โรคหัดแมว

กระทู้คำถาม
สวัสดีค่ะ  ประสบการณ์แมวเป็นไข้หัดและการดูแลรักษา หรือท่านอื่นมีแนวทางรักษาแบบไหนกันบ้างคะ?
             ขอเล่าในมุมของคนเลี้ยงที่ไม่มีความรู้เรื่องวิชาการทางการณ์แพทย์เลย บ้านเรามีแมวหลายตัว เก็บมาบ้าง คนเอามาให้บ้าง ทางบ้านไม่ได้มีฐานะ แต่ก็เลี้ยงดูกันมาอย่างดี แต่ๆๆๆเนื่องจากมีหลายตัว และบางตัวยังไม่ได้ทำวัคซีน ย้อนกลับไปเมื่อต้นเดือน 04/60 แมวเราทยอยป่วยด้วยโรคหวัด เกือบทุกตัว รักษาจนหายดีแล้วทุกตัว กำลังจะพาไปฉีดวัคซีน แล้วมีตัวนึง อาเจียน อาการไม่ดี เราเลยพาไปหาหมอที่ รพส.  (ก่อนนี้พาไปคลินิคแถวบ้าน) ผลตรวจเลือดพบว่าเป็นหัดแมว ผลเลือดแย่มากๆ หมอให้นอนรพส.เราเลยตัดสินใจฝากน้องไว้ ที่จริงอยากเอากลับไปดูแลเองที่บ้านแต่กลัวไปติดตัวอื่น คิดว่าน้องน่าจะดีขึ้นกลายเป็นว่าหมอโทรแจ้งน้องจะไม่ไหวแล้ว เราใจไม่ดีแล้วบอกหมอมียาตัวไหนช่วยได้แพงก็จะจ่าย(ยอมเป็นหนี้สู้กับมันไอ้หัดเอ้ย) แล้วหมอก็จ่ายยาให้เข้าเส้นน้องแต่สุดท้ายเราก็เสียน้องไปค่ะ สัมผัสสุดท้าย แววตาสุดท้าย   เสียใจคร่ำครวญแค่ไหนคนเลี้ยงแมวทุกคนคงเข้าใจดี .........หลังจากนั้นหมอบอกให้ดูอาการตัวที่เหลืออีก7 วัน ถ้าไม่ป่วยถึงน้ำมาฉีดวัคซีนได้  แล้วก็ไม่รอดค่ะ เราติดตามอาการทุกตัวตลอด มีตัวนึงแสดงอาการพาไปหาหมอที่รพส.เดี๋ยวนั้นเลย  ผลตรวจเลือดแย่กว่าตัวที่เสียไปตัวแรกเกือบเท่าตัว ตอนนั้นใจคือ เราต้องเสียน้องอีกเหรอ? แต่ครั้งนี้ไม่ว่ายังไงจะเอากลับมาดูแลเองถึงตายก็ขอให้เค้าตายใกล้ๆเรา จะไม่ปล่อยน้องให้ต้องสู้ลำพังอีกแล้ว วันนั้นได้รับ Antivirus มา1เข็ม และตัวยาอื่นๆ+น้ำเกลือ เราถามย้ำแล้วย้ำอีกถ้าน้องไม่ยอมกินเราควรต้องทำยังไง  คุณหมอ+ผู้ช่วย บอกให้พยายามป้อนค่ะ....
เรานั่งเฝ้าหน้ากรงดูอาการเกือบ 24 ชม. ไม่ดีขึ้นเลย  อ่านเจอว่ายาเขียวช่วยได้ นี่ก็ไม่พลาด กรอกยา พยายามป้อนอาหาร Recovery อาเจียนออกหมด   เริ่มทรุดลงๆ....  พีคสุดๆ วันรุ่งขึ้นถ่ายเป็นเลือด เยอะมากเหม็นคาวมาก เราพาไปหาหมอที่คลินิกเดิมเลยค่ะ  ไม่ไปรพส.แล้ว  เราก็ลนลานมาก  แต่หมอนิ่งมาก  วันนั้นคุณหมอฉีดให้หลายเข็มมากมีฉีดAntivirus งดน้ำ งดอาหาร มาให้น้ำเกลือทุกวัน  เราเองตอนนี้จะไม่ยอมเสียน้องไปอีกแล้ว ต้องลางานนนนจ้า เฝ้าไข้แมว (ดูมีเหตุผลอันสมควรมั้ย^^) คิดในใจลาไม่ได้ก็ลาออกวะ  (ขอกราบขอบพระคุณ Boss มา ณที่นี้ด้วยค่ะ)
วิธีดูแลแมวของเรา
1.แยกกรงออกจากแมวตัวอื่นๆ
2.งดน้ำ งดอาหาร ตามหมอสั่ง
3.รักษาความสะอาดในบ้าน ภาชนะทุกอย่าง  (ใช้ไฮเตอร์+alcohol 95%) เชื้อนี้มันทนทานต่อความร้อน และน้ำยาฆ่าเชื้อ ถึงจะฆ่าไวรัสไม่ได้แต่เพื่อป้องกันแบคทีเรียแทรกซ้อน  และมันช่วยให้เราสบายใจขึ้นนิดนึง
4.ไม่จับ อุ้ม หอม ดม แมว(ถ้าคิดถึงใช้วิธีคุยห่างๆ) กับตัวอื่นๆที่ปกติอยู่  และใส่ถุงมือทุกครั้งเมื่อต้องสัมผัสกับแมวป่วย
5.ผ้าที่เปื้อนของขับถ่าย แช่ซักไฮเตอร์แล้ว ใส่ถุงดำมัดให้แน่นๆทิ้งไปเลยค่ะ
6.คุย กอด สัมผัส น้องที่ป่วยบ่อยๆ  เราคิดว่ากำลังใจเป็นสิ่งสำคัญมากๆ ค่ะ บอกเค้าต้องสู้ไปด้วยกัน  กลางคืนเรานอนกอดกัน  สวดมนต์ด้วยกัน  หลับๆตื่นๆ มาดูเค้าทักกันตลอด เพื่อเช็คว่ายังมีแรงที่จะทักตอบเรามั้ย  
7.ฉีดยา ให้น้ำเกลืออย่างต่อเนื่อง
8.ต้องมีความหวังอยู่ตลอดว่าเค้าต้องรอด  
และปัจจุบันน้องอาการดีขึ้นเกือบ100% ร่าเริง กินได้  ขับถ่ายยังคงมีเลือดคล้ำดำ ข้นขึ้น จนตอนนี้ไม่มีเลือดปนออกมาแล้ว คุณหมอบอก แบบนี้คือเค้าใกล้หายแล้ว เราดีใจสุดๆ เหมือนชีวิตนี้ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว
ฝากข้อคิดที่ได้จากความผิดพลาดของเราเอง “วัคซีนคือสิ่งสำคัญที่สุด นะคะ ต้องฉีดและต้องให้จนครบ เสียไปแล้วเอากลับคืนมาไม่ได้”
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่