คำเตือน ..เรื่องน้ำมันนาฬิกา
ผมเจอคำถามบ่อยๆ ว่าใช้น้ำมันเหล่านี้หยอดนาฬิกาได้หรือไม่
1) น้ำมันจักร
น้ำมันจักรเป็นน้ำมันค่อนข้างใส และระเหยไว แค่ 3-4เดือน ก็จะระเหย ไปหมดและ เนื่องจากเป็นสารที่กลั่นจากปิโตเคมี เวลาไปหยอดนาฬิกาที่เป็นโลหะ จะระเหยไว เวลาไปหยอดใส่ชิ้นส่วนนาฬิกาที่เป็นพลาสติกบางตัวจะเกิดการปริแตกของเฟืองจักร จักรจะชำรุด นาฬิกาจะไม่ทำงาน
2) น้ำมันพืช
น้ำมันพืชเป็นน้ำมัน ออกแกนนิค Organic oil คือสกัดจากพืช แต่ยังมีน้ำเป็นส่วนประกอบ
ถ้าเอาไปหยอดนาฬิกาพอใช้ไปนานจะเกิดทำปฎิกิริยา Oxidation กับ จักรโลหะเป็นออกไซด์เกิดขึ้น ทำให้รูแกนจักรดำและเกิดจากที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบ
3) น้ำมันเครื่องรถยนต์
มีความหนืดเกินไป เวลาไปใส่จะเกิดฝุ่นเกาะ และในน้ำมันเครื่องจะมีสารชะล้างที่ผู้ผลิต ใส่ในน้ำมัน จะทำให้ห้องเครื่องสะอาด จะไปขจัดคราบเขม่าต่างๆ แต่....ถ้าเอาไปใช้จะทำให้นาฬิกาสึกกรอนเร็วขึ้น ..และเกิดซัลไฟด์ ที่จุดน้ำมัน
4) น้ำมันอเนกประสงค์แบบสเปย์..( น้ำมันครอบจักรวาล) Sonex หรือWD-40 บอกมีสารหล่อลื่น
พวกนี้มีใช้กัดสนิม ....และมีสารกัดสนิมเป็นองค์ประกอบ จะไปกัดเคลือบผิว( สีทอง)ของเครื่องนาฬิกา และรูแกนจักร.... ฉีดไปครั้งแรกๆ เครื่องจะลื่น ....หลังจากนั้น 4-5 เดือน ...จะเกิดสนิม..ขึ้นเต็ม.!!!! แกนจักรเหล็ก ...และชิ้นส่วนที่เป็นเคลือบทองเหลือง....ให้หลุดลอกและทองเหลืองจะด่างดำ ..... ถ้าเราล้างออกไม่หมด ....จะทำให้เครื่องนาฬิกาเกิดสนิมกิน ..และ จักรตายในที่สุด ...สุดท้ายต้องส่งไปซ่อม ...เพราะนาฬิกาเดินๆหยุดๆ...หรือนาฬิกาตาย..
** ผมเคยบอก ร้านค้านาฬิกาโบราณ... ไปหลายคน ... ใช้ผิดกันมาตลอด...... ( @@@ถ้าไปดูกระทู้ ของฝรั่งต่างประเทศเค้าจะเตือน ว่าห้ามใช้เหมือนกันครับ@@ ) ..... ถ้าจะใช้ล้าง..ใช้น้ำมันก๊าด( สำหรับนาฬิกาใหญ่ๆ) หรือเบ็นซินขาวล้าง( นาฬิกาข้อมือ) แล้วค่อยหยอดน้ำมันนาฬิกาที่รู แกนจักร ครับ ****
....บทสรุป....
............... ควรจะต้องทำการล้างเครื่อง... และซ่อมแซมชิ้นส่วนชำรุด ....ฟิดรูเครื่องที่หลวม ... โดยช่างผู้ชำนาญก่อน...จะทำการหยอดน้ำมัน Clock oil จะทำให้นาฬิกาที่เรารัก...และ........ใช้งานได้อีกยาวนานครับ ......
.
คำเตือน.. เรื่องน้ำมันหยอดนาฬิกา ...ที่ควรต้องรู้
ผมเจอคำถามบ่อยๆ ว่าใช้น้ำมันเหล่านี้หยอดนาฬิกาได้หรือไม่
1) น้ำมันจักร
น้ำมันจักรเป็นน้ำมันค่อนข้างใส และระเหยไว แค่ 3-4เดือน ก็จะระเหย ไปหมดและ เนื่องจากเป็นสารที่กลั่นจากปิโตเคมี เวลาไปหยอดนาฬิกาที่เป็นโลหะ จะระเหยไว เวลาไปหยอดใส่ชิ้นส่วนนาฬิกาที่เป็นพลาสติกบางตัวจะเกิดการปริแตกของเฟืองจักร จักรจะชำรุด นาฬิกาจะไม่ทำงาน
2) น้ำมันพืช
น้ำมันพืชเป็นน้ำมัน ออกแกนนิค Organic oil คือสกัดจากพืช แต่ยังมีน้ำเป็นส่วนประกอบ
ถ้าเอาไปหยอดนาฬิกาพอใช้ไปนานจะเกิดทำปฎิกิริยา Oxidation กับ จักรโลหะเป็นออกไซด์เกิดขึ้น ทำให้รูแกนจักรดำและเกิดจากที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบ
3) น้ำมันเครื่องรถยนต์
มีความหนืดเกินไป เวลาไปใส่จะเกิดฝุ่นเกาะ และในน้ำมันเครื่องจะมีสารชะล้างที่ผู้ผลิต ใส่ในน้ำมัน จะทำให้ห้องเครื่องสะอาด จะไปขจัดคราบเขม่าต่างๆ แต่....ถ้าเอาไปใช้จะทำให้นาฬิกาสึกกรอนเร็วขึ้น ..และเกิดซัลไฟด์ ที่จุดน้ำมัน
4) น้ำมันอเนกประสงค์แบบสเปย์..( น้ำมันครอบจักรวาล) Sonex หรือWD-40 บอกมีสารหล่อลื่น
พวกนี้มีใช้กัดสนิม ....และมีสารกัดสนิมเป็นองค์ประกอบ จะไปกัดเคลือบผิว( สีทอง)ของเครื่องนาฬิกา และรูแกนจักร.... ฉีดไปครั้งแรกๆ เครื่องจะลื่น ....หลังจากนั้น 4-5 เดือน ...จะเกิดสนิม..ขึ้นเต็ม.!!!! แกนจักรเหล็ก ...และชิ้นส่วนที่เป็นเคลือบทองเหลือง....ให้หลุดลอกและทองเหลืองจะด่างดำ ..... ถ้าเราล้างออกไม่หมด ....จะทำให้เครื่องนาฬิกาเกิดสนิมกิน ..และ จักรตายในที่สุด ...สุดท้ายต้องส่งไปซ่อม ...เพราะนาฬิกาเดินๆหยุดๆ...หรือนาฬิกาตาย..
** ผมเคยบอก ร้านค้านาฬิกาโบราณ... ไปหลายคน ... ใช้ผิดกันมาตลอด...... ( @@@ถ้าไปดูกระทู้ ของฝรั่งต่างประเทศเค้าจะเตือน ว่าห้ามใช้เหมือนกันครับ@@ ) ..... ถ้าจะใช้ล้าง..ใช้น้ำมันก๊าด( สำหรับนาฬิกาใหญ่ๆ) หรือเบ็นซินขาวล้าง( นาฬิกาข้อมือ) แล้วค่อยหยอดน้ำมันนาฬิกาที่รู แกนจักร ครับ ****
....บทสรุป....
............... ควรจะต้องทำการล้างเครื่อง... และซ่อมแซมชิ้นส่วนชำรุด ....ฟิดรูเครื่องที่หลวม ... โดยช่างผู้ชำนาญก่อน...จะทำการหยอดน้ำมัน Clock oil จะทำให้นาฬิกาที่เรารัก...และ........ใช้งานได้อีกยาวนานครับ ......
.