล่ะ อาจจะได้ยินเพลงนี้บ่อย เลยพลางเบื่อไปเลย เอาเป็นว่าในเชิงเทคนิคทางดนตรี เพลงนี้ก็จัดเต็มไม่แพ้กัน ส่วน Good Goodbye เฉยมากกกก ด้วยความที่ฟังฮิพฮอพมาเยอะ เพลงนี้กลายเป็นของเบาสำหรับผมไปเลย บอกตามตรงว่าพี่ Mike เรายิ้มโดน Pusha T กับ Stromzy กลบรัศมีหมดเลยฮับ ยิ่งเพลงนี้มันแอบคล้าย Lost In The Echoes ที่ดูเป็นการใช้สูตรเดิมอยู่แล้ว ยิ่งถ้าไม่มีตาสองคนนี้ เพลงคงจืดมากๆ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

เล่าถึงซิงเกิ้ลที่ปล่อยออกมาแล้ว จะไม่พูดถึงเพลงที่เหลืออัลบั้มก็กระไรอยู่ ยังมีเพลงที่เข้าตาผมอยู่บ้างอาทิเช่น เพลงเปิดเพลงแรก Nobody Can Save Me เพลงต่อสู้ด้านมืดในตัวเองที่มาแบบนิ่งๆ Chester สื่ออารมณ์เพลงได้อย่างประนีประนอม ไม่กระโชกโฮกฮากหรือว๊ากใส่ มันเลยทำให้เพลงไหลลื่น มีความสมูทอยู่ในตัวมัน ไม่ถึงขั้น first impression แบบปุบปับเลย แต่ถ้าฟังไปหลายๆครั้งก็อาจจะถลำลึกเข้าไปได้ Talking To Myself เป็นเพลงที่ร็อคที่สุดของทางวง แต่ก็ยังรู้สึกเฉยๆ มันเป็นเพลงร็อคที่ดูเป็นสูตรสำเร็จไปนิดนึง Sorry For Now โซโลเดี่ยวอีกเพลงของพี่ไมค์ที่เริ่มจะดีล่ะ แต่มาตกม้าตายตอนท่อนฮุก ไม่ชอบโคตรๆเลยกับการที่เอาเสียงเจ๊ยวจ๊าวมาใส่ในเพลงเนี่ยแหละ ยิ้มไม่ต่างอะไรกับเพลงอีดีเอ็มตลาดทั่วๆไปเลย Halfway Right เพลงนี้ก็ป็อบร็อคเบสิคเลย ความแบนราบยังมีให้เห็นต่อเนื่องจากแทร็คที่แล้ว โคตรหวั่นเลยครับว่าสองเพลงปิดท้ายต่อจากนี้จะยกระดับอัลบั้มได้หรือไม่ ลูกเล่นเริ่มจะตันแล้ว และแล้วก็มาถึงไตเติ้ลแทร็คของงานชุดนี้ One More Light ซักที ซึ่งก็ช่วยให้ผมใจชื้นจากสองแทร็คที่ผ่านมาได้เยอะเลยล่ะครับ อารมณ์ประมาณว่า เออๆ พวกเอ็งสอบผ่านล่ะ เอาจริงๆผมโคตรชอบแทร็คนี้เลยล่ะ จังหวะเพลงหม่นๆ โทนเพลงจริงจัง เนี่ยแหละคือสิ่งที่ผมคาดหวังจากงานชุดนี้ เป็นเพลงที่แก้ขัดป็อบร็อคเลี่ยนๆจากแทร็คที่แล้วได้เป็นอย่างดี โดนครับเพลงนี้ ส่วนเพลงปิดท้ายอย่าง Sharp Edges มาในแนวโฟล์กร็อคสำเนียงคันทรี่ที่ทำได้ดีตามอัตภาพ เพลงฟังเพลินๆ เนื้อหาให้กำลังใจ เรียนรู้จากความเจ็บปวดในอดีต และก้าวต่อไปข้างหน้า เป็นเพลงปิดที่ให้อารมณ์พบทางสว่างในชีวิตสมกับคอนเซปต์ One More Light สมศักดิ์ศรีของการเป็นเพลงปิดอัลบั้มชุดนี้

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
One More Light เป็นงานที่ฟังง่าย เข้าถึงได้ง่ายและซอฟต์มากที่สุดในบรรดาอัลบั้มที่ผ่านมาของทางวงครับ ไม่มีว๊าก กระโชกโฮกฮาก คนที่ฟังเพลงป็อบจ๋าอยู่แล้วน่าจะเข้าถึงได้ไม่ยากเลย สำหรับผมชุดนี้ ถือว่าเป็นความพึงพอใจในระดับนึง ไม่ถึงกับว้าวหรือเซอร์ไพร์สอะไรมาก แต่ด้วยเนื้อหาและคอนเซปต์โดยรวมที่น่าสนใจ พูดถึงการต่อสู้ด้านมืดของตัวเอง ยอมรับความเจ็บปวดจากความสูญเสีย เป็นอะไรที่ผมไม่ค่อยได้เห็นเท่าไหร่นัก ในงานเพลงป็อบร็อคทั่วๆไป ที่มักจะพูดถึงอกหักรักคุดซักส่วนใหญ่ ซึ่งทางวงเองก็หลีกเลี่ยงประเด็นโหลๆเหล่านี้ได้ นับว่าโอเคครับ ส่วนข้อเสียของงานชุดนี้ก็คงหนีไม่พ้นลูกเล่นในเพลงบางเพลงที่เบสิคจนเกินไป และยังแอบเล่นสูตรเดิมอยู่ มันเลยทำให้เราเดาทางได้ง่าย จนไม่หลงเหลือความไม่น่าค้นหาแต่อย่างใด ถ้าไม่มีการใส่เพลงสายลึกเข้าไปแก้ขัดล่ะก็ จะกลายเป็นความจืดทันที ซึ่ง ณ จุดนี้ก็เป็นเรื่องน่าเสียดายเหมือนกัน เนื้อหาดีแล้วนะ มันดูซีเรียสจริงจัง ถ้าพวกพี่ๆใส่จุดหักมุมในการเล่าเรื่องผ่านเพลง ผมคิดว่าผลลัพธ์ออกมาจะไม่ธรรมดาและไม่แบนราบมากกว่านี้ ไอ้ที่มันขาดความน่าค้นหาเนี่ยแหละมันก็มีผล
ต่อการฟังในระยะยาวเหมือนกันนะ ฟังนานๆเค้าก็มีเบื่อได้ เหมือนที่ผมเบื่อ Heavy ณ ตอนนี้
.

ต่อจากนี้ผมจะยังฟังเพลงของพวกเขาต่อมั้ย ก็ยังฟังอยู่ดีครับ แหะๆ




Top Tracks : Battle Symphony , One More Light , Invisible , Nobody Can Save Me , Sharp Edges
Least Favorite Track : Sorry For Now


Give 6.5/10





ถ้าใครอยากติดตามรีวิวอัลบั้มเพลงใหม่ เข้าไปติดตามและกด Like ในเพจผมได้เลยครับ มีให้อ่านเกือบทุกสัปดาห์ครับ
>>>> https://www.facebook.com/fungpaifungma/
ชื่อสินค้า:   ซีดีอัลบั้ม One More Light - Linkin Park
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่