สวัสดีค่ะ อยากขอคำแนะนำจากท่านๆ เรื่องวีซ่าค่ะ ดิฉันมีแฟนเป็นอเมริกัน มาสามปี อาศัยอยู่ด้วยกันพร้อมลูกชายเค้าอายู 7 ขวบ. คุณแฟนทำงาน Digital Marketing ตัวดิฉันทำงานโรงแรม เป็นผู้จัดการแผนกคุม 2 โรงแรม เงินเดือนส่วนตัวมีไม่มาก ประมาณเดือนล่ะ 68000-70000 บาท/เดือน ตอนสัมภาษมีเงินในบัญชี 134000 ค่ะ ตัวบัญชีคุณแฟนมีประมาณล้านนิดๆ คือเอาไปบัญชีเดียวค่ะคิดว่าน่าจะพอ ระยะเวลาที่ขอคือ 30 วัน นี่คือการขอครั้งแรกแต่ไม่ผ่านค่ะ ตั๋วขาไปไปด้วยกันสามคน ขากลับเรากลับคนเดียว เพราะลูกชายเพิ่งเสียพี่ชายไปและจะย้ายไปอยู่กับแม่เค้าที่โน่น แฟนต้องการอยู่ดูแลซักระยะนึงในตั๋วเลยมีชื่อเราขากลับคนเดียว ปีนี้เค้ายังจะไปๆมาๆ แต่ปีหน้าว่าจะแต่งงานกันและย้ายไปเลย เราก็ต้องการเวลาเตรียมตัวค่พ เพราะสำหรับเราแต่งหรือไม่ไม่สำคัญ รักกันอยู่ดูแลกันช่วยเหลือกัน พอ คนแก่อ่ะค่ะ 555
คำถามที่สัมภาษไปนะค่ะ
Mr. Embassy: Good Morning
Me: Good Morning
Mr. Embassy: Why you wanna go to US?
Me: For Family and Travelling before school open, I have to look after my BF son cause he just lost his brother from suicide and I also plan for travelling(รู้ว่าไม่น่าพูด แต่ตอนกรอกแฟนเป็นสปอนเซ่อ และในตั๋วมีชื่อเราสามคน บวกคิดว่าจริงใจน่าจะดีกว่า เราก็ประวัติดี)
Mr. Embassy: for how long?
Me: 30 days, I will come back to Thailand on 19 July
Mr. Embassy: Could you take that long leave from work?
Me: Yes, I do have certificate from my work
Mr. Embassy: Did you ever travel to other country?
Me: Yes, I went to china many times, Japan, Indonesia, Malaysia, Singapore...ไปเที่ยวแบบไปเองเงินเอง ปีละครั้งสองครั้ง เพราะชอบทำรีวิว และมีบล็อกเป็นของตัวเอง บล็อกเพิ่งเริ่มทำตอนต้นปี รีวิวตอนนี้อยู่ Level 6 of contributer ของทริปแอดไวเซ่อ และทำมาตั้งแต่2010 เขียนทุกอย่างเป็นภาษาอังกฤษเพราะพิมพ์ไทยต้องจิ้มเอา
Mr Embassy: May I see you statement
Me: ยื่นให้
Mr. Embassy: What is your boyfriend name?
Me. บอกไป
Mr. Embassy: What is his working:
Me: บอกไป..............
Mr. Embassy: Do you have his passport?
Me: Sorry, I dint have it. I only have his statement and his invitation letter เราก็ยื่นให้
Mr. Embassy :เปิดดูซักแป็บ คีย์ข้อมูลไปด้วย ดูที่คอม sorry you are not qualify for this time.
จากนั้นเราก็เดินออกมาค่า รบกวนวิเคราะห์และช่วยแนะนำหน่อยค่า ว่าจะลองไปสัมภาษดูอีกรอบ อาทิตย์หน้า เพราะแฟนอยากให้ไปช่วยดูบ้าน ดูรถ และพาเราไปทำตามความฝันในฐานะคนชอบเดินทาง ช่วงที่เราจะเดินทางไปอเมริกาเราก็จองตั๋วไปเทรคกิ้งที่ซาปาไว้ แต่ตัดใจทิ้งเพราะสงสารแฟนและลูกชาย เค้าเพิ่งเสียลูกอีกคนแบบกระทันหัน เลยต้องย้ายด่วน และตัวเล็กก็ต้องดูแลจิตใจมากหน่อย แฟนเราขอเราแต่งงานและจะดำเนินการขอ K1 หลังจากที่กลับมาตามแพลน เราเองก็มีชีวิตที่ดีที่นี่ ก็อยากไปดูก่อน แค่อยากไปเยี่ยมเยียน แต่เรื่องไปอยู่ และแต่งงานคั้รงแรกของผู้หญิงอายุ 36 ไม่ใช่เรื่องที่อยากตัดสินใจปุ๊บปั๊บค่ะ ว่าจะลองดูอีกรอบค่ะ
ปล แฟนเราไม่ใช่สัญชาติ US นะค่ะ แต่แต่งงานกับผุหญิง US เมื่อ 7 ปีที่แล้ว เลยได้สัญชาติ แต่ก่อนหน้าเค้าก็อยู่แบบไม่ถูกต้องอยู่หลายปีค่า มีผลไหมค่า
สัมภาษณ์วีซ่าอเมริกาไม่ผ่าน
คำถามที่สัมภาษไปนะค่ะ
Mr. Embassy: Good Morning
Me: Good Morning
Mr. Embassy: Why you wanna go to US?
Me: For Family and Travelling before school open, I have to look after my BF son cause he just lost his brother from suicide and I also plan for travelling(รู้ว่าไม่น่าพูด แต่ตอนกรอกแฟนเป็นสปอนเซ่อ และในตั๋วมีชื่อเราสามคน บวกคิดว่าจริงใจน่าจะดีกว่า เราก็ประวัติดี)
Mr. Embassy: for how long?
Me: 30 days, I will come back to Thailand on 19 July
Mr. Embassy: Could you take that long leave from work?
Me: Yes, I do have certificate from my work
Mr. Embassy: Did you ever travel to other country?
Me: Yes, I went to china many times, Japan, Indonesia, Malaysia, Singapore...ไปเที่ยวแบบไปเองเงินเอง ปีละครั้งสองครั้ง เพราะชอบทำรีวิว และมีบล็อกเป็นของตัวเอง บล็อกเพิ่งเริ่มทำตอนต้นปี รีวิวตอนนี้อยู่ Level 6 of contributer ของทริปแอดไวเซ่อ และทำมาตั้งแต่2010 เขียนทุกอย่างเป็นภาษาอังกฤษเพราะพิมพ์ไทยต้องจิ้มเอา
Mr Embassy: May I see you statement
Me: ยื่นให้
Mr. Embassy: What is your boyfriend name?
Me. บอกไป
Mr. Embassy: What is his working:
Me: บอกไป..............
Mr. Embassy: Do you have his passport?
Me: Sorry, I dint have it. I only have his statement and his invitation letter เราก็ยื่นให้
Mr. Embassy :เปิดดูซักแป็บ คีย์ข้อมูลไปด้วย ดูที่คอม sorry you are not qualify for this time.
จากนั้นเราก็เดินออกมาค่า รบกวนวิเคราะห์และช่วยแนะนำหน่อยค่า ว่าจะลองไปสัมภาษดูอีกรอบ อาทิตย์หน้า เพราะแฟนอยากให้ไปช่วยดูบ้าน ดูรถ และพาเราไปทำตามความฝันในฐานะคนชอบเดินทาง ช่วงที่เราจะเดินทางไปอเมริกาเราก็จองตั๋วไปเทรคกิ้งที่ซาปาไว้ แต่ตัดใจทิ้งเพราะสงสารแฟนและลูกชาย เค้าเพิ่งเสียลูกอีกคนแบบกระทันหัน เลยต้องย้ายด่วน และตัวเล็กก็ต้องดูแลจิตใจมากหน่อย แฟนเราขอเราแต่งงานและจะดำเนินการขอ K1 หลังจากที่กลับมาตามแพลน เราเองก็มีชีวิตที่ดีที่นี่ ก็อยากไปดูก่อน แค่อยากไปเยี่ยมเยียน แต่เรื่องไปอยู่ และแต่งงานคั้รงแรกของผู้หญิงอายุ 36 ไม่ใช่เรื่องที่อยากตัดสินใจปุ๊บปั๊บค่ะ ว่าจะลองดูอีกรอบค่ะ
ปล แฟนเราไม่ใช่สัญชาติ US นะค่ะ แต่แต่งงานกับผุหญิง US เมื่อ 7 ปีที่แล้ว เลยได้สัญชาติ แต่ก่อนหน้าเค้าก็อยู่แบบไม่ถูกต้องอยู่หลายปีค่า มีผลไหมค่า