สวัสดีครับ ทริปนี้เกิดจากความอยากไปสถานที่ในฝันของใครหลายๆคน รวมถึงตัวผมด้วย ที่ฝันว่าสักครั้งในชีวิตต้องไปเห็นด้วยตาตัว (และอาจจะมีครั้งต่อไป555) เลยตัดสินใจจองตั๋วโดยไม่ปรึกษาเพื่อนหรือใครทั้งนั้น เพราะความอยากไป คนเดียวก็จะไป ค่อยชวนทีหลัง สรุปมีผู้ร่วมทริปร่วมชะตากรรม ทั้งหมดสามคน ไปกันเอง โดยไม่ง้อทัวร์ครับ ทริปนี้ 4วัน3 คืน ครับ(ผมว่ามันยังน้อยไปต้องไปสักอาทิตย์)
             มัลดีฟส์ หรือชื่อทางการคือ สาธารณรัฐมัลดีฟส์ (อังกฤษ: Republic of Maldives; มัลดีฟส์: ހިވެދި ގުޖޭއްރާ ޔާއްރިހޫމްޖު) เป็นประเทศที่มีพื้นที่ประกอบด้วยหมู่เกาะปะการังจำนวนมากในมหาสมุทรอินเดีย และตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศอินเดียและประเทศศรีลังกา ภูมิประเทศ พื้นที่ความยาวจากเหนือจรดใต้ 821 กิโลเมตร จากตะวันออกจรดตะวันตก 120 กิโลเมตร แต่เป็นพื้นที่ดินรวมเพียง 300 ตารางกิโลเมตรมีจุดสูงสุดเพียง 2.3 เมตร ประกอบด้วยหมู่เกาะปะการัง 26 กลุ่ม (atoll) รวม 1,190 เกาะ มีประชากรอาศัยอยู่เพียงประมาณ 200 เกาะ และได้รับการพัฒนาเป็นโรงแรมสำหรับนักท่องเที่ยว 74 เกาะ ชนพื้นเมืองพวกแรกที่อาศัยอยู่ในมัลดีฟส์ตั้งแต่ก่อนคริสตกาล คือ พวกดราวิเดียนและ สิงหล ซึ่งนับถือศาสนาพุทธ ชาวมัลดีฟส์โบราณจึงนับถือศาสนาพุทธเป็นศาสนาหลัก
เริ่มต้นการเดินทางกันเลยดีกว่าครับ
             ทริปนี้ผมเลือกเดินทางกับสายการบิน ที่ได้รับรางวัลสายการบินระดับภูมิภาคยอดเยี่ยมอันดับ 1 ของโลกและของเอเชีย ประจำปี 2557 จาก สกายแทรกซ์ คือสายการบิน บางกอกแอร์เวย์ “ASIA’S BOUTIQUE AIRLINE” เพราะเป็นสายการบินที่บินตรงถึงสนามบินมัลดีฟส์ มีบินไปกลับวันล่ะ1เที่ยวบินครับ เวลาเที่ยวบิน ขาไป PG711 BKK 09:30 ถึง MLE 11:45 (เวลาช้ากว่าไทย 2ชั่วโมงครับ)
             วันเดินทางผมเดินทางมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ หกโมงเช้า แล้วก็เข้าไปเคาเตอร์เช็คอินเช็คอินเสร็จเราก็จะได้ บอรด์ดิ้งพาส กับ บัตร Premium Lane ใบ ตม. ครับ แล้วก็บัตร Fast Track สีส้มครับเป็นใบเข้าช่องพิเศษของสนามบินปลายทางครับ (ทริปนี้ผมเดินทางกับ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ชั้นบูลริบบอน) ได้เวลาเข้าไปตม.ครับ
เราใช้บัตร Premium Lane เดินเข้าชองนี้ได้เลยครับ
ตัดภาพมาที่แลนด์มาร์คสนามบินสุวรรณภมิเลยครับ ในตม.ห้ามถ่ายรูปครับ เราก็ตรงไปที่ห้องรับรองของสายการบิน ที่  โซน A, ชั้น 3 (ตรงข้ามประตู A3)
ระหว่างทางก็จะผ่าน ดิ้วตี้ฟรี เป็นที่ดูดเงินของใครหลายๆคน
ถึงเลาจ์สิ่งที่พลาดไม่ได้ก็คือข้าวต้มมัด แล้วก็สั่งอะไรมารองท้อง
รับขนมจีบ ซาลาเปาเพิ่มไหมครับ
ตามมาด้วยเกี้ยวกุ้ง พอรองท้องก่อนบินครับ นั่งสักพักนึกขึ้นได้ว่าต้องแวะไปเก็บภาพใน คิงพาเวอร์เลาจน์สักรูปสองรูปครับว่างจัด ได้เวลาจะเรียกบอร์ดดิ้ง ก็รีบเดินไปรอหน้า ประตูขึ้นเครื่องสิครับ
ถึงแล้วครับ ลำนี่จะพาเราไปมัลดีฟส์ รูทนี่ ใช้เครื่องบิน airbus A319 ครับ นามว่า Phnom Penh
นั่งรอสักพักพนักงานก็เรียกขึ้นเครื่องครับ
พอนั่ง แอร์สาวผู้น่ารักก็เดินมาถาม ว่าจะรับเครื่องดื่มอะไรดีค่ะ เลยได้น้ำแอปเปิ้ลมาดื่ม
ที่นั่งระหว่างขาเหลือที่เยอะมากครับเยียดขาได้สบายครับ ผมสูง180ซม.ครับ
แล้วก็เดินมาแจกของใช้ส่วนตัวระหว่างอยู่บนเครื่องครับ ( amenity kit )
ก็จะมีพวกที่ปิดตา ที่กันเสียงรบกวน ยาสีฟัน แปรงสีฟัน ครีมทาผิว น้ำแร่ฉีดหน้า
ตามมาด้วยใบตม.ของมัลดีฟส์ ได้เวลา เครื่องขึ้น
ตัดภาพมาที่สัญญาณรัดเข็มขัดดับลง แอร์สาวผู้น่ารักก็เดิน มาแจก ผ้าร้อนเช็ดมือ แล้วก็ตามด้วย ไอแพด กับ หูฟัง
ความบันเทิงบนเที่ยวบิน สักพักแอร์ก็เดินเอาเมนูอาหารกับเครื่องดื่มมาให้ ด้วยความอยากลอง ขอแชมเปญครับ แอร์ รับคู่กับถั่วไหมค่ะ  ครับผม
จิบไปได้ นิดนึงก็ อืมมมมม ไม่ดีกว่า ตามประสาคนดื่มไม่เป็น (ผมแพ้เครื่องดื่มที่เป็นแอลกอฮอล์ทุกชนิด) กินแต่ถั่วสิครับ555
รีบขอ สไปร์ทกับมะนาวเลยครับ555  พอบินได้สักพัก แอร์ก็เดินมา ปูโต๊ะ
ได้เวลาอาหารแล้วครับ
กลิ่นนี่หอมฉุยมาเลยครับ
ผมสั่งแกงเผ็ดเป็ดย่างครับ
เสริฟคู่กับ ขนมปัง แล้วก็สลัดแซลมอนรมควันครับ
ตามด้วยผลไม้
คู่กับ ชีส
ตบท้ายด้วยของหวาน มูสเค้กกาแฟ อิ่มไปอีก
นั่งท้องตึงหนังตาเริ่มย่อน ก็นอนฟังเพลง
หลับไปพักนึงตื่นขึ้นมา มองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นพื้นดินประเทศศรีลังกาแล้ว
สักพักเราก็บินผ่านประเทศศรีลังกา อีก 1 ชม ก็จะถึงปลายทางแล้ว ตื่นเต้นเล็กน้อยเริ่มเห็น อะทอลล์ แล้ว
atoll เป็นเกาะปะการังรูปวงแหวนที่ล้อมรอบลากูน
พระเจ้าช่วยกล้วยทอด มันสวยมากเลยครับ

แล้วก็เห็นเมืองหลวงที่เล็กที่สุดในโลกครับ ถึงแล้ว มาเล่ มาเล่เป็นชื่อเรียกเมืองหลวงของประเทศมัลดีฟส์
ผ่าน ตม.รับกระเป๋าก็ออกมาก มีพนักงานของแต่ล่ะรีสอร์ท มารอรับเลย พอเราเห็นชื่อรีสอร์ทที่จองไว้ก็เดินเข้าไป เขาก็เดินเขามาทักทายเราแบบสากล จับมือ แล้วก็ถามชื่อครับ ผมก็ขอตัวไปซื้อซิมเล่นอินเตอร์เน็ตครับ
ร้านซิมสีแดงที่เห็นครับ เนตครับ 7 วัน 3กิ๊ก ราคา 15 เหรียญ Us ค่าธรรมเนียม 1เหรียญ ที่มัลดีฟใช้เงินดอลล่าได้ครับ แต่ร้านจะทอนเป็นเงินท้องถิ่น ครับ
คือเงิน Rufiyaa  1 Rufiyaa ประมาณ 2.3 บาทไทยครับ
เคาน์เตอร์ของแต่ละรีสอร์ทตั้งเรียงติดกัน
ได้เวลาไปขึ้นเรือของทางรีสอร์ทแล้วครับ พอเงยหน้าขึ้นมาเห็นน้ำทะเลก็ สตั๊นไปแปปนึง นี่ขนาดน้ำที่สนามบินยังฟ้าได้ขนาดนี้
มันสวยมากครับ ฟ้ายิ่งกว่าน้ำในสระว่ายน้ำอีกครับ นั่งเรือไป ประมาณ 40 นาที ก็ถึงรีสอร์ท
พนักงานโรงแรมบอก เวลาที่รีสอร์ทเร็วกว่าในมาเล่ 1 ชม ก็เท่ากับว่าช้ากว่าไทย 1 ชม.พนักงานก็พานั่งรถไปที่ห้องพัก พร้อมกับอธิบายสถานที่ต่างๆภายในรีสอร์ท
ขับผ่านที่พักที่อยู่บนชายหาด ก็ขึ้นมาสะพาน เจอ coco spa มีสปา กับฟิตเนต รถก็มาจอดที่ล็อปบี้ สำหรับห้องพักที่พวกผมเขาพัก
ทั้งหมดนี่คือห้องพัก ที่มีชื่อว่า COCO RESIDENCE (ภาพจากเวปของรีสอร์ท)
ห้องของพวกผมอยู่โซนที่เป็นวงแหวน โซนนี่จะเป็นโซนห้องที่ใหญ่ที่สุดของรีสอร์ท
ถึงแล้วครับผมได้ห้องที่ 605 ทุกห้องจะมีโอ่งน้ำไว้ล้างขา แต่ระห้องจะมีโฮสดูแลหลังละคน มีอะไรก็โทรเรียกได้ตลอด
อย่าเรียกห้องเลย เรียกบ้านดีกว่าครับ เข้าไปห้องแอร์เย็นฉ่ำเปิดรอไว้แล้ว ระหว่างนั้นโฮสก็จะแนะนำ ภายในห้อง แล้วอุปกรณ์ แล้ววิธีการใช้ให้เรา
พร้อมกับเครื่องดื่มตอนรับไว้ในห้อง แต่ผมอดใจไม่ไหวก็ยกมานั่งดื่มมองวิวข้างนอก
ยังมีแชมเปญ กับผลไม้ให้ด้วย
ได้เวลาสำรวจห้องพักแล้วครับ
ห้องนอนครับ
อ่างอาบน้ำอาบไปมองวิวทะเลไป
พวกเครื่องอาบน้ำ สบู่ เป็นของฝรั่งเศษ ครับ
ปลายเตียงห้องนอน ก็มีประตูเปิดออกมาเป็นสระว่ายน้ำ
อันนี้อยู่ในห้องนั่งเล่น มีทีวี ตู้เย็น เครื่องชงกาแฟ แล้วก็ต็แช่ไวน์
เด่วออกไปดูภายนอกบ้างครับ