มาทำความเข้าใจกับโครงการบ้านประชารัฐ บ้านธนารักษ์กันค่ะ


นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.การคลัง เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติโยกย้ายนายจักรกฤศฎิ์ พาราพันธกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ ให้ไปดำรงตำแหน่ง รองปลัดกระทรวงการคลัง และแต่งตั้งให้นายพชร อนันตศิลป์ รองปลัดกระทรวงการคลัง มาดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมธนารักษ์ โดยยืนยันว่าการโยกย้ายดังกล่าวทำไปเพื่อความเหมาะสม และเป็นการบริหารจัดการคนภายในประทรวงการคลัง ไม่เกี่ยวกับโครงการบ้านธนารักษ์ ซอยพหลโยธิน 11 ที่กำลังมีปัญหาอยู่ในขณะนี้
“การปรับเปลี่ยนตำแหน่งอธิบดีกรมธนารักษ์จะไม่ส่งผลกระทบต่อแผนงานต่าง ๆ ที่ดำเนินการอยู่ตอนนี้ เพราะเป็นการบริหารจัดการกำลังพลของกระทรวงการคลังเท่านั้น” นายอภิศักดิ์ กล่าว
สำหรับโครงการบ้านธนารักษ์ ประชารัฐ ยืนยันว่าจะยังคงเดินหน้าต่อตามนโยบายของรัฐบาล แต่ต้องเป็นไปตามหลักของกฎหมายด้วย
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง ระบุ การโยกย้ายดังกล่าวน่าจะมีผลมาจากปัญหาการดำเนินโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐ พหลโยธิน 11 ซึ่งกรมธนารักษ์ไม่สามารถยุติการดำเนินงานได้ทันที เนื่องจากมีการทำสัญญากับเอกชนไปแล้ว ดังนั้นกระบวนการทั้งหมดจึงต้องเดินหน้าตามกฎหมาย แต่หากพบว่ามีส่วนใดติดขัดข้อกฎหมายก็สามารถยุติการดำเนินโครงการได้
ก่อนหน้านี้สำนักงานตรวจเงินแผ่น (สตง.) ได้ส่งหนังสือประทับตราด่วนที่สุด ส่งถึงนายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ เมื่อวันที่ 3 พ.ค.60 เพื่อขอให้ทบทวนการดำเนินโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐ แปลงเลขที่ กท.2615 หรือย่านซอยพหลโยธิน 11 กรุงเทพมหานคร
โดยนายพิสิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เปิดเผยว่า ในการทำหนังสือแจ้งให้อธิบดีกรมธนารักษ์ทบทวนการดำเนินโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐ ซอยพหลโยธิน 11 ได้มีความเห็นให้ทบทวนใน 4 ประเด็น ประกอบด้วย การกำหนดเงื่อนไขในการประกวดโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐที่ไม่ครบถ้วนรอบด้าน โดยกรมธนารักษ์ได้กำหนดคุณสมบัติของผู้เสนอโครงการ แต่เพียงว่าเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายไทย มีทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท และต้องไม่เป็นผู้เคยทิ้งงานก่อสร้างของทางราชการ ซึ่งทางสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เห็นว่าการกำหนดเงื่อนไขดังกล่าวเป็นการกำหนดคุณสมบัติที่ไม่เพียงพอ
เนื่องจากโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐ ที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่ แต่กรมธนารักษ์ไม่ได้คำนึงถึงความสามารถและประสบการณ์ของผู้เสนอโครงการว่า มีความสามารถในการก่อสร้างอาคารได้สำเร็จตรงตามวัตถุประสงค์หรือไม่ อีกทั้งปรากฏข้อเท็จจริงในภายหลังว่าบริษัทปักกิ่ง เออร์บัน คอนสตรัคชั่น ยาไถ่ (ไทย) คอนสตรัคชัน กรุ๊ป จำกัด ผู้ชนะอันดับ 1 ได้โอนสิทธิการลงนามในสัญญาและการปฏิบัติตามเงื่อนไขการก่อสร้างไปให้บริษัท จูโน่ ปาร์ค จำกัด ซึ่งจากข้อมูลกรมพัฒนาธุรกิจการค้าปรากฏว่า บริษัทท จูโน่ พาร์ค ผู้รับโอนสิทธิ์ มีการจดทะเบียนนิติบุคคลโดยมีวัตถุประสงค์หลักในการประกอบกิจการให้บริการศูนย์การเรียนรู้ครบวงจร ด้านการศึกษา ด้านวิชาการและส่งเสริมฝึกทักษะการพัฒนาของเด็ก รวมถึงให้บริการวางระบบและออกแบบสถานที่ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับงานก่อสร้างอาคารแต่อย่างใด ดังนั้นถือได้ว่าบริษัทบริษัทจูโน่ พาร์ค เป็นผู้ที่ขาดประสบการณ์ในการก่อสร้างอาคารและการบริหารโครงการ ซึ่งเกิดความเสี่ยงอาจทำให้การดำเนินการโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐเกิดความเสียหาย
ขอบคุณเว็บไชต์ไทยโพสต์ค่ะ...
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
http://www.thaipost.net/?q=%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%9F%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%9C%E0%B9%88%E0%B8%B2-%E2%80%9C%E0%B8%AD%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%9A%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%98%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B9%8C%E2%80%9D-%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%90-%E0%B8%9E%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B9%82%E0%B8%A2%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%99-


"เปิดเบื้องหลัง ครม.เด้งฟ้าฝ่า" จักรกฤศฎิ์" พ้นอธิบดีธนารักษ์ ไปรับตำแหน่งรองปลัดคลัง เจอตอโครงการพหลโยธิน 11 เจ้าตัวรับ รู้ตัวว่าอาจโดนย้าย หากเดินหน้าโครงการพต่อเหตุแรงต้านมากแต่ยืนยันทำถูกต้องตามกฎหมาย ไม่เสียใจถือโอกาสพัก เพราะเหนื่อยกับโครงการนี้มาพอสมควร"
"นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่าคณะรัฐมนตรี (ครม) มีมติโยกย้าย นายจักรกฤศฎิ์ พาราพันธกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ ไปดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงการคลัง และแต่งตั้งนายพชร อนันตศิลป์ รองปลัดกระทรวงการคลัง มาดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมธนารักษ์แทนการโยกย้ายดังกล่าว ถือเป็นการบริการจัดการข้าราชการเพื่อความเหมาะสมไม่เกี่ยวข้องกับโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐ และแม้จะมีการโยกย้ายอธิบดีธนารักษ์ไม่กระทบกับโครงการธนารักษ์ประชารัฐที่เป็นนโยบายของรัฐบาลซึ่งการดำเนินโครงการต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายนายจักรกฤศฏิ์ กล่าวว่า พร้อมรับคำสั่งการโยกย้ายดังกล่าว โดยขณะนี้กำลังรอคำสั่งอย่างเป็นทางการ คาดว่าเหตุผลที่ถูกย้ายมาจากการดำเนินนโยบายบ้านธนารักษ์ประชารัฐในซอยพหลโยธิน11"
"อย่างไรก็ตาม เห็นว่าหากโครงการดังกล่าวไม่ผิดกฎหมาย ควรต้องเดินหน้าต่อไป แม้จะค้านกับความเห็นประชาชนในพื้นที่ ที่ต้องการให้ยกเลิกโครงการทันที ซึ่งเข้าใจที่ฝ่ายนโยบายให้โยกย้ายออกจากตำแหน่งเพราะการคัดค้านดังกล่าวเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนและทำให้รัฐบาลได้รับผลกระทบ"พอจะทราบอยู่ว่า อาจจะต้องโดน แต่ไม่รู้ว่าจะเข้าครม.วันนี้(9พ.ค.)เพราะในตอนที่ลงพื้นที่กลุ่มผู้คัดค้านก็บอกว่าหากทำโครงการนี้ต่อไปอนาคตไม่สวยอย่างไรก็ตามไม่ได้เครียด ไม่ได้รู้สึกเสียใจ กับการถูกย้ายไปเป็นรองปลัด ก็คงจะได้พักผ่อนเพราะเหนื่อยกับโครงการนี้มาพอสมควร โดยยืนยันว่าการทำงานที่ผ่านมา ไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมายและอิงผลประโยชน์เกิดขึ้นกับประเทศชาติเป็นหลัก แต่เมื่อโครงการนี้ ยังมีปัญหาความขัดแย้ง รัฐบาลจึงย้ายออกไปจากตำแหน่งนี้ ถ้าผมทำผิดกฎหมายคงโดนมาตรา 44 ไปแล้ว"ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐ พหลโยธิน 11 ( ที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียน กท. 2615 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม. เนื้อที่รวม 2-1-48 ไร่ ) เป็น 1 ใน 6 พื้นที่นำร่องของโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีรายได้น้อยไม่เกิน 2 หมื่นบาทเช่าอยู่อาศัยชั่วคราว ไม่เกิน 5ปี โดยจะสร้างเป็นคอนโดมิเนียมอาคารพักอาศัย 8 ชั้น 2 หลัง รวม 350 หน่วย ที่จอดรถ 118 คัน"
"อย่างไรก็ตามได้มีการคัดค้านจากชุมชนในพื้นที่ เนื่องจากจะเพิ่มปัญหาการจราจร อีกทั้งยังได้มีการตั้งข้อสังเกตเรื่องการเอื้อประโยชน์ต่อบริษัทเอกชน เนื่องจากได้มีการโอนสิทธิการก่อสร้างและสิทธิการเช่าจากเอกชนอีกรายไปยังอีกรายหนึ่ง อีกทั้งโครงการนี้ยังไม่ได้ทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรืออีไอเอนอกจากนี้ทางสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)ยังทำหนังสือให้กรมธนารักษ์ทบทวนโครงการนี้ ทั้งในเรื่องความเหมาะสมของพื้นที่ และเรื่องการกำหนดคุณสมบัติผู้ที่เสนอโครงการ ที่ไม่ได้คำนึงถึงประสบการณ์ของผู้เสนอโครงการขณะที่กรมธนารักษ์ก็ยืนยันจะทำโครงการนี้ต่อ โดยโครงกรมธนารักษ์ได้เปิดหาผู้ลงทุนก่อสร้างโครงการเมื่อวันที่ 2 พ.ค. 2559 ประกาศผู้ได้รับคัดเลือกเมื่อวันที่ 4 ส.ค. 2559 คือ บริษัท ปักกิ่ง เออร์บัน-คอนสตรัคชั่น ยาไถ่ (ไทย) คอนสตรัคชั่น กรุ๊ป จำกัด ต่อมาเมื่อวันที่ 12 ต.ค.2559 บริษัทปักกิ่งฯขอโอนสิทธิการก่อสร้างและสิทธิการเช่าให้ บริษัท จูโน่ พาร์ค จำกัด เนื่องจากขาดความพร้อมในการก่อสร้างต่อมาเมื่อวันที่ 2 ก.พ.2560 กรมธนารักษ์ได้อนุญาตให้โอนสิทธิการเช่าฯ โดยบริษัทจูโน่ฯรับไปทั้งสิทธิและหน้าที่ที่บริษัท ปักกิ่งฯมีข้อผูกพันกับทางราชการทุกประการ และเมื่อวันที่ 18 เม.ย.2560 ครม.มีมติอนุมัติให้ปรับปรุงเงื่อนไขคุณสมบัติผู้มีสิทธิเข้าร่วมโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยสถานะปัจจุบัน บริษัทจูโน่ฯได้จัดทำรายละเอียดข้อมูลเกี่ยวกับผลกระทบต่อสภาพจราจรเพื่อเสนอคจร.พิจารณา และอยู่ระหว่างที่ คจร.ให้จัดทำเอกสารเพิ่มเติม และเมื่อผ่านคจร.แล้ว จึงจะยื่นเรื่องขออีไอเอ ต่อไป"
อ่านต่อที่:
http://www.nationtv.tv/main/content/economy-business/378546708/
((มาลาริน)) ^_^ แจงโครงการบ้านธนารักษ์ ประชารัฐ จะยังคงเดินหน้าต่อตามนโยบายของรัฐบาล แต่ต้องเป็นไปตามหลักของกฎหมาย
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.การคลัง เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติโยกย้ายนายจักรกฤศฎิ์ พาราพันธกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ ให้ไปดำรงตำแหน่ง รองปลัดกระทรวงการคลัง และแต่งตั้งให้นายพชร อนันตศิลป์ รองปลัดกระทรวงการคลัง มาดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมธนารักษ์ โดยยืนยันว่าการโยกย้ายดังกล่าวทำไปเพื่อความเหมาะสม และเป็นการบริหารจัดการคนภายในประทรวงการคลัง ไม่เกี่ยวกับโครงการบ้านธนารักษ์ ซอยพหลโยธิน 11 ที่กำลังมีปัญหาอยู่ในขณะนี้
“การปรับเปลี่ยนตำแหน่งอธิบดีกรมธนารักษ์จะไม่ส่งผลกระทบต่อแผนงานต่าง ๆ ที่ดำเนินการอยู่ตอนนี้ เพราะเป็นการบริหารจัดการกำลังพลของกระทรวงการคลังเท่านั้น” นายอภิศักดิ์ กล่าว
สำหรับโครงการบ้านธนารักษ์ ประชารัฐ ยืนยันว่าจะยังคงเดินหน้าต่อตามนโยบายของรัฐบาล แต่ต้องเป็นไปตามหลักของกฎหมายด้วย
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง ระบุ การโยกย้ายดังกล่าวน่าจะมีผลมาจากปัญหาการดำเนินโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐ พหลโยธิน 11 ซึ่งกรมธนารักษ์ไม่สามารถยุติการดำเนินงานได้ทันที เนื่องจากมีการทำสัญญากับเอกชนไปแล้ว ดังนั้นกระบวนการทั้งหมดจึงต้องเดินหน้าตามกฎหมาย แต่หากพบว่ามีส่วนใดติดขัดข้อกฎหมายก็สามารถยุติการดำเนินโครงการได้
ก่อนหน้านี้สำนักงานตรวจเงินแผ่น (สตง.) ได้ส่งหนังสือประทับตราด่วนที่สุด ส่งถึงนายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ เมื่อวันที่ 3 พ.ค.60 เพื่อขอให้ทบทวนการดำเนินโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐ แปลงเลขที่ กท.2615 หรือย่านซอยพหลโยธิน 11 กรุงเทพมหานคร
โดยนายพิสิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เปิดเผยว่า ในการทำหนังสือแจ้งให้อธิบดีกรมธนารักษ์ทบทวนการดำเนินโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐ ซอยพหลโยธิน 11 ได้มีความเห็นให้ทบทวนใน 4 ประเด็น ประกอบด้วย การกำหนดเงื่อนไขในการประกวดโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐที่ไม่ครบถ้วนรอบด้าน โดยกรมธนารักษ์ได้กำหนดคุณสมบัติของผู้เสนอโครงการ แต่เพียงว่าเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายไทย มีทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท และต้องไม่เป็นผู้เคยทิ้งงานก่อสร้างของทางราชการ ซึ่งทางสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เห็นว่าการกำหนดเงื่อนไขดังกล่าวเป็นการกำหนดคุณสมบัติที่ไม่เพียงพอ
เนื่องจากโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐ ที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่ แต่กรมธนารักษ์ไม่ได้คำนึงถึงความสามารถและประสบการณ์ของผู้เสนอโครงการว่า มีความสามารถในการก่อสร้างอาคารได้สำเร็จตรงตามวัตถุประสงค์หรือไม่ อีกทั้งปรากฏข้อเท็จจริงในภายหลังว่าบริษัทปักกิ่ง เออร์บัน คอนสตรัคชั่น ยาไถ่ (ไทย) คอนสตรัคชัน กรุ๊ป จำกัด ผู้ชนะอันดับ 1 ได้โอนสิทธิการลงนามในสัญญาและการปฏิบัติตามเงื่อนไขการก่อสร้างไปให้บริษัท จูโน่ ปาร์ค จำกัด ซึ่งจากข้อมูลกรมพัฒนาธุรกิจการค้าปรากฏว่า บริษัทท จูโน่ พาร์ค ผู้รับโอนสิทธิ์ มีการจดทะเบียนนิติบุคคลโดยมีวัตถุประสงค์หลักในการประกอบกิจการให้บริการศูนย์การเรียนรู้ครบวงจร ด้านการศึกษา ด้านวิชาการและส่งเสริมฝึกทักษะการพัฒนาของเด็ก รวมถึงให้บริการวางระบบและออกแบบสถานที่ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับงานก่อสร้างอาคารแต่อย่างใด ดังนั้นถือได้ว่าบริษัทบริษัทจูโน่ พาร์ค เป็นผู้ที่ขาดประสบการณ์ในการก่อสร้างอาคารและการบริหารโครงการ ซึ่งเกิดความเสี่ยงอาจทำให้การดำเนินการโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐเกิดความเสียหาย
ขอบคุณเว็บไชต์ไทยโพสต์ค่ะ...
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
"เปิดเบื้องหลัง ครม.เด้งฟ้าฝ่า" จักรกฤศฎิ์" พ้นอธิบดีธนารักษ์ ไปรับตำแหน่งรองปลัดคลัง เจอตอโครงการพหลโยธิน 11 เจ้าตัวรับ รู้ตัวว่าอาจโดนย้าย หากเดินหน้าโครงการพต่อเหตุแรงต้านมากแต่ยืนยันทำถูกต้องตามกฎหมาย ไม่เสียใจถือโอกาสพัก เพราะเหนื่อยกับโครงการนี้มาพอสมควร"
"นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่าคณะรัฐมนตรี (ครม) มีมติโยกย้าย นายจักรกฤศฎิ์ พาราพันธกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ ไปดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงการคลัง และแต่งตั้งนายพชร อนันตศิลป์ รองปลัดกระทรวงการคลัง มาดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมธนารักษ์แทนการโยกย้ายดังกล่าว ถือเป็นการบริการจัดการข้าราชการเพื่อความเหมาะสมไม่เกี่ยวข้องกับโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐ และแม้จะมีการโยกย้ายอธิบดีธนารักษ์ไม่กระทบกับโครงการธนารักษ์ประชารัฐที่เป็นนโยบายของรัฐบาลซึ่งการดำเนินโครงการต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายนายจักรกฤศฏิ์ กล่าวว่า พร้อมรับคำสั่งการโยกย้ายดังกล่าว โดยขณะนี้กำลังรอคำสั่งอย่างเป็นทางการ คาดว่าเหตุผลที่ถูกย้ายมาจากการดำเนินนโยบายบ้านธนารักษ์ประชารัฐในซอยพหลโยธิน11"
"อย่างไรก็ตาม เห็นว่าหากโครงการดังกล่าวไม่ผิดกฎหมาย ควรต้องเดินหน้าต่อไป แม้จะค้านกับความเห็นประชาชนในพื้นที่ ที่ต้องการให้ยกเลิกโครงการทันที ซึ่งเข้าใจที่ฝ่ายนโยบายให้โยกย้ายออกจากตำแหน่งเพราะการคัดค้านดังกล่าวเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนและทำให้รัฐบาลได้รับผลกระทบ"พอจะทราบอยู่ว่า อาจจะต้องโดน แต่ไม่รู้ว่าจะเข้าครม.วันนี้(9พ.ค.)เพราะในตอนที่ลงพื้นที่กลุ่มผู้คัดค้านก็บอกว่าหากทำโครงการนี้ต่อไปอนาคตไม่สวยอย่างไรก็ตามไม่ได้เครียด ไม่ได้รู้สึกเสียใจ กับการถูกย้ายไปเป็นรองปลัด ก็คงจะได้พักผ่อนเพราะเหนื่อยกับโครงการนี้มาพอสมควร โดยยืนยันว่าการทำงานที่ผ่านมา ไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมายและอิงผลประโยชน์เกิดขึ้นกับประเทศชาติเป็นหลัก แต่เมื่อโครงการนี้ ยังมีปัญหาความขัดแย้ง รัฐบาลจึงย้ายออกไปจากตำแหน่งนี้ ถ้าผมทำผิดกฎหมายคงโดนมาตรา 44 ไปแล้ว"ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐ พหลโยธิน 11 ( ที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียน กท. 2615 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม. เนื้อที่รวม 2-1-48 ไร่ ) เป็น 1 ใน 6 พื้นที่นำร่องของโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีรายได้น้อยไม่เกิน 2 หมื่นบาทเช่าอยู่อาศัยชั่วคราว ไม่เกิน 5ปี โดยจะสร้างเป็นคอนโดมิเนียมอาคารพักอาศัย 8 ชั้น 2 หลัง รวม 350 หน่วย ที่จอดรถ 118 คัน"
"อย่างไรก็ตามได้มีการคัดค้านจากชุมชนในพื้นที่ เนื่องจากจะเพิ่มปัญหาการจราจร อีกทั้งยังได้มีการตั้งข้อสังเกตเรื่องการเอื้อประโยชน์ต่อบริษัทเอกชน เนื่องจากได้มีการโอนสิทธิการก่อสร้างและสิทธิการเช่าจากเอกชนอีกรายไปยังอีกรายหนึ่ง อีกทั้งโครงการนี้ยังไม่ได้ทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรืออีไอเอนอกจากนี้ทางสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)ยังทำหนังสือให้กรมธนารักษ์ทบทวนโครงการนี้ ทั้งในเรื่องความเหมาะสมของพื้นที่ และเรื่องการกำหนดคุณสมบัติผู้ที่เสนอโครงการ ที่ไม่ได้คำนึงถึงประสบการณ์ของผู้เสนอโครงการขณะที่กรมธนารักษ์ก็ยืนยันจะทำโครงการนี้ต่อ โดยโครงกรมธนารักษ์ได้เปิดหาผู้ลงทุนก่อสร้างโครงการเมื่อวันที่ 2 พ.ค. 2559 ประกาศผู้ได้รับคัดเลือกเมื่อวันที่ 4 ส.ค. 2559 คือ บริษัท ปักกิ่ง เออร์บัน-คอนสตรัคชั่น ยาไถ่ (ไทย) คอนสตรัคชั่น กรุ๊ป จำกัด ต่อมาเมื่อวันที่ 12 ต.ค.2559 บริษัทปักกิ่งฯขอโอนสิทธิการก่อสร้างและสิทธิการเช่าให้ บริษัท จูโน่ พาร์ค จำกัด เนื่องจากขาดความพร้อมในการก่อสร้างต่อมาเมื่อวันที่ 2 ก.พ.2560 กรมธนารักษ์ได้อนุญาตให้โอนสิทธิการเช่าฯ โดยบริษัทจูโน่ฯรับไปทั้งสิทธิและหน้าที่ที่บริษัท ปักกิ่งฯมีข้อผูกพันกับทางราชการทุกประการ และเมื่อวันที่ 18 เม.ย.2560 ครม.มีมติอนุมัติให้ปรับปรุงเงื่อนไขคุณสมบัติผู้มีสิทธิเข้าร่วมโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยสถานะปัจจุบัน บริษัทจูโน่ฯได้จัดทำรายละเอียดข้อมูลเกี่ยวกับผลกระทบต่อสภาพจราจรเพื่อเสนอคจร.พิจารณา และอยู่ระหว่างที่ คจร.ให้จัดทำเอกสารเพิ่มเติม และเมื่อผ่านคจร.แล้ว จึงจะยื่นเรื่องขออีไอเอ ต่อไป"
อ่านต่อที่: http://www.nationtv.tv/main/content/economy-business/378546708/