ณ วันนี้ 22 พฤษภาคม 2560 อีกประมาณ 6 วันก็จะถึงวันคอนเสิร์ตเดี่ยวในไทยครั้งแรกของ "แทยอน" แล้ว
วันนี้เลยอยากจะมาเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับเส้นทางการเป็นศิลปินเดี่ยวของแทยอนครับ
จากจุดเริ่มต้นจนถึงตอนนี้ที่เธอได้รับการยอมรับในฐานะศิลปินเดี่ยว
The Beginning - You Bring Me Joy
แทยอน เด็กสาวจากชอนจูผู้รักในการร้องเพลงเริ่มต้นการทำความฝันในการเป็นนักร้องให้เป็นจริงในปี 2004 ด้วยการชนะการประกวด SM Entertainment's 8th Youth Best Competition ซึ่งจากการที่เธอสามารถชนะการประกวดได้นั้นก็ทำให้เธอได้รับโอกาสครั้งสำคัญในชีวิตกับการเซ็นสัญญาเป็นศิลปินฝึกหัดของบริษัท SM Entertainment บริษัทที่ปั้นศิลปินไอดอลให้ประสบความสำเร็จอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น H.O.T, S.E.S, Shinhwa, โบอา และที่กำลังมาแรงในขณะนั้น ดงบังชินกิ
ความสามารถด้านการร้องเพลงของแทยอนในขณะนั้น ด้วยวัยเพียงแค่ 15 ปีก็ได้ไปเตะตาศิลปินท่านหนึ่งที่ชื่อ The One เข้า ซึ่งทำให้เธอได้มีโอกาส Featuring กับเขาในเพลงที่ 9 จากอัลบั้มของเขาในขณะนั้นอย่าง "You Bring Me Joy" สร้างความฉงนให้แก่คนฟังว่า "ใครคือแทยอน?"
Kid Leader of Girls' Generation
3 ปีหลังจากมีโอกาสร่วมฟีทเจอริ่งในเพลง You Bring Me Joy แทยอนก็ได้เปิดตัวเป็นศิลปินไอดอลอย่างเป็นทางการ ในฐานะหัวหน้าวงและนักร้องเสียงหลักของเกิร์ลกรุ๊ปวงใหม่วงใหญ่ของ SM "โซนยอชิแด" เมื่อปี 2007
โชคไม่ดีนักที่ในช่วงปีแรกที่เดบิวต์ โซนยอชิแดต้องเจอกับกระแสแอนตี้อย่างรุนแรง ความสามารถของแทยอนรวมถึงสมาชิกในวงถูกคำด่าทอและเสียงสบประมาทกลบซะจนเกือบมิด ไม่มีใครสนใจในพลังเสียงของแทยอนที่เรียกได้ว่าแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก แต่กลับถูกค่อนแคะว่า "เสียงน่าเกลียด" จากอคติอย่างแรงกล้าในยุคนั้น
If you can hear me
แต่เพชรก็ยังเป็นเพชรอยู่วันยันค่ำ ในปี 2008 แทยอนได้รับโอกาสครั้งสำคัญที่เปิดโอกาสให้เธอได้แสดงศักยภาพของเธอได้อย่างเต็มที่ด้วยการร้องเพลงประกอบซีรีส์ Hong Gil Dong ในเพลง "If" ซึ่งเพลงนี้เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ชื่อของแทยอนได้รับการยอมรับมากขึ้นในฐานะนักร้องหญิงที่มีความสามารถสูง หลายคนแทบไม่เชื่อว่าเธอคือสมาชิกในวงเกิร์ลกรุ๊ปที่ถืออมยิ้มเต้นเพลงน่ารักๆเมื่อช่วงต้นปีของปีนั้น
ไม่ปล่อยให้กระแสตกไป ในปีเดียวกันนั้นเองแทยอนก็ได้รับโอกาสร้องเพลงประกอบซีรีส์อีกเพลงหนึ่ง นั่นคือ "Can Your Hear Me" เพลงประกอบซีรีส์ Beethoven Virus ที่ทำให้เธอยิ่งได้รับการยอมรับมากยิ่งขึ้น ชื่อแทยอนกลายเป็น 1 ในตัวท็อปด้านการร้องของไอดอลหญิงอย่างรวดเร็ว และสิ่งที่ทำให้แทยอนเป็นที่พูดถึงมากที่สุดนั่นก็คือ อินเนอร์ในการร้องเพลงของเธอ จนถึงขั้นเคยมีคำกล่าวที่ว่า "แทยอนร้องเพลงเศร้าได้เหมือนเธอผ่านการหย่าร้างมาแล้ว 7 ครั้ง"
ด้วยความสามารถและการที่ทั้ง 2 เพลงประสบความสำเร็จอย่างมาก ก็ทำให้แทยอนได้รับรางวัล Golden Disk Awards: Yepp Popularity Award จากเพลง Can You Hear Me หลังจากนั้น แทยอนก็ได้ปล่อยเพลงประกอบซีรีส์มาเรื่อยๆ และหลายๆเพลงก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น I Love You, Missing You Like Crazy, Closer และ And One เป็นต้น และถือเป็นโชคดีมากๆของเธอที่หลังจากประสบความสำเร็จจากเพลงประกอบซีรีส์ทั้ง 2 เพลงนั้น ในที่สุดโซนยอชิ-็สามารถฝ่ากระแสแอนตี้และแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวกับเพลงชาติของวงอย่าง Gee เพลงที่ส่งให้โซนยอชิ-้าวขึ้นสู่ฐานะเกิร์ลกรุ๊ปอันดับ 1 ของวงการและทำให้พวกเธอได้รับฉายาว่า "เกิร์ลกรุ๊ปแห่งชาติ" เปิดโอกาสให้ทั้งแทยอนและสมาชิกในวงได้รับการยอมรับในความสามารถมากยิ่งขึ้น
This is "I"
ต้นปี 2015 หลังจากประสบความสำเร็จในฐานะโซนยอชิแดมากว่า 6 ปี มีข่าวลือออกมาเกี่ยวกับการโซโล่เดบิวต์ของแทยอนออกมาอย่างหนาหู จนในที่สุด SM ก็ออกมายอมรับว่าแทยอนกำลังเตรียมงานเพลงเดี่ยวจริง แต่ยังไม่มีการกำหนดว่าจะออกมาตอนไหน ระหว่างนั้นแทยอนก็ทำงานวงอย่างหนักกับการคัมแบคอัลบั้มเต็มชุดที่ 5 ของวงอย่าง "Lion Heart" ซึ่งเป็นการคัมแบคในฐานะเกิร์ลกรุ๊ปสมาชิก 8 คนครั้งแรกหลังจากที่เจสสิก้าออกจากวงไปเมื่อเดือนกันยายนปี 2014
ในที่สุดช่วงกลางปี 2015 SM ก็คอนเฟิร์มว่าแทยอนจะทำการโซโล่เดบิวต์ในช่วงปลายปี ข่าวนี้ทำให้แฟนคลับและแฟนเพลงของแทยอนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก หลายคนมั่นใจว่าเพลงโซโล่เดบิวต์ของแทยอนจะต้องมาในรูปแบบของเพลงแนวบัลลาด เพราะบัลลาดกับแทยอนคือสิ่งที่เข้ากันได้อย่างดีมาก และแทยอนก็ถ่ายทอดอารมณ์เพลงในแนวบัลลาดได้ดี
จนในที่สุด วันที่ 7 ตุลาคม 2015 "I" ผลงานมินิอัลบั้มเดี่ยวชุดแรกของแทยอนก็ออกวางจำหน่าย
ทันทีที่เพลง I ปล่อยออกมาก็สร้างความแปลกใจให้กับแฟนเพลงไม่น้อย เพราะ I ไม่ใช่เพลงบัลลาดแต่เป็นเพลงแนว Modern Rock ในขณะที่โซวอนต่างรู้กันดีว่าเพลงแนวนี้แหละคือแนวที่แทยอนชอบ อย่างไรก็ตาม I ก็ถ่ายทอดความเป็นแทยอนได้เป็นอย่างดีและสร้างความประทับใจให้แก่ผู้ที่ได้ฟังเป็นอย่างมาก และนั่นเองที่ทำให้ I กลายเป็นเพลงที่ประสบความสำเร็จสูงสุดของ SM ในปีนั้น เพลงสามารถขึ้นอันดับ 1 บนชาร์ทเพลงเกาหลีแทบทุกชาร์ท จนถึงปัจจุบันสามารถทำยอดดาวน์โหลดไปได้กว่า 1,800,000+ ครั้ง ส่วนตัวอัลบั้มนั้นก็สามารถทำยอดขายได้มากกว่า 140,000 แผ่น ซึ่งน้อยมากที่ศิลปินหญิงเดี่ยวจะทำยอดขายได้มากขนาดนี้ ในขณะที่ MV ของเพลงก็ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี และจนถึงปัจจุบัน MV เพลง I ก็มียอดวิวสูงถึง 109,996,364 ครั้ง (ยอดวิวเวลา 10.50น. วันนี้) อีกทั้งยังสามารถกวาดถ้วยรางวัลจากรายการเพลงของเกาหลีไปได้ถึง 11 ถ้วย โดยสามารถทำ Triple Crown ในรายการ M! Countdown, Music Bank และ Inkigayo ได้
ไม่ใช่แค่ I เท่านั้นที่ประสบความสำเร็จ เพลงที่ 2 ในอัลบั้มอย่าง U R ก็ได้รับการตอบรับที่ดีมากไม่แพ้กัน U R นั้นเปรียบเสมือนแทยอนในความคิดของหลายๆคน คือ บัลลาด ซึ่งในช่วงแรกๆที่ปล่อยอัลบั้ม ในบางครั้ง U R ก็ปาด I ขึ้นที่ 1 ของชาร์ทไปได้ โดย U R ทำยอดดาวน์โหลดได้สูงถึง 507,286 ครั้ง และทุกเพลงในอัลบั้มนี้ก็สามารถทำยอดดาวน์โหลดได้มากกว่า 150,000 ครั้งทุกเพลง
ความสำเร็จอย่างถล่มทลายจาก I ก็มากเพียงพอที่จะทำให้แทยอนได้รับรางวัลมากมายจากหลายเวที โดยเฉพาะรางวัลสำคัญอย่าง Best Female Artist จากเวที Mnet Asian Music Awards 2015
[K-POP] เส้นทางในฐานะศิลปินเดี่ยวของ "แทยอน".... จากคิดลีดเดอร์สู่แทยอนที่เชื่อใจและฟังเพลงได้
ณ วันนี้ 22 พฤษภาคม 2560 อีกประมาณ 6 วันก็จะถึงวันคอนเสิร์ตเดี่ยวในไทยครั้งแรกของ "แทยอน" แล้ว
วันนี้เลยอยากจะมาเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับเส้นทางการเป็นศิลปินเดี่ยวของแทยอนครับ
จากจุดเริ่มต้นจนถึงตอนนี้ที่เธอได้รับการยอมรับในฐานะศิลปินเดี่ยว
แทยอน เด็กสาวจากชอนจูผู้รักในการร้องเพลงเริ่มต้นการทำความฝันในการเป็นนักร้องให้เป็นจริงในปี 2004 ด้วยการชนะการประกวด SM Entertainment's 8th Youth Best Competition ซึ่งจากการที่เธอสามารถชนะการประกวดได้นั้นก็ทำให้เธอได้รับโอกาสครั้งสำคัญในชีวิตกับการเซ็นสัญญาเป็นศิลปินฝึกหัดของบริษัท SM Entertainment บริษัทที่ปั้นศิลปินไอดอลให้ประสบความสำเร็จอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น H.O.T, S.E.S, Shinhwa, โบอา และที่กำลังมาแรงในขณะนั้น ดงบังชินกิ
ความสามารถด้านการร้องเพลงของแทยอนในขณะนั้น ด้วยวัยเพียงแค่ 15 ปีก็ได้ไปเตะตาศิลปินท่านหนึ่งที่ชื่อ The One เข้า ซึ่งทำให้เธอได้มีโอกาส Featuring กับเขาในเพลงที่ 9 จากอัลบั้มของเขาในขณะนั้นอย่าง "You Bring Me Joy" สร้างความฉงนให้แก่คนฟังว่า "ใครคือแทยอน?"
3 ปีหลังจากมีโอกาสร่วมฟีทเจอริ่งในเพลง You Bring Me Joy แทยอนก็ได้เปิดตัวเป็นศิลปินไอดอลอย่างเป็นทางการ ในฐานะหัวหน้าวงและนักร้องเสียงหลักของเกิร์ลกรุ๊ปวงใหม่วงใหญ่ของ SM "โซนยอชิแด" เมื่อปี 2007
โชคไม่ดีนักที่ในช่วงปีแรกที่เดบิวต์ โซนยอชิแดต้องเจอกับกระแสแอนตี้อย่างรุนแรง ความสามารถของแทยอนรวมถึงสมาชิกในวงถูกคำด่าทอและเสียงสบประมาทกลบซะจนเกือบมิด ไม่มีใครสนใจในพลังเสียงของแทยอนที่เรียกได้ว่าแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก แต่กลับถูกค่อนแคะว่า "เสียงน่าเกลียด" จากอคติอย่างแรงกล้าในยุคนั้น
แต่เพชรก็ยังเป็นเพชรอยู่วันยันค่ำ ในปี 2008 แทยอนได้รับโอกาสครั้งสำคัญที่เปิดโอกาสให้เธอได้แสดงศักยภาพของเธอได้อย่างเต็มที่ด้วยการร้องเพลงประกอบซีรีส์ Hong Gil Dong ในเพลง "If" ซึ่งเพลงนี้เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ชื่อของแทยอนได้รับการยอมรับมากขึ้นในฐานะนักร้องหญิงที่มีความสามารถสูง หลายคนแทบไม่เชื่อว่าเธอคือสมาชิกในวงเกิร์ลกรุ๊ปที่ถืออมยิ้มเต้นเพลงน่ารักๆเมื่อช่วงต้นปีของปีนั้น
ไม่ปล่อยให้กระแสตกไป ในปีเดียวกันนั้นเองแทยอนก็ได้รับโอกาสร้องเพลงประกอบซีรีส์อีกเพลงหนึ่ง นั่นคือ "Can Your Hear Me" เพลงประกอบซีรีส์ Beethoven Virus ที่ทำให้เธอยิ่งได้รับการยอมรับมากยิ่งขึ้น ชื่อแทยอนกลายเป็น 1 ในตัวท็อปด้านการร้องของไอดอลหญิงอย่างรวดเร็ว และสิ่งที่ทำให้แทยอนเป็นที่พูดถึงมากที่สุดนั่นก็คือ อินเนอร์ในการร้องเพลงของเธอ จนถึงขั้นเคยมีคำกล่าวที่ว่า "แทยอนร้องเพลงเศร้าได้เหมือนเธอผ่านการหย่าร้างมาแล้ว 7 ครั้ง"
ด้วยความสามารถและการที่ทั้ง 2 เพลงประสบความสำเร็จอย่างมาก ก็ทำให้แทยอนได้รับรางวัล Golden Disk Awards: Yepp Popularity Award จากเพลง Can You Hear Me หลังจากนั้น แทยอนก็ได้ปล่อยเพลงประกอบซีรีส์มาเรื่อยๆ และหลายๆเพลงก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น I Love You, Missing You Like Crazy, Closer และ And One เป็นต้น และถือเป็นโชคดีมากๆของเธอที่หลังจากประสบความสำเร็จจากเพลงประกอบซีรีส์ทั้ง 2 เพลงนั้น ในที่สุดโซนยอชิ-็สามารถฝ่ากระแสแอนตี้และแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวกับเพลงชาติของวงอย่าง Gee เพลงที่ส่งให้โซนยอชิ-้าวขึ้นสู่ฐานะเกิร์ลกรุ๊ปอันดับ 1 ของวงการและทำให้พวกเธอได้รับฉายาว่า "เกิร์ลกรุ๊ปแห่งชาติ" เปิดโอกาสให้ทั้งแทยอนและสมาชิกในวงได้รับการยอมรับในความสามารถมากยิ่งขึ้น
ต้นปี 2015 หลังจากประสบความสำเร็จในฐานะโซนยอชิแดมากว่า 6 ปี มีข่าวลือออกมาเกี่ยวกับการโซโล่เดบิวต์ของแทยอนออกมาอย่างหนาหู จนในที่สุด SM ก็ออกมายอมรับว่าแทยอนกำลังเตรียมงานเพลงเดี่ยวจริง แต่ยังไม่มีการกำหนดว่าจะออกมาตอนไหน ระหว่างนั้นแทยอนก็ทำงานวงอย่างหนักกับการคัมแบคอัลบั้มเต็มชุดที่ 5 ของวงอย่าง "Lion Heart" ซึ่งเป็นการคัมแบคในฐานะเกิร์ลกรุ๊ปสมาชิก 8 คนครั้งแรกหลังจากที่เจสสิก้าออกจากวงไปเมื่อเดือนกันยายนปี 2014
ในที่สุดช่วงกลางปี 2015 SM ก็คอนเฟิร์มว่าแทยอนจะทำการโซโล่เดบิวต์ในช่วงปลายปี ข่าวนี้ทำให้แฟนคลับและแฟนเพลงของแทยอนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก หลายคนมั่นใจว่าเพลงโซโล่เดบิวต์ของแทยอนจะต้องมาในรูปแบบของเพลงแนวบัลลาด เพราะบัลลาดกับแทยอนคือสิ่งที่เข้ากันได้อย่างดีมาก และแทยอนก็ถ่ายทอดอารมณ์เพลงในแนวบัลลาดได้ดี
จนในที่สุด วันที่ 7 ตุลาคม 2015 "I" ผลงานมินิอัลบั้มเดี่ยวชุดแรกของแทยอนก็ออกวางจำหน่าย
ทันทีที่เพลง I ปล่อยออกมาก็สร้างความแปลกใจให้กับแฟนเพลงไม่น้อย เพราะ I ไม่ใช่เพลงบัลลาดแต่เป็นเพลงแนว Modern Rock ในขณะที่โซวอนต่างรู้กันดีว่าเพลงแนวนี้แหละคือแนวที่แทยอนชอบ อย่างไรก็ตาม I ก็ถ่ายทอดความเป็นแทยอนได้เป็นอย่างดีและสร้างความประทับใจให้แก่ผู้ที่ได้ฟังเป็นอย่างมาก และนั่นเองที่ทำให้ I กลายเป็นเพลงที่ประสบความสำเร็จสูงสุดของ SM ในปีนั้น เพลงสามารถขึ้นอันดับ 1 บนชาร์ทเพลงเกาหลีแทบทุกชาร์ท จนถึงปัจจุบันสามารถทำยอดดาวน์โหลดไปได้กว่า 1,800,000+ ครั้ง ส่วนตัวอัลบั้มนั้นก็สามารถทำยอดขายได้มากกว่า 140,000 แผ่น ซึ่งน้อยมากที่ศิลปินหญิงเดี่ยวจะทำยอดขายได้มากขนาดนี้ ในขณะที่ MV ของเพลงก็ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี และจนถึงปัจจุบัน MV เพลง I ก็มียอดวิวสูงถึง 109,996,364 ครั้ง (ยอดวิวเวลา 10.50น. วันนี้) อีกทั้งยังสามารถกวาดถ้วยรางวัลจากรายการเพลงของเกาหลีไปได้ถึง 11 ถ้วย โดยสามารถทำ Triple Crown ในรายการ M! Countdown, Music Bank และ Inkigayo ได้
ไม่ใช่แค่ I เท่านั้นที่ประสบความสำเร็จ เพลงที่ 2 ในอัลบั้มอย่าง U R ก็ได้รับการตอบรับที่ดีมากไม่แพ้กัน U R นั้นเปรียบเสมือนแทยอนในความคิดของหลายๆคน คือ บัลลาด ซึ่งในช่วงแรกๆที่ปล่อยอัลบั้ม ในบางครั้ง U R ก็ปาด I ขึ้นที่ 1 ของชาร์ทไปได้ โดย U R ทำยอดดาวน์โหลดได้สูงถึง 507,286 ครั้ง และทุกเพลงในอัลบั้มนี้ก็สามารถทำยอดดาวน์โหลดได้มากกว่า 150,000 ครั้งทุกเพลง
ความสำเร็จอย่างถล่มทลายจาก I ก็มากเพียงพอที่จะทำให้แทยอนได้รับรางวัลมากมายจากหลายเวที โดยเฉพาะรางวัลสำคัญอย่าง Best Female Artist จากเวที Mnet Asian Music Awards 2015