บาปหนาที่สุดก็คือการฆ่าทำลายชีวิตคน รวมถึงการทำแท้งนี่แหละค่ะ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของเราเองนะคะ แต่เป็นเรื่องของเพื่อนสมัยมัธยมปลาย ซึ่งก็ถือว่าใกล้ตัวพอสมควร เรื่องก็ผ่านมานานพอสมควรแล้ว พอดีนึกขึ้นได้ก็เลยได้โทรไปหาเพื่อนเพื่อคุยเรื่องนี้อีกครั้ง อาจจะมีการใส่ประโยคสนทนาเข้าใจเพื่อเพิ่มความเข้าใจการอ่านนะคะ
ตอน ม. ปลาย เราย้ายมาเรียนโรงเรียนประจำอำเภอแห่งหนึ่งแล้วเราก็เจอกับเพื่อนๆที่คบกันมาจนถึงทุกวันนี้ แก๊งค์เราเป็นแก๊งค์ใหญ่ มีเพื่อนอยู่ทั้งหมดเก้าคน ช่วง ม.5 มีเพื่อนของเพื่อนเราที่อยู่หมู่บ้านเดียวกัน สมมติว่าชื่อชมพู่ ส่วนเพื่อนเราที่มาเล่าทุกอย่างในเราฟังสมมติว่าชื่อแพรนะคะ
ต้นเดือนที่ผ่านมาเป็นงานแต่งเพื่อนคนหนึ่งในแก๊งค์ ม.ปลาย จึงเกิดการรวมตัวกันขึ้น โดยทุกคนยืนยันกันว่าจะไปงานแน่นอน จนถึงคืนก่อนวันงานหนึ่งคืน แพรไปรับเราที่บ้าน เพื่อมารวมตัวกันที่บ้านเพื่อนอีกคนก่อนที่จะไปงานแต่งในวันพรุ่งนี้
เรา : ตกลงอีพู่มันจะมามั้ยนี่ ไหนบอกมาวันนี้ไง
แพร : กูก็ไม่แน่ใจวะ แต่มันว่ามันจะให้พี่แถวบ้านมันมาส่งนะ เพราะมันจะพาลูกมาด้วย
เรา : อ๋อๆ ดีดี จะได้เจอหลานด้วย แล้วลูกล่ะ
แพร : พรุ่งนี้จะพามา วันนี้เราก็กินเหล้ากันให้เต็มที่
เรา : เออ เสียดายนะ อีพู่ไม่มาวันนี้ เพื่อนมาครบทุกคนเลย พรุ่งนี้วันงานก็ไม่ค่อยได้คุยเล่นกันแน่เลย
แพร : กูก็ไม่รู้จะว่ายังไงว่ะ ลูกชายกันก็เพิ่งจะเดินเตาะแตะๆ ไหนจะในท้องอีกล่ะ
เรา : ห๊าาา ท้องอีกแล้วเหรอ
แพรทำสีหน้าหนักใจ แล้วพยักหน้า
เรา : โอ๊ยย มันจะเอามาทำไมเยอะแยะวะ ทำไมไม่รู้จักคุม ท้องได้ท้องดี
ที่เราพูดแบบนั้นเพราะ เรารู้เรื่องชมพู่มาบ้าง ว่าหลังจบ ม.หก ก็ได้แต่งงานแล้วก็มีลูกสาวคนนึงกับที่พี่ที่ทำงานด้วยกัน แล้วก็เลิกรากันไป ชมพู่ก็ไม่เคยไปดูดำดูดีลูกเลย จนมาได้ข่าวมันอีกทีมันก็มีแฟนใหม่พร้อมลูกชายอีกคน นี่ยังจะมีลูกสาวมาอีก แล้วเรื่องในอดีตของชมพู่ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เราได้แค่ถอนหายใจแรงๆ ซึ่งแพรก็คงจะเข้าใจความรู้สึกเรา
แพร : มันก็ไม่รู้จักคุมเหมือนว่า โตๆแล้ว ก็รู้ว่าลำบาก แม่มันก็มาบ่นให้กูฟังตลอด สงสารแม่มัน เงินก็ไม่มี
เรา : ลูกในท้องนี่ผัวคนเดิมมั้ย
แพร : ผัวคนเดียวกับลูกชายนั่นล่ะ
เรา : แล้วผัวมันทำงานอะไร
แพร : กูก็ไม่รู้ แต่แม่อีพู่แกบ่นๆอยู่ว่าไม่ค่อยได้เรื่อง ขี้เกียจสันหลังยาว
เรา : เอ้า มันกลับมาอยู่บ้านมันเหรอ
แพร : หื่อๆ มันก็อยู่บ้านผัวมันนั่นแหละ มีช่วงนึงลูกมันไม่สบายมันพามาอยู่บ้าน เพราะใกล้โรงพยาบาลกว่าบ้านผัวมัน
เรา : อ๋อ เฮ้อออ อีพู่เอ๊ย กูก็ไม่ได้สนิทกับมันจนจะด่าจะห้ามจะปรามมันได้ ถ้าเป็นกูคงด่ากระเจิงแล้วแพร
แพร : กูก็ด่ามันตลอด แต่มันก็ไม่ฟัง พูดก็พูดเถอะ มันอยู่มาได้ทุกวันนี้โดยมันไม่ฆ่าตัวตายก็ถือว่าเก่งมากแล้ว
เรา : ทำไมว่างั้นวะ
แพร : บางทีเงินไม่มีติดตัวสักบาทก็มี โทรมาขอยืมกู กูก็ไม่มีให้ ภาระกูก็เยอะ
เราก็ได้แต่รับฟังไป เพราะปัญหาของชมพู่มีเยอะ จนเรามองว่าไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร
เรา : มันเป็นเวรกรรมมันนั่นแหละ เมิงรู้มั้ยทุกวันนี้ที่กูไปบริจาคเลือดเพราะอะไร เพราะกูได้รับได้รู้เรื่องของมันนี่แหละ กูสงสารเด็กพวกนั้น กูไปบริจาคกูก็คิดถึงลูกๆอีพู่ที่มันทำแท้งไปนั่นแหละ
แพร : เลิกพูดเถอะเมิง มืดแล้ว
เรา : ไมวะ
แพร : เออน่า เดี๋ยวกูค่อยเล่าให้ฟัง
เราก็เลยเลิกพูดเรื่องนั้นแล้วลืมๆ ไป จนถึงวันงาน ชมพู่ก็ไม่ได้มางาน ติดต่อไม่ได้ เฟสหาก็ไม่ได้ออน สรุปก็ไม่ได้เจอชมพู่เลย แล้วเราก็ลืมเรื่องที่แพรเกริ่นไว้ว่าจะเล่าให้ฟังจนนึกได้จึงโทรไปหาแพร
ชมพู่นั้นตอนเรียน ม.ปลาย เป็นสาวฮอตมาก เพราะหน้าตาดี ผิวขาวจั๊วะ หุ่นดี ตูดเป็นตูด นมเป็นนม ทำให้หนุ่มๆในโรงเรียนแวะเวียนมาจีบไม่ขาดสาย แรกๆ กลุ่มเราก็ไม่ค่อยจะยอมรับชมพู่หรอก แต่เพราะเห็นใจแพร เพราะแพรก็สงสารชมพู่ที่ไม่มีใครคบ เพราะมันเป็นคนแรงๆ บางทีตบรุ่นน้องแบบไม่มีเหตุผล บางทีเพื่อนแค่บอกว่าน้องคนนั้นมองหน้า มันก็เดินเข้าไปตบให้แล้ว ส่วนตัวเราเลยไม่ค่อยชอบชมพู่เอามากๆ แต่กับเพื่อนนางก็ให้สุดใจนะ ช่วยทุกอย่าง ยกเว้นเรื่องเรียน บางทีใช้ไปซื้อของให้ นางก็จะไปทันทีหรือไม่ก็ใช้ผู้ชายในสต๊อกของนางไป บางทีนางก็ขอเงินพวกผู้ชายมาเลี้ยงขนมพวกเรา ด้วยความที่ชมพู่เป็นคนสวย หัวกระไดบ้านจึงไม่แห้ง เธออยู่กับแม่ พ่อเลี้ยง แล้วก็น้องชาย ส่วนพ่อเป็นช่างไฟ โดนไฟช๊อตตายคาเสาไฟ ตั้งแต่ชมพู่ยังเด็ก ทำให้ขาดเสาหลัก แม่ก็ทำงานเป็นแม่บ้านที่อนามัยตำบล ครอบครัวชมพู่ถือว่าลำบากมาก แต่แทนที่ชมพู่จะทำตัวลำบาก เธอกับใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายจากเงินที่พวกผู้ชายให้มา ได้ทีละร้อยสองร้อย แทนที่นางจะเอากลับไปซื้อกลับข้าว นางกลับเอาไปซื้อขนมเลี้ยงเพื่อน ซึ่งตอนนั้นเพื่อนๆไม่มีใครรู้ว่านางลำบาก คิดว่านางเป็นคุณหนูด้วยซ้ำ มีแพรคนเดียวที่รู้ แต่แพรก็ไม่ได้เล่าให้ฟัง เพราะกลัวชมพู่จะอาย ชมพู่ใช้ชีวิตไปกับผู้ชายเรื่อยๆ เรียนไม่ค่อยจะเข้า ผลสุดท้ายก็คือเรียนไม่จบตามระเบียบ แต่นางก็ไม่ได้ใส่ใจ ความจริงชมพู่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว แต่แฟนชมพู่เรียนมหาลัยแล้ว ครอบครัวสองฝ่ายรับรู้ จนถึงขั้นว่าจะแต่งงานกัน
หลังจากเรียนจบเราก็ไม่ได้ข่าวชมพู่อีกเลย เพราะต่างคนต่างแยกย้ายไปเรียนที่อื่น บางคนก็ทำงาน มีครอบครัวไป
จนช่วงหนึ่งเราเรียนอยู่มหาลัยแพรก็โทรมาหาเรา
แพร : มด เมิงอยู่หอกับใคร
เรา : กับรูมเมทอ่ะ ทำไมเหรอ
แพร : เปล่าหรอก กูอาจจะไปธุระในเมืองเลยถามเมิงดูก่อน
เรา : ออๆ จะมานอนกับกูเหรอ มาได้นะ
แพร : เออๆ เดี๋ยวกูโทรหาใหม่
นานแล้วที่ไม่ได้ติดต่อกัน เราจึงค่อนข้างตื่นเต้นที่แพรอาจจะมาหา แต่แพรก็ไม่ได้มา แล้วบอกเราว่าได้ที่พักแล้ว พอเราจะไปหาที่โรงแรม ก็ไม่ให้ไป บอกว่ามากันหลายคน เดี๋ยววันหลังจะมาหาใหม่ เราก็ไม่เอะใจอะไร ผ่านไปนานมาก แพรก็มาหาเรา
แพร : กูดีใจมากที่วันนั้นเมิงบอกว่าเมิงอยู่ห้องกับเมท
เรา : ทำไมวะ
แพรทำหน้าหนักใจก่อนเล่าให้เราฟัง
แพร : อีพู่มันไปทำงานกับกู ไปอยู่กับกู แล้วมันเกิดท้องกับพี่ที่ทำงาน กูก็รู้สึกแปลกใจว่าทำไมมันคลื่นไส้บ่อยๆ ก็แอบสงสัยอยู่ จนมันหายไปสองวัน กูก็ไม่ได้ตาม เพราะปกติมันก็ไปนอนกับผู้ชายอยู่แล้ว จนมันโทรหากู
แพรหยุดพูดพร้อมทำหน้าหนักใจกว่าเดิม จนเราหงุดหงิด จะพูดก็ไม่พูด
แพร : มันมาทำแท้งในเมืองนี่แหละ มาคนเดียว แล้วมันตกเลือดหนักมาก จนต้องนอนอยู่ตรงคลินิกทำแท้งที่ข้างหน้าเปิดเป็นโรงพยาบาลเอกชนนั่นแหละ (ที่นี่ถ้าคนจังหวัดนั้นอาจจะรู้จักดี เพราะเป็นโรงพยาบาลเอกชนที่มีเสียงลือว่าด้านหลังรับทำแท้งเถื่อน)
เราทำหน้าตกใจ เพราะไม่คิดว่าชมพู่จะกล้าทำแบบนั้น
แพร : มันให้กูโทรไปหาเมิง มันไม่อยากนอนอยู่นั่น เพราะมันกลัว มันได้ยินเสียงเด็กร้องไห้อยู่ตลอด ทั้งๆ ที่ไม่มีเด็กที่มีชีวิตรอดอยู่เลย แต่กูไม่อยากให้เมิงเดือดร้อน กูเลยพาแฟนกูเข้ามารับมันไปนอนโรงแรม กูโคตรละอายใจเลย แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง
เรื่องหลอนประสบการณ์ผี : ฆ่าหนูทำไม (เรื่องจริงจากการทำแท้ง)
ตอน ม. ปลาย เราย้ายมาเรียนโรงเรียนประจำอำเภอแห่งหนึ่งแล้วเราก็เจอกับเพื่อนๆที่คบกันมาจนถึงทุกวันนี้ แก๊งค์เราเป็นแก๊งค์ใหญ่ มีเพื่อนอยู่ทั้งหมดเก้าคน ช่วง ม.5 มีเพื่อนของเพื่อนเราที่อยู่หมู่บ้านเดียวกัน สมมติว่าชื่อชมพู่ ส่วนเพื่อนเราที่มาเล่าทุกอย่างในเราฟังสมมติว่าชื่อแพรนะคะ
ต้นเดือนที่ผ่านมาเป็นงานแต่งเพื่อนคนหนึ่งในแก๊งค์ ม.ปลาย จึงเกิดการรวมตัวกันขึ้น โดยทุกคนยืนยันกันว่าจะไปงานแน่นอน จนถึงคืนก่อนวันงานหนึ่งคืน แพรไปรับเราที่บ้าน เพื่อมารวมตัวกันที่บ้านเพื่อนอีกคนก่อนที่จะไปงานแต่งในวันพรุ่งนี้
เรา : ตกลงอีพู่มันจะมามั้ยนี่ ไหนบอกมาวันนี้ไง
แพร : กูก็ไม่แน่ใจวะ แต่มันว่ามันจะให้พี่แถวบ้านมันมาส่งนะ เพราะมันจะพาลูกมาด้วย
เรา : อ๋อๆ ดีดี จะได้เจอหลานด้วย แล้วลูกล่ะ
แพร : พรุ่งนี้จะพามา วันนี้เราก็กินเหล้ากันให้เต็มที่
เรา : เออ เสียดายนะ อีพู่ไม่มาวันนี้ เพื่อนมาครบทุกคนเลย พรุ่งนี้วันงานก็ไม่ค่อยได้คุยเล่นกันแน่เลย
แพร : กูก็ไม่รู้จะว่ายังไงว่ะ ลูกชายกันก็เพิ่งจะเดินเตาะแตะๆ ไหนจะในท้องอีกล่ะ
เรา : ห๊าาา ท้องอีกแล้วเหรอ
แพรทำสีหน้าหนักใจ แล้วพยักหน้า
เรา : โอ๊ยย มันจะเอามาทำไมเยอะแยะวะ ทำไมไม่รู้จักคุม ท้องได้ท้องดี
ที่เราพูดแบบนั้นเพราะ เรารู้เรื่องชมพู่มาบ้าง ว่าหลังจบ ม.หก ก็ได้แต่งงานแล้วก็มีลูกสาวคนนึงกับที่พี่ที่ทำงานด้วยกัน แล้วก็เลิกรากันไป ชมพู่ก็ไม่เคยไปดูดำดูดีลูกเลย จนมาได้ข่าวมันอีกทีมันก็มีแฟนใหม่พร้อมลูกชายอีกคน นี่ยังจะมีลูกสาวมาอีก แล้วเรื่องในอดีตของชมพู่ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เราได้แค่ถอนหายใจแรงๆ ซึ่งแพรก็คงจะเข้าใจความรู้สึกเรา
แพร : มันก็ไม่รู้จักคุมเหมือนว่า โตๆแล้ว ก็รู้ว่าลำบาก แม่มันก็มาบ่นให้กูฟังตลอด สงสารแม่มัน เงินก็ไม่มี
เรา : ลูกในท้องนี่ผัวคนเดิมมั้ย
แพร : ผัวคนเดียวกับลูกชายนั่นล่ะ
เรา : แล้วผัวมันทำงานอะไร
แพร : กูก็ไม่รู้ แต่แม่อีพู่แกบ่นๆอยู่ว่าไม่ค่อยได้เรื่อง ขี้เกียจสันหลังยาว
เรา : เอ้า มันกลับมาอยู่บ้านมันเหรอ
แพร : หื่อๆ มันก็อยู่บ้านผัวมันนั่นแหละ มีช่วงนึงลูกมันไม่สบายมันพามาอยู่บ้าน เพราะใกล้โรงพยาบาลกว่าบ้านผัวมัน
เรา : อ๋อ เฮ้อออ อีพู่เอ๊ย กูก็ไม่ได้สนิทกับมันจนจะด่าจะห้ามจะปรามมันได้ ถ้าเป็นกูคงด่ากระเจิงแล้วแพร
แพร : กูก็ด่ามันตลอด แต่มันก็ไม่ฟัง พูดก็พูดเถอะ มันอยู่มาได้ทุกวันนี้โดยมันไม่ฆ่าตัวตายก็ถือว่าเก่งมากแล้ว
เรา : ทำไมว่างั้นวะ
แพร : บางทีเงินไม่มีติดตัวสักบาทก็มี โทรมาขอยืมกู กูก็ไม่มีให้ ภาระกูก็เยอะ
เราก็ได้แต่รับฟังไป เพราะปัญหาของชมพู่มีเยอะ จนเรามองว่าไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร
เรา : มันเป็นเวรกรรมมันนั่นแหละ เมิงรู้มั้ยทุกวันนี้ที่กูไปบริจาคเลือดเพราะอะไร เพราะกูได้รับได้รู้เรื่องของมันนี่แหละ กูสงสารเด็กพวกนั้น กูไปบริจาคกูก็คิดถึงลูกๆอีพู่ที่มันทำแท้งไปนั่นแหละ
แพร : เลิกพูดเถอะเมิง มืดแล้ว
เรา : ไมวะ
แพร : เออน่า เดี๋ยวกูค่อยเล่าให้ฟัง
เราก็เลยเลิกพูดเรื่องนั้นแล้วลืมๆ ไป จนถึงวันงาน ชมพู่ก็ไม่ได้มางาน ติดต่อไม่ได้ เฟสหาก็ไม่ได้ออน สรุปก็ไม่ได้เจอชมพู่เลย แล้วเราก็ลืมเรื่องที่แพรเกริ่นไว้ว่าจะเล่าให้ฟังจนนึกได้จึงโทรไปหาแพร
ชมพู่นั้นตอนเรียน ม.ปลาย เป็นสาวฮอตมาก เพราะหน้าตาดี ผิวขาวจั๊วะ หุ่นดี ตูดเป็นตูด นมเป็นนม ทำให้หนุ่มๆในโรงเรียนแวะเวียนมาจีบไม่ขาดสาย แรกๆ กลุ่มเราก็ไม่ค่อยจะยอมรับชมพู่หรอก แต่เพราะเห็นใจแพร เพราะแพรก็สงสารชมพู่ที่ไม่มีใครคบ เพราะมันเป็นคนแรงๆ บางทีตบรุ่นน้องแบบไม่มีเหตุผล บางทีเพื่อนแค่บอกว่าน้องคนนั้นมองหน้า มันก็เดินเข้าไปตบให้แล้ว ส่วนตัวเราเลยไม่ค่อยชอบชมพู่เอามากๆ แต่กับเพื่อนนางก็ให้สุดใจนะ ช่วยทุกอย่าง ยกเว้นเรื่องเรียน บางทีใช้ไปซื้อของให้ นางก็จะไปทันทีหรือไม่ก็ใช้ผู้ชายในสต๊อกของนางไป บางทีนางก็ขอเงินพวกผู้ชายมาเลี้ยงขนมพวกเรา ด้วยความที่ชมพู่เป็นคนสวย หัวกระไดบ้านจึงไม่แห้ง เธออยู่กับแม่ พ่อเลี้ยง แล้วก็น้องชาย ส่วนพ่อเป็นช่างไฟ โดนไฟช๊อตตายคาเสาไฟ ตั้งแต่ชมพู่ยังเด็ก ทำให้ขาดเสาหลัก แม่ก็ทำงานเป็นแม่บ้านที่อนามัยตำบล ครอบครัวชมพู่ถือว่าลำบากมาก แต่แทนที่ชมพู่จะทำตัวลำบาก เธอกับใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายจากเงินที่พวกผู้ชายให้มา ได้ทีละร้อยสองร้อย แทนที่นางจะเอากลับไปซื้อกลับข้าว นางกลับเอาไปซื้อขนมเลี้ยงเพื่อน ซึ่งตอนนั้นเพื่อนๆไม่มีใครรู้ว่านางลำบาก คิดว่านางเป็นคุณหนูด้วยซ้ำ มีแพรคนเดียวที่รู้ แต่แพรก็ไม่ได้เล่าให้ฟัง เพราะกลัวชมพู่จะอาย ชมพู่ใช้ชีวิตไปกับผู้ชายเรื่อยๆ เรียนไม่ค่อยจะเข้า ผลสุดท้ายก็คือเรียนไม่จบตามระเบียบ แต่นางก็ไม่ได้ใส่ใจ ความจริงชมพู่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว แต่แฟนชมพู่เรียนมหาลัยแล้ว ครอบครัวสองฝ่ายรับรู้ จนถึงขั้นว่าจะแต่งงานกัน
หลังจากเรียนจบเราก็ไม่ได้ข่าวชมพู่อีกเลย เพราะต่างคนต่างแยกย้ายไปเรียนที่อื่น บางคนก็ทำงาน มีครอบครัวไป
จนช่วงหนึ่งเราเรียนอยู่มหาลัยแพรก็โทรมาหาเรา
แพร : มด เมิงอยู่หอกับใคร
เรา : กับรูมเมทอ่ะ ทำไมเหรอ
แพร : เปล่าหรอก กูอาจจะไปธุระในเมืองเลยถามเมิงดูก่อน
เรา : ออๆ จะมานอนกับกูเหรอ มาได้นะ
แพร : เออๆ เดี๋ยวกูโทรหาใหม่
นานแล้วที่ไม่ได้ติดต่อกัน เราจึงค่อนข้างตื่นเต้นที่แพรอาจจะมาหา แต่แพรก็ไม่ได้มา แล้วบอกเราว่าได้ที่พักแล้ว พอเราจะไปหาที่โรงแรม ก็ไม่ให้ไป บอกว่ามากันหลายคน เดี๋ยววันหลังจะมาหาใหม่ เราก็ไม่เอะใจอะไร ผ่านไปนานมาก แพรก็มาหาเรา
แพร : กูดีใจมากที่วันนั้นเมิงบอกว่าเมิงอยู่ห้องกับเมท
เรา : ทำไมวะ
แพรทำหน้าหนักใจก่อนเล่าให้เราฟัง
แพร : อีพู่มันไปทำงานกับกู ไปอยู่กับกู แล้วมันเกิดท้องกับพี่ที่ทำงาน กูก็รู้สึกแปลกใจว่าทำไมมันคลื่นไส้บ่อยๆ ก็แอบสงสัยอยู่ จนมันหายไปสองวัน กูก็ไม่ได้ตาม เพราะปกติมันก็ไปนอนกับผู้ชายอยู่แล้ว จนมันโทรหากู
แพรหยุดพูดพร้อมทำหน้าหนักใจกว่าเดิม จนเราหงุดหงิด จะพูดก็ไม่พูด
แพร : มันมาทำแท้งในเมืองนี่แหละ มาคนเดียว แล้วมันตกเลือดหนักมาก จนต้องนอนอยู่ตรงคลินิกทำแท้งที่ข้างหน้าเปิดเป็นโรงพยาบาลเอกชนนั่นแหละ (ที่นี่ถ้าคนจังหวัดนั้นอาจจะรู้จักดี เพราะเป็นโรงพยาบาลเอกชนที่มีเสียงลือว่าด้านหลังรับทำแท้งเถื่อน)
เราทำหน้าตกใจ เพราะไม่คิดว่าชมพู่จะกล้าทำแบบนั้น
แพร : มันให้กูโทรไปหาเมิง มันไม่อยากนอนอยู่นั่น เพราะมันกลัว มันได้ยินเสียงเด็กร้องไห้อยู่ตลอด ทั้งๆ ที่ไม่มีเด็กที่มีชีวิตรอดอยู่เลย แต่กูไม่อยากให้เมิงเดือดร้อน กูเลยพาแฟนกูเข้ามารับมันไปนอนโรงแรม กูโคตรละอายใจเลย แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง