หลังจากหาข้อมูลพักใหญ่สำหรับไมล์จักรยานตัวใหม่ สุดท้ายมาจบที่ wahoo elemnt วันนี้จึงขอหยิบยกมาเขียนรีวิวให้สมาชิกชาวพันทิป สำหรับใครที่กำลังสนใจเจ้าไมล์ตัวนี้
# สเปกของอุปกรณ์ #
1. มิติ : 57.5mm x 90.5mm x 21.2mm เวลาติดตั้งบน bar stem หรือ front bar รู้สึกเลยครับว่าใหญ่พอควร แต่ไม่ถึงกับเกะกะครับ
2. จอภาพ : จอขาวดำขนาด 2.7 นิ้ว, จอภาพเห็นชัดเจนแม้อยู่กลางแจ้งที่แดดจัดครับพร้อมไฟ back – light สำหรับเวลากลางคืน และฟังก์ชั่นให้เลือก 3 ออพชั่น คือ เปิด, ปิด, เปิด n วินาที (กำหนดระยะการเปิดต่อครั้ง หน่วยเป็นวินาที ค่าเริ่มต้น 5 วินาที) จากที่ได้ใช้งานมา ขนาดจอภาพใหญ่ อันนี้ถูกใจมากครับ มองง่าย แค่เลือบตามองแป๊บเดียวก็เห็นข้อมูลการปั่นแล้ว ไม่ต้องเสียสมาธิในการเพ็งหน้าจอนานครับ แต่จุดด้อยคือไม่ใช่จอสี ทำให้เวลาดูภาพแผนที่อาจจะงง และเปรียบเทียบภูมิประเทศไม่ได้เหมือนของ garmin ภาพที่จะเห็นก็เป็นแค่เส้นทางถนนครับ แต่ก็อยู่ในวิสัยที่พอเข้าในเส้นทางได้ครับ และก็เพียงพอสำหรับการนำทางไปในที่ต่าง ๆ ครับ
3. น้ำหนัก : ประมาณ 100 กรัม (3.5 oz) ก็ไม่ถือว่าหนักอะไรมากมายครับ
4. แบตเตอรี่ : rechargeable battery อายุการใช้งานต่อการชาร์จ 1 ครั้งตามสเปกของผู้ผลิตคือ 16 ชม. แต่จากที่ได้ใช้งานมา
> ปั่นกลางวัน + ปิดไฟ back-light + เปิดแผนที่นำทาง + เปิดไฟ LED นำทาง + ปิด phone notification + ปิดฟีเจอร์ real tracking อัตราใช้ไฟประมาณ 10% ต่อชม.
> ปั่นกลางคืน + เปิดไฟ back-light + ปิดแผนที่นำทาง + เปิด phone notification อัตราใช้ไฟประมาณ 10% ต่อชม.
คาดว่าใช้งานทั่วไป น่าจะใช้ได้ประมาณ 9 – 10 ชม. ครับ, ปิดเครื่องทิ้งไว้จะมีประจุไฟลดลงเฉลี่ยวันละ 1%
5. กันน้ำตามมาตรฐาน IPX7
6. การเชื่อมต่อ : รองรับการเชื่อมต่อไร้สายทั้ง ANT+, Bluetooth 4.0 สำหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์เซ็นเซอร์และโทรศัพท์ และ WIFI 802.11n สำหรับเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตเพื่ออัพเดทรอมและอัพโหลดสถิติการปั่นขึ้นเว็บโดยอัตโนมัติ
7. แผนที่และระบบนำทาง : รองรับระบบ GPS และ Glonass พร้อมแผนที่ทั่วโลกให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดใส่เข้าไมล์ครับ
8. การเชื่อมต่อโทรศัพท์ : รองรับการเชื่อมต่อโทรศัพท์เพื่อเซ็ตระบบผ่านโปรแกรม Wahoo Companion App ซึ่งใช้งานได้ทั้ง Android 4.3 หรือใหม่กว่า และ iPhone 4S หรือใหม่กว่า
9. การรองรับการต่อพ่วงอุปกรณ์ : สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่อพ่วงชนิดต่าง ๆ ได้แก่ Speed Sensor , Cadence Sensor , Combo Sensor , Heart Rate Sensor , Smart watch ที่รองรับการเชื่อมต่อแบบ ANT+ หรือ Smart Bluetooth เท่าที่ผมใช้งาน สามารถใช้ร่วมกับ Combo Sensor ของ Bontrager ได้ดี ไม่มีปัญหาสัญญาณหลุดครับ และถ้าเราใช้ Heart Rate Sensor ของ Wahoo อุปกรณ์จะตรวจจับเองโดยอัตโนมัติโดยไม่ต้องเซ็ตอะไรเลยครับ
# อุปกรณ์ในกล่อง #
1. ตัวเครื่อง
2. mount ยึดเครื่อง มีให้ 3 แบบครับ คือ แบบ front mount (bar fly) , stem mount , aero mount (สำหรับ aero bar) หน้าตาจะคล้าย ๆ กับ garmin ครับ แต่ใช้แทนกันไม่ได้ครับ stem mount จะใช้ cable tide รัด (ของ garmin จะใช้ยางยึดครับ) ซึ่งนอกจากจะใช้ของที่แถมมาในกล่องแล้ว ตอนนี้เท่าที่ทราบ จะมีของเสริมยี่ห้อ K Edge ครับ เป็นอลูมิเนียม ราคาประมาณ 1600 บาท
3. สาย USB สำหรับชาร์จไฟ
4. คู่มือ
[CR] รีวิว Wahoo Elemnt
# สเปกของอุปกรณ์ #
1. มิติ : 57.5mm x 90.5mm x 21.2mm เวลาติดตั้งบน bar stem หรือ front bar รู้สึกเลยครับว่าใหญ่พอควร แต่ไม่ถึงกับเกะกะครับ
2. จอภาพ : จอขาวดำขนาด 2.7 นิ้ว, จอภาพเห็นชัดเจนแม้อยู่กลางแจ้งที่แดดจัดครับพร้อมไฟ back – light สำหรับเวลากลางคืน และฟังก์ชั่นให้เลือก 3 ออพชั่น คือ เปิด, ปิด, เปิด n วินาที (กำหนดระยะการเปิดต่อครั้ง หน่วยเป็นวินาที ค่าเริ่มต้น 5 วินาที) จากที่ได้ใช้งานมา ขนาดจอภาพใหญ่ อันนี้ถูกใจมากครับ มองง่าย แค่เลือบตามองแป๊บเดียวก็เห็นข้อมูลการปั่นแล้ว ไม่ต้องเสียสมาธิในการเพ็งหน้าจอนานครับ แต่จุดด้อยคือไม่ใช่จอสี ทำให้เวลาดูภาพแผนที่อาจจะงง และเปรียบเทียบภูมิประเทศไม่ได้เหมือนของ garmin ภาพที่จะเห็นก็เป็นแค่เส้นทางถนนครับ แต่ก็อยู่ในวิสัยที่พอเข้าในเส้นทางได้ครับ และก็เพียงพอสำหรับการนำทางไปในที่ต่าง ๆ ครับ
3. น้ำหนัก : ประมาณ 100 กรัม (3.5 oz) ก็ไม่ถือว่าหนักอะไรมากมายครับ
4. แบตเตอรี่ : rechargeable battery อายุการใช้งานต่อการชาร์จ 1 ครั้งตามสเปกของผู้ผลิตคือ 16 ชม. แต่จากที่ได้ใช้งานมา
> ปั่นกลางวัน + ปิดไฟ back-light + เปิดแผนที่นำทาง + เปิดไฟ LED นำทาง + ปิด phone notification + ปิดฟีเจอร์ real tracking อัตราใช้ไฟประมาณ 10% ต่อชม.
> ปั่นกลางคืน + เปิดไฟ back-light + ปิดแผนที่นำทาง + เปิด phone notification อัตราใช้ไฟประมาณ 10% ต่อชม.
คาดว่าใช้งานทั่วไป น่าจะใช้ได้ประมาณ 9 – 10 ชม. ครับ, ปิดเครื่องทิ้งไว้จะมีประจุไฟลดลงเฉลี่ยวันละ 1%
5. กันน้ำตามมาตรฐาน IPX7
6. การเชื่อมต่อ : รองรับการเชื่อมต่อไร้สายทั้ง ANT+, Bluetooth 4.0 สำหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์เซ็นเซอร์และโทรศัพท์ และ WIFI 802.11n สำหรับเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตเพื่ออัพเดทรอมและอัพโหลดสถิติการปั่นขึ้นเว็บโดยอัตโนมัติ
7. แผนที่และระบบนำทาง : รองรับระบบ GPS และ Glonass พร้อมแผนที่ทั่วโลกให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดใส่เข้าไมล์ครับ
8. การเชื่อมต่อโทรศัพท์ : รองรับการเชื่อมต่อโทรศัพท์เพื่อเซ็ตระบบผ่านโปรแกรม Wahoo Companion App ซึ่งใช้งานได้ทั้ง Android 4.3 หรือใหม่กว่า และ iPhone 4S หรือใหม่กว่า
9. การรองรับการต่อพ่วงอุปกรณ์ : สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่อพ่วงชนิดต่าง ๆ ได้แก่ Speed Sensor , Cadence Sensor , Combo Sensor , Heart Rate Sensor , Smart watch ที่รองรับการเชื่อมต่อแบบ ANT+ หรือ Smart Bluetooth เท่าที่ผมใช้งาน สามารถใช้ร่วมกับ Combo Sensor ของ Bontrager ได้ดี ไม่มีปัญหาสัญญาณหลุดครับ และถ้าเราใช้ Heart Rate Sensor ของ Wahoo อุปกรณ์จะตรวจจับเองโดยอัตโนมัติโดยไม่ต้องเซ็ตอะไรเลยครับ
# อุปกรณ์ในกล่อง #
1. ตัวเครื่อง
2. mount ยึดเครื่อง มีให้ 3 แบบครับ คือ แบบ front mount (bar fly) , stem mount , aero mount (สำหรับ aero bar) หน้าตาจะคล้าย ๆ กับ garmin ครับ แต่ใช้แทนกันไม่ได้ครับ stem mount จะใช้ cable tide รัด (ของ garmin จะใช้ยางยึดครับ) ซึ่งนอกจากจะใช้ของที่แถมมาในกล่องแล้ว ตอนนี้เท่าที่ทราบ จะมีของเสริมยี่ห้อ K Edge ครับ เป็นอลูมิเนียม ราคาประมาณ 1600 บาท
3. สาย USB สำหรับชาร์จไฟ
4. คู่มือ