สำหรับทริปนี้ต้องขอบอกเลยว่า เหนื่อยที่สุด เหนื่อยในการวางแผนและหาข้อมูลสุดๆ เนื่องจากเราไปวันที่ 2 เมษา ซึ่งเป็นสิ้นสุดการเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ที่ชื่อว่า Nowruz คนที่นั่นจะหยุดงานเหมือนสงกรานต์บ้านเรา แต่ของเค้าคือตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม ถึง 2 เมษายน เค้าฉลองกันทีเป็นอาทิตย์อ่ะค่ะ
หวานไม่สามารถติดต่อโรงแรมไหนได้เลยถึงแม้ว่าจะติดต่อไปก่อน 20 มีนา เนื่องจากเค้าอาจจะเตรียมตัวฉลองกัน และบวกกับเมษาเป็นเดือนที่อิหร่านมีนักท่องเที่ยวเยอะที่สุด เพราะอากาศดีมากกกกก ทำให้ยากขึ้นไปอีกค่ะเพราะที่พักหลายๆที่เต็ม ต้องตัดใจจองโรงแรมคืนแรกผ่าน booking.com ซึ่งมีให้เลือกแค่ 3 โรงแรม เนื่องจากว่า เราต้องใช้ใบจองโรงแรมคืนแรกเพื่อขอ Visa on Arrival ค่ะ สำหรับทริปนี้สิ่งที่ช่วยชีวิตได้มากคือหนังสือ lonely planet ช่วยเยอะมากๆจริงๆค่ะ นี่อ่านทั้งวันทั้งคืน รีวิวโรงแรมจากพวก Trip advisor ก็ช่วยได้ค่ะ แต่ต้องอ่านทุกรีวิวจริงๆ แล้วมาสรุปเอาว่าดีหรือไม่ดี เพราะแต่ละคนก็จะมีความเห็นที่ต่างกันค่ะ ใช้ความละเอียดสูงมาก เนื่องจากโรงแรมที่นู่นก็มีรูปให้ดูน้อยมากๆจริงๆ

การจองบัส ตั๋วเครื่องบินในประเทศ หรือว่าโรงแรมต่างๆอาศัยให้โรงแรมที่เรานอนช่วยจองล้วนๆค่ะ ฉนั้นการเลือกโรงแรมที่พนักงาน helpful พูดอังกฤษได้ค่อนข้างสำคัญนะคะ

แพลนนี้เป็นแพลนที่ปรับตลอดเวลา เราได้มีการแพลนคร่าวๆไว้ล่วงหน้า แต่สุดท้ายพอไปถึงได้ออกมาแบบนี้ ถามว่าได้ดั่งใจไม๊ ก็โอเค แต่ดีกว่านี้ได้ ถ้าเกิดจองอะไรได้ล่วงหน้าคงแพลนออกมาได้ดีกว่านี้ เดี๊ยวจะอธิบายให้ฟังเรื่อยๆน้าค้า
พยายามเขียนให้ละเอียดที่สุดเพื่อเป็นประโยชน์กับคนอื่นๆที่แพลนจะไปให้ได้มากที่สุดค่ะ
แต่อย่าคาดหวังกับเรื่องราวประวัติของแต่ละสถานที่นะคะ หวานไม่ถนัดจริงๆ บางทีอะไรที่อ่านมาอาจจะไม่ได้ถูกต้องทั้งหมด จึงขอละไว้นะคะ ถ้าใครสนใจลองซื้อหนังสืออ่านเพิ่มเอานะค้า

ส่วนถ้าถามว่าคุ้มไม๊สำหรับทริปนี้ เรียกได้ว่าคุ้มค่ามากถึงมากที่สุดค่ะ อะไรต่างๆที่เราได้ยินมาในแง่ลบมันไม่ใช่เลย ผู้คนที่นี่น่ารักมากๆ เค้าพยายามจะช่วยเหลือเราอย่างสุดความสามารถ แม้ว่าจะพูดอังกฤษได้บ้าง ไม่ได้บ้าง แต่ทุกคนพร้อมช่วย และคนที่นั่นต้อนรับนักท่องเที่ยวมากๆนะคะ เค้าจะมาขอถ่ายรูป ชวนเดินเล่น เป็นเรื่องปกติค่ะ เราจะได้เห็นถึงน้ำใจของคนอิหร่านทั้งทริป ไม่ได้อันตรายน่ากังวลเลยค่ะ


Iran Trip (April 2017)
Tehran, Kashan, Esfahan, Yazd, Shiraz

Day1: 2 Apr
Tehran
Bangkok – Tehran by Thai Airways TG 527 (15.30-20.50) 7hrs 20 mins
Stay over at Tehran

Day2: 3 Apr
Kashan – Esfahan
Leaving Tehran to Kashan(2hrs 30mins) stop over at Fin Garden
From Kashan to Esfahan by private taxi
Esfahan : Jameh Mosque, Sio seh pol Bridge
Stay over at Esfahan

Day3: 4 Apr
Esfahan
Naqsh-E Jahan Square (Imam Square) : Bazaar, Sheikh Lotfollah Mosque, Shah Mosque, Ali Qapu Palace
Chehel Sotoun Palace
Khaju Bridge, Sio seh pol Bridge
18.00 Bus to Yazd (4hrs)
Stay over at Yazd

Day4: 5 Apr
Yazd
Kharanaq, Chak Chak, Meybod, Bafq Desert by private taxi
Amir Complex, Old Town
22.00 Bus to Shiraz
Stay over at Shiraz

Day5: 6 Apr
Shiraz
Persepolis, Necropolis by private taxi
Eram Garden, Bazaar

Day6: 7 Apr
Shiraz – Tehran – Bangkok
Pink Mosque, Shah Cheragh
Shiraz-Tehran by QHESHM Air 13.50-15.00
Tehran: Adazi Square
Tehran-Bangkok by Thai Airways TG 528 (22.00-6.55)+1day


ข้อควรรู้ก่อนไป

Money
ใช้เงินสกุล Iranian Rials (IRR) ควรแลกที่สนามบินให้พอใช้ไปเลย ในเมืองไม่ได้มี Exchange เยอะ อัตราแลกเปลี่ยนพอๆกันหมดค่ะ แลกที่สนามบิน 100 GBP ได้ 4,500,000 Rials
คิดง่ายๆแบบปัดเศษไปเลย 1,000 Rials เท่ากับ 1 บาท เราค่ะ

คนที่นั่นส่วนมากเค้าจะเรียกใช้เงินเป็น Toman โทมาน คือตัด 0 ไปหนึ่งตัว เช่น 1,000 Rials เท่ากับ 100 Toman เท่ากับ 1 บาท เรานั่นเอง

ที่นี่ไม่นิยมใช้บัตรเครดิตนะคะ แทบจะไม่เห็นเลยแม้แต่ในโรงแรม ฉนั้นย้ำอีกครั้งว่าให้แลกเงินให้พอใช้จ่ายนะคะ คำนวนให้ดี

Electricity
220V ปลั๊กเป็นสองรูกลมๆ สองรู

Simcard
ซื้อที่ airport ค่ะ เห็นอยู่บริษัทเดียว Irancell ราคา 459,000 Rials
เล่นเนทได้ 5GB โทรเบอร์อิหร่านได้ 200 นาที

ที่นั่นเค้าบล็อค FB นะคะ ถ้าจะใช้ให้โหลด VPN ส่วน Line กับ IG เล่นได้ปกติ
การเดินทาง
ที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวคือ แท๊กซี่ สำหรับการเดินทางในเมือง และรถบัสสำหรับการเดินทางข้ามเมือง
การแต่งกาย
ผู้หญิงที่นี่ต้องสวมผ้าคลุมผมไว้ตลอด แขนยาว ขายาว ไม่รัดรูปนะคะ
ส่วนคุณผู้ชายก็สบายๆแค่ไม่ใส่ขาสั้นค่ะ

Shopping
มีตลาดหรือที่เค้าเรียกกันว่า Bazaar อยู่ทุกเมือง ผ้าทอ พรม ของสวยๆเยอะมากๆค่ะ

Food
ผลไม้ที่นี่สดและรสชาติดีมาก ที่นี่ไม่มีหมู เค้าจะเน้นเนื้อแกะและเนื้อวัว เนื้อแกะที่นี่อร่อยมาก ไม่มีกลิ่น อร่อยมากจริงๆค่ะ

Visa
มีให้เลือก 2 แบบค่ะ จะขอจากที่ไทยก็ได้ แต่ขั้นตอนค่อนข้างยุ่งยาก
หวานแนะนำให่ใช้แบบ Visa on Arrival ค่ะ

เตรียมแพลนของการเที่ยว ใบจองโรงแรมคืนแรก
ค่าประกันการเดินทาง 14 Euro ค่าวีซ่า 75 Euro รวม 89 Euro
ก็ได้ Visa on Arrival แล้วค่ะ ไม่ยุ่งยาก

Time
เวลาที่นั่นช้ากว่าเรา 2 ชั่วโมงครึ่ง

Airport
ที่เตหะรานมี 2 airport คือ Imam Khomeini Airport ซึ่งเป็นสนามบินระหว่างประเทศ กับ Mehrabad Airport เป็นสนามบินภายในประเทศ ซึ่ง 2 สนามบินนี้ ไม่ใกล้กันค่ะ ห่างกัน 52 กิโล กะเวลาให้ดีๆนะคะ
ค่าเข้าชม
ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆเช่น Mosque หรือ Palace หรือ Garden จะอยู่ที่ระหว่าง 150,000 Rails – 250,000 Rails (150 – 250 บาท) บางที่ให้เข้าชมฟรีค่ะ

ภาษา
ภาษาประจำเข้าคือภาษาฟาร์ซีนะคะ บอกไว้ก่อนเลยว่า เม็มเลขภาษาฟาร์ซีไว้เลขค่ะ ได้ใช้แน่นอน

Day 1 Tehran

เดินทางมาถึงเตหะราน โดยการบินไทย flight TG 527 15.30-20.50 (7hrs 20mins) มาถึงเตหะราน 20.50 เราก็เดินไปซื้อประกัน 14 Euro เพื่อไปยื่นทำ Visa on Arrival ค่าวีซ่าคนละ 75euro โอ้โหว แจคพอต คนเยอะมากกกก เหมือนเพิ่งจบเทศกาลเฉลิมฉลองปีใหม่ของที่นี่ที่เค้าเรียกกันว่า Nowruz และเดือนเมษา เป็นเดือนที่นักท่องเที่ยวเยอะที่สุด พอได้ประกันแล้ว ก็เอาใบนั้นไปยื่นจ่ายเงินค่าวีซ่า ต่อคิวยาวเหยียด คนไม่ยืนเป็นแถว แย่งกัน วุ่นวายสุดๆ พอได้จ่ายเงินค่าวีซ่าก็ต้องเอาเอกสารซึ่งก็คือแพลนของทริปนี้และใบจองโรงแรมในคืนแรกพร้อม passport ไปยื่นที่เค้าเตอร์ข้างๆ รอไปค่ะ ทั้งprocess 2 ชม ครึ่ง กว่าจะผ่านตมที่คิวยาวเหยียดอีก นี่มันอะไร!

ทั้งหมดค่าวีซ่าประมาณ 90 Euro ค่ะ อัพเดท ณ วันที่ 2 April 2017

พอเดินออกมาก็รีบเดินไปรับกระเป๋า และไปหาที่แลกเงินซึ่งอยู่ชั้น 2 ด้วยความที่คนเยอะ เค้าให้แลกคนละ 50 euro แต่นี่ตื๊อสุดๆ เลยได้มา 300 euro เค้าเองคงไม่ได้เตรียมรับมือกับกองทัพนักท่องเที่ยวเหมือนกัน เลยรวนไปหมด ได้เงินก็เดินลงไปชั้น 1 ซื้อ simcard ซิมราคา 16 usd หรือ 459,000 R ประมาณ 450 บาท เล่นเนทได้ 5gb โทรฟรีได้ 200 นาที

ก่อนจะเดินออกมาเรียกแท๊กซี่เข้าไปโรงแรมในเมือง 750,000 R ใช้เวลา 40 นาที ระยะทางเกือบ 60 กม. สุดท้ายก็มาถึงโรงแรม 1.15 น. OMG! เครื่องลง สองทุ่มกว่า ถึงโรงแรมตีหนึ่งกว่านะคะ หมดพลัง และพรุ่งนี้จะไป Esfahan แพลนไว้ว่าจะบิน แต่ดันมีแต่ flight 7-7.30 ที่เป็นตอนเช้า แล้วอีกทีก็บ่ายสองเลย ซึ่งบ่ายสองเต็ม เราก็ตัดสินใจว่า ไม่ไหวจะนอนสองชม เพื่อไปต่อ เลยตัดสินใจให้โรงแรมติดต่อรถส่วนตัวให้ เพราะใจจริงก็อยากแวะเที่ยว Kashan ด้วย ได้ราคามาที่ 3,500,000 R คือโอเคเลยนะคะ แลกกับการไม่ต้องนอน 2 ชม ไปเดินป่วยๆที่ Esfahan เพราะค่าตั๋วเครื่องบินตอนบ่ายสองก็ 2,700,000 R แต่ flight เช้า Iran air นี่แค่ 1,200,000 R เอง แต่อดนอน! เลยไม่เป็นไร แพลนเรายืดหยุ่นได้ เวลานอนเราสำคัญ555 จึงจองรถและขึ้นไปนอนค่ะ

Day 2 Tehran – Kashan – Esfahan


ตื่นเช้ามาทาน breakfast ของโรงแรม อาหารก็โอเคเลยค่ะ

เดินทางออกจากโรงแรม 8.40 น. มาถึง Fin Garden เมือง Kashan 11.20 น. 2ชม 40 นาที คนขับรถของเราพูดอังกฤษไม่ได้เลยนะคะ เราต้องเม็มภาษาฟาซีคำว่าห้องน้ำเอาไว้ เผื่อฉุกเฉินค่ะ มาถึง Fin Garden อากาศดีมากกกก สวนก็สวย ร่มรื่น ค่าเข้า 200,000 R


12.20 เราเดินทางออกจาก Kashan ไป Esfahan ต่อ ใช้เวลา 2 ชม 40 นาที ก็มาถึง Esfahan ตอน 15.00 เราจองโรงแรมไว้ที่ Bekhradi’s Historical House ซึ่งสวยมากๆ
ห้องนอนมีระเบียงชิวมาก เจ้าของก็น่ารัก สุภาพ และให้ข้อมูลเราเยอะมากๆค่ะ โชคดีมากที่เค้าตอบอีเมลเราตอนเครื่องจะออกจากกรุงเทพ เลยรีบส่งเมลกลับไปคอนเฟิม เลยได้นอนที่นี่ ส่วนโรงแรมคืนต่อๆไปยังไม่ได้รับการตอบรับเลยค่ะ
รีวิวโรงแรมอย่างละเอียด และรูปเพิ่มเติมดูเพิ่มได้ที่ https://www.facebook.com/pg/wthediary/photos/?tab=album&album_id=804190046404574

16.10 เราให้โรงแรมเรียก taxi ให้ไป Jame Mosque 60,000 R ซึ่งใข้เวลาแค่ 5 นาทีก็ถึงค่ะ จริงๆเดินก็ได้ แต่ตอนนั้นแดดแรงมาก เราเลยเรียกรถไป ตรง Jame Mosque ก็มีตลาดให้เดินเล่น เราก็เดินเล่นรอบๆ เดินหาอะไรง่ายๆทาน ก่อนเดินไป Jameh Mosque
หิวนิดๆ เราก็เหลือบไปเห็นข้าวโพดคลุกบลาๆๆ เพราะเราไม่รู้จริงๆว่าเค้าคลุดอะไรบ้าง ส่วนรสชาตนี่หวานไม่รู้จะอธิบายยังไง
ไปถึงต้องลองค่ะ ถ้วยละ 40,000 R ค่ะ

ทานข้าวโพดเสร็จเราก็เดินมาถึง Jame Mosque
ค่าเข้า 200,000 R สวยงามมากๆค่ะ