ชื่อสามัญทางใจที่ได้ยินทีไรใครต่อใครต้องนึกถึงเวียดนาม
การเดินทาง :เหล็กลอยฟ้า(เครื่องบิน) การเดินทางบนรางคู่(รถไฟ) เดิน รถบัส(นอน)
รูปแบบการเดินทาง :แบ็คแพ็ค / โซโล
ช่วงเวลา :5คืน/6 วัน (23 – 28 กพ 60)
ที่มาของทริปนี้เริ่มแรกคิดแค่อยากไปเที่ยวต่างประเทศคนเดียว และที่ไหนสักที่ที่เหมาะกับตัวเองก็เลยรื้อหนังสือเที่ยวมาเล่มหนึ่งโดยซื้อไว้หลายปี และที่เป็นแรงจูงใจของการเดินทางคือการปีนเขาเพราะที่นี่ได้ทั้งเหรียญและใบเซอร์แทรคกิ้งด้วย
หลังจากล็อคเป้าหมายเรียบร้อยก็เริ่มเตรียมตัวสำหรับทริปนี้ไม่ว่าจะอ่านรีวิว ดูรีวิวภาพเคลื่อนไหว, จองแพ็คเก็จปีนเขา 2D/1N, จองตั๋วเครื่องบิน, จองรถไฟ Hanoi – Lao Cao, จองที่พัก 3 คืน และรวมไปถึงจองรถบัส Sapa – Hanoi ส่วนการสื่อสารก็เตรียมตัวไปบ้างอย่างเช่น ซินจ่าว ก่ามเอิ้น ติงเตี่ยน หมด-ฮาย-บา…….
การแลกเงิน ตอนแรกกะว่าจะแลกเป็น Thai Baht เป็น USD จากไทย แล้วแลก USD เป็น VND ที่สนามบินนอยไบ แต่ไฟท์ไปถึงที่นอยไบเย็น เลยตัดสินใจแลกทั้ง USD และ VND จากไทยไปเลย จึงแลกจากตัวแทนแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศแถวๆ บิ๊กซีราชดำริ โดยแลก USD และ VND เนื่องจากค่าโรงแรม และค่าแพ็คเก็จปีนเขาจ่ายเป็นดอลล่าร์ได้
เอาล่ะพอทราบที่มากันแล้ว เมืองนี้มีเสน่ห์แค่ไหน ผมจะพาคุณไป...ด้วยกัน
1/6 BKK - HAN
การเดินทางขาไปใช้บริการสายการบิน Jetstar 1440 – 1630 hr ขึ้นที่สุวรรณภูมิครับ เมื่อไปถึงสนามบินนอยไบ
และผ่านตม.มาแล้วก็จัดการหา Sim จึงได้ของ Viettel มาครับในราคา 250,000VND ประมาณ 390 THB unlimited net และโทรในเวียดนามได้ 20 นาที จากนั้นก็ถามพนักงานขายซิม ว่ารถเมล์เข้าเมืองสายอะไร นางบอกว่าสาย 86 ครับซึ่งต่างกับที่อ่านในรีวิวที่บอกว่าให้นั่งเมล์สาย 17 ส่วนค่ารถบัสเข้าเมือง 40,000 VND เมื่อลงจากรถเมล์สิ่งแรกที่เข้าหูอย่างต่อเนื่องคือ “แตรรถ” จะบีบไรกันนักหนา (แต่ก็เป็นมนต์เสน่ห์) เวลานั้นก็หกโมงเย็นแล้ว เอาไงล่ะมีเวลาเที่ยวก่อนไปขึ้นรถไฟจึงเปิดแผนที่ถามทางอากูไปทะเลสาบ Hoan Kiem ตอนแรกจะนั่งน้องแต๊กแล้วแหละแต่กลัวโดนโกงค่ารถเลยเดินครับ เพราะคิดว่าการเดินชิวๆ จะเก็บรายละเอียดของเมืองฮานอยได้ดีกว่านั่งน้องแต๊ก และอยากรู้เหมือนกันว่าข้ามถนนประเทศนี้จะเสี่ยงเหมือนที่ในรีวิวพูดกันหรือเปล่า แต่เทคนิคการข้ามง่ายนิดเดียวแค่เดินไปเรื่อยๆ ห้ามหยุดชะงักแล้วคนขับรถจะหลบเราเอง
เดินมาได้กิโลกว่าก็เจอสะพานแดงในบรรยากาศกลางคืนก็สวยดีเพราะไฟสีเหลืองอร่ามตัดกับสีของสะพาน
จากนั้นก็ตัดสินใจเดินต่ออีกสี่กิโลเพื่อไปยังสถานีรถไฟ และมานั่งรอหน้าทางเข้าชานชาลา เพราะพนักงานจะอนุญาตให้เข้าไปในชานชาลาได้ก่อนรถไฟออกหนึ่งชั่วโมง เมื่อถึงสามทุ่มก็เข้าไปเดินหันอยู่ที่ชานชาลาพร้อมตั๋วที่พริ้นมาจากอีเมล์ ขบวนของผม SP3 ออก และถึงสถานีลาวไก 2200/0610+1 ของอีกวัน เมื่อยื่นตั๋วให้เจ้าหน้าที่เตรียมขึ้นรถไฟ นักเลงทำหน้างงแล้วบอกว่ากระดาษที่พริ้นจากเมล์ใช้ขึ้นรถไฟไม่ได้ งานเข้าครับ – ต้องไปแลกตั๋วที่บริษัทเอเจนซี่ที่ห่างออกไปนอกสถานีสามร้อยเมตรจึงขึ้นรถไฟได้โดยจองไว้เตียงล่างเพราะตู้ที่จองเป็น soft sleeper 4 berth sharing cabin
ตอนแรกกะว่าขึ้นรถไฟแล้วจะนั่งจิบเบียร์สักสองสามป๋อง แต่ด้วยความที่เดินมาไกลจากป้ายรถเมล์ที่ old quarter เลยเพลียจึงตัดใจนอนฟังเสียงแตรรถไฟจนหลับไป….
2/6 Hanoi – Lao Cai – Sapa
เมื่อรถไฟจอดสนิทที่สถานีปลายทางจึงออกไปดูมีนักเลงขึ้นมาบนขบวนแล้วพูดว่า “ซะปาๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” อันที่จริงเขามาหาผู้โดยสารที่ไม่ได้จองรถมารับเพื่อเข้าไปยังตัวเมืองซาปา เมื่อเจอทีมฮานปีนเขาที่มารับเค้าก็พาไปที่ mini-bus นั่งกันเต็มเลย รอผมคนเดียวมีเหลือหนึ่งที่พอดี
เมื่อไปถึงในเมืองซาปามองไรไม่เห็นเลย หมอกจัดมาก ทัศนะวิสัยการมองเห็นแค่ระยะ 50m รถก็พาเวียนส่งนักท่องเที่ยวตามโรงแรม ที่นี่ดีอย่างแค่บอกบ้านเลขที่ กับชื่อถนนคนขับพาไปถูกหมด เมื่อไปถึงโรงแรมที่จองไว้ชื่อ “Cat Cat Twilight Hotel” ก็ CI แล้วนอนเอาแรง ตื่นมาเที่ยงก็เดินชิวๆ ไปที่ “Cat Cat Village”
ท่ามกลางหมอกและฝนห่างจากที่พักประมาณ3กิโล ที่นี่มีไร – ทั้งน้ำตก วีถีชาวบ้าน การย้อมผ้า(ร้านไหนขอถ่ายรูปได้สังเกตง่ายๆ จะมีป้ายร่วมกับการท่องเที่ยวบ้านเขาติดไว้หน้าร้าน) ร้านกาแฟ นาขั้นบันได(ที่เป็นแลนด์มาร์คเมืองในหุบเขาที่นี่เลย) และอื่นๆอีกมากมาย เดินชมหมู่บ้านไปสักพักใหญ่ปาเข้าไปชั่วโมงครึ่ง เลยเดินกลับระหว่างทางแวะจิบกาแฟสด
จากนั้นก็เดินย้อนโรงแรมไปอีกฝั่งเพื่อไปที่โบสถ์ซาปาตั้งอยู่ใจกลางเมืองจากนั้นเดินหาร้านอาหารและเครื่องดื่มที่นั่งชิวๆมีเพลงฟังที่ “Nature View Restaurant & Bar” และก็นอนเก็บแรง
Cat Cat Twilight Hotel” มีบริการนวดด้วย 200,00VND/hr
3/6 Trekking Mt Fansipan 2D/1N
เช้านี้ทางทัวร์ปีนเขาจะมารับที่โรงแรมนัดไว้แปดโมงครึ่งไม่เลส แล้วมุ่งหน้าสู่ อท.หงเหลียน เพื่อไปที่จุดสตาร์ทปีนเขาระดับความสูงที่ 1900msl เดินประมาณ 2ชม.เพื่อไปที่ความสูง 2200msl แวะพักรับเที่ยงที่นี่
จากนั้นบ่ายโมงเดินทางต่อไปแคมป์ที่พักคืนนี้ที่ความสูง 2800msl ใช้เวลาในการปีนเขาช่วงบ่าย 4ชม.รวมวันแรกใช้เวลาเดินทั้งหมด7 ชม. ก็มาถึงที่พักไม่เห็นไรเลยยกเว้นหมอกหนาเตอะ จากนั้นเข้าห้องพักเรามา 7คนก็นอนห้องเดียวกันหมดเลย เมื่อทานอาหารค่ำเสร็จก็ออกมาพิงไฟด้านนอก แต่กองไฟที่ว่าร้อนก็สู้บรรยากาศอันเหน็บหนาวไม่ไหวเลยเข้าไปนอนพักเอาแรงไว้เดินขึ้นยอดเขาฟานซิปังพรุ่งนี้ดีกว่า กว่าจะหลับได้เล่นเอาสั่นเป็นเจ้าเข้าเพราะขนาดใส่กางเกงสองตัว เสื้อสาม ถุงเท้า ถุงมือ ผ้าพันคอ แล้วก็มีถุงนอนอีกชั้นหนึ่งยังหลับเกือบไม่ลง เอาเป็นว่านอนเถอะ
4/6 Trekking Mt Fansipan 2D/1N
วันนี้ที่รอคอยก็มาถึงเพื่อพิชิตยอดเขาฟานซิปังโดยตื่นตั้งแต่ 04:00 ทานอาหารเช้า เกือบ 05:00 ไกด์แจกเสื้อกันฝนคนละตัวแล้วก็ออกเดินทางกันต่อ เส้นทางเดินเช้านี้เป็นป่าไผ่ ป่าดิบชื้น และหุบเขาขึ้นลงสลับกับไต่ไหล่เขาที่เต็มไปด้วยหินก้อนน้อยใหญ่ ระหว่างเดินทางก็สะพายกระเป๋าตัวสลับกับของเพื่อนที่ปวดขาอีกใบ เดินมาได้สักพักใหญ่ก็ได้ยินเสียงอะไรสักอย่างรู้ตัวอีกทีว่าเสียงอะไรก็อยู่ใต้สิ่งๆนั้นแล้ว ซึ่งนั่นก็คือ “cable car” นั่งพักชมกระเช้าลอยฟ้าให้คนที่อยู่ในนั้นได้เห็นว่า”พวกเรามันบ้า”ที่กล้าเดินขึ้นยอดเขาฟานซิปัง แล้วก็เดินทางกันต่อโดยช่วงสุดท้ายที่ปีนขึ้นก่อนถึงสถานีรถรางบอกเลยชัน และลื่นมาก เอาล่ะสมาชิกมาครบก็เอ็นจอยกับวิวที่”ซับมิทออฟฟานซิปัง” วิวก็ไม่มีให้เห็นหรอกเพราะหมอกมันเยอะ ลมก็แรง แต่โชคดีที่เก็บความทรงจำกับเครื่องบันทึกภาพเสร็จก่อนที่มหาทัวร์จีนมาถึง จากนั้นก็เดินลงมาที่ลานหน้าวัดจีนด้านล่าง โดยมีเพื่อนร่วมทริปที่กลับกับ cable car 4 คน ที่เหลืออีก 3 คนรวมไกด์เป็น 4 คนก็เดินทางกลับทางเดิม ทานข้าวเที่ยงที่แคมป์ 2800msl และเดินทางต่อถึงที่อุทยาน รวมช่วงเวลาขากลับ 6 ชม.
5/6 Back to Hanoi
ตื่นมารับเช้า / CO จากนั้นก็ไปรอขึ้นรถบัสกลับฮานอย ETD-08:00 ไปถึงก็จ่ายตังค์ส่วนที่เหลือแล้วก็ขึ้นรถตามเวลาที่กำหนด สิ่งแรกที่ต้องทำเมื่อขึ้นรถก็คือถอดรองเท้าใส่ถุงแซ้วๆ ใช้เวลาเดินทางโดยรถบัสทั้งหมด 5.5 ชม.ก็มาถึงตัวเมืองฮานอย เมื่อลงรถสิ่งแรกที่ต้องทำก็คือกางแผนที่แล้วก็เดินไปตามทาง #alongtheway แล้วก็แวะชมทะเลสาบ Hoan Kiem อีกครั้งในเวลากลางวัน จากนั้นก็เดินไปตามทางสู่โบสถ์ เก่าแก่คู่เมืองฮานอย ที่นี่มีอะไร….. มานั่งโง่ๆชมโบสถ์พร้อมจิบกาแฟ นั่งดริ้งดูวัยรุ่นเล่น Shuttle cok หรือมาดูเค้าถ่ายพรี-เวดดิ้ง จากนั้นเดินไปที่พัก บริการดี /CI แล้วก็ออกไปนั่งชิวๆ ชมบรรยากาศยามค่ำคืนในตัวเมืองฮานอยที่ถนน Hang Bac หรือที่ Ta Hien แล้วไปปิดท้ายทริปในวันนี้ที่ Fat Cat Bar จากนั้นก็กลับไปยังที่พักแล้วนอนซะ
6/6 See ya Hanoi
เช้ามาก็เดินหน้าตั้งย้อนกับไปทางทะเลสาบเพื่อหา Shuttle bus ไปหนามบิน แต่เจอคิวรถตู้ไปหนามบินก่อนเลยขึ้นไปนั่งรอได้สักแป๊บรถก็ออก ใช้เวลาเดินทางราว 40 นาทีก็มาถึงสนามบินนอยไบที่ Terminal2 / CI แล้วก็เดินเข้าเครื่องไป รู้สึกตื่นอีกที อ้าวสุวรรณภูมิมี่แล้ว เอาเป็นว่าจบทริปนี้แบบมึนๆ
อุปกรณ์ที่ต้องเตรียมไปปีนเขา :
1. รองเท้าหุ้มส้น พื้นนุ่ม หรือรองเท้าปีนเขา
2. ยาจำพวกเจ็บป่วยกะทันหัน และครีมคลายกล้ามเนื้อ
3. เสื้อกันหนาว-กันลม ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศตอนที่ปีนเขา เช็คสภาพอากาศล่วงหน้าก่อนเป็นดี
4. หมวกกันหนาว ถุงมือ ทิชชู่เปียก และไฟ
5. ช็อกโกเลตเพื่อเพิ่มพลังงาน ผงเกลือแร่ วิตามินซี และแผ่นปิดหลังตราเสือ
8. ทุกสิ่งที่เอาใส่กระเป๋า จำไว้ว่าคุณแบกเอง ไม่จำเป็นอย่าเอาไป
ค่าใช้จ่ายทริปนี้ : 10,xxx THB (ไม่รวมค่าเบียร์ และเอ็นเตอร์เทน)
รู้ไว้ใช่ว่า :
1. ทางโรงแรมจะเก็บ Passport ของเราไว้ตอน CI
2. บางโรงแรม ไม่มีผ้าขนหนูให้ เพราะอากาศหนาวมาก
3. ร้านอาหาร หรือร้านนั่งดริ้งจะมีกองไฟให้พิ๋งไฟด้วย
4. ร้านเสริมสวยที่ซาปาผู้คนจะหนาตาช่วงเย็น
ข้อมูลการเดินทาง :
1. รถไฟฮานอย – ลาวไก (Vietnam Impressive)/ติดต่อDora
- E-mail : info@vietnamimpressive.com
2. เทรคกิ้ง Mt. Fansipan 2D/1N (Zonitrip)
- Website: www.zonitrip.com
- Hotline: +84 168 992 7861
- E-mail: info@zonitrip.com
3. รถบัสฮฮานอย – ซาปา (Sapa Ethnic Travel)
- E-mail : sapaethnic@gmail.com
ขอบคุณ ตม.ทั้งสองประเทศที่ให้ผมผ่านเข้า-ออกอย่างสะดวก และขอบคุณผู้อ่านที่ทนอ่านจนถึงประโยคนี้
[CR] #ไปตามทาง อย่างไร? ให้ถึงซาปา & หลังคาอินโดจีน #alongtheway
ชื่อสามัญทางใจที่ได้ยินทีไรใครต่อใครต้องนึกถึงเวียดนาม
การเดินทาง :เหล็กลอยฟ้า(เครื่องบิน) การเดินทางบนรางคู่(รถไฟ) เดิน รถบัส(นอน)
รูปแบบการเดินทาง :แบ็คแพ็ค / โซโล
ช่วงเวลา :5คืน/6 วัน (23 – 28 กพ 60)
ที่มาของทริปนี้เริ่มแรกคิดแค่อยากไปเที่ยวต่างประเทศคนเดียว และที่ไหนสักที่ที่เหมาะกับตัวเองก็เลยรื้อหนังสือเที่ยวมาเล่มหนึ่งโดยซื้อไว้หลายปี และที่เป็นแรงจูงใจของการเดินทางคือการปีนเขาเพราะที่นี่ได้ทั้งเหรียญและใบเซอร์แทรคกิ้งด้วย
หลังจากล็อคเป้าหมายเรียบร้อยก็เริ่มเตรียมตัวสำหรับทริปนี้ไม่ว่าจะอ่านรีวิว ดูรีวิวภาพเคลื่อนไหว, จองแพ็คเก็จปีนเขา 2D/1N, จองตั๋วเครื่องบิน, จองรถไฟ Hanoi – Lao Cao, จองที่พัก 3 คืน และรวมไปถึงจองรถบัส Sapa – Hanoi ส่วนการสื่อสารก็เตรียมตัวไปบ้างอย่างเช่น ซินจ่าว ก่ามเอิ้น ติงเตี่ยน หมด-ฮาย-บา…….การแลกเงิน ตอนแรกกะว่าจะแลกเป็น Thai Baht เป็น USD จากไทย แล้วแลก USD เป็น VND ที่สนามบินนอยไบ แต่ไฟท์ไปถึงที่นอยไบเย็น เลยตัดสินใจแลกทั้ง USD และ VND จากไทยไปเลย จึงแลกจากตัวแทนแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศแถวๆ บิ๊กซีราชดำริ โดยแลก USD และ VND เนื่องจากค่าโรงแรม และค่าแพ็คเก็จปีนเขาจ่ายเป็นดอลล่าร์ได้
เอาล่ะพอทราบที่มากันแล้ว เมืองนี้มีเสน่ห์แค่ไหน ผมจะพาคุณไป...ด้วยกัน
1/6 BKK - HAN
การเดินทางขาไปใช้บริการสายการบิน Jetstar 1440 – 1630 hr ขึ้นที่สุวรรณภูมิครับ เมื่อไปถึงสนามบินนอยไบ และผ่านตม.มาแล้วก็จัดการหา Sim จึงได้ของ Viettel มาครับในราคา 250,000VND ประมาณ 390 THB unlimited net และโทรในเวียดนามได้ 20 นาที จากนั้นก็ถามพนักงานขายซิม ว่ารถเมล์เข้าเมืองสายอะไร นางบอกว่าสาย 86 ครับซึ่งต่างกับที่อ่านในรีวิวที่บอกว่าให้นั่งเมล์สาย 17 ส่วนค่ารถบัสเข้าเมือง 40,000 VND เมื่อลงจากรถเมล์สิ่งแรกที่เข้าหูอย่างต่อเนื่องคือ “แตรรถ” จะบีบไรกันนักหนา (แต่ก็เป็นมนต์เสน่ห์) เวลานั้นก็หกโมงเย็นแล้ว เอาไงล่ะมีเวลาเที่ยวก่อนไปขึ้นรถไฟจึงเปิดแผนที่ถามทางอากูไปทะเลสาบ Hoan Kiem ตอนแรกจะนั่งน้องแต๊กแล้วแหละแต่กลัวโดนโกงค่ารถเลยเดินครับ เพราะคิดว่าการเดินชิวๆ จะเก็บรายละเอียดของเมืองฮานอยได้ดีกว่านั่งน้องแต๊ก และอยากรู้เหมือนกันว่าข้ามถนนประเทศนี้จะเสี่ยงเหมือนที่ในรีวิวพูดกันหรือเปล่า แต่เทคนิคการข้ามง่ายนิดเดียวแค่เดินไปเรื่อยๆ ห้ามหยุดชะงักแล้วคนขับรถจะหลบเราเอง เดินมาได้กิโลกว่าก็เจอสะพานแดงในบรรยากาศกลางคืนก็สวยดีเพราะไฟสีเหลืองอร่ามตัดกับสีของสะพาน จากนั้นก็ตัดสินใจเดินต่ออีกสี่กิโลเพื่อไปยังสถานีรถไฟ และมานั่งรอหน้าทางเข้าชานชาลา เพราะพนักงานจะอนุญาตให้เข้าไปในชานชาลาได้ก่อนรถไฟออกหนึ่งชั่วโมง เมื่อถึงสามทุ่มก็เข้าไปเดินหันอยู่ที่ชานชาลาพร้อมตั๋วที่พริ้นมาจากอีเมล์ ขบวนของผม SP3 ออก และถึงสถานีลาวไก 2200/0610+1 ของอีกวัน เมื่อยื่นตั๋วให้เจ้าหน้าที่เตรียมขึ้นรถไฟ นักเลงทำหน้างงแล้วบอกว่ากระดาษที่พริ้นจากเมล์ใช้ขึ้นรถไฟไม่ได้ งานเข้าครับ – ต้องไปแลกตั๋วที่บริษัทเอเจนซี่ที่ห่างออกไปนอกสถานีสามร้อยเมตรจึงขึ้นรถไฟได้โดยจองไว้เตียงล่างเพราะตู้ที่จองเป็น soft sleeper 4 berth sharing cabin ตอนแรกกะว่าขึ้นรถไฟแล้วจะนั่งจิบเบียร์สักสองสามป๋อง แต่ด้วยความที่เดินมาไกลจากป้ายรถเมล์ที่ old quarter เลยเพลียจึงตัดใจนอนฟังเสียงแตรรถไฟจนหลับไป….
2/6 Hanoi – Lao Cai – Sapa
เมื่อรถไฟจอดสนิทที่สถานีปลายทางจึงออกไปดูมีนักเลงขึ้นมาบนขบวนแล้วพูดว่า “ซะปาๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” อันที่จริงเขามาหาผู้โดยสารที่ไม่ได้จองรถมารับเพื่อเข้าไปยังตัวเมืองซาปา เมื่อเจอทีมฮานปีนเขาที่มารับเค้าก็พาไปที่ mini-bus นั่งกันเต็มเลย รอผมคนเดียวมีเหลือหนึ่งที่พอดีเมื่อไปถึงในเมืองซาปามองไรไม่เห็นเลย หมอกจัดมาก ทัศนะวิสัยการมองเห็นแค่ระยะ 50m รถก็พาเวียนส่งนักท่องเที่ยวตามโรงแรม ที่นี่ดีอย่างแค่บอกบ้านเลขที่ กับชื่อถนนคนขับพาไปถูกหมด เมื่อไปถึงโรงแรมที่จองไว้ชื่อ “Cat Cat Twilight Hotel” ก็ CI แล้วนอนเอาแรง ตื่นมาเที่ยงก็เดินชิวๆ ไปที่ “Cat Cat Village” ท่ามกลางหมอกและฝนห่างจากที่พักประมาณ3กิโล ที่นี่มีไร – ทั้งน้ำตก วีถีชาวบ้าน การย้อมผ้า(ร้านไหนขอถ่ายรูปได้สังเกตง่ายๆ จะมีป้ายร่วมกับการท่องเที่ยวบ้านเขาติดไว้หน้าร้าน) ร้านกาแฟ นาขั้นบันได(ที่เป็นแลนด์มาร์คเมืองในหุบเขาที่นี่เลย) และอื่นๆอีกมากมาย เดินชมหมู่บ้านไปสักพักใหญ่ปาเข้าไปชั่วโมงครึ่ง เลยเดินกลับระหว่างทางแวะจิบกาแฟสด จากนั้นก็เดินย้อนโรงแรมไปอีกฝั่งเพื่อไปที่โบสถ์ซาปาตั้งอยู่ใจกลางเมืองจากนั้นเดินหาร้านอาหารและเครื่องดื่มที่นั่งชิวๆมีเพลงฟังที่ “Nature View Restaurant & Bar” และก็นอนเก็บแรง Cat Cat Twilight Hotel” มีบริการนวดด้วย 200,00VND/hr
3/6 Trekking Mt Fansipan 2D/1N
เช้านี้ทางทัวร์ปีนเขาจะมารับที่โรงแรมนัดไว้แปดโมงครึ่งไม่เลส แล้วมุ่งหน้าสู่ อท.หงเหลียน เพื่อไปที่จุดสตาร์ทปีนเขาระดับความสูงที่ 1900msl เดินประมาณ 2ชม.เพื่อไปที่ความสูง 2200msl แวะพักรับเที่ยงที่นี่ จากนั้นบ่ายโมงเดินทางต่อไปแคมป์ที่พักคืนนี้ที่ความสูง 2800msl ใช้เวลาในการปีนเขาช่วงบ่าย 4ชม.รวมวันแรกใช้เวลาเดินทั้งหมด7 ชม. ก็มาถึงที่พักไม่เห็นไรเลยยกเว้นหมอกหนาเตอะ จากนั้นเข้าห้องพักเรามา 7คนก็นอนห้องเดียวกันหมดเลย เมื่อทานอาหารค่ำเสร็จก็ออกมาพิงไฟด้านนอก แต่กองไฟที่ว่าร้อนก็สู้บรรยากาศอันเหน็บหนาวไม่ไหวเลยเข้าไปนอนพักเอาแรงไว้เดินขึ้นยอดเขาฟานซิปังพรุ่งนี้ดีกว่า กว่าจะหลับได้เล่นเอาสั่นเป็นเจ้าเข้าเพราะขนาดใส่กางเกงสองตัว เสื้อสาม ถุงเท้า ถุงมือ ผ้าพันคอ แล้วก็มีถุงนอนอีกชั้นหนึ่งยังหลับเกือบไม่ลง เอาเป็นว่านอนเถอะ
4/6 Trekking Mt Fansipan 2D/1N
วันนี้ที่รอคอยก็มาถึงเพื่อพิชิตยอดเขาฟานซิปังโดยตื่นตั้งแต่ 04:00 ทานอาหารเช้า เกือบ 05:00 ไกด์แจกเสื้อกันฝนคนละตัวแล้วก็ออกเดินทางกันต่อ เส้นทางเดินเช้านี้เป็นป่าไผ่ ป่าดิบชื้น และหุบเขาขึ้นลงสลับกับไต่ไหล่เขาที่เต็มไปด้วยหินก้อนน้อยใหญ่ ระหว่างเดินทางก็สะพายกระเป๋าตัวสลับกับของเพื่อนที่ปวดขาอีกใบ เดินมาได้สักพักใหญ่ก็ได้ยินเสียงอะไรสักอย่างรู้ตัวอีกทีว่าเสียงอะไรก็อยู่ใต้สิ่งๆนั้นแล้ว ซึ่งนั่นก็คือ “cable car” นั่งพักชมกระเช้าลอยฟ้าให้คนที่อยู่ในนั้นได้เห็นว่า”พวกเรามันบ้า”ที่กล้าเดินขึ้นยอดเขาฟานซิปัง แล้วก็เดินทางกันต่อโดยช่วงสุดท้ายที่ปีนขึ้นก่อนถึงสถานีรถรางบอกเลยชัน และลื่นมาก เอาล่ะสมาชิกมาครบก็เอ็นจอยกับวิวที่”ซับมิทออฟฟานซิปัง” วิวก็ไม่มีให้เห็นหรอกเพราะหมอกมันเยอะ ลมก็แรง แต่โชคดีที่เก็บความทรงจำกับเครื่องบันทึกภาพเสร็จก่อนที่มหาทัวร์จีนมาถึง จากนั้นก็เดินลงมาที่ลานหน้าวัดจีนด้านล่าง โดยมีเพื่อนร่วมทริปที่กลับกับ cable car 4 คน ที่เหลืออีก 3 คนรวมไกด์เป็น 4 คนก็เดินทางกลับทางเดิม ทานข้าวเที่ยงที่แคมป์ 2800msl และเดินทางต่อถึงที่อุทยาน รวมช่วงเวลาขากลับ 6 ชม. 5/6 Back to Hanoi
ตื่นมารับเช้า / CO จากนั้นก็ไปรอขึ้นรถบัสกลับฮานอย ETD-08:00 ไปถึงก็จ่ายตังค์ส่วนที่เหลือแล้วก็ขึ้นรถตามเวลาที่กำหนด สิ่งแรกที่ต้องทำเมื่อขึ้นรถก็คือถอดรองเท้าใส่ถุงแซ้วๆ ใช้เวลาเดินทางโดยรถบัสทั้งหมด 5.5 ชม.ก็มาถึงตัวเมืองฮานอย เมื่อลงรถสิ่งแรกที่ต้องทำก็คือกางแผนที่แล้วก็เดินไปตามทาง #alongtheway แล้วก็แวะชมทะเลสาบ Hoan Kiem อีกครั้งในเวลากลางวัน จากนั้นก็เดินไปตามทางสู่โบสถ์ เก่าแก่คู่เมืองฮานอย ที่นี่มีอะไร….. มานั่งโง่ๆชมโบสถ์พร้อมจิบกาแฟ นั่งดริ้งดูวัยรุ่นเล่น Shuttle cok หรือมาดูเค้าถ่ายพรี-เวดดิ้ง จากนั้นเดินไปที่พัก บริการดี /CI แล้วก็ออกไปนั่งชิวๆ ชมบรรยากาศยามค่ำคืนในตัวเมืองฮานอยที่ถนน Hang Bac หรือที่ Ta Hien แล้วไปปิดท้ายทริปในวันนี้ที่ Fat Cat Bar จากนั้นก็กลับไปยังที่พักแล้วนอนซะ6/6 See ya Hanoi
เช้ามาก็เดินหน้าตั้งย้อนกับไปทางทะเลสาบเพื่อหา Shuttle bus ไปหนามบิน แต่เจอคิวรถตู้ไปหนามบินก่อนเลยขึ้นไปนั่งรอได้สักแป๊บรถก็ออก ใช้เวลาเดินทางราว 40 นาทีก็มาถึงสนามบินนอยไบที่ Terminal2 / CI แล้วก็เดินเข้าเครื่องไป รู้สึกตื่นอีกที อ้าวสุวรรณภูมิมี่แล้ว เอาเป็นว่าจบทริปนี้แบบมึนๆอุปกรณ์ที่ต้องเตรียมไปปีนเขา :
1. รองเท้าหุ้มส้น พื้นนุ่ม หรือรองเท้าปีนเขา
2. ยาจำพวกเจ็บป่วยกะทันหัน และครีมคลายกล้ามเนื้อ
3. เสื้อกันหนาว-กันลม ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศตอนที่ปีนเขา เช็คสภาพอากาศล่วงหน้าก่อนเป็นดี
4. หมวกกันหนาว ถุงมือ ทิชชู่เปียก และไฟ
5. ช็อกโกเลตเพื่อเพิ่มพลังงาน ผงเกลือแร่ วิตามินซี และแผ่นปิดหลังตราเสือ
8. ทุกสิ่งที่เอาใส่กระเป๋า จำไว้ว่าคุณแบกเอง ไม่จำเป็นอย่าเอาไป
ค่าใช้จ่ายทริปนี้ : 10,xxx THB (ไม่รวมค่าเบียร์ และเอ็นเตอร์เทน)
รู้ไว้ใช่ว่า :
1. ทางโรงแรมจะเก็บ Passport ของเราไว้ตอน CI
2. บางโรงแรม ไม่มีผ้าขนหนูให้ เพราะอากาศหนาวมาก
3. ร้านอาหาร หรือร้านนั่งดริ้งจะมีกองไฟให้พิ๋งไฟด้วย
4. ร้านเสริมสวยที่ซาปาผู้คนจะหนาตาช่วงเย็น
ข้อมูลการเดินทาง :
1. รถไฟฮานอย – ลาวไก (Vietnam Impressive)/ติดต่อDora
- E-mail : info@vietnamimpressive.com
2. เทรคกิ้ง Mt. Fansipan 2D/1N (Zonitrip)
- Website: www.zonitrip.com
- Hotline: +84 168 992 7861
- E-mail: info@zonitrip.com
3. รถบัสฮฮานอย – ซาปา (Sapa Ethnic Travel)
- E-mail : sapaethnic@gmail.com
ขอบคุณ ตม.ทั้งสองประเทศที่ให้ผมผ่านเข้า-ออกอย่างสะดวก และขอบคุณผู้อ่านที่ทนอ่านจนถึงประโยคนี้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น